...จุดเริ่มต้นของการเดินทาง
ภาพความฝันอย่างหนึ่งที่คิดอยู่เสมอว่าถ้าทำงานมีรายได้ประมาณนึง
อยากจะพาคุณพ่อคุณแม่ไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกันสักครั้งในชีวิต
แต่ก็รู้สึกกังวลเล็กๆว่าคุณพ่อกับคุณแม่จะว่ายัง กลัวการเดินทางด้วยเครื่องบินรึป่าว 555
เอาเป็นว่าแผนแรกเริ่มต้นที่คุณแม่ก่อนก็แล้วกัน โดยการพาท่านเป็นทำพาสปอร์ตที่ขอนแก่น
(บ้านต่างจังหวัดอยู่ที่ขอนแก่น)แม่ตื่นเต้นมากกกถึงขนาดอาเจียนเลยทีเดียว เราถามแม่ว่า
แม่พร้อมมั้ยกลับบ้านก่อนมั้ย แม่บอกว่าไม่เป็นไร แม่ทำได้ แม่อยากไป
สุดท้ายก็ผ่านไปได้ด้วยดี
คราวนี้มาถึงคุณพ่อ ก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน เหงื่อพ่อออกมากว่าปกติที่มือ ทำให้การสแกน
ลายนิ้วมื้อใช้เวลานานกว่าปกติ จนพี่เจ้าหน้าที่บอกกับพ่อว่าให้พ่อสบายๆผ่อนคลาย
สุดท้ายก็ทำได้สำเร็จ อีก 1 สัปดาห์ได้พลาสปอร์ตของพ่อกับแม่มาได้อย่างสมใจแล้วครับบบบ
...มาบลิ้วอารมณ์ก่อนการเดินทาง
เนื่องจากคุณพ่อคุณแม่อายุเยอะแล้ว แต่ท่านก็ยังแข็งแรงอยู่ เดินเองได้สบายๆแต่ก็ระยะทางไม่ไกลมาก
ก็น่าจะเหนื่อยอยู่จึงบอกให้คุณพ่อกับคุณแม่เตรียมตัวออกกำลังกายบ้าง โดยการเดินรอบหมู่บ้านวันละนิด
วันละหน่อยให้ร่างกายได้มีการใช้งานต่อเนื่องตอนนี้ก็เริ่มหาข้อมูลการเที่ยวให้พ่อกับแม่ดูเพื่อเป็นการบลิ้ว
อารมณ์ก่อนการเดินทาง
...เลือกทัวร์ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
โปรแกรมนี้มีเวลาเตรียมตัวอีกหลายเดือน เราเลยมีเวลาเลือกทัวร์และประเทศที่เหมาะสม ก็มาลงตัวที่
มาเก๊า-จูไห่ ที่ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งเวลาเดินทางกำลังดีไม่มากเกินไปที่ผู้สูงอายุ 2 คน
เดินทางอย่างสบายๆ แล้วก็แลกเงินไว้ตั้งแต่เนินๆ เพราะต้องแลกทั้งเงินหยวน (ของจีน) และ ดอลล่าร์ฮองกง
การเดินทางจะสนุกสนานแค่ไหน ไปกันเลยครับบบบ
...เปิดม่านฟ้าทะยานสู่ มาเก๊า-จูไห่ที่รัก (11-13 ธันวาคม 2560)
ตามเวลานัดหมายของทัวร์ให้พวกเรามารวมพลกันเวลาเที่ยงตรง เรากับครอบครัวมาถึงก่อนเวลา 2 ชั่วโมง
เพื่อให้พ่อกับแม่ได้ปรับตัวปรับใจและคุ้นชินกับสถานที่ที่คนเยอะๆ ดูพ่อกับแม่ก็ดูตื่นตาตื่นใจดี พอได้เวลา
พวกเราก็ได้เช็คอินและเข้าไปรอในเกทเพื่อเตรียมตัวเดินทางสู่มาเก๊า โดยสายการบินแอร์เอเชีย
...เหมือนฝัน ณ สนามบินนานาชาติมาเก๊า
เครื่องออกจากดอนเมือง 13.50 นาที ถึงสนามบินนานามาเก๊า 17.25 น.(ตามเวลาท้องถิ่น) ผ่านการตรวจคน
เข้าเมืองใช้เวลาอีกประมาณ 30 นาทีมีรถโค้ชมารอรับเพื่อเดินทางต่อไปยังเมืองจูไห่ (ซึ่งก็ต้องผ่านด่านตรวจ
คนเข้าเมืองจูไห่อีกครั้ง) โอ้ววคนจีนเดินทางผ่านด่านเข้าออกนี้เยอะมากๆ กึ่งเดินกึ่งวิ่งกันเลยทีเดียว
