สวัสดีจ้าเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ใน Pantip ทุกคน
ทริปนี้คือทริปของแม่ ส่วนเจ้าของกระทู้นะหรอ ช่างภาพเก็บภาพคุณแม่อย่างเดียวจ้า !!!!!
ถ้ากระทู้นี้ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะคะ
เนื่องจากตัวแนนกับแม่พึ่งเคยไปเที่ยวต่างประเทศครั้งแรก เรื่องของภาษายังไม่แข็งแรง เลยคุยกันว่าเดินทางกับบริษัททัวร์ดีกว่า
มาเริ่มกันเลยยยย !
การเตรียมตัว
- Passport และ เอกสารต่างๆ
- เสื้อผ้า , เสื้อกันฝน , เสื้อกันลม , ของใช้ส่วนตัวและยาประจำโรค ( ควรเช็คสภาพอากาศด้วย ตอนแนนไปพายุเข้าพอดี อากาศเย็น มีฝนตกด้วย )
- รองเท้าผ้าใบ หรือรองเท้าที่เดินสบาย ๆ
- ถุงผ้า (ที่นู้นเขาไม่มีถุงใส่ของให้เรา แต่ถ้าเราจะเอาเราต้องเสียเงินเพิ่ม)
- ที่สำคัญขาดไม่ได้คือ เงิน!!! และ บัตรเครดิต (ถ้าไม่มีแลกเงินไปก็ได้คะ ส่วนตัวแนนไม่มีเลยแลกเงินไป)
อย่างของแนน แนนมีงบ Shopping 35000 THB / แลก RMB 4000 (แรกเยอะตั้งใจจะไปเดินตลาดกงเป่ย ^^)และ แลก HKD 2400
ฝั่งจูไห่ใช้เงิน RMB เงินหยวน / ฝั่งมาเก๊า แนะนำเป็น HKD ดีกว่าคะ กลับมาหาแลกคืนได้ง่ายกว่า เงิน MOP
Day 1
กรุงเทพ > มาเก๊า > จูไห่
เดินทางจาก สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบิน Air Macau
ระหว่างรอเช็คอิน แม่อยากถ่ายรูปคู่กับยักษ์ในสนามบิน จัดไปสักภาพ ก่อนเดินทาง
เช็คอินเสร็จเข้า Gate รอขึ้นเครื่อง ระหว่างท่านแม่ก็เดินชมใน King power ไปพลางๆ
ไม่นานก็ถึงเวลาขึ้นเครื่องง ใช้เวลาในการบินอยู่ประมาณ 2 ชม. 30 นาที ก็ถึงมาเก๊า หลังจากนั้นก็ทำตามขั้นตอนผ่านด่านตรวจ ตม.
( ไม่น่ากลัวเท่าไหร่ สบายๆจ๊ะ ) รับกระเป๋าเสร็จเรียบร้อย สถานีต่อไปคือ ข้ามจากฝั่งมาเก๊า มา จูไห่ ( จีน )
เรื่องการเดินทางจะมีรถบัสที่บริษัททัวร์ได้จัดหาไว้แล้ว ก่อนที่จะข้ามได้เราต้องผ่าน ด่านนรกก่อน 😅 ที่เรียกด่านนรกไม่ใช่อะไรนะ
คือด่านนี้คนเยอะมากกก ใครเดินช้า โดนชนกระเด็นแน่นอน กว่าจะฝ่าฟูงชนมาได้ โคตรเหนื่อย บอกเลย 😉 แต่สนุกดีนะจะว่าไป ผ่านด่านนี้เรียบร้อย
ออกมาจากด่าน ด้านขวามือ จะเป็น ตลาดใต้ดินกงเป่ย
หลังจากนัดหมายเรียบร้อยก็เริ่มเดินได้เลยยย พี่ไกด์ให้เวลาเดินซื้อของ 2 ชม.
