ออกตัวก่อนว่าไม่เคยอ่านนิยาย ไม่เคยดูละครเวอร์ชั่นไหนทั้งสิ้น และไม่เคยอ่านเรื่องย่อ ข้อมูลของผมมีแค่ละครเวอร์ชั่น 2560 ตอนแรกถึงตอนล่าสุด (ตอนที่ 11) สิ่งที่จะพิมพ์ต่อไปนี้เกิดจากจินตนาการทั้งสิ้นนะครับ
1. เบื้องหลังความสัมพันธ์ตี๋ซุ้ง-เต็งล้อ-ซ้อเหมย (แม่หลิว)
: หลังจากซ้อเหมยถูกข่มขืน เต็งล้อแต่งเรื่องหลอกตี๋ซุ้งขณะติดคุก ผมสันนิษฐานว่าหลังจากตี๋ซุ้งออกจากคุก ก็ได้กลับมาเลี้ยงลูกเองและทำการสปอยตี๋เล็กเต็มที่เพื่อจะปั้นเด็กคนหนึ่งให้กลายเป็นอสูรร้าย ช่วงนั้นตี๋เล็กน่าจะยังเด็กแต่พอจำความได้แล้ว ซ้อเหมยคงบอกความจริงแก่ตี๋ซุ้งแบบลับๆ แต่ตี๋ซุ้งไม่กำจัดเต็งล้อเพราะต้องการใช้มันสมองเต็งล้อในการสร้างอำนาจ และยิ่งทำการซื้อใจเต็งล้อหนักขึ้นเพื่อเล่นละครเหมือนว่าตนเองไม่รู้ความจริง ทำให้เต็งล้อคลายใจลงและยังภักดีกับตี๋ซุ้งเพราะตี๋ซุ้งดีกับตนเองและตี๋เล็กมาก สิ่งนี้ทำให้ซ้อเหมยโกรธแค้นสามีมากจนต้องย้ายไปอยู่เรือนเล็กและกินเจตลอดชีวิตเพื่อไถ่บาปให้สามีของตน จนตี๋เล็กเดินทางกลับมาเมืองไทย มีฉากหนึ่งที่ตี๋เล็กพูดกับหลิวบนโต๊ะอาหารว่า "เจ้จำได้มั้ยว่ากี่ปีมาแล้วที่ม๊าไม่ได้มานั่งกินข้าวกับเราแบบนี้" หลิวก็ตอบกลับว่า "ก็ตั้งแต่ม๊าเริ่มกินเจนั่นแหละ" นั่นแปลว่าซ้อเหมยไม่ได้ใช้ชีวิตแบบนี้มาตั้งแต่แรก แต่เกิดจากปมในการทะเลาะกับตี๋ซุ้ง ซึ่งคาดว่าเป็นเพราะผิดหวังในตัวสามีนั่นเอง ข้อสันนิษฐานที่ตี๋ซุ้งรู้เบื้องหลังเต็งล้อมาตลอด ยิ่งชัดขึ้นในฉากที่ตี๋ซุ้งทำพินัยกรรม แต่ไม่ยอมให้เต็งล้ออยู่ฟังด้วย เพราะเรื่องทั้งหมดตั้งแต่ต้นเป็นแผนที่ตี๋ซุ้งจะแก้เผ็ดเต็งล้อนั่นเอง
2. อาตี้ตายจริงหรือเปล่า
: ผมสันนิษฐานไว้ตั้งแต่ดูตอนแรกเลยครับว่า "ยังไม่ตาย" ตามปกติละครเรื่องนี้ หากตายต้องเห็นศพ แต่อาตี้โดนยิงนิดเดียว หมอบอกกระสุนไม่ถูกจุดสำคัญ แต่แล้วก็หายไปเฉยๆ เรื่องนี้น่าจะเป็นเพราะอาตี้คือมาเฟียรุ่นใหม่อีกกลุ่มที่น่าจะลึกลับพอสมควรและน่าจะเกี่ยวข้องกับองค์การ 14K ที่จะเริ่มเปิดเผยตัวตนในตอนต่อไป
