ขสมก. มีแผนขยับฐานค่าโดยสารเพราะเป็นส่วนหนึ่งของแผนฟื้นฟูที่รอการเห็นชอบ โดยจะเสนอให้ปรับราคาเพิ่มขึ้น 2 บาทรถเมล์ธรรมดา (เมล์ร้อน) จาก 6.50บาท เป็น 8.50 บาท
นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานคณะกรรมการบริหารกิจการ (บอร์ด)องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผย กรณีนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม สั่งการให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และขสมก.ทบทวนแผนฟื้นฟูองค์กรเพื่อเพิ่มรายได้ซึ่งรวมถึงการปรับค่าโดยสารว่า ในส่วนของ ขสมก. มีแผนขยับฐานค่าโดยสารเพราะเป็นส่วนหนึ่งของแผนฟื้นฟูที่รอการเห็นชอบ โดยจะเสนอให้ปรับราคาเพิ่มขึ้น 2บาท ในรถเมล์ธรรมดา (รถเมล์ร้อน) จาก 6.50บาท เป็น 8.50บาท คิดเป็น 30% ส่วนรถเมล์ปรับอากาศ (รถเมล์แอร์) จะปรับราคาแบ่งเป็นรถเมล์แอร์ สีครีม-น้ำเงิน 12-20บาท จาก 10-18 บาท (ตามระยะทาง)ส่วนรถเมล์แอร์ยูโรทูสีเหลืองส้ม เป็น 13-25บาท จาก 11-23บาท (ตามระยะทาง)
นายณัฐชาติ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันรถเมล์ ขสมก.คิดอัตราค่าโดยสารถูกกว่ารถร่วม 2 บาท จึงเสนอปรับอัตราค่าโดยสารขึ้น 2บาทให้เท่าเทียมกัน ขณะที่บริการ ขสมก. มีมาตรฐานและคุณภาพไม่แพ้รถร่วมบริการที่คิดค่าโดยสารรถเมล์ร้อน9 บาท ดังนั้นหากทยอยปรับค่าโดยสารให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงจะทำให้สภาพคล่องขององค์กรดีขึ้นภายใน3-5 ปี ซึ่งเห็นว่าการปรับค่าโดยสารในราคานี้เหมาะสมเป็นธรรมและอยู่ในฐานที่ประชาชนรับได้ นอกจากนี้เมื่อรับรถเมล์ใหม่489 คันครบแล้วถือว่าขสมก.ได้เพิ่มคุณภาพบริการแล้วจึงถึงเวลาเหมาะสม
ทั้งนี้ ขสมก.จะนำเสนอแผนฟื้นฟูกิจการเข้าสู่ที่ประชุมสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(คนร.) ในวันที่ 19 ม.ค.นี้ ซึ่งจะมีทั้งแผนเพิ่มรายได้ ลดรายจ่ายแผนลงทุนและแผนปรับค่าโดยสารเป็นต้น หากได้รับความเห็นชอบจาก คนร. จะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ต่อไป หากได้รับความเห็นชอบก็พร้อมปรับราคาภายในปีนี้
นายวีระพงษ์ วงศ์แหวน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การขนส่งมวลชน กรุงเทพ (สร.ขสมก) กล่าวว่า เตรียมทำหนังสือนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคมขอให้ปรับราคารถเมล์ เพื่อแก้ปัญหาขาดทุนสะสมขององค์กร ที่มีกว่าแสนล้านบาท เพราะมีต้นทุนรถร้อนอยู่ที่ 15บาท และรถปรับอากาศอยู่ที่ 20 บาท เพราะรายได้น้อยกว่ารายจ่าย ทั้งนี้ปรับขึ้นไปที่8-9 บาททยอยปรับทีละ 1-2บาทจนไปจนถึงราคาต้นทุนที่15 บาท รวมถึงเสนอให้เก็บค่ารถเมล์เอ็นจีวีใหม่ 489คันในราคาใหล้เคียงต้นทุนเริ่มที่ 15 บาท ซึ่งจะไม่กระทบผู้มีรายได้น้อย เนื่องจากรัฐบาลออกบัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อยให้ใช้เป็นค่าเดินทางอยู่แล้ว
รายงานข่าวจากรฟท. แจ้งว่า อยู่ระหว่างศึกษาโครงสร้างการปรับราคายังไม่แล้วเสร็จแต่การปรับราคาคาดว่าไม่กระทบกับประชาชนมากนัก เพราะเกณฑ์ราคา ต้องพิจารณาผลกระทบกับประชาชน ซึ่งยังไม่เคยขึ้นค่าโดยสารเลยตั้งแต่ปี2538 ราคาเริ่มต้นยังอยู่สถานีแรก 2 บาทอยู่เลย