ตลาดที่มีของ Copy ธรรมดา ไปจนถึง Super A คือเยอะจริงๆ พี่ที่ไปด้วยเอาหลุยส์ของแท้ไปเทียบ หาตำหนิแทบไม่มี 😂 แล้วในตลาดยังมี เสื้อผ้า รองเท้า ผลไม้ ร้านของฝาก ที่นี่ MINISO ถูกกว่าที่ไทย ของน่ารักเพียบบบ ใครมาลองแวะมาดู เดินตลาดซื้อของเสร็จ
ดีนะทริปนี้คนไม่เยอะ ไม่ต้องให้ใครรอใครทุกคนที่ร่วมทริปรู้เวลา อีกอย่าง ทัวร์นี้คนน้อยด้วย ถือว่าโอเคเลย
เตรียมตัวขึ้นรถบัส ไปกินข้าวกัน
ระหว่างรอ ถ่ายรูปสักหน่อยยย
ลืมถ่ายรูปอาหารมื้อแรกมา อาหารก็สไตล์จีน ๆ มัน ๆ เค็ม ๆ ส่วนตัวแนนชอบนะอร่อยดี
ทานข้าวเสร็จ ก็ เข้าที่พัก นี่คือห้องพักของเราในคืนนี้ ห้องกำลังดี ไม่เล็กไม่ใหญ่ ห้องน้ำกว้าง
อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เตรียมพักผ่อน พร้อมลุยต่อในวันพรุ่งนี้
Day 2
ตื่นเช้ามา เปิดหน้าต่างออกไป อ้าวฝนตก
อาบน้ำแต่งตัว เตรียมตัวลงไปกินอาหารเช้าที่โรงแรม
โปรแกรมหลักของวันนี้ วัดผู่โถว - เข้าร้านบัวหิมะ ร้านหยก ร้านผ้าไหม - พระราชวังหยวนหมิงหยวน ชมโชว์
สถานที่แรก - วัดผู่โถว
นมัสการเจ้าแม่กวนอิม เพื่อความโชคดีและนมัสการองค์อมิตรพุทธเจ้าเพื่อการมีสุขสวัสดีและนมัสการพระพุทธเจ้า 4 พระองค์ เพื่ออายุยืนนาน
ด้านหน้าของวัด
เดินเข้ามาเราจะเจอเจ้าแม่กวนอิม
บรรยากาศภายในวัด
หลังจากกราบไหว้เสร็จเรียบร้อย สถานีต่อไปเราก็ไปทานข้าวในร้านอาหาร เสร็จจากทานข้าว ก็เข้าร้านที่รัฐบาลกำหนดให้ทัวร์ลง
ร้านแรก ร้านบัวหิมะ ร้านนี้ก็จะมีสมุนไหรจีน ครีมทาหน้า บัวหิมะ มีบริการนวดฝ่าเท้าฟรี + มีหมอ มาเช็คอาการของเรา โดยใช้วิธีจับชีพจร และ ดูลิ้น ดูตา คุณหมอจะแนะนำให้เราซื้อยาจากทางร้านคะ
* แต่!! แต่ก็อยู่ที่เรานะ ว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อ
( คุณหมอยังไงก็จะขายยาให้แม่ให้ได้ แต่แม่ใจแข็งพอ ยังไงก็ไม่ซื้อ สุดท้ายคุณหมอลุกสบัดปิดประตู ปึ้ง! ออกไปเลยจ้าา 55555 )
แต่แนนซื้อครีมโสมไข่มุกมาค่ะ 1 กระปุก 150 หยวน เงินไทยประมาณ 700 กว่าบาท
ซื้อกลับมาลองใช้แล้ว ผลคือ แพ้ค่ะ ! ผืนขึ้นหน้าเฉยย
พอเข้าร้านก็จะเหมือนๆกันตรงที่ พนักงานเข้าก็จะมาเสนอขายให้เรา ไม่มีอะไรมากค่ะ ชอบก็ซื้อไม่ชอบก็ไม่ซื้อ
ร้านต่อมาร้านหยก แม่ แนนเป็นคนชอบหยกมาก ร้านนี้แม่คงไม่ อารมณ์เสียแน่นอน 555
