เอารูปทะเลมัลดีฟมาล่อตาล่อใจ ขึ้นเป็นรูปแรกเลยทีเดียว55+  ต้องบอกก่อนว่าเราได้ไปเที่ยวครั้งนี้เพราะเป็นผู้โชคดีได้รางวัลจากบัตรเครดิตอันนึง ได้ที่พัก4วัน3คืนที่Anantara Veli Maldives Resort พร้อมตั๋วเครื่องบินไปกลับของBangkok Air ด้วย  ซึ่งเราต้องเสียค่าภาษืค่าน้ำมันอะไรนิดหน่อย2คน ก็จ่ายไปประมาณ2หมื่น ซึ่งเอาจริงๆถ้าต้องจ่ายเองหมดทั้งค่าที่พักและตั๋วมี 6x,xxx.- แน่นอน ถือว่างานนี้คุ้มมากกกกคร่าา
ตอนจะใช้voucherของรางวัลจองที่พัก โรงแรมตอบอีเมลล์เราช้ามากกก แต่พอดีเพื่อนเคยใช้บริการของ Maldives Experts เลยขอให้ช่วยประสานงานให้ ได้เรื่องทันที ปุ๊บปั๊บเรียบร้อยทันใจค่ะ


นั่งBangkok air บินตรงสู่Male ถือว่าเวลาดีมาก ไฟลท์เช้า 9.20 ใช้เวลาบินประมาณ4ชม. เวลาที่มาเล่จะช้ากว่าไทย2ชม.นะคะ หน้าตาอาหารบนเครื่องขาไป
ถึงแล้วคร้าบบ ภาพในหัวคิดไว้ว่าพอแลนด์ เราจะเห็นน้ำทะเลสีฟ้าใสตัดกับเมฆขาวบนท้องฟ้า ที่ไหนได้มาถึงก้ฝนตกพรำๆ อากาศครึ้ม แอบผิดหวังเล็กน้อย ขออย่าให้เป็นแบบนี้ทุกวันเลย เพี้ยงๆ ออกมาถึงจะมีเจ้าหน้าที่จากโรงแรมมายืนถือป้ายรอรับ พาไปห้องรับรองที่อยู่ภายในสนามบินเพื่อรอเวลาสปีดโบ๊ทมารับ ก็จะพาเราเดินไปขึ้นเรือหน้าสนามบินเลยค่ะ  ห้องน้ำสนามบินไม่เวิร์คนะคะบอกก่อน คือเข้าได้แต่ไม่ได้ดี  อ้อแล้วก็ประเทศมุสลิมจะเคร่งเรื่องหิ้วเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามานะคะ โดนจับสแกนตอนจะออก เจอโดนยึดหมดเลยค่ะ ด้วยความไม่รู้ คุณแฟนก็หิ้วมาเพราะกลัวซื้อที่โรงแรมจะแพงมาก เลยเอามาเองด้วย อดแ-กหมดเลยค่ะ

ได้ห้องพักเป็นแบบ Over Water Bungalow วิวดีงาม จากระเบียงมีบันไดเดินลงทะเลได้เลย แค่ชะโงกหน้าก็เห็นปลาตัวเล็กตัวน้อย ว่ายไปมาเต็มไปหมด โชคดีมาถึงเจอเต่าว่ายผ่านหน้าไปพอดี เก็บภาพไม่ทัน
[img]
อาบน้ำไปมองปลาไป เพลินดีจัง

