(บทความมีความหยาบกร้าน ความอิจฉาริษยา และความสปอย)
หนังเรื่องนี้เป็นหนึ่งในเรื่องที่ใจจดใจจ่อรอดูมานานหลายเดือนมาก แล้วยิ่งได้ข่าวว่าเสียงนักวิจารณ์บอกว่าสุดยอดอย่างงั้นอย่างงี้ ถึงกับยืนปรบมือกันทั้งโรงไปอี๊ก...ยิ่งทำให้คาดหวังมากเข้าไปใหญ่
ความรู้สึกแรกหลังดูจบเลยคือ "ทำไมล่าาาา นี่รอดูมาตั้งนานนะ...คิดว่าจะชอบกว่านี้อ่ะ"
หลายๆ คนอาจทราบที่มาที่ไปและเรื่องย่อของ Call me by your name มาบ้างแล้ว ดังนั้นจะขอสรุปสั้นๆ ว่าหนังเรื่องนี้เป็นนิยายมาก่อน เขียนโดย Andre Aciman และถูกนำมาสร้างเป็นหนังฉายในปี 2017 โดย Luca Guadagnino มีผู้กำกับภาพชาวไทยชื่อคุณสยมภู มุกดีพร้อม เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นช่วงปี 80's ในเมืองเล็กๆ ของประเทศอิตาลี หนุ่มน้อยอายุ 17 ปี ชื่อเอลิโอ ได้พบกับ โอลิเวอร์ อาจารย์หนุ่มอเมริกันวัย 24 ปี เดินทางมาที่นี่เพื่อช่วยเหลืองานคุณพ่อของเอลิโอผู้เป็นอาจารย์เช่นกัน แลกกับการตรวจงานวิชาการให้อาจารย์หนุ่ม ตั้งแต่แรกพบกันเอลิโอรู้สึกได้ว่าตนเองมักจะถูกโอลิเวอร์เมินใส่อยู่เสมอ แม้จะไม่ค่อยชอบขี้หน้าเขาเท่าไหร่ แต่ก็อดแอบสังเกตเขาอยู่ตลอดเวลาไม่ได้...อารมณ์ประมาณยิ่งเกลียดเธอยิ่งเจอรักอะไรแบบนี้....
ทั้งคู่แอบบอกใบ้กันไปมาว่าสนใจซึ่งกันและกัน ซึ่งทั้งคู่ก็เก็ตคำใบ้บ้างไม่เก็ตบ้าง แต่สุดท้าย แน่นอนว่าทั้งสองคนก็ได้กัน และหนังมีโมเม้นต์ฟินๆ หวานๆ จิกหมอนแตกหลายฉากอยู่ เป็นหนังรักที่เน้นความหลากหลายทางเพศซึ่งคนทั่วไปคงรู้สึกเชื่อมโยงได้ไม่ยาก
ใน 6 สัปดาห์ที่อยู่ด้วยกันหนูเอลิโอก็ได้ค้นพบและเรียนรู้อีกด้านหนึ่งของความเป็นตัวตนของเขาเอง แม้สุดท้ายหนูจะโดนผู้เทไปแต่งงานกับชะนีก็ตาม
คือ...นางหนูเอลิโอ นางมีชีวิตดีๆ ที่ลงตัวมากๆ จริงๆ น้องเกิดมาในสังคมตะวันตกพร้อมกับความหลากหลายทางวัฒนธรรม และรับรู้ว่ามันเป็นประโยชน์ พูดได้หลายภาษา น้องมีฐานะดีอยู่วิลล่าใหญ่โต มีพ่อแม่ที่ดูเหมือนจะชิวตลอดหน้าร้อนคอยดูแลเอาใจใส่นาง มีแม่บ้านดูแลความสะอาดและทำอาหารที่น่ากินสุดๆ มีคนสวนด้วย สิ่งที่น้องทำคือ ว่ายน้ำ เล่นดนตรี แต่งเพลง อ่านหนังสือ ออกไปเที่ยวเล่น ปาร์ตี้กับเพื่อนๆ อะไรจะดีกว่านี้อีก....ไม่ต้องเรียนพิเศษ ไม่ต้องทำงานหาเงินจ่ายค่าเทอม ปีหน้าน้องก็จะเข้ามหาลัยแล้ว คงจะเป็นมหาลัยดีๆ ลำดับต้นๆ ของโลกเป็นแน่แท้ เพราะน้องเข้าถึงโอกาสทางการศึกษา น้องฉลาด ความรู้แน่น สงครามโลกครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 เกิดอะไรบ้าง นางคงไล่ timeline ได้หมด...เพลงของบาค บวกประวัติชีวิตของนางก็ชิวๆ น้องรู้หมด วรรณกรรมฝรั่งส่ง ฝรั่งเศสอะไร น้องอ่าน น้องโปร...