เข้าไปก็ฟังความเป็นมาของร้าน และสอนวิธีเลี้ยงปี่เซียะ แนะนำเรื่องของหยก
วันที่แนนไปบังเอิญเจ้าของร้าน เข้ามาที่ร้านพอดี เลยทำการแนะนำสินค้า แล้วเจ้าของร้านเชิญพวกเราไปบ้านของเค้าเพื่อไปอวยพรให้คุณปู่
เนื่องจาก คุณปู่ของเจ้าของร้าน ไม่สบายหนัก พึ่งออกจาก รพ. เจ้าของร้านไปดู ซินแซ มา ซินแซ บอกว่า ให้เจ้าของร้าน หาคนที่นับถือพุทธ 100 คน อวยพรให้คุณปู่ของท่านอายุยืน เจ้าของร้านทำการตอบแทนเราโดย ให้จี้ปี่เซียะ + ลดราคาให้ สร้อย ข้อมือ จี้ แหวน ต่างๆ เหลือ 700 หยวน เป็นเงินไทย 3,500 บาท คุณแม่เลยจัด จี้ปีหมูมา 1 อัน สมใจเลยยคุณแม่~
ร้านผ้าไหม ร้านนี้พูดเลย สรรพคุณดีมั้ยส่วนตัวแนนว่าดีนะ เหมาะกับคนเป็นภูมิแพ้แบบแนน ถ้ามีเงินเยอะ ก็จะซื้ออยู่
แต่เนื่องจากราคาสินค้าค่อนข้างแพง ได้แต่สัมพัส ลูบคลำไปก่อนละกัน5555
อย่างเช่นนะ ชุดปูที่นอน 1 ชุด ราคาราวๆ 10,000-20,000up++ แล้วแต่เกรด เป็นต้น ในทัวร์ไม่มีใครซื้อสักคน พนักงานเขาพูดไทยได้
จึงชวนพวกเราคุยถามเรื่องเกี่ยวกับประเทศไทยทั่วไปและรอเวลาออกจากร้าน
อ่อลืมไปค่ะ แต่ละร้านทางทัวร์เขาจะมีเวลาในการเข้าร้านนะคะ อย่างร้านผ้าไหม ประมาณ 30 นาทีคะ เมื่อครบเวลา พี่ไกด์ก็เดินมาพาออกไป
หลังจากกินข้าวเสร็จเรียบร้อย
ต่อไป
พระราชวังหยวนหมิงหยวน ชมโชว์ เป็นการแสดงกลางแจ้งสลับกับการแสดงบนเวที การแสดงจะประกอบไปด้วยชุดการแสดงที่หลากหลาย โดยจะเน้นไปที่เรื่องราวเกี่ยวประวัติศาสตร์สมัยราชวงศ์หมิง มีการเชิญคนดู ขึ้นไป แสดงกับเขาด้วยคะ
อันนี้เป็นภาพบรรยากาศภายในสวนนะคะ
ชมโชว์เสร็จก็ไปทานอาหารเย็น แล้วเข้าที่พักเตรียมจัดกระเป๋า วันที่ 3 เราจะไปเที่ยว ฝั่งมาเก๊ากัน
ของฝากจากฝั่งจูไห่ ไม่ได้ซื้ออะไรเยอะ กะว่าจะไปซื้อที่ มาเก๊าด้วย แต่สุดท้ายฝั่งมาเก๊า ไม่มีของที่จะซื้อกลับไปฝากเพื่อน
สรุปได้กลับไปแค่นี้จ้าา แบ่งกันกินเอาเนอะเพื่อนจ๋า
พาแม่มาแจกความสดใส กับ สตอเบอรี่ ลูกใหญ่ ใหญ่ 555555
ราคาแพ็คละ 15 หยวน ประมาณ 75 บาทไทย ตอนแรกนึกว่าจะเปรี๊ยว แต่พอกินเท่านั้นแหละ
หว๊าน หวานน กรอบมาก อร่อยยอยากกินอีก
หมดไปอีก 1 วัน วันพรุ่งนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วว เวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปไวเสมอ
Day 3 จูไห่ - มาเก๊า - กรุงเทพ