หลังจากนั้นไกด์ก็พาแวะร้านอาหารเพื่อรับประทานอาหารค่ำ อาหารมื้อแรกของวันแรกผ่านไปด้วยดี อิ่ม อร่อย
รสชาติอร่อยดี แล้วเดินทางเข้าที่พักที่โรงแรมในเมืองจูไห่
...เช้าแรกที่จูไห่ ถนนคู่รัก The Lover's Road และจูไห่ฟิชเชอร์เกิร์ล
ตื่นเช้ามาด้วยความสดชื่น พ่อกับแม่ดูสดชื่นกระปรี้กระเปร่ามากๆ (เพราะตอนแรกๆก็แอบกังวลว่าจะไหวมั้ย 555)
หลังจากรับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมเสร็จก็เดินทางไปที่แรกคือ ถนนคู่รัก The Lover's Road
ถนนเลียบชายหาดที่สวยงาม และแวะถ่ายรูปกับรูปปั้นสาวงามหวี่หนี่ (จูไห่ฟิชเชอร์เกิร์ล
สาวงามกลางทะเล สัญลักษณ์ของเมืองจู่ไห่ บริเวณอ่าวเชียงหู เป็นรูปแกะสลักสูง 8.7 เมตร ถือไข่มุกอยู่ริมทะเล
...จากนั้นแวะร้านยาสมุนไพรจีน ร้านผ้าไหมจีน และร้านหยก
...วันที่ 2 วัดไป๋หลิน (วัดดอกบัวขาว) ช้อปปิ้งตลาดกงเป่ย
ด้วยอากาศที่ค่อนข้างเย็นทำให้พ่อกับแม่เดินได้อย่างสบายๆไม่เหนื่อยมาก เช้านี้ที่วัดไป๋หลิน
เป็นวัดเล็กๆ (ก็ไม่เล็กนะ กว้างมากกกกกกกก) ร่มรื่นด้วยต้นสนทั้งสองข้างทางที่เดิน
เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวจู่ไห่ให้ความเคารพนับถือ ได้แก่ เทพเจ้าแห่งโชคลาภ เทพเจ้ากวนอู
เจ้าแม่กวนอิม เป็นต้น
เรื่องเที่ยวกับเรื่องช้อปปิ้งเป็นของคู่กัน เรื่องช้อปขอให้บอกเป็นภาษาสากลที่สามารถสื่อสารกันได้
...วันที่ 3 วัดอาม่า วิหารเซนต์ปอล เซนาโด้สแควร์ และ The Parisian Macao
ไกด์บอกว่าเป็นอีก 1 วัดที่ไมควรพลาด วัดอาม่า เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในมาเก๊า สร้างขึ้นในราชวงศ์หมิง
เป็นหนึ่งในมรดกโลกที่ได้รับการบันทึกจาก Unesco ภายในวัดมีองค์อาม่า หรือ เจ้าแม่ทับทิม
นักท่องเที่ยวนิยมมาของพรเพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับตนเองและครอบครัว
วิหารเซนต์ปอล โบสถ์แห่งนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยเซนต์ปอล กระทั่งถูกไฟไหม้ทำลาย
แต่ยังคงความงดงามอลังการอยู่
เซนาโด้สแควร์ ศูนย์รวมสินค้ามากมายและแฟชั่น สินค้าแบรนด์เนม สวยงามตื่นตาตื่นใจดี
มองไปร้านค้าเป็นแนวยาวทั้งของกินของใช้
The Parisian Macao และ Venetian Hotel
...จบทริปกลับกรุงเทพด้วยความประทับใจ คุณพ่อกับคุณแม่ชอบมาก บอกอยากไปเที่ยวอีก รู้สึกสดชื่นมากๆ
ที่ได้เห็นสถานที่ใหม่ที่เราไม่เคยไป พบคนต่างชาติต่างภาษาจากเรา อาหารพื้นถิ่นที่รสชาติแตกต่างจากบ้านเรา
ภาพความฝันก็ได้กลายมาเป็นความจริง ขอบเพื่อนร่วมทริปที่ดี ทุกคนน่ารักมาเป็นกันเอง
มีมิตรภาพที่เกิดขึ้นในทริปแห่งนี้โปรแกรมต่อไปจะไปเที่ยวไหนดี โปรดเป็นกำลังใจ
และติดตามชมกันด้วยนะครับ
