สวัสดีค่า ครั้งก่อนกระทู้ปลิวไปค่ะ ตั้งผิด วันนี้เลยขออนุญาติมาตั้งใหม่อีกรอบนะคะ
แนะนำตัวก่อนเลยว่าเราเป็นคุณแม่ ลูก 2 แล้วค่ะ ลูกสาว 2 คนเป็นเด็กโฮสสคูลทั้งคู่
วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ที่เราได้ทุน Buddy Blogger คู่แม่-ลูกไปเรียนภาษาอังกฤษที่เมืองเซบู ประเทศฟิลิปปินส์กันค่ะ
เราจะขอมารีวิวโรงเรียนและการใช้ชีวิตที่นั่นของเราและน้องนำทาง (ลูกสาว) กันนะคะ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เคยพูดกับนำทางว่า "โตมาถ้าอยากไปเรียนอะไรเมื่อไหร่ ก็หาทางชิงทุนไปเองนะ" ไม่นึกว่าเรื่องนี้จะมาถึงเร็วกว่าที่คิด แถมยังไม่ใช่เฉพาะลูกที่ได้ทุน แม่ก็ได้กลับไปเป็นนักเรียนกับเขาอีกครั้งเหมือนกัน
โครงการ "Buddy Blogger" โดย ศูนย์การศึกษาต่อต่างประเทศ ก้อปันกัน, สถาบันสอนภาษาอังกฤษ Philinter Education Center และสายการบิน Philippine Airlines สรรหาคู่ผู้ปกครองและเด็กอายุ 7-15 ปี 1 คู่ ไปเรียนภาษาอังกฤษที่เมืองเซบู ประเทศฟิลิปปินส์ เป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์ … อ่านแล้วถามนำทางว่าสนใจไหม นำทางทำตาโตพยักหน้าหงึกหงักแบบไม่ใช้เวลาคิดก่อน "ไปๆๆๆ"
วันเดินทาง
สำหรับ Philippine Airlines เคาน์เตอร์เช็คอินจะแบ่งเป็น 3 ส่วน Business Class, Online Check-In และ Economy Class ซึ่ง Online Check-In สามารถทำได้ตั้งแต่ 24 ชั่วโมง ถึง 1 ชั่วโมงก่อนเวลาเดินทางบน
https://www.philippineairlines.com เที่ยวบินขามาเป็น flight PR731 Bangkok – Manila พวกเราได้รับอนุญาตให้ขึ้นเครื่องก่อนคนอื่นเพื่อไปถ่ายรูป (ต้องขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องทุกท่านตั้งแต่ก้อปันกันเจ้าหน้าที่ Philippine Airlines ทั้งภาคพื้นและบนเครื่องบินที่อำนวยความสะดวกให้เป็นอย่างดีค่ะ) เลยได้ภาพในขณะที่ยังไม่มีผู้โดยสารและสัมภาระมาฝาก
Business Class
Premium Economy
Economy
Mabuhay
ก่อนเดินทางเราไม่แน่ใจว่าจะได้เครื่องแบบไหนก้อปันกันจึงแนะนำให้โหลด MyPAL Player ไว้ (มีทั้งบน App Store และ Play Store) ถ้าได้เครื่องรุ่นที่ไม่มีจอเราก็ยังสามารถบันเทิงจากอุปกรณ์ของเราได้ แต่โชคดีเราได้เครื่องใหม่มากกก ที่นั่งใหม่มากกก ทุกอย่างใหม่ ดูดี สะอาด สวยงาม (พนักงานต้อนรับก็เช่นกัน ตลอดการเดินทางเจอแต่พนักงานสาวๆ สวยๆ นะ) แบ่งเป็น 3 โซน Business Class, Premium Economy และ Economy ซึ่งทุกที่นั่งรวมถึงชั้นประหยัดมีจอให้เราได้บันเทิงระหว่างการเดินทาง และชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของตัวเองได้อีกด้วย