ตื่นเช้าก็รับประทานอาหารเช้าตามปกติ เตรียมกระเป๋ามารอ Check out ทางไกด์ท่องถิ่นฝั่งมาเก๊าได้นัดเวลา 8.30 เจอกันหน้าด่านมาเก๊า
นั่นก็หมายความว่า เราต้องข้ามด่าน นรก อีกครั้งนึง แล้วที่พีคสุดคือ ฝนตก อากาศก็ลดลงเรื่อยๆ จาก 14 ลงมาถึง 10 องศา
ตอนเดินกำลังจะเข้าด่านฝั่งจูไห่ คิดว่าเข้าตัวอาคารคงไม่เท่าไหร่ แต่ทางเข้ามันต้องเดินเข้าอีกทาง เอาร่มให้แม่ ส่วนตัวเรา ลากกระเป๋าตากฝน อาศัยร่มของคนอื่นไปพลางๆ สุดท้ายหัวนี้ เปียก อยู่ดี 55555
ข้ามฝั่งมาเสร็จ ก็ ไปเที่ยวที่
ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล Ruins of St. Paul’s
เป็นโบสถ์ที่หลงเหลือเพียงซากด้านหน้าของอาคาร ซึ่งทางขึ้นไปจะเป็นบันไดหิน และซากประตูโบสถ์เซนต์ปอลจะอยู่ด้านบนสุด เป็นเหมือนสัญลักษ์ของมาเก๊า ใครมา มาเก๊า ต้องมาถ่ายรูปที่นี้ด้วยจ้า
จัดให้คุณแม่สักภาพ
มาถึงที่นี้ ต้องมาลองชิม ทาร์ตไข่ ชื่อดัง จำชื่อร้านไม่ได้ (ขอโทษคร้าบบ) ลืมถ่ายไว้ ฝนตก+กลัวกล้องพัง เลยรีบถ่ายรีบเก็บ
ถ้าพูดถึงรสชาติ เนื้อแป้งทาร์ตไข่อร่อย กรอบ รสชาติ ข้างในหวาน หอม แล้วคือประเด็น นุ่นมากกก โอ้ยอยากกินอีก
บริเวณรอบๆ ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล
ร้านนี้แหละ SASA คือร้านของฉ้านน ของในร้านบางอย่าง ถูกกว่าที่ไทยเยอะมาก
เช็คราคามาก่อนก็ดีนะคะ บางทีที่ไทยลด อาจจะถูกกว่าที่นี่ ร้านนนี้จะคล้ายๆ Watsons
ที่ซื้อมาใช้แล้ว อันนี้คือดีจริง Guerisson ที่เรียกกันก็ ครีมน้ำมันม้า
ราคาอยู่ที่ 68 HKD เงินไทยก็ 340 กว่าๆ ถูกกว่าไทยหลายร้อยเลยคุ้ม
ต่อมา
ไปวัดอาม่า (A-ma temple) วัดอาม่า หรือ ศาลเจ้าแม่ทับทิม ตั้งอยู่บริเวณเขาบาร์ร่า สร้างขึ้นเพื่ออุทิศถวายให้กับอาม่า องค์เทพธิดาแห่งท้องทะเล ภายในมีศาลเจ้า และก้อนหินขนาดใหญ่ ซึ่งแกะสลักเป็นรูปเรือสำเภาโบราณ เป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าบริเวณนี้คือจุดแรก ที่เจ้าแม่อาม่าย่างเท้าก้าวขึ้นสู่ผืนดินมาเก๊า
ถ่ายรูปเสร็จเรียบร้อย ก็ เตรียมตัวไปกินข้าวเที่ยงกันน
กินข้าวเที่ยงเสร็จ เราก็จะไปกันที่ The Venetian Macao หรือ คาสิโน่ นั้น
[CR] รีวิวเที่ยว จูไห่ - มาเก๊า สบาย สบาย 3 วัน 2 คืน ฉบับ เที่ยว ตปท.ครั้งแรกในชีวิต
ทริปนี้คือทริปของแม่ ส่วนเจ้าของกระทู้นะหรอ ช่างภาพเก็บภาพคุณแม่อย่างเดียวจ้า !!!!!
