จากการที่เราเป็นคนดูทีวีคนนึง จนมาถึงปัจจุบันแท้แต่ตัวเราเองที่แทบจะไม่ได้เปิดดูทีวีเลยในแต่ละวันของการใช้ชีวิตปนะจำวัน จากที่เมื่อก่อน(ปีก่อนๆ โน้น) ต้องเปิดทีวีทุกวันเป็นกิจวัตรประจำวันเลยทีเดียว จนมาเริ่มที่จะเปิดทีวีน้อยลงเรื่อยๆ ถึงขั้นไม่เปิดเลยได้ปีกว่าๆ แล้ว เพราะส่วนใหญ่เราจะ เปิดคอมพิมเตอร์หรือใช้โทรศัพท์ หรืออุปกรณ์สื่อสารอิเล็คโทรนิคต่างๆ ในการเปิดดูซีรี่ ละคร รายการที่ชอบโดยเฉพาะ หรือแม้แต่ติดตามข่าวสารต่างๆ ในสังคม หรือดารานักร้องที่ชอบ ทางสื่อโซเชี่ยลมากกว่า เพราะคิดว่าง่ายกว่า รวดเร็วกว่า และเลือกที่ชอบโดยเฉพาะได้สะดวกกว่า ไม่รู้ว่าจะมีใครเป็นแบบเราไหม มากน้อยแค่ไหน แต่ทุกวันนี้การใช้ชีวิตการดูสิ่งบันเทิงการติดตามข่าวสารของเราเป็นแบบนั้นมาสักระยะนึงแล้ว และเราคิดว่าก็คงเป็นแบบนี้ต่อไป และเดี๋ยวนี้แทบจะไม่เคยคิดที่จะเปิดทีวีเลยด้วยซ้ำไป และนี่เป็นที่มาขอหัวข้อกระทู้นี้ค่ะ ความจริงอาจจะไม่ได้เป็นแบบนั้นเพียงแต่เราคนเดียวหรือไม่กี่คนที่เป็นก็ได้ ดังนั้นอาจจะไม่ได้ทีผลกระทบขนาดนั้นก็ได้ นี่ก็คงเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนนึงเท่านั้น แต่หากว่าเกิดเป็นผลกระทบจริงๆ นั้นจะมีทั้งคนที่ได้รับข้อดี และข้อเสีย ข้อดีคือ คนทั่วไป ประชาชนทั่วไป ไม่ว่าใครก็สามารถดังได้ มีผลงาน หรือเป้นที่รู้จักได้ ทำเงินได้ มีรายได้จากสื่อโซเชี่ยล เพราะสื่อโซลเชี่ยล ไม่ว่าจะเป็นยูทูป เพจเฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ ต่างๆ สามารถทำให้คนธรรมดากลายเป็นที่รู้จักเป็นเน็ตไอดอลได้ ซึ่งจริงๆ ตรงนี้ก้มีกันมาหลายปีแล้วแหละ แต่มันจะเพิ่มขึ้น และเข้าถึงได้มากขึ้น เป็นการติดตามคนที่ชอบได้ง่ายขึ้น เลือกเสพสิ่งที่ชอบได้ง่ายขึ้น แต่ คนดังพวกนี้จะดังไม่นาน ถ้าไม่ได้มาจากความสามารถจริงๆ ก็จะดังแค่เป็นกระแสทำเงินได้แค่ช่วงนึงแล้วก้หายไป (พวกนี้น้ำขึ้นต้องรีบตัก) แต่ถ้ามาจากความเก่งเฉพาะด้าน ความสามารถจริงๆ ก็จะดังนานคนติดตามนาน เหมือนช่องยูทูปหลายๆช่องที่มีอยู่ในสมัยนี้ ซึ่งต่อไปจะเพิ่มมากขึ้นเยอะแน่นนอน และนั่นคือผลดี ที่จะเป้นช่องทางให้คนได้ติดตามเฉพาะสิ่งที่ชอบ และเป็นการกระจายรายได้สู่ ประชาชนคนทั่วไปที่มีความสามารถ เป็นโอกาสอย่างนึงของคนทั่วไปเลยที่เดียว โดยไม่จำเป็นต้องเป็นดาราต้องสวยต้องหล่อ แต่มีจุดเด่นมีความสามารถมีบุคลิคที่น่าจดจำก็ดังได้