อาตี้พยายามแฝงตัวเข้ามาในธรรมกุลผ่านหลิว (สังเกตฉากอาตี้ไปมอบของขวัญวันเกิด ถ้าเป็นคนธรรมดาออกเนิร์ดๆ แบบที่หลิวคิดว่าอาตี้เป็น คงไม่มีใครกล้าเข้าไปในดงเจ้าพ่อขนาดนั้น และละครยังตอกย้ำหนักขึ้นจากการที่บอกว่าอาตี้เป็นคนเดียวที่กล้าจีนหลิวโดยไม่สนใจว่าหลิวเป็นลูกเจ้าพ่อ นอกจากนี้ในละครตอนล่าสุดยังแสดงให้เห็นว่าองค์การ 14K เป็นองค์การนานาชาติที่มีเจ้าหน้าที่ประจำประเทศไทยด้วย อาตี้จึงน่าจะเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่องค์การ 14K ประจำประเทศไทย) โดยมีจุดประสงค์เพื่อจะสืบว่าธรรมกุลมีคุณสมบัติพอที่จะได้รับคัดเลือกเป็นหนึ่งในองค์การ 14K หรือไม่ และอาจมีจุดประสงค์แอบแฝงอื่นๆ จนเมื่อโดนยิงได้รับบาดเจ็บ ตี๋ซุ้งน่าจะสืบประวัติจนสงสัยว่าอาตี้เป็นหนอนแฝงตัวเข้ามา แต่อาตี้ไหวตัวทันจึงหนีกลับไปแก๊งค์ตัวเองที่ต่างประเทศ ตี๋ซุ้งจึงรู้ความจริงว่าอาตี้เป็นมาเฟีย แต่ไม่ต้องการให้หลิวรู้ความจริงเพราะคงจะเสียใจมากเนื่องจากหลิวเกลียดมาเฟีย จึงต้องยอมรับความทุกข์เอาไว้เองโดยการแบกรับความผิดทั้งหมดให้หลิวเข้าใจว่าอาตี้โดนพ่อเก็บไปแล้ว แต่อาตี้น่าจะกลับมาตอนท้ายเรื่อง อาจเป็นตัวคลายปมทุกอย่างด้วยซ้ำ ท้ายที่สุดคนที่หลิวรักจริงๆ คืออาตี้ ส่วนจางเหากับสารวัตรปราบก็กินแห้วกันต่อไป
3. ใครฆ่าตี๋ซุ้ง-ตี๋ซา
: หลังจากสองพี่น้องมาเฟียแตกคอกัน เต็งล้อก็พยายามยุให้ตี๋ซุ้งฆ่าตี๋ซา (โดยมีจุดประสงค์ลับๆ เพื่อไม่ให้ทั้งสองร่วมมือกัน และสร้างความขัดแย้งระหว่างธรรมกุลกับกลุ่มอื่น ทำให้เต็งล้อลอบฆ่าตี๋ซุ้งได้ง่ายขึ้น) แต่เมื่อตี๋ซุ้งไม่คล้อยตาม เต็งล้อจึงต้องลงมือเองแล้วป้ายความผิดให้ตี๋ซุ้ง ต่อมาตี๋ซุ้งน่าจะให้เต็งล้อไปเจรจาเกลี้ยกล่อมแก๊งค์ตี๋ซา (เห็นได้จากการที่ตี๋ซุ้งนบนอบต่อซ้อซาพอสมควร) แต่เต็งล้อหาเรื่องฆ่าล้างบ้านตี๋ซาแล้วอ้างว่าจำเป็นจึงต้องกำจัดเสี้ยนหนามเพื่อไม่ให้เป็นภัยภายหลัง ประจวบกับเป็นช่วงเวลาที่ตี๋เล็กกลับมาจากต่างประเทศพอดี จึงเป็นช่วงเวลาสุกงอมที่เต็งล้อจะลงมือทำการใหญ่ เต็งล้อเริ่มดำเนินการตามแผนขั้นต่อไปคือฆ่าอาเพ่ยและเจตนาให้จางเหาเห็นรอยสัก เพื่อดึงจางเหากลับเข้ามาในวังวนความแค้นอีกครั้ง โดยหวังจะโยนความผิดทั้งหมดไปที่จางเหาแล้วเต็งล้อค่อยฆ่าจางเหาทีหลังเพื่อสร้างความชอบธรรมในการเถลิงอำนาจของตี๋เล็ก (เต็งล้อคาดว่าตี๋เล็กจะได้เป็นทายาทรับมรดกตามธรรมเนียมชาวจีนที่ให้ความสำคัญกับลูกชาย และตี๋เล็กก็ชอบทางนี้อยู่แล้ว ต่างกับหลิวที่เกลียดมาเฟีย) จากนั้นเต็งล้อก็วางระเบิดห้องในวันจัดงานประชุมสมาพันธ์การค้าไทยจีน เพื่อให้ทุกคนเข้าใจว่าจางเหาเป็นคนวางระเบิดฆ่าตี๋ซุ้ง แต่ๆๆๆๆๆๆๆๆ ตี๋ซุ้งยังไม่ตายหรอกครับ