ถ้ากระทู้นี้ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะคะ
เนื่องจากตัวแนนกับแม่พึ่งเคยไปเที่ยวต่างประเทศครั้งแรก เรื่องของภาษายังไม่แข็งแรง เลยคุยกันว่าเดินทางกับบริษัททัวร์ดีกว่า
มาเริ่มกันเลยยยย !
การเตรียมตัว
- Passport และ เอกสารต่างๆ
- เสื้อผ้า , เสื้อกันฝน , เสื้อกันลม , ของใช้ส่วนตัวและยาประจำโรค ( ควรเช็คสภาพอากาศด้วย ตอนแนนไปพายุเข้าพอดี อากาศเย็น มีฝนตกด้วย )
- รองเท้าผ้าใบ หรือรองเท้าที่เดินสบาย ๆ
- ถุงผ้า (ที่นู้นเขาไม่มีถุงใส่ของให้เรา แต่ถ้าเราจะเอาเราต้องเสียเงินเพิ่ม)
- ที่สำคัญขาดไม่ได้คือ เงิน!!! และ บัตรเครดิต (ถ้าไม่มีแลกเงินไปก็ได้คะ ส่วนตัวแนนไม่มีเลยแลกเงินไป)
อย่างของแนน แนนมีงบ Shopping 35000 THB / แลก RMB 4000 (แรกเยอะตั้งใจจะไปเดินตลาดกงเป่ย ^^)และ แลก HKD 2400
ฝั่งจูไห่ใช้เงิน RMB เงินหยวน / ฝั่งมาเก๊า แนะนำเป็น HKD ดีกว่าคะ กลับมาหาแลกคืนได้ง่ายกว่า เงิน MOP
Day 1
กรุงเทพ > มาเก๊า > จูไห่
เดินทางจาก สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบิน Air Macau
ระหว่างรอเช็คอิน แม่อยากถ่ายรูปคู่กับยักษ์ในสนามบิน จัดไปสักภาพ ก่อนเดินทาง
เช็คอินเสร็จเข้า Gate รอขึ้นเครื่อง ระหว่างท่านแม่ก็เดินชมใน King power ไปพลางๆ
ไม่นานก็ถึงเวลาขึ้นเครื่องง ใช้เวลาในการบินอยู่ประมาณ 2 ชม. 30 นาที ก็ถึงมาเก๊า หลังจากนั้นก็ทำตามขั้นตอนผ่านด่านตรวจ ตม.
( ไม่น่ากลัวเท่าไหร่ สบายๆจ๊ะ ) รับกระเป๋าเสร็จเรียบร้อย สถานีต่อไปคือ ข้ามจากฝั่งมาเก๊า มา จูไห่ ( จีน )
เรื่องการเดินทางจะมีรถบัสที่บริษัททัวร์ได้จัดหาไว้แล้ว ก่อนที่จะข้ามได้เราต้องผ่าน ด่านนรกก่อน 😅 ที่เรียกด่านนรกไม่ใช่อะไรนะ
คือด่านนี้คนเยอะมากกก ใครเดินช้า โดนชนกระเด็นแน่นอน กว่าจะฝ่าฟูงชนมาได้ โคตรเหนื่อย บอกเลย 😉 แต่สนุกดีนะจะว่าไป ผ่านด่านนี้เรียบร้อย
ออกมาจากด่าน ด้านขวามือ จะเป็น ตลาดใต้ดินกงเป่ย
หลังจากนัดหมายเรียบร้อยก็เริ่มเดินได้เลยยย พี่ไกด์ให้เวลาเดินซื้อของ 2 ชม.
