13 มกราคม
ลูกสาวของผมพึ่งคลอดออกมา ในวันที่ 13 มกราคม 2561 อายุครรภ์ได้ 23 สัปดาห์ น้ำหนักแรกคลอดได้ 525 กรัม หมอตัดสินใจผ่าคลอดเนื่องจากน้ำคล้ำน้อยมาก และคุณแม่ปวดท้องอย่างหนัก ก่อนหน้านั้นนานหลายวัน
เรื่องเศร้าของเราคือ วันที่ 13 มกราคม นอกจากเป็นวันผ่าคลอดน้อง ยังเป็นวันเกิดของคุณแม่น้องด้วย คุณแม่ร้องให้อย่างหนักก่อนหน้านั้นที่เรายังไม่ได้ผ่าเราทำใจไม่ได้ เราไม่อยากได้ของขวัญวันเกิดเป็นวันที่เราอาจแท้งลูก พยาบาลแจ้งโอกาสที่เด็กจะหายใจมีน้อยมาก หรือหลังคลอด เด็กอาจอยู่ได้ไม่กี่ชม.
ก่อนหน้าที่เราจะคลอดเราคุยกับพยาบาลว่าวันนี้วันเกิดแม่หากน้องยังหายใจขอให้ช่วยเค้าอีกสักวัน ไม่อยากให้วันที่ 13 มกราคม นอกจากเป็นวันเกิด ยังเป็นวัน......ของลูก เราทำใจไม่ได้
หมอนัดผ่าคลอดตอนเวลา 12.00 น. ของวันที่ 13 มกราคม เพื่อนๆ ไม่รู้ว่าเราอาจแท้ง ต่างส่งไลน์มาอวยพรวันเกิดกันมากมาย อวยพรให้คุณแม่ และว่าที่คุณลูกแข็งแรง
วันนี้นอกจากเป็นวันเกิดยังเป็นวันเด็กแห่งชาติ ผมเข้าเฟส เห็นรูปพ่อแม่ พาลูกไปเที่ยว ต่างเป็นครอบครัวที่มีความสุข ทำให้ยิ่งเห็น ยิ่งอยากร้องให้ ผมรีบออกทันที
หลังเข้าห้องคลอด หมอใช้เวลา 1 ชม.ในการผ่าตัด ลูกคลอดตอน 13.00 น. หมอบอกหลังผ่าเด็กคลอดออกมาน้องตัวแดง ส่งเสียงร้องและลืมตา แขนขา ขยับได้ดี น้องสู้ชีวิต คลอดมาน้ำหนัก 525 กรัม เราดีใจและเสียใจที่น้องอาจทรมาน
น้องต้องอยู่ห้อง NICU ตลอด ตอนค่ำ ผมไปดูอาการลูกหมอบอกมีติดเชื้อในกระแสเลือดและความดันต่ำ ผมเห็นและทำใจไม่ได้ สายเต็มตัวเด็ก สงสารลูกมาก ผมแจ้งหมอถ้าน้องไม่ไหวจริงๆ ขอปล่อยน้องไปสบาย
ผมเตรียมเงินไว้บางส่วนสำหรับค่าคลอดและค่าใช้จ่ายจีปะถะ แต่เคสอย่างนี้เราไม่คิดมาก่อน
วันที่ 14 ผมสอบถามทางโรงพยาบาลเบื้องตนเรื่องค่าใช้จ่ายลูก พยาบาลสรุปตอนเช้าอยู่ที่ 19000 บาท ผมจึงขอทาง รพ.ติดต่อไปทาง รพ.ที่แจ้งว่าสามารถจะส่งเด็กไปตอนแรก แต่ที่นั้นแจ้งเตียงเต็มแล้ว