พอขึ้นเครื่อง เราก็เล็งเปิดหนังทันที กดเข้าไปหน้าจอจะมีเมนูให้เลือก ดูที่เที่ยว หนัง การ์ตูน ฯลฯ หนังมีให้เลือกเยอะมากกก BKK-MNL ดูได้ 2 เรื่องก็ถึงจบพอดีเป๊ะ (แม่ดู Moana กับ Black Swan นำทางดู Moana กับ Doraemon the Movie) ตอนแรกกะว่าจะดูได้ 3 เรื่องนะ แต่ทำไมมันถึงเร็วนัก (landing ก่อนเวลาด้วย เสียใจ 555) ขากลับเตรียมแล้ว นั่งเมื่อไหร่กดเปิด ใส่หูฟัง อย่าได้ช้า (ตามประสาคนไม่ค่อยได้ดูหนัง เข้าโรงนี่ยิ่งไม่ต้องพูด ตั้งแต่มีลูกไม่เคยดูโรงเลย มันก็เลยจะตื่นเต้นกับการดูหนังนิดอะนะ) และนอกจากดูหนังแล้ว ยังมี MyPAL Wi-fi กับ MyPAL Mobile ให้ใช้บนเครื่องด้วยนะ เดี๋ยวนี้นั่งเครื่องก็ติดต่อคนอื่นได้ (รายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.philippineairlines.com/en/ph/home/myPAL-IFE/myPAL-player)
สงบได้ตลอดการเดินทาง
ถึงเวลาอาหารพนักงานจะเสิร์ฟอาหารให้เด็กก่อน เด็กทุกคนบนเครื่องได้หมดแล้วจึงเสิร์ฟผู้ใหญ่ อาหารมีให้เลือก 2 ชุด ชุดหนึ่งเป็นข้าวกับปลาทอดพร้อมคะน้าราดน้ำมันหอย+สลัด+เค้ก+ขนมปัง+เนย (นำทางเลือกชุดนี้กับน้ำส้ม) อีกชุดเป็นสตูว์หมูพร้อมมันฝรั่งและผักโขม+สลัด+เค้ก+ขนมปัง+เนย (แม่เลือกชุดนี้กับน้ำเปล่า) สตูว์หมูอร่อยมากกก ชอบน้ำซอสประมาณนี้อยู่แล้ว และชอบผักโขมที่ทำมานิ่มๆๆ แบบนี้ ส่วนนำทางก็บอกว่าข้าวหน้าปลาทอดอร่อยดี แต่ไม่กินสลัดกับเค้ก แม่เลยเหมาสลัด 2 ถ้วย เค้ก 2 ชิ้น … เสร็จโจร
สตูว์หมู+มันฝรั่งและผักโขม+สลัด+เค้ก+ขนมปัง+เนย
ข้าวปลาทอดคะน้าน้ำมันหอย+สลัด+เค้ก+ขนมปัง+เนย
ลงสนามบินมะนิลาเราก็ออกมาผ่าน customs เอากระเป๋าลงแจ้งพนักงานว่าจะไปเซบูต่อ ติด tag เสร็จ พนักงานยกขึ้นสายพานส่งต่อไปให้ เดินออกไปเข้า domestic นั่งรอเวลาเปลี่ยนเครื่องไป Mactan – Cebu International Airport ระหว่างนั้นก็หาของกินหาน้ำดื่มได้ ซื้อน้ำเปล่าขวดนึง (500 ml.) 30 PHP (ประมาณ 20 บาท) ในสนามบินราคานี้ก็รับได้นะ (เมื่อนึกถึงไข่ดาวที่สุวรรณภูมิฟองละ 66 บาทแล้ว ตบอกเบาๆ)
แต่ตั้งแต่ 3 ธันวาคม 2560 เป็นต้นไป จะไปเซบูไม่ต้องต่อเครื่องแล้วค่ะ! Philippine Airlines กำลังจะมี direct flight Bangkok – Cebu เลย! (โอย เสียดายแรง อยากนั่งจะได้ดูหนังต่อได้อีกเรื่อง)
เปลี่ยนเครื่องภายในประเทศที่ Mactan – Cebu International Airport ซึ่งมีดีเลย์กว่าเวลา boarding time ครึ่งชั่วโมง ฝนตกทัศนวิสัยไม่ค่อยดี หลังจาก take off แล้วระยะแรกเครื่องสั่นอยู่หลายระลอก นำทางนั่งหน้านิ่งแลกังวลอยู่ (แม่ก็เช่นกัน 555) แล้วคนที่นั่งหลังพวกเรามีส่งเสียงกรี๊ด(เบาๆ)ทุกครั้งที่เครื่องสั่นหรือโคลงเคลง ยิ่งบิ้วด์อารมณ์เราไปได้อี๊ก -_-” หลังจากฝ่าฝน ความสั่นสะเทือนเลื่อนลั่น แกว่งไกวไปมาเสมือนนั่งเรือพายลำน้อยลอยออกทะเล กัปตันผู้ชำนาญการของ Philippine Airlines ก็พาพวกเรามาถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ โอ๊ยยย อยากจะปรบมือให้เกรียวกราว thank you 3 times ค่ะ!