ตลาดที่มีของ Copy ธรรมดา ไปจนถึง Super A คือเยอะจริงๆ พี่ที่ไปด้วยเอาหลุยส์ของแท้ไปเทียบ หาตำหนิแทบไม่มี 😂 แล้วในตลาดยังมี เสื้อผ้า รองเท้า ผลไม้ ร้านของฝาก ที่นี่ MINISO ถูกกว่าที่ไทย ของน่ารักเพียบบบ ใครมาลองแวะมาดู เดินตลาดซื้อของเสร็จ
ดีนะทริปนี้คนไม่เยอะ ไม่ต้องให้ใครรอใครทุกคนที่ร่วมทริปรู้เวลา อีกอย่าง ทัวร์นี้คนน้อยด้วย ถือว่าโอเคเลย
เตรียมตัวขึ้นรถบัส ไปกินข้าวกัน
ระหว่างรอ ถ่ายรูปสักหน่อยยย
ลืมถ่ายรูปอาหารมื้อแรกมา อาหารก็สไตล์จีน ๆ มัน ๆ เค็ม ๆ ส่วนตัวแนนชอบนะอร่อยดี
ทานข้าวเสร็จ ก็ เข้าที่พัก นี่คือห้องพักของเราในคืนนี้ ห้องกำลังดี ไม่เล็กไม่ใหญ่ ห้องน้ำกว้าง
อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เตรียมพักผ่อน พร้อมลุยต่อในวันพรุ่งนี้
Day 2
ตื่นเช้ามา เปิดหน้าต่างออกไป อ้าวฝนตก
อาบน้ำแต่งตัว เตรียมตัวลงไปกินอาหารเช้าที่โรงแรม
โปรแกรมหลักของวันนี้ วัดผู่โถว - เข้าร้านบัวหิมะ ร้านหยก ร้านผ้าไหม - พระราชวังหยวนหมิงหยวน ชมโชว์
สถานที่แรก - วัดผู่โถว
นมัสการเจ้าแม่กวนอิม เพื่อความโชคดีและนมัสการองค์อมิตรพุทธเจ้าเพื่อการมีสุขสวัสดีและนมัสการพระพุทธเจ้า 4 พระองค์ เพื่ออายุยืนนาน
ด้านหน้าของวัด
เดินเข้ามาเราจะเจอเจ้าแม่กวนอิม
บรรยากาศภายในวัด
หลังจากกราบไหว้เสร็จเรียบร้อย สถานีต่อไปเราก็ไปทานข้าวในร้านอาหาร เสร็จจากทานข้าว ก็เข้าร้านที่รัฐบาลกำหนดให้ทัวร์ลง
ร้านแรก ร้านบัวหิมะ ร้านนี้ก็จะมีสมุนไหรจีน ครีมทาหน้า บัวหิมะ มีบริการนวดฝ่าเท้าฟรี + มีหมอ มาเช็คอาการของเรา โดยใช้วิธีจับชีพจร และ ดูลิ้น ดูตา คุณหมอจะแนะนำให้เราซื้อยาจากทางร้านคะ
* แต่!! แต่ก็อยู่ที่เรานะ ว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อ
( คุณหมอยังไงก็จะขายยาให้แม่ให้ได้ แต่แม่ใจแข็งพอ ยังไงก็ไม่ซื้อ สุดท้ายคุณหมอลุกสบัดปิดประตู ปึ้ง! ออกไปเลยจ้าา 55555 )
แต่แนนซื้อครีมโสมไข่มุกมาค่ะ 1 กระปุก 150 หยวน เงินไทยประมาณ 700 กว่าบาท
ซื้อกลับมาลองใช้แล้ว ผลคือ แพ้ค่ะ ! ผืนขึ้นหน้าเฉยย
พอเข้าร้านก็จะเหมือนๆกันตรงที่ พนักงานเข้าก็จะมาเสนอขายให้เรา ไม่มีอะไรมากค่ะ ชอบก็ซื้อไม่ชอบก็ไม่ซื้อ
ร้านต่อมาร้านหยก แม่ แนนเป็นคนชอบหยกมาก ร้านนี้แม่คงไม่ อารมณ์เสียแน่นอน 555