: *ต่อจากนี้คือการมโนขั้นสุด* หากลองสังเกตดีๆ ในวันนั้นตี๋ซุ้งมีหลายอย่างผิดปกติ ตั้งแต่การเล่นหมากรุกกับหลิวในคืนก่อนวันงาน (และแอบแนบจดหมายไว้บนกระดานหมาก ซึ่งข้อความในจดหมายเป็นกาารสั่งเสีย "ถ้าหลิวได้อ่านจดหมายฉบับนี้ แสดงว่าป๊าได้ตายไปแล้ว" หมายความว่าตี๋ซุ้งวางแผนเฟดตัวเองออกจากวงการตั้งแต่แรกโดยอ้างเหตุว่าถูกฆ่าตาย ไม่ใช่เพื่อการวางมือ แต่เพื่อล่อให้หนอนทั้งหมดทยอยออกมาจะได้กำจัดได้ง่าย) การใส่เสื้อเกราะกันกระสุน ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นตี๋ซุ้งบอกเต็งล้อว่ายอมเอาตัวเองเป็นเหยื่อเพราะเชื่อความปลอดภัยที่เต็งล้อวางเอาไว้ (จางเหาซัลโวไปเกือบหมดแม็กแต่ไม่มีเลือดสักหยด ในขณะที่ตัวละครอื่นถ้าโดยยิงคือเลือดท่วม ยกตัวอย่างเฮียโส่ย เวคิน ป๋าเสริฐ) ก่อนเดินเข้างานก็บอกเต็งล้อว่า "เฮียใช้คนมากขนาดนี้ ถ้าคนของเราถูกซื้อ เราก็จะไม่รู้เลยว่าใครเป็นใคร" ซึ่งแน่นอนว่าบอดี้การ์ดในบ้านธรรมกุลมีคนของเต็งล้ออยู่ไม่น้อย และก่อนเต็งล้อจะออกไปล่าจางเหา ตี๋ซุ้งจึงถามย้ำว่า "อะไรสำคัญในชีวิตเฮียสำคัญที่สุด" "นาย" ... หลังจากนั้นละครตัดไปที่ผกก.ธานินทร์รับโทรศัพท์แจ้งเหตุว่าเกิดเรื่องที่งานประชุม ผกก.ดูท่าร้อนรุ่มใจมาก แต่พอสารวัตรปราบมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น ผกก.ก็กลับไปสุขุมเหมือนเดิมแล้วเหมือนจะรีบวางสาย หากดูเผินๆก็ไม่มีสิ่งผิดปกติ แต่ที่ผกก.ต้องรีบวางสายด้วยสีหน้าแปลกๆ ก็เป็นเพราะคนในสายนั่นคือตี๋ซุ้ง และชัดเจนว่าทั้งสองคนฮั้วกันเตรียมทางหนีทีไล่ไว้ตั้งแต่แรกแล้ว รอบๆห้องพักตี๋ซุ้งก็คงจะมีลูกน้องผกก.คอยเตรียมช่วยเหลือตี๋ซุ้งในยามคับขัน ซึ่งแผนให้ลูกน้องดักรออยู่นอกห้องก็เป็นแผนของผกก.ธานินทร์ (ดูได้จากก่อนวันประชุมใหญ่ ตี๋ซุ้งเรียกทนายนิพนธ์เข้ามาทำพินัยกรรม ก่อนเต็งล้อนำทนายนิพนธ์เข้ามาในห้อง จะเห็นตอนที่ตี๋ซุ้งกำลังโทรศัพท์คุยกับใครสักคน นั่นแหละคือการเตี๊ยมแผนกับผกก.