มาถึงข้อเสียนั้น พวกที่จะมีผลกระทบมากที่สุดก็คงจะเป็นพวกกลุ่มดารานักแสดง เพราะงานอาจจะน้อยลง คนรู้จักน้อยลง เพราะคนแบ่งกลุ่มในการเสพสื่อหลายกลุ่ม ดังนั้นความดังก็จะลดถอยลงไป ความน่าสนใจก็จะอยูเฉพาะกลุ่มจริงๆ เท่านั้น และก็จะมีส่วนแบ่งตลาดจากพวกเน็ตไอดอลเยอะขึ้น จากคนที่ดังจากเพจ จากยูทูปเยอะขึ้น และอย่างที่กล่าวที่หัวข้อกระทู้ คือ คนเสพสื่อทีวีน้อยลง เรตติ้งน้อยลง สื่อโฆษณาก็จะเข้าน้อยลง และไปเจาะตลาดการโฆษณาผ่านเพจ ผ่านยูทูป ทางด้านสื่อโซเชี่ยลมากขึ้น ผลกระทบก็คงอยู่ที่ช่องทีวีต่างๆ ว่าจะดึงคนดูได้อย่างไร
ยกตัวอย่างที่เห็นในปีที่ผ่านมา (ความคิดเห็นส่วนตัว) ช่องทีวีช่องนึง ที่มีเรตติ้งน้อยลงเรื่อยๆ นั่นเป็นส่วนนึงจากผลกระทบทางสื่อโซเชี่ยล และส่วนแบ่งการตลาดจากช่องทีวีอื่นๆ ที่มีกลุ่มเป้าหมายเดียวกัน คนดูกลุ่มเดียวกัน ทำให้ถูกดึงกลุ่มคนดูออกไปหลายๆทาง ซึ่งถ้ามองในปีนี้ก็คิดว่าเรตติ้งก็จะคงต่ำลงเรื่อยๆ เช่นปีที่ผ่านมา คงจะแก้ไขได้ยากแล้วเพราะนุคสมัยที่เปลี่ยนไปการบริโภคสื่อของคนที่เปลี่ยนไป และอาจจะถึงยุคที่ช่องทีวีต้องไปลงโฆษณาผลงานผ่านเพจต่างเลยก็ว่าได้ คงต้องรอดูกันในอนาคตอันใกล้นี้ (ย้ำอีกครั้งที่เขียนมาทั้งหมดนี้คือความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ) เผื่อเจอคนที่คิดเหมือนกัน หรือแบบที่คล้ายกัน
ปัจจุบัน และอนาคตอันใกล้นี้ สื่อโซเชี่ยลต่างๆ มีผลกระทบทำให้คนเปิดทีวีน้อยลง เรตติ้งทุกช่องน้อยลง และอาจไม่สำคัญอีกต่อไป
มาถึงข้อเสียนั้น พวกที่จะมีผลกระทบมากที่สุดก็คงจะเป็นพวกกลุ่มดารานักแสดง เพราะงานอาจจะน้อยลง คนรู้จักน้อยลง เพราะคนแบ่งกลุ่มในการเสพสื่อหลายกลุ่ม ดังนั้นความดังก็จะลดถอยลงไป ความน่าสนใจก็จะอยูเฉพาะกลุ่มจริงๆ เท่านั้น และก็จะมีส่วนแบ่งตลาดจากพวกเน็ตไอดอลเยอะขึ้น จากคนที่ดังจากเพจ จากยูทูปเยอะขึ้น และอย่างที่กล่าวที่หัวข้อกระทู้ คือ คนเสพสื่อทีวีน้อยลง เรตติ้งน้อยลง สื่อโฆษณาก็จะเข้าน้อยลง และไปเจาะตลาดการโฆษณาผ่านเพจ ผ่านยูทูป ทางด้านสื่อโซเชี่ยลมากขึ้น ผลกระทบก็คงอยู่ที่ช่องทีวีต่างๆ ว่าจะดึงคนดูได้อย่างไร
ยกตัวอย่างที่เห็นในปีที่ผ่านมา (ความคิดเห็นส่วนตัว) ช่องทีวีช่องนึง ที่มีเรตติ้งน้อยลงเรื่อยๆ นั่นเป็นส่วนนึงจากผลกระทบทางสื่อโซเชี่ยล และส่วนแบ่งการตลาดจากช่องทีวีอื่นๆ ที่มีกลุ่มเป้าหมายเดียวกัน คนดูกลุ่มเดียวกัน ทำให้ถูกดึงกลุ่มคนดูออกไปหลายๆทาง ซึ่งถ้ามองในปีนี้ก็คิดว่าเรตติ้งก็จะคงต่ำลงเรื่อยๆ เช่นปีที่ผ่านมา คงจะแก้ไขได้ยากแล้วเพราะนุคสมัยที่เปลี่ยนไปการบริโภคสื่อของคนที่เปลี่ยนไป และอาจจะถึงยุคที่ช่องทีวีต้องไปลงโฆษณาผลงานผ่านเพจต่างเลยก็ว่าได้ คงต้องรอดูกันในอนาคตอันใกล้นี้ (ย้ำอีกครั้งที่เขียนมาทั้งหมดนี้คือความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ) เผื่อเจอคนที่คิดเหมือนกัน หรือแบบที่คล้ายกัน