ลองเป็นเด็กจากกลุ่มประเทศซีกโลกใต้ (Global South) ในระบบการศึกษาอย่างเราๆ สิ ถ้าทุนน้อยหน่อย ปิดเทอมก็ต้องออกไปหางานพิเศษทำเพื่อหาเงินเพิ่ม ถ้ามีทุนหน่อยก็ต้องนั่งเรียนติวสอบไป อ่านหนังสืองกๆ แล้วจะเข้ามหาวิทยาลัยที่หวังไว้ได้รึเปล่าก็ยังไม่รู้ บางทีชอบทำอะไร อยากเป็นอะไรยังไม่รู้เลย เพราะไม่ค่อยได้มีเวลาไปลองทำอะไรเพื่อค้นหาตัวเอง หรือไม่ก็เข้าไม่ถึงโอกาสต่างๆ รวมถึงโอกาสในการลองทำกิจกรรมด้วย มิหนำซ้ำสิ่งที่เรียนที่ท่องมาจะเอาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้มากแค่ไหนก็ไม่รู้ วรรณกรรมฝรั่งเศสคืออะไร เอาภาษาอังกฤษให้รอดก่อนไหม
ยังไม่พอ...ความชีวิตดีๆ ของนางยังไม่หมด เพราะนางเกิดและเติบโดในครอบครัวนักวิชาการที่มีองค์ความรู้ และเปิดพื้นที่ให้นางได้ตัดสินใจเรื่องต่างๆ ด้วยตัวเอง นางค้นพบตัวเองค่อนข้างไว นางได้พบกับความสัมพันธ์ที่หวานไหวและสวยงามในช่วงเวลาหนึ่ง ครอบครัวสนับสนุนนางและคนรักของนาง ครอบครัวให้กำลังใจนางยามผิดหวัง ครอบครัวเป็นที่พึ่งพิงของนางยามเลียแผลใจ และได้มอบคำปรึกษาที่งดงามให้กับนาง แม้ในยุค 80's ที่สิทธิของผู้มีความหลากหลายทางเพศ/LGBTQA+/Queer ยังไม่ได้รับการยอมรับเท่าในปัจจุบัน น้องก็มีพ่อแม่ที่แสนวิเศษ จะมีอะไรดีไปกว่าคนในครอบครัวยอมรับและเข้าใจเราโดยไม่พยายามเปลี่ยนแปลงเรา
หลายคนอาจสงสารนางที่ต้องมาอกหักเพราะผู้เท แต่นี่กลับรู้สึกว่านางมีชีวิตที่น่าอิจฉาที่สุด!
คนจำนวนมากเค้าก็ผิดหวังจากรักครั้งแรกกันทั้งแหละหนู แต่ไม่ทุกคนจะได้การสนับสนุนอย่างที่หนูได้ ชีวิตหนูน่ะดีแล้ว ต้องเผชิญกับความปกติแบบมนุษย์ทั่วไปบ้างค่ะ หนูต้องรู้จักรสชาติของความนกบ้างอะไรบ้าง!