เพิ่มเติมสำหรับใครที่จะส่งลูกส่งหลานอายุ 8-12 ปี มาเรียนภาษาอังกฤษที่ Philinter Education Center เองลำพัง (Junior class ที่นี่สำหรับอายุ 7-15 ปี) แต่ไม่มีผู้ใหญ่สะดวกมาด้วย (ซึ่งอันนี้ต้องติดต่อทางสถาบันอีกทีว่าช่วงไหนรับเด็กที่มาลำพังได้บ้าง) ก็สามารถให้เดินทางลำพังแล้วใช้บริการ “Unaccompanied Minors” ของสายการบิน Philippine Airlines ได้จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูและบริการน้องๆ ขึ้นลงเครื่อง เปลี่ยนเครื่อง ฯลฯ อย่างปลอดภัย
ถึงสนามบิน Mactan ผู้จัดการ(ไทย)จาก Philinter Education Center ก็มารอรับ (ผู้จัดการจะมีทั้งคนไทย ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน เวียดนาม ที่คอยต้อนรับ ช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกให้กับนักเรียนของแต่ละชาติ) รถของโรงเรียนเป็นรถตู้เล็กปรับเบาะได้ รถใหม่ สะอาด นั่งได้สะดวกสบาย ระหว่างทางผู้จัดการก็จะอธิบายสิ่งต่างๆ คร่าวๆ ผ่านสถานที่ที่ควรทราบก็จะชี้และบอกให้ฟัง ใกล้ๆ โรงเรียนมีห้าง ซุปเปอร์มาร์เก็ต และร้านอาหารตลอดทาง ในระยะที่จะเดินหรือนั่งรถโดยสารก็ได้ จากสนามบินเพียงแค่ 10 นาที เราก็ถึงโรงเรียน Philinter Education Center เรียบร้อย
วันแรกในฟิลิปปินส์
พวกเรามาถึงฟิลิปปินส์วันเสาร์ตอนดึก เลยมีเวลาพักผ่อนเตรียมตัววันอาทิตย์อีกวันก่อนเริ่มเข้าสู่กระบวนการเรียน วันแรกในฟิลิปปินส์เลยไปเดินเล่นกันที่ห้าง Gaisano Mactan Island Mall จะให้เห็นภาพก็ประมาณห้าง local ต่างจังหวัดแบบนั้น เดินจาก Philinter Education Center ไปประมาณ 5 นาที ก็ถึง ทางเข้าจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยตรวจกระเป๋า เดินไปเรื่อยๆ ตอนแรกก็ไม่รู้สึกอะไรนะ แต่พอเดินไปถึงชั้น 3 เท่านั้นแหละ …
ห้างที่ใกล้โรงเรียนที่สุด
เครื่องเขียนไม่ต้องหิ้วมา หาซื้อที่นี่ได้ เยอะและถูก
เมื่อก้าวเท้าออกจากบันไดเลื่อน เลี้ยวไปทางขวา ผ่าม! ผ่าม! ผ่าม! นะนะนะนี่มัน … แผนกเครื่องเขียนหรือโรงพิมพ์!? เอาจริงๆ นะ ห้างมันธรรมดามากกก ของอื่นก็เหมือน(ห้างต่างจังหวัด)ทั่วไป แต่แผนกเครื่องเขียนอลังการมากกก ของบางอย่าง เช่น อุปกรณ์ทำงานฝีมือ, ตกแต่ง scrapbook, โปสเตอร์เพื่อการศึกษา เยอะมากกก เยอะกว่าร้านเครื่องเขียนใหญ่ๆ และ B2S ที่แม่หาซื้อของไว้ให้ทางนำก่อนมาเสียอีก และที่ตกตะลึงพรึงเพริดสุดๆ เลยคือสมุด! สมุดโน้ตธรรมดาๆ นี่แหละ แต่มันเยอะมาก! ตั้งเป็นกองๆ หลายกองยักษ์ (ที่เห็นในรูปคือตั้งสมุดยาวววไปสุดเลย แล้วยังไม่รวมที่วางบนชั้นด้านซ้ายมือนั่นอีกต่างหาก!)