ธานินทร์) เมื่อตัดกลับมาที่ห้องโรงแรม จางเหาบุกเข้าไปในห้อง ตี๋ซุ้งเมื่อรู้ว่าเป็นจางเหาก็มีสีหน้างงๆ เพราะคิดว่าคนที่บุกเข้ามาควรจะเป็นเต็งล้อมากกว่า หลังจากตี๋ซุ้งโดนจางเหาสอยร่วงลงนอนกับพื้น จางเหารีบวิ่งออกจากห้องแล้วก็เกิดระเบิดขึ้นทันที (จากปากคำของคุงไช้เมื่อคุยกับจางเหาภายหลังบอกว่าเป็นระเบิดแอนโฟ หมายความว่าต้องใช้การจุดชนวน แน่นอน เป็นเต็งล้อแอบซุ่มดูอยู่ด้านนอกเพื่อรอจุดชนวนหลังจากจางเหาออกจากห้องแล้ว เมื่อระเบิดเสร็จก็รีบเก็บกวาดหลักฐานเผ่นออกไปอยู่รวมกับลูกน้องคนอื่น ทำให้เต็งล้อไม่เห็นเหตุการณ์ต่อมา) ตี๋ซุ้งนอนสลบอยู่บนพื้น แม้จะโดนแรงระเบิดแต่ก็เป็นไปได้ว่าไม่ถึงตาย เมื่อเกิดระเบิดขึ้น ลูกน้องผกก.ที่แอบซุ่มอยู่ก็รีบเข้ามาช่วยตี๋ซุ้งออกไป แล้วลากศพลูกน้องตี๋ซุ้งที่เป็นคนของเต็งล้อเข้าไปวางไว้แทน แต่ตี๋ซุ้งก็น่าจะได้รับบาดเจ็บพอสมควร อาจถึงขั้นเสียโฉม นี่จึงเป็นสาเหตุที่ภาพจากกล้องวงจรปิดขาดไปแค่ตอนที่จางเหาออกมาจากห้อง ก็ผกก.นั่นแหละที่ตัดออก และผกก.อีกแหละที่แทรกแซงนิติเวชให้บอกว่าตี๋ซุ้งตายเพราะระเบิด (คนอื่นก็ตรวจสอบไม่ได้ เพราะศพที่โดนระเบิดไม่ได้มีแค่คนเดียว สภาพคงจะเละจนดูไม่ออก) และตี๋ซุ้งก็รู้แล้วว่าคนที่จะฆ่าตัวเองไม่ได้มีแค่จางเหา จะเห็นได้จากการที่ผกก.บอกสารวัตรปราบว่าหลักฐานไม่พอจึงจับจางเหาไม่ได้ เนื่องจากผกก.จะอาศัยกำลังตำรวจสืบหาคนวางระเบิดที่แท้จริง แล้วตี๋ซุ้งก็ซุ่มเงียบปิดเรื่องนี้เป็นความลับ โดยแอบมองเกมจากนอกกระดานเพื่อหาว่าใครบ้างที่เป็นหนอน ค่อยๆ วางแผนกำจัดอย่างแนบเนียน เรื่องนี้น่าจะมีแค่ผกก.ธานินทร์ ทนายนิพนธ์ และอีกคนในบ้านธรรมกุล (น่าจะเป็นฮัว-สังเกตตอนล่าสุดที่เต็งล้อคุยกับฮัวในรถก่อนที่องค์การ 14K จะมาขวาง สีหน้าฮัวดูแปลกๆ) เท่านั้นที่รู้ ตี๋ซุ้งจึงใช้ให้ผกก.ธานินทร์คอยช่วยเหลือหลิวสร้างอำนาจและตรวจสอบหาหนอนในธรรมกุลที่ไม่น่าจะมีแค่เต็งล้อ (คนอย่างผกก.ถ้าไม่มีผลประโยชน์คงไม่ถึงกับเสี่ยงชีวิตเพื่อทดแทนบุญคุณคนที่ตายไปแล้ว และผกก.นี่แหละเป็นลูกน้องมือซ้ายอย่างลับๆ คอยคานอำนาจกับเต็งล้อที่เป็นมือขวา) เมื่อสืบจนมั่นใจ ผกก.ก็จะบอกความจริงต่อหลิวเพื่อจะกำจัดเสี้ยนหนาม แต่เต็งล้อสงสัยอยู่ก่อนจึงต้องวางแผนฆ่าผกก. ก่อนตายผกก.ยังจะบอกความจริงต่อสารวัตรปราบ ส่วนฮัวก็ทำหน้าที่ส่งสารที่ตี๋ซุ้งจะบอกหลิวโดยการวางจดหมายไว้ตามที่ต่างๆ ในบ้าน