ความอิจฉาที่บังตาหลั่งไหลเข้ามาทำให้เกิดความรู้สึก "ทำไมล่าาา คิดว่าจะชอบกว่านี้ซะอีก"
ถึงกับกลับไปครุ่นคิดอยู่หลายวัน....จนในที่สุด...ตัดสินใจว่าจะกลับไปดูซ้ำอีกซักรอบ
คราวนี้ดูแบบไม่คาดหวังอะไร ปล่อยใจไปกับเนื้อเรื่อง ไปกับภาพและวิวสวยๆ ไปกับเพลงประกอบที่งดงามไม่แพ้มุมกล้อง นักแสดงก็แสดงได้เข้าถึงบทบาท โดยเฉพาะน้องธิโมธี (แหม เล่นเก่งสิ ไม่งั้นจะอิจฉาตาร้อนนางเอลิโอ้ได้ขนาดนี้หรอ) ส่วนโอลิเวอร์ก็หล่อเว่อร์วังอลังการมาก
อืมมมมมมม
มันก็ดีมากๆ นี่หว่าาา สมบูรณ์แบบแล้วอ่ะ เป็นเรื่องรักของคนสองคน เป็นเรื่องของวัยรุ่นที่ค้นหาตัวเอง ค่อยๆ ก้าวออกไปทดลองและทำความรู้จักด้านต่างๆ ของตัวเอง ได้รัก ได้ถูกรัก ได้สัมผัสความเจ็บปวดจากความรักเป็นครั้งแรก รวมถึงทำให้คนอื่นเจ็บปวดไปด้วย....มันสวยงามเลยแหละ ในแง่ของหนังที่สำรวจอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์ (ถ้าไม่ขี้อิจฉาเหมือนนี่อ่ะ)
สรุปนี่เป็นแค่มนุษย์โลกที่สามผู้อิจฉาชีวิตดีๆ ของหนูเอลิโอ และอยากลาพักร้อนไปนอนเล่น อ่านนิยาย ว่ายน้ำ ปาร์ตี้ ดื่มไวน์ เก็บลูกพีชที่อิตาลีซัก 3 เดือน...พอค่ะ ตื่นค่ะ ตื่น! กลับไปทำงานหาเงินไว้หาหมอตอนแก่ต่อไปค่ะ
[CR] 'Call me by your name' (echoed with my jealousy) ฉบับหยาบกระด้าง โดยนางอิจฉา
(บทความมีความหยาบกร้าน ความอิจฉาริษยา และความสปอย)
หนังเรื่องนี้เป็นหนึ่งในเรื่องที่ใจจดใจจ่อรอดูมานานหลายเดือนมาก แล้วยิ่งได้ข่าวว่าเสียงนักวิจารณ์บอกว่าสุดยอดอย่างงั้นอย่างงี้ ถึงกับยืนปรบมือกันทั้งโรงไปอี๊ก...ยิ่งทำให้คาดหวังมากเข้าไปใหญ่
ความรู้สึกแรกหลังดูจบเลยคือ "ทำไมล่าาาา นี่รอดูมาตั้งนานนะ...คิดว่าจะชอบกว่านี้อ่ะ"
หลายๆ คนอาจทราบที่มาที่ไปและเรื่องย่อของ Call me by your name มาบ้างแล้ว ดังนั้นจะขอสรุปสั้นๆ ว่าหนังเรื่องนี้เป็นนิยายมาก่อน เขียนโดย Andre Aciman และถูกนำมาสร้างเป็นหนังฉายในปี 2017 โดย Luca Guadagnino มีผู้กำกับภาพชาวไทยชื่อคุณสยมภู มุกดีพร้อม เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นช่วงปี 80's ในเมืองเล็กๆ ของประเทศอิตาลี หนุ่มน้อยอายุ 17 ปี ชื่อเอลิโอ ได้พบกับ โอลิเวอร์ อาจารย์หนุ่มอเมริกันวัย 24 ปี เดินทางมาที่นี่เพื่อช่วยเหลืองานคุณพ่อของเอลิโอผู้เป็นอาจารย์เช่นกัน แลกกับการตรวจงานวิชาการให้อาจารย์หนุ่ม ตั้งแต่แรกพบกันเอลิโอรู้สึกได้ว่าตนเองมักจะถูกโอลิเวอร์เมินใส่อยู่เสมอ แม้จะไม่ค่อยชอบขี้หน้าเขาเท่าไหร่ แต่ก็อดแอบสังเกตเขาอยู่ตลอดเวลาไม่ได้...อารมณ์ประมาณยิ่งเกลียดเธอยิ่งเจอรักอะไรแบบนี้....