พอรอจ่ายเงินตอนแรกก็กะจะบอกว่าไม่ต้องใส่ถุง แต่! มองไปข้างหน้าก่อนถึงคิว ทุกถุงเค้าจะรวบแล้วติดเทปหรือแม็กซ์แปะใบเสร็จไว้หน้าถุง! หืมมม … เราก็เลยรู้ว่าคงจะบอกไม่ต้องใส่ถุงไม่ได้ละ แล้วพอขาลง จะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยืนอยู่ที่หน้าบันไดเลื่อนลง ให้เรายื่นถุงด้านที่มีใบเสร็จไปให้ แล้วเค้าจะใช้ (น่าจะเป็นชอล์คหรือสีชอล์ค) สีแดงที่พันติดอยู่กับไม้ยาวๆ มาขีดปื้ดลงไปบนใบเสร็จ ประมาณว่าตรวจแล้ว (เข้าไปซื้อของที่ Watsons ในห้างนี้ก็แม็กซ์ใบเสร็จที่หน้าถุงให้เหมือนกันนะ แต่วันถัดมาไปอีกที่เป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตชื่อ Savemore Market (ประมาณ Big C, Lotus) ไม่มีกระบวนการนี้)
แต่ที่เราทึ่งที่สุดก็คือพนักงานทุกคนที่เจอล้วนตอบภาษาอังกฤษใส่เราได้ทันทีหลังจากเราปล่อยภาษาอังกฤษใส่เค้า รวมถึงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยด้วย ลุงป้าที่เจอที่แอร์พอร์ตและบนเครื่องที่มาคุยกับเราก็เช่นกัน จะเห็นได้ว่าการใช้ชีวิตในฟิลิปปินส์สะดวกมากๆ ตรงที่ไปไหนก็มีคนให้เราถามให้เราขอความช่วยเหลือได้ตลอด
เดี๋ยวมาอัพต่อนะคะ กลัวตัวอักษรจะเกิน
ขอบคุณที่อ่านกันมาถึงจุดนี้ค่ะ
อ่านเรื่องราวอื่ๆนเพิ่มเติมได้ในกระทู้เหล่านี้เลยค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/37284575
[SR] รีวิว : บล็อกเกอร์สองแม่ลูกไปเรียนภาษาอังกฤษที่เซบู ฟิลิปปินส์
แนะนำตัวก่อนเลยว่าเราเป็นคุณแม่ ลูก 2 แล้วค่ะ ลูกสาว 2 คนเป็นเด็กโฮสสคูลทั้งคู่
วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ที่เราได้ทุน Buddy Blogger คู่แม่-ลูกไปเรียนภาษาอังกฤษที่เมืองเซบู ประเทศฟิลิปปินส์กันค่ะ
เราจะขอมารีวิวโรงเรียนและการใช้ชีวิตที่นั่นของเราและน้องนำทาง (ลูกสาว) กันนะคะ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เคยพูดกับนำทางว่า "โตมาถ้าอยากไปเรียนอะไรเมื่อไหร่ ก็หาทางชิงทุนไปเองนะ" ไม่นึกว่าเรื่องนี้จะมาถึงเร็วกว่าที่คิด แถมยังไม่ใช่เฉพาะลูกที่ได้ทุน แม่ก็ได้กลับไปเป็นนักเรียนกับเขาอีกครั้งเหมือนกัน
โครงการ "Buddy Blogger" โดย ศูนย์การศึกษาต่อต่างประเทศ ก้อปันกัน, สถาบันสอนภาษาอังกฤษ Philinter Education Center และสายการบิน Philippine Airlines สรรหาคู่ผู้ปกครองและเด็กอายุ 7-15 ปี 1 คู่ ไปเรียนภาษาอังกฤษที่เมืองเซบู ประเทศฟิลิปปินส์ เป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์ … อ่านแล้วถามนำทางว่าสนใจไหม นำทางทำตาโตพยักหน้าหงึกหงักแบบไม่ใช้เวลาคิดก่อน "ไปๆๆๆ"
วันเดินทาง