4. ตี๋ซุ้งคอยจับตามองเต็งล้ออยู่ห่างๆ
: หลังจากหลิวขึ้นเป็นเจ้าแม่ เต็งล้อก็ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อหลิวและธรรมกุล เต็งล้อแม้จะมักใหญ่ใฝ่สูง แต่ก็รู้ดีว่าตนเองขาดความชอบธรรมในการขึ้นสู่อำนาจ หากวันใดตนขึ้นเป็นหัวหน้าใหญ่เสียเอง ไม่เพียงแต่คนในธรรมกุลจะไม่ยอมรับ คนนอกสมาคมที่หวังจะให้มานบนอบยิ่งเป็นไปไม่ได้ ทางเดียวของเต็งล้อคือการนำหลิวเป็นตัวตายตัวแทนเพื่อกวาดล้างทุกอย่างและปูทางให้ตี๋เล็กเป็นใหญ่ต่อไปโดยมีตนเองชักใยอยู่เบื้องหลัง เพราะเต็งล้อรู้ดีว่าตี๋เล็กขาดคุณวุฒิ แต่เหตุการณ์ทั้งหมดน่าจะอยู่ในสายตาของตี๋ซุ้งที่คอยตามเกมเรื่อยๆเพื่อจะดัดหลังเต็งล้อในตอนท้าย พอใกล้วันเลือกตั้งนายกสมาพันธ์การค้าไทยจีน ตี๋ซุ้งจึงให้ทนายนิพนธ์เปิดพินัยกรรมฉบับที่สองคือการให้ตี๋เล็กขึ้นเป็นผู้นำคนใหม่ เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ตำแหน่งหัวหน้าสมาคมธรรมกุลอันตรายที่สุดจากการถูกเพ่งเล็งจากแก๊งค์อื่น ตี๋ซุ้งจึงให้ตี๋เล็กมารับกรรมแทนหลิว แต่เต็งล้อไม่ยอม ไพ่ใบสุดท้ายที่ตี๋ซุ้งต้องงัดมาใช้คือองค์การ 14K
5. องค์การ 14K
: จากปากคำของเต็งล้อที่บอกตี๋เล็กว่า "การได้เป็นสมาชิกองค์การ 14K เป็นเป้าหมายของนายใหญ่มาตลอด" หมายความว่าสมาคมนี้มีความสำคัญต่อตี๋ซุ้งมาก หลังจากรอดตายมาได้ตี๋ซุ้งต้องหาแบ็คคนใหม่ที่คอยส่งเสริมหลิวในฐานะเจ้าแม่ธรรมกุล ตี๋ซุ้งเลือกที่จะไปกบดานที่ต่างประเทศโดยไปซบอกมาเฟียระดับนานาชาติอย่างองค์การ 14K ตอนนี้เองที่ตี๋ซุ้งได้ยื่นข้อเสนอผลประโยชน์ให้องค์การ 14K ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ละครแสดงให้เห็นพิรุธในตอนล่าสุดที่เต็งล้อฉุกคิดขึ้นได้แล้วถามคนส่งเทียบเชิญว่า "ทำไมต้องประชุมที่เมืองไทย" แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ นั่นเป็นเพราะองค์การ 14K ต้องมาเพื่อกวาดล้างเต็งล้อและจัดระเบียบสมาพันธ์การค้าไทยจีนใหม่นั่นเอง และเมื่อองค์การ 14K ปรากฏตัว เรื่องทุกอย่างจะคลายปม ไม่แน่ว่าคนที่มักใหญ่ใฝ่สูงที่สุดไม่ใช่เต็งล้อ แต่อาจเป็นตี๋ซุ้งที่ร้ายมากกว่า