ไปเดินสำรวจ ดูบรรยากาศรอบๆดีกว่า

ต่อไปเป็นส่วนของห้องอาหาร อันนี้ชื่อ 73 degrees บรรยากาศดีมาก ชอบมาทานอาหารเช้าที่นี่ทุกวัน กินไปดูทะเล ลมเย็นๆ ทุกอย่างมันชิวไปหมด
ห้องอาหารนี้เปิดทั้งมื้อเช้าและมื้อเย็นเลยค่ะ ซึ่งตอนเช้าก็จะเป็นบุฟเฟ่อาหารเช้านานาชาติหลากหลายมาก แต่เรากินมื้อเช้าที่นี่ทุกวัน อาหารก็จะเดิมๆ วันหลังๆก็จะเริ่มเบื่อ แต่ชอบบรรยากาศมากๆ ยังไงก็จะมานั่งทุกเช้า มื้อเย็นก็จะมีตีมของแต่ละวัน เคยไปทานมื้อเย็นครั้งนึงเป็นตีม BBQ

อันนี้จะเป็นDhoni Bar ซึ่งอยู่โซนถัดมาจากห้องอาหารเมื่อกี้ค่ะ ตอนเย็นๆจะมีดีเจสาวสวยมาเปิดเพลง มีสระว่ายน้ำมาเล่นได้นะคะ นั่งจิบเครื่องดื่มดูพระอาทิตย์ตกมันฟินมากกกกบอกเลย

ส่วนของสปาและฟิตเนส
เราไม่ได้เข้าสปาของฝั่งVeliค่ะ ข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งชื่อDhigu ซึ่งเป็นโรงแรมในเครือanantara สามารถนั่งเรือที่ทางโรงแรมมีบริการ ไปมากันได้ จะไปกินข้าว เดินเล่น หรือใช้facilitiesของอีกฝั่งได้หมดค่ะ

ที่เกาหลีมีแม่กุญแจสลักชื่อ แต่ที่Veliเราก็มีสลักชื่อคู่รักบนไม้รูปหัวใจนะเออ  ลืมบอกไปว่าVeliจะเหมาะกับคู่รักHoneymoon ที่นี่ไม่ครอบครัวที่มีเด็กเข้าพักนะคะ ก็จะได้ความสงบเป็นส่วนตัวดีค่ะ ส่วนใครที่มีเด็กๆมาด้วยให้ไปพักฝั่งDhiguเลยจ้า

อันนี้เราข้ามไปสปานวดน้ำมันฝั่งDhiguมาค่ะ เลือกมาทำฝั่งนี้เพราะร้านฝั่งนี้สวยกว่า  เวลานอนนวดก้มหน้าจะเป็นช่องพื้นกระจกมองเห็นปลาแหวกว่ายไปมาด้วย ถ้าจำไม่ผิดราคาโปรโมชั่นนวดน้ำมัน1ชม อยุ่ที่ 95 USD.-/คน ค่ะ

อันนี้เป็นอาหารค่ำแบบบุฟเฟ่ต์ฝั่งDhigu ห้องอาหาร Fushi Café restaurant ก็จะเปลี่ยนตีมไปทุกคืนเช่นกันค่ะ

ก็หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่ต้องการหาข้อมูลที่พักที่มัลดีฟ Anantara Veli Maldives Resort เป็นตัวเลือกที่แนะนำมากๆสำหรับคนที่มีงบเยอะหน่อย ไม่เคยเจอโรงแรมไหนมีHouse keepingมาทำความสะอาดห้อง2รอบ/วัน เพิ่งเคยเจอที่นี่ แต่เราก็ให้เค้าทำแค่รอบเดียวอะค่ะ  เพราะห้องก็ยังสะอาดดีอยู่ แค่ขอน้ำเพิ่มอย่างเดียว  พนักงานบริการดีมาก เป็นมิตร ใส่ใจรายละเอียดลูกค้า ดูแลแขกดีมากๆค่ะ บรรยากาศที่พัก ชิวสุดๆ ไปแล้วก็ยังอยากกลับไปอีก ส่วนใครที่ยังเลือกไม่ถูก ติดต่อMaldives Experts ได้เลย บอกความต้องการและงบประมาณไป เจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำดีมากค่ะ จัดการให้ทุกอย่าง เที่ยวแบบไม่ต้องกังวลเลยค่ะ