เข้าไปก็ฟังความเป็นมาของร้าน และสอนวิธีเลี้ยงปี่เซียะ แนะนำเรื่องของหยก
วันที่แนนไปบังเอิญเจ้าของร้าน เข้ามาที่ร้านพอดี เลยทำการแนะนำสินค้า แล้วเจ้าของร้านเชิญพวกเราไปบ้านของเค้าเพื่อไปอวยพรให้คุณปู่
เนื่องจาก คุณปู่ของเจ้าของร้าน ไม่สบายหนัก พึ่งออกจาก รพ. เจ้าของร้านไปดู ซินแซ มา ซินแซ บอกว่า ให้เจ้าของร้าน หาคนที่นับถือพุทธ 100 คน อวยพรให้คุณปู่ของท่านอายุยืน เจ้าของร้านทำการตอบแทนเราโดย ให้จี้ปี่เซียะ + ลดราคาให้ สร้อย ข้อมือ จี้ แหวน ต่างๆ เหลือ 700 หยวน เป็นเงินไทย 3,500 บาท คุณแม่เลยจัด จี้ปีหมูมา 1 อัน สมใจเลยยคุณแม่~
ร้านผ้าไหม ร้านนี้พูดเลย สรรพคุณดีมั้ยส่วนตัวแนนว่าดีนะ เหมาะกับคนเป็นภูมิแพ้แบบแนน ถ้ามีเงินเยอะ ก็จะซื้ออยู่
แต่เนื่องจากราคาสินค้าค่อนข้างแพง ได้แต่สัมพัส ลูบคลำไปก่อนละกัน5555
อย่างเช่นนะ ชุดปูที่นอน 1 ชุด ราคาราวๆ 10,000-20,000up++ แล้วแต่เกรด เป็นต้น ในทัวร์ไม่มีใครซื้อสักคน พนักงานเขาพูดไทยได้
จึงชวนพวกเราคุยถามเรื่องเกี่ยวกับประเทศไทยทั่วไปและรอเวลาออกจากร้าน อ่อลืมไปค่ะ แต่ละร้านทางทัวร์เขาจะมีเวลาในการเข้าร้านนะคะ อย่างร้านผ้าไหม ประมาณ 30 นาทีคะ เมื่อครบเวลา พี่ไกด์ก็เดินมาพาออกไป
หลังจากกินข้าวเสร็จเรียบร้อย
ต่อไป พระราชวังหยวนหมิงหยวน ชมโชว์ เป็นการแสดงกลางแจ้งสลับกับการแสดงบนเวที การแสดงจะประกอบไปด้วยชุดการแสดงที่หลากหลาย โดยจะเน้นไปที่เรื่องราวเกี่ยวประวัติศาสตร์สมัยราชวงศ์หมิง มีการเชิญคนดู ขึ้นไป แสดงกับเขาด้วยคะ
อันนี้เป็นภาพบรรยากาศภายในสวนนะคะ
ชมโชว์เสร็จก็ไปทานอาหารเย็น แล้วเข้าที่พักเตรียมจัดกระเป๋า วันที่ 3 เราจะไปเที่ยว ฝั่งมาเก๊ากัน
ของฝากจากฝั่งจูไห่ ไม่ได้ซื้ออะไรเยอะ กะว่าจะไปซื้อที่ มาเก๊าด้วย แต่สุดท้ายฝั่งมาเก๊า ไม่มีของที่จะซื้อกลับไปฝากเพื่อน
สรุปได้กลับไปแค่นี้จ้าา แบ่งกันกินเอาเนอะเพื่อนจ๋า
พาแม่มาแจกความสดใส กับ สตอเบอรี่ ลูกใหญ่ ใหญ่ 555555
ราคาแพ็คละ 15 หยวน ประมาณ 75 บาทไทย ตอนแรกนึกว่าจะเปรี๊ยว แต่พอกินเท่านั้นแหละ
หว๊าน หวานน กรอบมาก อร่อยยอยากกินอีก
หมดไปอีก 1 วัน วันพรุ่งนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วว เวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปไวเสมอ
Day 3 จูไห่ - มาเก๊า - กรุงเทพ
ตื่นเช้าก็รับประทานอาหารเช้าตามปกติ เตรียมกระเป๋ามารอ Check out ทางไกด์ท่องถิ่นฝั่งมาเก๊าได้นัดเวลา 8.30 เจอกันหน้าด่านมาเก๊า
นั่นก็หมายความว่า เราต้องข้ามด่าน นรก อีกครั้งนึง แล้วที่พีคสุดคือ ฝนตก อากาศก็ลดลงเรื่อยๆ จาก 14 ลงมาถึง 10 องศา
ตอนเดินกำลังจะเข้าด่านฝั่งจูไห่ คิดว่าเข้าตัวอาคารคงไม่เท่าไหร่ แต่ทางเข้ามันต้องเดินเข้าอีกทาง เอาร่มให้แม่ ส่วนตัวเรา ลากกระเป๋าตากฝน อาศัยร่มของคนอื่นไปพลางๆ สุดท้ายหัวนี้ เปียก อยู่ดี 55555
ข้ามฝั่งมาเสร็จ ก็ ไปเที่ยวที่ ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล Ruins of St. Paul’s
เป็นโบสถ์ที่หลงเหลือเพียงซากด้านหน้าของอาคาร ซึ่งทางขึ้นไปจะเป็นบันไดหิน และซากประตูโบสถ์เซนต์ปอลจะอยู่ด้านบนสุด เป็นเหมือนสัญลักษ์ของมาเก๊า ใครมา มาเก๊า ต้องมาถ่ายรูปที่นี้ด้วยจ้า
จัดให้คุณแม่สักภาพ
มาถึงที่นี้ ต้องมาลองชิม ทาร์ตไข่ ชื่อดัง จำชื่อร้านไม่ได้ (ขอโทษคร้าบบ) ลืมถ่ายไว้ ฝนตก+กลัวกล้องพัง เลยรีบถ่ายรีบเก็บ
ถ้าพูดถึงรสชาติ เนื้อแป้งทาร์ตไข่อร่อย กรอบ รสชาติ ข้างในหวาน หอม แล้วคือประเด็น นุ่นมากกก โอ้ยอยากกินอีก
บริเวณรอบๆ ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล
ร้านนี้แหละ SASA คือร้านของฉ้านน ของในร้านบางอย่าง ถูกกว่าที่ไทยเยอะมาก
เช็คราคามาก่อนก็ดีนะคะ บางทีที่ไทยลด อาจจะถูกกว่าที่นี่ ร้านนนี้จะคล้ายๆ Watsons
ที่ซื้อมาใช้แล้ว อันนี้คือดีจริง Guerisson ที่เรียกกันก็ ครีมน้ำมันม้า
ราคาอยู่ที่ 68 HKD เงินไทยก็ 340 กว่าๆ ถูกกว่าไทยหลายร้อยเลยคุ้ม
ต่อมา ไปวัดอาม่า (A-ma temple) วัดอาม่า หรือ ศาลเจ้าแม่ทับทิม ตั้งอยู่บริเวณเขาบาร์ร่า สร้างขึ้นเพื่ออุทิศถวายให้กับอาม่า องค์เทพธิดาแห่งท้องทะเล ภายในมีศาลเจ้า และก้อนหินขนาดใหญ่ ซึ่งแกะสลักเป็นรูปเรือสำเภาโบราณ เป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าบริเวณนี้คือจุดแรก ที่เจ้าแม่อาม่าย่างเท้าก้าวขึ้นสู่ผืนดินมาเก๊า
ถ่ายรูปเสร็จเรียบร้อย ก็ เตรียมตัวไปกินข้าวเที่ยงกันน
กินข้าวเที่ยงเสร็จ เราก็จะไปกันที่ The Venetian Macao หรือ คาสิโน่ นั้น