สำหรับ Philippine Airlines เคาน์เตอร์เช็คอินจะแบ่งเป็น 3 ส่วน Business Class, Online Check-In และ Economy Class ซึ่ง Online Check-In สามารถทำได้ตั้งแต่ 24 ชั่วโมง ถึง 1 ชั่วโมงก่อนเวลาเดินทางบน https://www.philippineairlines.com เที่ยวบินขามาเป็น flight PR731 Bangkok – Manila พวกเราได้รับอนุญาตให้ขึ้นเครื่องก่อนคนอื่นเพื่อไปถ่ายรูป (ต้องขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องทุกท่านตั้งแต่ก้อปันกันเจ้าหน้าที่ Philippine Airlines ทั้งภาคพื้นและบนเครื่องบินที่อำนวยความสะดวกให้เป็นอย่างดีค่ะ) เลยได้ภาพในขณะที่ยังไม่มีผู้โดยสารและสัมภาระมาฝาก
ก่อนเดินทางเราไม่แน่ใจว่าจะได้เครื่องแบบไหนก้อปันกันจึงแนะนำให้โหลด MyPAL Player ไว้ (มีทั้งบน App Store และ Play Store) ถ้าได้เครื่องรุ่นที่ไม่มีจอเราก็ยังสามารถบันเทิงจากอุปกรณ์ของเราได้ แต่โชคดีเราได้เครื่องใหม่มากกก ที่นั่งใหม่มากกก ทุกอย่างใหม่ ดูดี สะอาด สวยงาม (พนักงานต้อนรับก็เช่นกัน ตลอดการเดินทางเจอแต่พนักงานสาวๆ สวยๆ นะ) แบ่งเป็น 3 โซน Business Class, Premium Economy และ Economy ซึ่งทุกที่นั่งรวมถึงชั้นประหยัดมีจอให้เราได้บันเทิงระหว่างการเดินทาง และชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของตัวเองได้อีกด้วย
พอขึ้นเครื่อง เราก็เล็งเปิดหนังทันที กดเข้าไปหน้าจอจะมีเมนูให้เลือก ดูที่เที่ยว หนัง การ์ตูน ฯลฯ หนังมีให้เลือกเยอะมากกก BKK-MNL ดูได้ 2 เรื่องก็ถึงจบพอดีเป๊ะ (แม่ดู Moana กับ Black Swan นำทางดู Moana กับ Doraemon the Movie) ตอนแรกกะว่าจะดูได้ 3 เรื่องนะ แต่ทำไมมันถึงเร็วนัก (landing ก่อนเวลาด้วย เสียใจ 555) ขากลับเตรียมแล้ว นั่งเมื่อไหร่กดเปิด ใส่หูฟัง อย่าได้ช้า (ตามประสาคนไม่ค่อยได้ดูหนัง เข้าโรงนี่ยิ่งไม่ต้องพูด ตั้งแต่มีลูกไม่เคยดูโรงเลย มันก็เลยจะตื่นเต้นกับการดูหนังนิดอะนะ) และนอกจากดูหนังแล้ว ยังมี MyPAL Wi-fi กับ MyPAL Mobile ให้ใช้บนเครื่องด้วยนะ เดี๋ยวนี้นั่งเครื่องก็ติดต่อคนอื่นได้ (รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.philippineairlines.com/en/ph/home/myPAL-IFE/myPAL-player)
ถึงเวลาอาหารพนักงานจะเสิร์ฟอาหารให้เด็กก่อน เด็กทุกคนบนเครื่องได้หมดแล้วจึงเสิร์ฟผู้ใหญ่ อาหารมีให้เลือก 2 ชุด ชุดหนึ่งเป็นข้าวกับปลาทอดพร้อมคะน้าราดน้ำมันหอย+สลัด+เค้ก+ขนมปัง+เนย (นำทางเลือกชุดนี้กับน้ำส้ม) อีกชุดเป็นสตูว์หมูพร้อมมันฝรั่งและผักโขม+สลัด+เค้ก+ขนมปัง+เนย (แม่เลือกชุดนี้กับน้ำเปล่า) สตูว์หมูอร่อยมากกก ชอบน้ำซอสประมาณนี้อยู่แล้ว และชอบผักโขมที่ทำมานิ่มๆๆ แบบนี้ ส่วนนำทางก็บอกว่าข้าวหน้าปลาทอดอร่อยดี แต่ไม่กินสลัดกับเค้ก แม่เลยเหมาสลัด 2 ถ้วย เค้ก 2 ชิ้น … เสร็จโจร