ความฝันอันสูงสุด...พาพ่อแม่เที่ยวต่างประเทศครั้งแรก@มาเก๊า-จูไห่
ภาพความฝันอย่างหนึ่งที่คิดอยู่เสมอว่าถ้าทำงานมีรายได้ประมาณนึง
อยากจะพาคุณพ่อคุณแม่ไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกันสักครั้งในชีวิต
แต่ก็รู้สึกกังวลเล็กๆว่าคุณพ่อกับคุณแม่จะว่ายัง กลัวการเดินทางด้วยเครื่องบินรึป่าว 555
เอาเป็นว่าแผนแรกเริ่มต้นที่คุณแม่ก่อนก็แล้วกัน โดยการพาท่านเป็นทำพาสปอร์ตที่ขอนแก่น
(บ้านต่างจังหวัดอยู่ที่ขอนแก่น)แม่ตื่นเต้นมากกกถึงขนาดอาเจียนเลยทีเดียว เราถามแม่ว่า
แม่พร้อมมั้ยกลับบ้านก่อนมั้ย แม่บอกว่าไม่เป็นไร แม่ทำได้ แม่อยากไป
สุดท้ายก็ผ่านไปได้ด้วยดี
คราวนี้มาถึงคุณพ่อ ก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน เหงื่อพ่อออกมากว่าปกติที่มือ ทำให้การสแกน
ลายนิ้วมื้อใช้เวลานานกว่าปกติ จนพี่เจ้าหน้าที่บอกกับพ่อว่าให้พ่อสบายๆผ่อนคลาย
สุดท้ายก็ทำได้สำเร็จ อีก 1 สัปดาห์ได้พลาสปอร์ตของพ่อกับแม่มาได้อย่างสมใจแล้วครับบบบ
...มาบลิ้วอารมณ์ก่อนการเดินทาง
เนื่องจากคุณพ่อคุณแม่อายุเยอะแล้ว แต่ท่านก็ยังแข็งแรงอยู่ เดินเองได้สบายๆแต่ก็ระยะทางไม่ไกลมาก
ก็น่าจะเหนื่อยอยู่จึงบอกให้คุณพ่อกับคุณแม่เตรียมตัวออกกำลังกายบ้าง โดยการเดินรอบหมู่บ้านวันละนิด
วันละหน่อยให้ร่างกายได้มีการใช้งานต่อเนื่องตอนนี้ก็เริ่มหาข้อมูลการเที่ยวให้พ่อกับแม่ดูเพื่อเป็นการบลิ้ว
อารมณ์ก่อนการเดินทาง
...เลือกทัวร์ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
โปรแกรมนี้มีเวลาเตรียมตัวอีกหลายเดือน เราเลยมีเวลาเลือกทัวร์และประเทศที่เหมาะสม ก็มาลงตัวที่
มาเก๊า-จูไห่ ที่ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งเวลาเดินทางกำลังดีไม่มากเกินไปที่ผู้สูงอายุ 2 คน
เดินทางอย่างสบายๆ แล้วก็แลกเงินไว้ตั้งแต่เนินๆ เพราะต้องแลกทั้งเงินหยวน (ของจีน) และ ดอลล่าร์ฮองกง
การเดินทางจะสนุกสนานแค่ไหน ไปกันเลยครับบบบ
...เปิดม่านฟ้าทะยานสู่ มาเก๊า-จูไห่ที่รัก (11-13 ธันวาคม 2560)
ตามเวลานัดหมายของทัวร์ให้พวกเรามารวมพลกันเวลาเที่ยงตรง เรากับครอบครัวมาถึงก่อนเวลา 2 ชั่วโมง
เพื่อให้พ่อกับแม่ได้ปรับตัวปรับใจและคุ้นชินกับสถานที่ที่คนเยอะๆ ดูพ่อกับแม่ก็ดูตื่นตาตื่นใจดี พอได้เวลา
พวกเราก็ได้เช็คอินและเข้าไปรอในเกทเพื่อเตรียมตัวเดินทางสู่มาเก๊า โดยสายการบินแอร์เอเชีย
...เหมือนฝัน ณ สนามบินนานาชาติมาเก๊า
เครื่องออกจากดอนเมือง 13.50 นาที ถึงสนามบินนานามาเก๊า 17.25 น.(ตามเวลาท้องถิ่น) ผ่านการตรวจคน
เข้าเมืองใช้เวลาอีกประมาณ 30 นาทีมีรถโค้ชมารอรับเพื่อเดินทางต่อไปยังเมืองจูไห่ (ซึ่งก็ต้องผ่านด่านตรวจ
คนเข้าเมืองจูไห่อีกครั้ง) โอ้ววคนจีนเดินทางผ่านด่านเข้าออกนี้เยอะมากๆ กึ่งเดินกึ่งวิ่งกันเลยทีเดียว