___________________________
กระทู้นี้ยาวมาก ถ้าผมทายผิด ก็ถือว่าเป็นเรื่องแต่งแฟนเมดแล้วกันครับ
มาร่วมทายร่วมลุ้นไปด้วยกัน ว่าละครหงส์เหนือมังกรจะหักหลังคนดูได้ถึงไหน
เดาเนื้อเรื่อง หงส์เหนือมังกร เบื้องลึกเบื้องหลัง จากคนดูละครอย่างเดียว
1. เบื้องหลังความสัมพันธ์ตี๋ซุ้ง-เต็งล้อ-ซ้อเหมย (แม่หลิว)
: หลังจากซ้อเหมยถูกข่มขืน เต็งล้อแต่งเรื่องหลอกตี๋ซุ้งขณะติดคุก ผมสันนิษฐานว่าหลังจากตี๋ซุ้งออกจากคุก ก็ได้กลับมาเลี้ยงลูกเองและทำการสปอยตี๋เล็กเต็มที่เพื่อจะปั้นเด็กคนหนึ่งให้กลายเป็นอสูรร้าย ช่วงนั้นตี๋เล็กน่าจะยังเด็กแต่พอจำความได้แล้ว ซ้อเหมยคงบอกความจริงแก่ตี๋ซุ้งแบบลับๆ แต่ตี๋ซุ้งไม่กำจัดเต็งล้อเพราะต้องการใช้มันสมองเต็งล้อในการสร้างอำนาจ และยิ่งทำการซื้อใจเต็งล้อหนักขึ้นเพื่อเล่นละครเหมือนว่าตนเองไม่รู้ความจริง ทำให้เต็งล้อคลายใจลงและยังภักดีกับตี๋ซุ้งเพราะตี๋ซุ้งดีกับตนเองและตี๋เล็กมาก สิ่งนี้ทำให้ซ้อเหมยโกรธแค้นสามีมากจนต้องย้ายไปอยู่เรือนเล็กและกินเจตลอดชีวิตเพื่อไถ่บาปให้สามีของตน จนตี๋เล็กเดินทางกลับมาเมืองไทย มีฉากหนึ่งที่ตี๋เล็กพูดกับหลิวบนโต๊ะอาหารว่า "เจ้จำได้มั้ยว่ากี่ปีมาแล้วที่ม๊าไม่ได้มานั่งกินข้าวกับเราแบบนี้" หลิวก็ตอบกลับว่า "ก็ตั้งแต่ม๊าเริ่มกินเจนั่นแหละ" นั่นแปลว่าซ้อเหมยไม่ได้ใช้ชีวิตแบบนี้มาตั้งแต่แรก แต่เกิดจากปมในการทะเลาะกับตี๋ซุ้ง ซึ่งคาดว่าเป็นเพราะผิดหวังในตัวสามีนั่นเอง ข้อสันนิษฐานที่ตี๋ซุ้งรู้เบื้องหลังเต็งล้อมาตลอด ยิ่งชัดขึ้นในฉากที่ตี๋ซุ้งทำพินัยกรรม แต่ไม่ยอมให้เต็งล้ออยู่ฟังด้วย เพราะเรื่องทั้งหมดตั้งแต่ต้นเป็นแผนที่ตี๋ซุ้งจะแก้เผ็ดเต็งล้อนั่นเอง
2. อาตี้ตายจริงหรือเปล่า
: ผมสันนิษฐานไว้ตั้งแต่ดูตอนแรกเลยครับว่า "ยังไม่ตาย" ตามปกติละครเรื่องนี้ หากตายต้องเห็นศพ แต่อาตี้โดนยิงนิดเดียว หมอบอกกระสุนไม่ถูกจุดสำคัญ แต่แล้วก็หายไปเฉยๆ เรื่องนี้น่าจะเป็นเพราะอาตี้คือมาเฟียรุ่นใหม่อีกกลุ่มที่น่าจะลึกลับพอสมควรและน่าจะเกี่ยวข้องกับองค์การ 14K ที่จะเริ่มเปิดเผยตัวตนในตอนต่อไป