ทั้งคู่แอบบอกใบ้กันไปมาว่าสนใจซึ่งกันและกัน ซึ่งทั้งคู่ก็เก็ตคำใบ้บ้างไม่เก็ตบ้าง แต่สุดท้าย แน่นอนว่าทั้งสองคนก็ได้กัน และหนังมีโมเม้นต์ฟินๆ หวานๆ จิกหมอนแตกหลายฉากอยู่ เป็นหนังรักที่เน้นความหลากหลายทางเพศซึ่งคนทั่วไปคงรู้สึกเชื่อมโยงได้ไม่ยาก
ใน 6 สัปดาห์ที่อยู่ด้วยกันหนูเอลิโอก็ได้ค้นพบและเรียนรู้อีกด้านหนึ่งของความเป็นตัวตนของเขาเอง แม้สุดท้ายหนูจะโดนผู้เทไปแต่งงานกับชะนีก็ตาม
คือ...นางหนูเอลิโอ นางมีชีวิตดีๆ ที่ลงตัวมากๆ จริงๆ น้องเกิดมาในสังคมตะวันตกพร้อมกับความหลากหลายทางวัฒนธรรม และรับรู้ว่ามันเป็นประโยชน์ พูดได้หลายภาษา น้องมีฐานะดีอยู่วิลล่าใหญ่โต มีพ่อแม่ที่ดูเหมือนจะชิวตลอดหน้าร้อนคอยดูแลเอาใจใส่นาง มีแม่บ้านดูแลความสะอาดและทำอาหารที่น่ากินสุดๆ มีคนสวนด้วย สิ่งที่น้องทำคือ ว่ายน้ำ เล่นดนตรี แต่งเพลง อ่านหนังสือ ออกไปเที่ยวเล่น ปาร์ตี้กับเพื่อนๆ อะไรจะดีกว่านี้อีก....ไม่ต้องเรียนพิเศษ ไม่ต้องทำงานหาเงินจ่ายค่าเทอม ปีหน้าน้องก็จะเข้ามหาลัยแล้ว คงจะเป็นมหาลัยดีๆ ลำดับต้นๆ ของโลกเป็นแน่แท้ เพราะน้องเข้าถึงโอกาสทางการศึกษา น้องฉลาด ความรู้แน่น สงครามโลกครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 เกิดอะไรบ้าง นางคงไล่ timeline ได้หมด...เพลงของบาค บวกประวัติชีวิตของนางก็ชิวๆ น้องรู้หมด วรรณกรรมฝรั่งส่ง ฝรั่งเศสอะไร น้องอ่าน น้องโปร...
ลองเป็นเด็กจากกลุ่มประเทศซีกโลกใต้ (Global South) ในระบบการศึกษาอย่างเราๆ สิ ถ้าทุนน้อยหน่อย ปิดเทอมก็ต้องออกไปหางานพิเศษทำเพื่อหาเงินเพิ่ม ถ้ามีทุนหน่อยก็ต้องนั่งเรียนติวสอบไป อ่านหนังสืองกๆ แล้วจะเข้ามหาวิทยาลัยที่หวังไว้ได้รึเปล่าก็ยังไม่รู้ บางทีชอบทำอะไร อยากเป็นอะไรยังไม่รู้เลย เพราะไม่ค่อยได้มีเวลาไปลองทำอะไรเพื่อค้นหาตัวเอง หรือไม่ก็เข้าไม่ถึงโอกาสต่างๆ รวมถึงโอกาสในการลองทำกิจกรรมด้วย มิหนำซ้ำสิ่งที่เรียนที่ท่องมาจะเอาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้มากแค่ไหนก็ไม่รู้ วรรณกรรมฝรั่งเศสคืออะไร เอาภาษาอังกฤษให้รอดก่อนไหม
