จากข่าวเมื่อวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ได้ออกมาประกาศเรื่องการลดค่า Reach เป็นที่แน่นอนแล้ว และเราจะเห็นข้อมูลของเพื่อนๆ และครอบครัว ในเฟซบุ๊คส่วนตัวมากขึ้น ซึ่งบรรดาเพจต่างๆ แทบจะไม่ได้โผล่ขึ้นมาอยู่เหนือน้ำเลย นอกจากคุณต้องจ่าย และอาจจ่ายแพง!
เป็นไปตามคาดว่า Digital Marketing บน Facebook Trend ต่อไปคงจะเปลี่ยนจาก Page Brand ย้ายอยู่บนหน้าไทม์ไลน์ของ Influencer อย่างจริงแท้แน่นอนแล้ว และเชื่อว่าเฮียมาร์ค คงวางแผนเปิดฟังชั่นหรือระบบโปรโมทให้ User กลุ่มนี้ไว้ใช้เพื่อเก็บค่าธรรมเนียมไว้บ้างแล้วด้วยล่ะมั้ง
ที่สำคัญ Facebook จะยังไม่มีระบบแชร์รายได้ให้เหมือน Youtuber / Web / Blogger / Dev-MobileApp / AdSense ในปีนี้แน่นอนด้วย เพราะคนกลุ่มนี้ไม่ได้เป็น #ภาระที่คาดหวัง อะไรให้ต้องจ่าย
ข้ออ้างการลด Reach แฟนเพจช่วง Hi-Season ก็ว่ามีนัยที่ไม่น่ารักแล้ว ภาระยังคงตกไปอยู่กับ เพจแบรนด์-เพจร้านค้า ในการกลับไปปั้น Brand Ambassadors / Testimonial / Influencer User เพื่อให้ได้ผลลัพธ์กลับไปอยุ่ในสถิติเดิม
แบรนด์ที่ยังอ่อนเรื่องการสร้างคอนเท้นท์ดีๆ หรือมีงบการตลาดน้อย เพื่อเป็นประโยชน์ในการเข้าถึงสินค้าอย่างต่อเนื่อง จะกลับไปเจอปัญหา คชจ. ที่หนักขึ้นอีก ทั้งการต้องรีบวางแผนจัดงบทุนจ้างช่วงต้นปีใหม่จะบวมขึ้น (หากไม่จัดทำระบบ KPI การลงโฆษณาให้ดี), การแบ่งเงินจัดจ่ายให้กับกลุ่ม Influencer User จะถูกเทเพิ่มขึ้นมากกว่าปีก่อนอีกหลายเท่าตัว (เผลอๆ อาจจะต้องใช้ 50-70% ของงบการตลาด) และการแข่งขันกับคู่แข่งที่เทเงินบิดราคาแข่งบนระบบ Facebook’s Media Advertisement ตลอดจนถึงสิ้นปี
เรียกได้ว่าทั้งขึ้นทั้งล่อง Facebook มีแต่ได้กับได้ ยังไม่ต้องแบ่งจ่ายอะไรให้พาร์ทเนอร์เลยซักแดง #รวมถึงการจ่ายภาษีข้ามประเทศด้วย ใครยังไม่ได้คิดไว้หรือยังไม่ได้ทำจริงจัง ต้องรีบกลับมาลงมือทำจริงจังได้แล้วนาจา
ที่มา:
http://www.atimedesign.com/webdesign/facebook-low-reach/
เฟสบุ๊คทำการลด Reach ลงแล้วครับ พี่น้อง เพื่อนพ้องสำคัญกว่า!
จากข่าวเมื่อวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ได้ออกมาประกาศเรื่องการลดค่า Reach เป็นที่แน่นอนแล้ว และเราจะเห็นข้อมูลของเพื่อนๆ และครอบครัว ในเฟซบุ๊คส่วนตัวมากขึ้น ซึ่งบรรดาเพจต่างๆ แทบจะไม่ได้โผล่ขึ้นมาอยู่เหนือน้ำเลย นอกจากคุณต้องจ่าย และอาจจ่ายแพง!
เป็นไปตามคาดว่า Digital Marketing บน Facebook Trend ต่อไปคงจะเปลี่ยนจาก Page Brand ย้ายอยู่บนหน้าไทม์ไลน์ของ Influencer อย่างจริงแท้แน่นอนแล้ว และเชื่อว่าเฮียมาร์ค คงวางแผนเปิดฟังชั่นหรือระบบโปรโมทให้ User กลุ่มนี้ไว้ใช้เพื่อเก็บค่าธรรมเนียมไว้บ้างแล้วด้วยล่ะมั้ง
ที่สำคัญ Facebook จะยังไม่มีระบบแชร์รายได้ให้เหมือน Youtuber / Web / Blogger / Dev-MobileApp / AdSense ในปีนี้แน่นอนด้วย เพราะคนกลุ่มนี้ไม่ได้เป็น #ภาระที่คาดหวัง อะไรให้ต้องจ่าย
ข้ออ้างการลด Reach แฟนเพจช่วง Hi-Season ก็ว่ามีนัยที่ไม่น่ารักแล้ว ภาระยังคงตกไปอยู่กับ เพจแบรนด์-เพจร้านค้า ในการกลับไปปั้น Brand Ambassadors / Testimonial / Influencer User เพื่อให้ได้ผลลัพธ์กลับไปอยุ่ในสถิติเดิม
แบรนด์ที่ยังอ่อนเรื่องการสร้างคอนเท้นท์ดีๆ หรือมีงบการตลาดน้อย เพื่อเป็นประโยชน์ในการเข้าถึงสินค้าอย่างต่อเนื่อง จะกลับไปเจอปัญหา คชจ. ที่หนักขึ้นอีก ทั้งการต้องรีบวางแผนจัดงบทุนจ้างช่วงต้นปีใหม่จะบวมขึ้น (หากไม่จัดทำระบบ KPI การลงโฆษณาให้ดี), การแบ่งเงินจัดจ่ายให้กับกลุ่ม Influencer User จะถูกเทเพิ่มขึ้นมากกว่าปีก่อนอีกหลายเท่าตัว (เผลอๆ อาจจะต้องใช้ 50-70% ของงบการตลาด) และการแข่งขันกับคู่แข่งที่เทเงินบิดราคาแข่งบนระบบ Facebook’s Media Advertisement ตลอดจนถึงสิ้นปี
เรียกได้ว่าทั้งขึ้นทั้งล่อง Facebook มีแต่ได้กับได้ ยังไม่ต้องแบ่งจ่ายอะไรให้พาร์ทเนอร์เลยซักแดง #รวมถึงการจ่ายภาษีข้ามประเทศด้วย ใครยังไม่ได้คิดไว้หรือยังไม่ได้ทำจริงจัง ต้องรีบกลับมาลงมือทำจริงจังได้แล้วนาจา
ที่มา: http://www.atimedesign.com/webdesign/facebook-low-reach/