หลังจากนั้นไกด์ก็พาแวะร้านอาหารเพื่อรับประทานอาหารค่ำ อาหารมื้อแรกของวันแรกผ่านไปด้วยดี อิ่ม อร่อย
รสชาติอร่อยดี แล้วเดินทางเข้าที่พักที่โรงแรมในเมืองจูไห่
...เช้าแรกที่จูไห่ ถนนคู่รัก The Lover's Road และจูไห่ฟิชเชอร์เกิร์ล
ตื่นเช้ามาด้วยความสดชื่น พ่อกับแม่ดูสดชื่นกระปรี้กระเปร่ามากๆ (เพราะตอนแรกๆก็แอบกังวลว่าจะไหวมั้ย 555)
หลังจากรับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมเสร็จก็เดินทางไปที่แรกคือ ถนนคู่รัก The Lover's Road
ถนนเลียบชายหาดที่สวยงาม และแวะถ่ายรูปกับรูปปั้นสาวงามหวี่หนี่ (จูไห่ฟิชเชอร์เกิร์ล
สาวงามกลางทะเล สัญลักษณ์ของเมืองจู่ไห่ บริเวณอ่าวเชียงหู เป็นรูปแกะสลักสูง 8.7 เมตร ถือไข่มุกอยู่ริมทะเล
...จากนั้นแวะร้านยาสมุนไพรจีน ร้านผ้าไหมจีน และร้านหยก
...วันที่ 2 วัดไป๋หลิน (วัดดอกบัวขาว) ช้อปปิ้งตลาดกงเป่ย
ด้วยอากาศที่ค่อนข้างเย็นทำให้พ่อกับแม่เดินได้อย่างสบายๆไม่เหนื่อยมาก เช้านี้ที่วัดไป๋หลิน
เป็นวัดเล็กๆ (ก็ไม่เล็กนะ กว้างมากกกกกกกก) ร่มรื่นด้วยต้นสนทั้งสองข้างทางที่เดิน
เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวจู่ไห่ให้ความเคารพนับถือ ได้แก่ เทพเจ้าแห่งโชคลาภ เทพเจ้ากวนอู
เจ้าแม่กวนอิม เป็นต้น
เรื่องเที่ยวกับเรื่องช้อปปิ้งเป็นของคู่กัน เรื่องช้อปขอให้บอกเป็นภาษาสากลที่สามารถสื่อสารกันได้
...วันที่ 3 วัดอาม่า วิหารเซนต์ปอล เซนาโด้สแควร์ และ The Parisian Macao
ไกด์บอกว่าเป็นอีก 1 วัดที่ไมควรพลาด วัดอาม่า เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในมาเก๊า สร้างขึ้นในราชวงศ์หมิง
เป็นหนึ่งในมรดกโลกที่ได้รับการบันทึกจาก Unesco ภายในวัดมีองค์อาม่า หรือ เจ้าแม่ทับทิม
นักท่องเที่ยวนิยมมาของพรเพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับตนเองและครอบครัว
วิหารเซนต์ปอล โบสถ์แห่งนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยเซนต์ปอล กระทั่งถูกไฟไหม้ทำลาย
แต่ยังคงความงดงามอลังการอยู่
เซนาโด้สแควร์ ศูนย์รวมสินค้ามากมายและแฟชั่น สินค้าแบรนด์เนม สวยงามตื่นตาตื่นใจดี
มองไปร้านค้าเป็นแนวยาวทั้งของกินของใช้
The Parisian Macao และ Venetian Hotel
...จบทริปกลับกรุงเทพด้วยความประทับใจ คุณพ่อกับคุณแม่ชอบมาก บอกอยากไปเที่ยวอีก รู้สึกสดชื่นมากๆ
ที่ได้เห็นสถานที่ใหม่ที่เราไม่เคยไป พบคนต่างชาติต่างภาษาจากเรา อาหารพื้นถิ่นที่รสชาติแตกต่างจากบ้านเรา
ภาพความฝันก็ได้กลายมาเป็นความจริง ขอบเพื่อนร่วมทริปที่ดี ทุกคนน่ารักมาเป็นกันเอง
มีมิตรภาพที่เกิดขึ้นในทริปแห่งนี้โปรแกรมต่อไปจะไปเที่ยวไหนดี โปรดเป็นกำลังใจ
และติดตามชมกันด้วยนะครับ