ลงสนามบินมะนิลาเราก็ออกมาผ่าน customs เอากระเป๋าลงแจ้งพนักงานว่าจะไปเซบูต่อ ติด tag เสร็จ พนักงานยกขึ้นสายพานส่งต่อไปให้ เดินออกไปเข้า domestic นั่งรอเวลาเปลี่ยนเครื่องไป Mactan – Cebu International Airport ระหว่างนั้นก็หาของกินหาน้ำดื่มได้ ซื้อน้ำเปล่าขวดนึง (500 ml.) 30 PHP (ประมาณ 20 บาท) ในสนามบินราคานี้ก็รับได้นะ (เมื่อนึกถึงไข่ดาวที่สุวรรณภูมิฟองละ 66 บาทแล้ว ตบอกเบาๆ)
แต่ตั้งแต่ 3 ธันวาคม 2560 เป็นต้นไป จะไปเซบูไม่ต้องต่อเครื่องแล้วค่ะ! Philippine Airlines กำลังจะมี direct flight Bangkok – Cebu เลย! (โอย เสียดายแรง อยากนั่งจะได้ดูหนังต่อได้อีกเรื่อง)
เปลี่ยนเครื่องภายในประเทศที่ Mactan – Cebu International Airport ซึ่งมีดีเลย์กว่าเวลา boarding time ครึ่งชั่วโมง ฝนตกทัศนวิสัยไม่ค่อยดี หลังจาก take off แล้วระยะแรกเครื่องสั่นอยู่หลายระลอก นำทางนั่งหน้านิ่งแลกังวลอยู่ (แม่ก็เช่นกัน 555) แล้วคนที่นั่งหลังพวกเรามีส่งเสียงกรี๊ด(เบาๆ)ทุกครั้งที่เครื่องสั่นหรือโคลงเคลง ยิ่งบิ้วด์อารมณ์เราไปได้อี๊ก -_-” หลังจากฝ่าฝน ความสั่นสะเทือนเลื่อนลั่น แกว่งไกวไปมาเสมือนนั่งเรือพายลำน้อยลอยออกทะเล กัปตันผู้ชำนาญการของ Philippine Airlines ก็พาพวกเรามาถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ โอ๊ยยย อยากจะปรบมือให้เกรียวกราว thank you 3 times ค่ะ!
เพิ่มเติมสำหรับใครที่จะส่งลูกส่งหลานอายุ 8-12 ปี มาเรียนภาษาอังกฤษที่ Philinter Education Center เองลำพัง (Junior class ที่นี่สำหรับอายุ 7-15 ปี) แต่ไม่มีผู้ใหญ่สะดวกมาด้วย (ซึ่งอันนี้ต้องติดต่อทางสถาบันอีกทีว่าช่วงไหนรับเด็กที่มาลำพังได้บ้าง) ก็สามารถให้เดินทางลำพังแล้วใช้บริการ “Unaccompanied Minors” ของสายการบิน Philippine Airlines ได้จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูและบริการน้องๆ ขึ้นลงเครื่อง เปลี่ยนเครื่อง ฯลฯ อย่างปลอดภัย
ถึงสนามบิน Mactan ผู้จัดการ(ไทย)จาก Philinter Education Center ก็มารอรับ (ผู้จัดการจะมีทั้งคนไทย ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน เวียดนาม ที่คอยต้อนรับ ช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกให้กับนักเรียนของแต่ละชาติ) รถของโรงเรียนเป็นรถตู้เล็กปรับเบาะได้ รถใหม่ สะอาด นั่งได้สะดวกสบาย ระหว่างทางผู้จัดการก็จะอธิบายสิ่งต่างๆ คร่าวๆ ผ่านสถานที่ที่ควรทราบก็จะชี้และบอกให้ฟัง ใกล้ๆ โรงเรียนมีห้าง ซุปเปอร์มาร์เก็ต และร้านอาหารตลอดทาง ในระยะที่จะเดินหรือนั่งรถโดยสารก็ได้ จากสนามบินเพียงแค่ 10 นาที เราก็ถึงโรงเรียน Philinter Education Center เรียบร้อย