JJNY : ชีวิตดี๊ดี...ซี๊จุกสูญ อ่วมอรทัย ขสมก.เคาะแล้ว ขอโขกขึ้นค่ารถเมล์ 2 บาท
นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานคณะกรรมการบริหารกิจการ (บอร์ด)องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผย กรณีนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม สั่งการให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และขสมก.ทบทวนแผนฟื้นฟูองค์กรเพื่อเพิ่มรายได้ซึ่งรวมถึงการปรับค่าโดยสารว่า ในส่วนของ ขสมก. มีแผนขยับฐานค่าโดยสารเพราะเป็นส่วนหนึ่งของแผนฟื้นฟูที่รอการเห็นชอบ โดยจะเสนอให้ปรับราคาเพิ่มขึ้น 2บาท ในรถเมล์ธรรมดา (รถเมล์ร้อน) จาก 6.50บาท เป็น 8.50บาท คิดเป็น 30% ส่วนรถเมล์ปรับอากาศ (รถเมล์แอร์) จะปรับราคาแบ่งเป็นรถเมล์แอร์ สีครีม-น้ำเงิน 12-20บาท จาก 10-18 บาท (ตามระยะทาง)ส่วนรถเมล์แอร์ยูโรทูสีเหลืองส้ม เป็น 13-25บาท จาก 11-23บาท (ตามระยะทาง)
นายณัฐชาติ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันรถเมล์ ขสมก.คิดอัตราค่าโดยสารถูกกว่ารถร่วม 2 บาท จึงเสนอปรับอัตราค่าโดยสารขึ้น 2บาทให้เท่าเทียมกัน ขณะที่บริการ ขสมก. มีมาตรฐานและคุณภาพไม่แพ้รถร่วมบริการที่คิดค่าโดยสารรถเมล์ร้อน9 บาท ดังนั้นหากทยอยปรับค่าโดยสารให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงจะทำให้สภาพคล่องขององค์กรดีขึ้นภายใน3-5 ปี ซึ่งเห็นว่าการปรับค่าโดยสารในราคานี้เหมาะสมเป็นธรรมและอยู่ในฐานที่ประชาชนรับได้ นอกจากนี้เมื่อรับรถเมล์ใหม่489 คันครบแล้วถือว่าขสมก.ได้เพิ่มคุณภาพบริการแล้วจึงถึงเวลาเหมาะสม
ทั้งนี้ ขสมก.จะนำเสนอแผนฟื้นฟูกิจการเข้าสู่ที่ประชุมสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(คนร.) ในวันที่ 19 ม.ค.นี้ ซึ่งจะมีทั้งแผนเพิ่มรายได้ ลดรายจ่ายแผนลงทุนและแผนปรับค่าโดยสารเป็นต้น หากได้รับความเห็นชอบจาก คนร. จะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ต่อไป หากได้รับความเห็นชอบก็พร้อมปรับราคาภายในปีนี้
นายวีระพงษ์ วงศ์แหวน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การขนส่งมวลชน กรุงเทพ (สร.ขสมก) กล่าวว่า เตรียมทำหนังสือนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคมขอให้ปรับราคารถเมล์ เพื่อแก้ปัญหาขาดทุนสะสมขององค์กร ที่มีกว่าแสนล้านบาท เพราะมีต้นทุนรถร้อนอยู่ที่ 15บาท และรถปรับอากาศอยู่ที่ 20 บาท เพราะรายได้น้อยกว่ารายจ่าย ทั้งนี้ปรับขึ้นไปที่8-9 บาททยอยปรับทีละ 1-2บาทจนไปจนถึงราคาต้นทุนที่15 บาท รวมถึงเสนอให้เก็บค่ารถเมล์เอ็นจีวีใหม่ 489คันในราคาใหล้เคียงต้นทุนเริ่มที่ 15 บาท ซึ่งจะไม่กระทบผู้มีรายได้น้อย เนื่องจากรัฐบาลออกบัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อยให้ใช้เป็นค่าเดินทางอยู่แล้ว
รายงานข่าวจากรฟท. แจ้งว่า อยู่ระหว่างศึกษาโครงสร้างการปรับราคายังไม่แล้วเสร็จแต่การปรับราคาคาดว่าไม่กระทบกับประชาชนมากนัก เพราะเกณฑ์ราคา ต้องพิจารณาผลกระทบกับประชาชน ซึ่งยังไม่เคยขึ้นค่าโดยสารเลยตั้งแต่ปี2538 ราคาเริ่มต้นยังอยู่สถานีแรก 2 บาทอยู่เลย