ทางพยาบาลให้ใบส่งต่อของน้องมา ผมเห็นว่าลูกอาจอยู่ที่นี่อีกหลายวัน เพราะกว่าจะหา รพ.รัฐที่มีเครื่อง NICU ได้คงหลายวัน ผมจึงตัดสินใจเดินทางไปสอบถาม รพ.รัฐ และโทรไปที่ต่างๆ เผื่อมีเตียงว่าง ช่วงเวลาที่ออกไปติดต่อ รพ.รัฐ แม่เด็กผมโทรมาว่าทางการเงินนำใบแจ้งหนี้ค่ารักษามาให้ สรุปค่าแม่ ต้องจ่าย แม่ 20000+ เบิกประกันได้บางส่วน ค่าลูก ณ.เวลา 14.00 น. 50000+ ผมตกใจอย่างหนัก ทำไมค่ารักษาถึงแพงอย่างนี้ จึงรีบกลับมาเพื่อขอชำระทางแผนกการเงินเฉพาะค่าแม่ก่อน เจ้าหน้าที่บอกเดียวดึงยอดใหม่ ยอดนั้นของตอน 8.00 หลังสรุปยอดใหม่ ต้องจ่ายรวม 40000+ หักค่า ประกันสังคมแล้ว
ผมจนปัญญามาก ตอนแรกหมอพยาบาลบอกค่าส่วนของแม่เบิกได้เกือบหมด ชำระเพิ่ม 1 - 2 หมื่น เราเลยตัดสินใจย้ายมาห้องพิเศษหลังผ่า ได้เป็นห้องคู่ เราคุยกะทางเจ้าหน้าที่แจ้งห้องนี้หลังหักประกันสังคม ชำระที่ประมาณ 1900 บาท/วัน เราเห็นว่าญาติเรามาเยี่ยมเยอะเลยไม่อยากไปห้องรวมกลัวเสียงดัง
พอเจอปัญหานี้ผมคิดว่าจะขอประนอมหนี้กับทาง รพ. จ่ายบางส่วนที่เหลือจ่ายทุกเดือน แต่เจ้าหน้าที่การเงินแจ้งไม่มีประนอมหนี้ต้องชำระหมดถึงจะให้ออก
ตอนนี้เราอับจนปัญญามากครับ ค่าใช้จ่ายตอนนี้ยังพอหามาได้ แต่ส่วนของลูกต่อจากนี้ไม่รู้เท่าไหร่ ผมพยายามไล่โทรไปตาม รพ.รัฐต่างๆ เพื่อจะขอย้ายลูกไป แต่ส่วนใหญ่เค้าแจ้งว่าต้องให้ทางโรงบาลโทรไป
เราสองคนพึ่งสร้างครอบครับ พึ่งซื้อบ้าน ตอนนี้เจอวิกฤษชีวิต ทำอะไรไม่ถูก อยากรู้โรงพยาบาลไหนพอจะรับลูกสาวผมเข้ารักษาได้บ้างครับ อาการลูกสาวผมล่าสุด หมอบอกดีขึ้น เด็กขยับตัวได้ดี
ลูกผมยังสู้ชีวิต ผมก็ต้องสู้เหมือนกัน อยากขอย้ายลูกไป รพ.รัฐที่พอดูแลลูกผมได้ หากผมมีเงินพอจ่ายได้ ถึงค่าใช้จ่าย 1 ล้านเราก็ต้องจ่าย พ่อขอโทษที่ตอนนี้พ่อทำอะไรมากไม่ได้...และขอโทษที่ตอนแรกอาจเลือกทิ้งลูก T T
ผมขอโทษที่เราเลือกมา รพ.เอกชน ตามสิทธิประกันสังคม ที่เราไม่รู้ค่าใช้จ่ายอาจบานปลายแบบนี้...
ทารกแรกคลอด 525 กรัม
ลูกสาวของผมพึ่งคลอดออกมา ในวันที่ 13 มกราคม 2561 อายุครรภ์ได้ 23 สัปดาห์ น้ำหนักแรกคลอดได้ 525 กรัม หมอตัดสินใจผ่าคลอดเนื่องจากน้ำคล้ำน้อยมาก และคุณแม่ปวดท้องอย่างหนัก ก่อนหน้านั้นนานหลายวัน
เรื่องเศร้าของเราคือ วันที่ 13 มกราคม นอกจากเป็นวันผ่าคลอดน้อง ยังเป็นวันเกิดของคุณแม่น้องด้วย คุณแม่ร้องให้อย่างหนักก่อนหน้านั้นที่เรายังไม่ได้ผ่าเราทำใจไม่ได้ เราไม่อยากได้ของขวัญวันเกิดเป็นวันที่เราอาจแท้งลูก พยาบาลแจ้งโอกาสที่เด็กจะหายใจมีน้อยมาก หรือหลังคลอด เด็กอาจอยู่ได้ไม่กี่ชม.