วันแรกในฟิลิปปินส์
พวกเรามาถึงฟิลิปปินส์วันเสาร์ตอนดึก เลยมีเวลาพักผ่อนเตรียมตัววันอาทิตย์อีกวันก่อนเริ่มเข้าสู่กระบวนการเรียน วันแรกในฟิลิปปินส์เลยไปเดินเล่นกันที่ห้าง Gaisano Mactan Island Mall จะให้เห็นภาพก็ประมาณห้าง local ต่างจังหวัดแบบนั้น เดินจาก Philinter Education Center ไปประมาณ 5 นาที ก็ถึง ทางเข้าจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยตรวจกระเป๋า เดินไปเรื่อยๆ ตอนแรกก็ไม่รู้สึกอะไรนะ แต่พอเดินไปถึงชั้น 3 เท่านั้นแหละ …
เมื่อก้าวเท้าออกจากบันไดเลื่อน เลี้ยวไปทางขวา ผ่าม! ผ่าม! ผ่าม! นะนะนะนี่มัน … แผนกเครื่องเขียนหรือโรงพิมพ์!? เอาจริงๆ นะ ห้างมันธรรมดามากกก ของอื่นก็เหมือน(ห้างต่างจังหวัด)ทั่วไป แต่แผนกเครื่องเขียนอลังการมากกก ของบางอย่าง เช่น อุปกรณ์ทำงานฝีมือ, ตกแต่ง scrapbook, โปสเตอร์เพื่อการศึกษา เยอะมากกก เยอะกว่าร้านเครื่องเขียนใหญ่ๆ และ B2S ที่แม่หาซื้อของไว้ให้ทางนำก่อนมาเสียอีก และที่ตกตะลึงพรึงเพริดสุดๆ เลยคือสมุด! สมุดโน้ตธรรมดาๆ นี่แหละ แต่มันเยอะมาก! ตั้งเป็นกองๆ หลายกองยักษ์ (ที่เห็นในรูปคือตั้งสมุดยาวววไปสุดเลย แล้วยังไม่รวมที่วางบนชั้นด้านซ้ายมือนั่นอีกต่างหาก!)
พอรอจ่ายเงินตอนแรกก็กะจะบอกว่าไม่ต้องใส่ถุง แต่! มองไปข้างหน้าก่อนถึงคิว ทุกถุงเค้าจะรวบแล้วติดเทปหรือแม็กซ์แปะใบเสร็จไว้หน้าถุง! หืมมม … เราก็เลยรู้ว่าคงจะบอกไม่ต้องใส่ถุงไม่ได้ละ แล้วพอขาลง จะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยืนอยู่ที่หน้าบันไดเลื่อนลง ให้เรายื่นถุงด้านที่มีใบเสร็จไปให้ แล้วเค้าจะใช้ (น่าจะเป็นชอล์คหรือสีชอล์ค) สีแดงที่พันติดอยู่กับไม้ยาวๆ มาขีดปื้ดลงไปบนใบเสร็จ ประมาณว่าตรวจแล้ว (เข้าไปซื้อของที่ Watsons ในห้างนี้ก็แม็กซ์ใบเสร็จที่หน้าถุงให้เหมือนกันนะ แต่วันถัดมาไปอีกที่เป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตชื่อ Savemore Market (ประมาณ Big C, Lotus) ไม่มีกระบวนการนี้)
แต่ที่เราทึ่งที่สุดก็คือพนักงานทุกคนที่เจอล้วนตอบภาษาอังกฤษใส่เราได้ทันทีหลังจากเราปล่อยภาษาอังกฤษใส่เค้า รวมถึงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยด้วย ลุงป้าที่เจอที่แอร์พอร์ตและบนเครื่องที่มาคุยกับเราก็เช่นกัน จะเห็นได้ว่าการใช้ชีวิตในฟิลิปปินส์สะดวกมากๆ ตรงที่ไปไหนก็มีคนให้เราถามให้เราขอความช่วยเหลือได้ตลอด
เดี๋ยวมาอัพต่อนะคะ กลัวตัวอักษรจะเกิน
ขอบคุณที่อ่านกันมาถึงจุดนี้ค่ะ
อ่านเรื่องราวอื่ๆนเพิ่มเติมได้ในกระทู้เหล่านี้เลยค่ะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้