สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
คุณแม่เขาดำเนินชีวิตมาจนถึงบั้นปลายของชีวิตแล้ว มีความพร้อมหลายอย่าง มีเงินบำนาญและมีเงินฝากในสหกรณ์ได้รับรายได้พอจะเลี้ยงชีพของตัวเองได้อย่างสบายแล้ว ถือว่าท่านพบอิสระภาพทางการเงินในแบบของท่านแล้ว......ท่านทำได้แบบนี้ ถือว่าพบกับความสุขในชีวิตแล้วล่ะ
แต่คุณอยากจะแนะนำให้คุณแม่มาสนใจในเรื่องหุ้นหรือเรื่องของกองทุนรวมหุ้นในตอนเกษียณนี้บ้าง มันก็เป็นสิ่งที่ดีนะแต่ผมมองว่ามันเสี่ยงที่จะทำให้เงินสุญได้นะ เพราะคนในวัยนี้อาจจะตามกระแสอินเตอร์เน็ตไม่ทันได้ อาจจะตามเล่ห์เหลี่ยมของเสือสิงห์กระทิงแรดในตลาดหุ้นไม่ทันได้นะ ถ้าลงทุนผิดพลาดแล้วคุณแม่จะไม่มีเวลาพอที่จะแก้ตัวได้แล้วนะ............
ก่อนจะแนะนำให้คุณแม่ลงทุนในหุ้นหรือในกองทุนรวมหุ้น อยากจะให้คุณย้อนกลับไปค้นหาข้อมูลในอดีตราว ๆ ปี 2537 ว่านักลงทุนในสมัยนั้น เขาได้รับความเจ็บปวดจากการลงทุนในกองทุนรวมหุ้นกันอย่างไรบ้าง.....บางคนก็มีการยิงตัวตาย.....บางคนก็กระโดดตึกตายบ้าง.... บางคนก็เอาอุจจาระไปทิ้งหน้าธนาคาร .........ไม่แน่ใจว่าคุณแม่เคยรู้เรื่องเหล่านี้หรือเปล่านะ ลองค้นหาข้อมูลเอาเองนะ แล้วทุกอย่างคุณจะได้คำตอบว่าสมควรจะแนะนำให้คุณแม่มาลงทุนหุ้นหรือกองทุนรวมหุ้นในวัยนี้หรือไม่นะ ......
แต่คุณอยากจะแนะนำให้คุณแม่มาสนใจในเรื่องหุ้นหรือเรื่องของกองทุนรวมหุ้นในตอนเกษียณนี้บ้าง มันก็เป็นสิ่งที่ดีนะแต่ผมมองว่ามันเสี่ยงที่จะทำให้เงินสุญได้นะ เพราะคนในวัยนี้อาจจะตามกระแสอินเตอร์เน็ตไม่ทันได้ อาจจะตามเล่ห์เหลี่ยมของเสือสิงห์กระทิงแรดในตลาดหุ้นไม่ทันได้นะ ถ้าลงทุนผิดพลาดแล้วคุณแม่จะไม่มีเวลาพอที่จะแก้ตัวได้แล้วนะ............
ก่อนจะแนะนำให้คุณแม่ลงทุนในหุ้นหรือในกองทุนรวมหุ้น อยากจะให้คุณย้อนกลับไปค้นหาข้อมูลในอดีตราว ๆ ปี 2537 ว่านักลงทุนในสมัยนั้น เขาได้รับความเจ็บปวดจากการลงทุนในกองทุนรวมหุ้นกันอย่างไรบ้าง.....บางคนก็มีการยิงตัวตาย.....บางคนก็กระโดดตึกตายบ้าง.... บางคนก็เอาอุจจาระไปทิ้งหน้าธนาคาร .........ไม่แน่ใจว่าคุณแม่เคยรู้เรื่องเหล่านี้หรือเปล่านะ ลองค้นหาข้อมูลเอาเองนะ แล้วทุกอย่างคุณจะได้คำตอบว่าสมควรจะแนะนำให้คุณแม่มาลงทุนหุ้นหรือกองทุนรวมหุ้นในวัยนี้หรือไม่นะ ......
แสดงความคิดเห็น
ทำยังไงให้แม่อยากลงทุนกองทุนรวมหรือหุ้นบ้าง
แม่ไม่มีหนี้สิน ไม่มีอะไรที่ต้องทุกข์ และแม่ก็ไม่มีความรู้เรื่องการเงินเช่นเดียวกัน รู้แต่ว่าต้องออมในสหกรณ์ราชการเพื่อได้กินปันผลเยอะๆ 6-8% ต่อปี แค่นั้นเองค่ะ
แต่ตอนนี้ดิชั้นอยู่ กทม แม่อยู่บ้าน ตจว. ดิชั้นได้เรียนรู้เรื่องการลงทุนต่างๆ เลยเอากลับไปอธิบายให้แม่ฟังว่าเงินที่เก็บในสหกรณ์หลายล้านบาทนั้น มันจะโดนเงินเฟ้อปีละ 3% ถึงแม้ปันผลจะดี อยากให้แม่เอาเงินเดือนบางส่วนหลังเกษียณที่ได้ทุกเดือนไปลงทุนในหุ้น หรือกองทุนหุ้นบ้างก็ได้ เพราะดิชั้นเชื่อว่าแม่ดิชั้นไม่ตายง่ายๆค่ะ อยู่ไปอีกหลายสิบปีแน่นอนเพราะแกแข็งแรงมาก (ดูจากยาย ตอนนี้จะ 90 ละค่ะยังแข็งแรงมากอยู่เลย)
แต่แม่ตอบมาว่า แม่ไม่มีความรู้เรื่องนี้ ไม่เอาอย่างเดียว แกกลัวถูกโกงบ้าง กลัวความเสี่ยงไปหมดแม่บอกว่า รุ่นแม่นี้มันไม่ใช่เรื่องต้องมาคิดอะไรพวกนี้แล้ว คิดอย่างเดียว ขออยู่อย่างมีความสุข เพราะลำบากมานาน แค่นั้นทุกวันนี้แม่ก็ยังคิดไม่ออก ว่าถ้าเกษียณแล้วแกจะเอาเวลาว่างๆมากมายไปทำอะไร อาจลงมาอยู่บ้านพี่ที่ กทมแล้วช่วยเลี้ยงหลานซึ่งตอนนี้ 3 ขวบ แต่แกก็เคยมาแล้วนะคะ มาได้แค่ 7 วัน จะกลับบ้าน ตจว. อย่างเดียวเพราะแกเบื่อ หลานก็ไปโรงเรียน แกไม่มีอะไรทำ และที่ กทม แกก็ไม่รุ้จักใคร มันไม่เหมือนบ้านที่ ตจว. รู้จักกันทั้งหมู่บ้านไปเที่ยวบ้านคนนุ้นคนนี่ได้ ไม่เบื่อ ไม่เหงา
ดิชั้นจะทำยังไงดีคะ อธิบายไปเค้าก็ไม่เข้าใจ จะแอบพาไปสัมมนา เค้าก็กลัวว่าไปขายตรงรึป่าวอีก 55ดิชั้นแค่หวังดีกับแม่ อยากให้แม่มีความรู้เรื่องเงินบ้าง อย่างน้อยๆรู้แค่ว่าความน่ากลัวของเงินเฟ้อมันเป็นอย่างไรแค่นั้นก็ดีละค่ะ