ยังไม่พอ...ความชีวิตดีๆ ของนางยังไม่หมด เพราะนางเกิดและเติบโดในครอบครัวนักวิชาการที่มีองค์ความรู้ และเปิดพื้นที่ให้นางได้ตัดสินใจเรื่องต่างๆ ด้วยตัวเอง นางค้นพบตัวเองค่อนข้างไว นางได้พบกับความสัมพันธ์ที่หวานไหวและสวยงามในช่วงเวลาหนึ่ง ครอบครัวสนับสนุนนางและคนรักของนาง ครอบครัวให้กำลังใจนางยามผิดหวัง ครอบครัวเป็นที่พึ่งพิงของนางยามเลียแผลใจ และได้มอบคำปรึกษาที่งดงามให้กับนาง แม้ในยุค 80's ที่สิทธิของผู้มีความหลากหลายทางเพศ/LGBTQA+/Queer ยังไม่ได้รับการยอมรับเท่าในปัจจุบัน น้องก็มีพ่อแม่ที่แสนวิเศษ จะมีอะไรดีไปกว่าคนในครอบครัวยอมรับและเข้าใจเราโดยไม่พยายามเปลี่ยนแปลงเรา
หลายคนอาจสงสารนางที่ต้องมาอกหักเพราะผู้เท แต่นี่กลับรู้สึกว่านางมีชีวิตที่น่าอิจฉาที่สุด!
คนจำนวนมากเค้าก็ผิดหวังจากรักครั้งแรกกันทั้งแหละหนู แต่ไม่ทุกคนจะได้การสนับสนุนอย่างที่หนูได้ ชีวิตหนูน่ะดีแล้ว ต้องเผชิญกับความปกติแบบมนุษย์ทั่วไปบ้างค่ะ หนูต้องรู้จักรสชาติของความนกบ้างอะไรบ้าง!
ความอิจฉาที่บังตาหลั่งไหลเข้ามาทำให้เกิดความรู้สึก "ทำไมล่าาา คิดว่าจะชอบกว่านี้ซะอีก"
ถึงกับกลับไปครุ่นคิดอยู่หลายวัน....จนในที่สุด...ตัดสินใจว่าจะกลับไปดูซ้ำอีกซักรอบ
คราวนี้ดูแบบไม่คาดหวังอะไร ปล่อยใจไปกับเนื้อเรื่อง ไปกับภาพและวิวสวยๆ ไปกับเพลงประกอบที่งดงามไม่แพ้มุมกล้อง นักแสดงก็แสดงได้เข้าถึงบทบาท โดยเฉพาะน้องธิโมธี (แหม เล่นเก่งสิ ไม่งั้นจะอิจฉาตาร้อนนางเอลิโอ้ได้ขนาดนี้หรอ) ส่วนโอลิเวอร์ก็หล่อเว่อร์วังอลังการมาก
อืมมมมมมม
มันก็ดีมากๆ นี่หว่าาา สมบูรณ์แบบแล้วอ่ะ เป็นเรื่องรักของคนสองคน เป็นเรื่องของวัยรุ่นที่ค้นหาตัวเอง ค่อยๆ ก้าวออกไปทดลองและทำความรู้จักด้านต่างๆ ของตัวเอง ได้รัก ได้ถูกรัก ได้สัมผัสความเจ็บปวดจากความรักเป็นครั้งแรก รวมถึงทำให้คนอื่นเจ็บปวดไปด้วย....มันสวยงามเลยแหละ ในแง่ของหนังที่สำรวจอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์ (ถ้าไม่ขี้อิจฉาเหมือนนี่อ่ะ)
สรุปนี่เป็นแค่มนุษย์โลกที่สามผู้อิจฉาชีวิตดีๆ ของหนูเอลิโอ และอยากลาพักร้อนไปนอนเล่น อ่านนิยาย ว่ายน้ำ ปาร์ตี้ ดื่มไวน์ เก็บลูกพีชที่อิตาลีซัก 3 เดือน...พอค่ะ ตื่นค่ะ ตื่น! กลับไปทำงานหาเงินไว้หาหมอตอนแก่ต่อไปค่ะ