ก่อนหน้าที่เราจะคลอดเราคุยกับพยาบาลว่าวันนี้วันเกิดแม่หากน้องยังหายใจขอให้ช่วยเค้าอีกสักวัน ไม่อยากให้วันที่ 13 มกราคม นอกจากเป็นวันเกิด ยังเป็นวัน......ของลูก เราทำใจไม่ได้
หมอนัดผ่าคลอดตอนเวลา 12.00 น. ของวันที่ 13 มกราคม เพื่อนๆ ไม่รู้ว่าเราอาจแท้ง ต่างส่งไลน์มาอวยพรวันเกิดกันมากมาย อวยพรให้คุณแม่ และว่าที่คุณลูกแข็งแรง
วันนี้นอกจากเป็นวันเกิดยังเป็นวันเด็กแห่งชาติ ผมเข้าเฟส เห็นรูปพ่อแม่ พาลูกไปเที่ยว ต่างเป็นครอบครัวที่มีความสุข ทำให้ยิ่งเห็น ยิ่งอยากร้องให้ ผมรีบออกทันที
หลังเข้าห้องคลอด หมอใช้เวลา 1 ชม.ในการผ่าตัด ลูกคลอดตอน 13.00 น. หมอบอกหลังผ่าเด็กคลอดออกมาน้องตัวแดง ส่งเสียงร้องและลืมตา แขนขา ขยับได้ดี น้องสู้ชีวิต คลอดมาน้ำหนัก 525 กรัม เราดีใจและเสียใจที่น้องอาจทรมาน
น้องต้องอยู่ห้อง NICU ตลอด ตอนค่ำ ผมไปดูอาการลูกหมอบอกมีติดเชื้อในกระแสเลือดและความดันต่ำ ผมเห็นและทำใจไม่ได้ สายเต็มตัวเด็ก สงสารลูกมาก ผมแจ้งหมอถ้าน้องไม่ไหวจริงๆ ขอปล่อยน้องไปสบาย
ผมเตรียมเงินไว้บางส่วนสำหรับค่าคลอดและค่าใช้จ่ายจีปะถะ แต่เคสอย่างนี้เราไม่คิดมาก่อน
วันที่ 14 ผมสอบถามทางโรงพยาบาลเบื้องตนเรื่องค่าใช้จ่ายลูก พยาบาลสรุปตอนเช้าอยู่ที่ 19000 บาท ผมจึงขอทาง รพ.ติดต่อไปทาง รพ.ที่แจ้งว่าสามารถจะส่งเด็กไปตอนแรก แต่ที่นั้นแจ้งเตียงเต็มแล้ว
ทางพยาบาลให้ใบส่งต่อของน้องมา ผมเห็นว่าลูกอาจอยู่ที่นี่อีกหลายวัน เพราะกว่าจะหา รพ.รัฐที่มีเครื่อง NICU ได้คงหลายวัน ผมจึงตัดสินใจเดินทางไปสอบถาม รพ.รัฐ และโทรไปที่ต่างๆ เผื่อมีเตียงว่าง ช่วงเวลาที่ออกไปติดต่อ รพ.รัฐ แม่เด็กผมโทรมาว่าทางการเงินนำใบแจ้งหนี้ค่ารักษามาให้ สรุปค่าแม่ ต้องจ่าย แม่ 20000+ เบิกประกันได้บางส่วน ค่าลูก ณ.เวลา 14.00 น. 50000+ ผมตกใจอย่างหนัก ทำไมค่ารักษาถึงแพงอย่างนี้ จึงรีบกลับมาเพื่อขอชำระทางแผนกการเงินเฉพาะค่าแม่ก่อน เจ้าหน้าที่บอกเดียวดึงยอดใหม่ ยอดนั้นของตอน 8.00 หลังสรุปยอดใหม่ ต้องจ่ายรวม 40000+ หักค่า ประกันสังคมแล้ว
ผมจนปัญญามาก ตอนแรกหมอพยาบาลบอกค่าส่วนของแม่เบิกได้เกือบหมด ชำระเพิ่ม 1 - 2 หมื่น เราเลยตัดสินใจย้ายมาห้องพิเศษหลังผ่า ได้เป็นห้องคู่ เราคุยกะทางเจ้าหน้าที่แจ้งห้องนี้หลังหักประกันสังคม ชำระที่ประมาณ 1900 บาท/วัน เราเห็นว่าญาติเรามาเยี่ยมเยอะเลยไม่อยากไปห้องรวมกลัวเสียงดัง
พอเจอปัญหานี้ผมคิดว่าจะขอประนอมหนี้กับทาง รพ. จ่ายบางส่วนที่เหลือจ่ายทุกเดือน แต่เจ้าหน้าที่การเงินแจ้งไม่มีประนอมหนี้ต้องชำระหมดถึงจะให้ออก
ตอนนี้เราอับจนปัญญามากครับ ค่าใช้จ่ายตอนนี้ยังพอหามาได้ แต่ส่วนของลูกต่อจากนี้ไม่รู้เท่าไหร่ ผมพยายามไล่โทรไปตาม รพ.รัฐต่างๆ เพื่อจะขอย้ายลูกไป แต่ส่วนใหญ่เค้าแจ้งว่าต้องให้ทางโรงบาลโทรไป
เราสองคนพึ่งสร้างครอบครับ พึ่งซื้อบ้าน ตอนนี้เจอวิกฤษชีวิต ทำอะไรไม่ถูก อยากรู้โรงพยาบาลไหนพอจะรับลูกสาวผมเข้ารักษาได้บ้างครับ อาการลูกสาวผมล่าสุด หมอบอกดีขึ้น เด็กขยับตัวได้ดี
ลูกผมยังสู้ชีวิต ผมก็ต้องสู้เหมือนกัน อยากขอย้ายลูกไป รพ.รัฐที่พอดูแลลูกผมได้ หากผมมีเงินพอจ่ายได้ ถึงค่าใช้จ่าย 1 ล้านเราก็ต้องจ่าย พ่อขอโทษที่ตอนนี้พ่อทำอะไรมากไม่ได้...และขอโทษที่ตอนแรกอาจเลือกทิ้งลูก T T
ผมขอโทษที่เราเลือกมา รพ.เอกชน ตามสิทธิประกันสังคม ที่เราไม่รู้ค่าใช้จ่ายอาจบานปลายแบบนี้...