อาตี้พยายามแฝงตัวเข้ามาในธรรมกุลผ่านหลิว (สังเกตฉากอาตี้ไปมอบของขวัญวันเกิด ถ้าเป็นคนธรรมดาออกเนิร์ดๆ แบบที่หลิวคิดว่าอาตี้เป็น คงไม่มีใครกล้าเข้าไปในดงเจ้าพ่อขนาดนั้น และละครยังตอกย้ำหนักขึ้นจากการที่บอกว่าอาตี้เป็นคนเดียวที่กล้าจีนหลิวโดยไม่สนใจว่าหลิวเป็นลูกเจ้าพ่อ นอกจากนี้ในละครตอนล่าสุดยังแสดงให้เห็นว่าองค์การ 14K เป็นองค์การนานาชาติที่มีเจ้าหน้าที่ประจำประเทศไทยด้วย อาตี้จึงน่าจะเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่องค์การ 14K ประจำประเทศไทย) โดยมีจุดประสงค์เพื่อจะสืบว่าธรรมกุลมีคุณสมบัติพอที่จะได้รับคัดเลือกเป็นหนึ่งในองค์การ 14K หรือไม่ และอาจมีจุดประสงค์แอบแฝงอื่นๆ จนเมื่อโดนยิงได้รับบาดเจ็บ ตี๋ซุ้งน่าจะสืบประวัติจนสงสัยว่าอาตี้เป็นหนอนแฝงตัวเข้ามา แต่อาตี้ไหวตัวทันจึงหนีกลับไปแก๊งค์ตัวเองที่ต่างประเทศ ตี๋ซุ้งจึงรู้ความจริงว่าอาตี้เป็นมาเฟีย แต่ไม่ต้องการให้หลิวรู้ความจริงเพราะคงจะเสียใจมากเนื่องจากหลิวเกลียดมาเฟีย จึงต้องยอมรับความทุกข์เอาไว้เองโดยการแบกรับความผิดทั้งหมดให้หลิวเข้าใจว่าอาตี้โดนพ่อเก็บไปแล้ว แต่อาตี้น่าจะกลับมาตอนท้ายเรื่อง อาจเป็นตัวคลายปมทุกอย่างด้วยซ้ำ ท้ายที่สุดคนที่หลิวรักจริงๆ คืออาตี้ ส่วนจางเหากับสารวัตรปราบก็กินแห้วกันต่อไป
3. ใครฆ่าตี๋ซุ้ง-ตี๋ซา
: หลังจากสองพี่น้องมาเฟียแตกคอกัน เต็งล้อก็พยายามยุให้ตี๋ซุ้งฆ่าตี๋ซา (โดยมีจุดประสงค์ลับๆ เพื่อไม่ให้ทั้งสองร่วมมือกัน และสร้างความขัดแย้งระหว่างธรรมกุลกับกลุ่มอื่น ทำให้เต็งล้อลอบฆ่าตี๋ซุ้งได้ง่ายขึ้น) แต่เมื่อตี๋ซุ้งไม่คล้อยตาม เต็งล้อจึงต้องลงมือเองแล้วป้ายความผิดให้ตี๋ซุ้ง ต่อมาตี๋ซุ้งน่าจะให้เต็งล้อไปเจรจาเกลี้ยกล่อมแก๊งค์ตี๋ซา (เห็นได้จากการที่ตี๋ซุ้งนบนอบต่อซ้อซาพอสมควร) แต่เต็งล้อหาเรื่องฆ่าล้างบ้านตี๋ซาแล้วอ้างว่าจำเป็นจึงต้องกำจัดเสี้ยนหนามเพื่อไม่ให้เป็นภัยภายหลัง ประจวบกับเป็นช่วงเวลาที่ตี๋เล็กกลับมาจากต่างประเทศพอดี จึงเป็นช่วงเวลาสุกงอมที่เต็งล้อจะลงมือทำการใหญ่ เต็งล้อเริ่มดำเนินการตามแผนขั้นต่อไปคือฆ่าอาเพ่ยและเจตนาให้จางเหาเห็นรอยสัก เพื่อดึงจางเหากลับเข้ามาในวังวนความแค้นอีกครั้ง โดยหวังจะโยนความผิดทั้งหมดไปที่จางเหาแล้วเต็งล้อค่อยฆ่าจางเหาทีหลังเพื่อสร้างความชอบธรรมในการเถลิงอำนาจของตี๋เล็ก (เต็งล้อคาดว่าตี๋เล็กจะได้เป็นทายาทรับมรดกตามธรรมเนียมชาวจีนที่ให้ความสำคัญกับลูกชาย และตี๋เล็กก็ชอบทางนี้อยู่แล้ว ต่างกับหลิวที่เกลียดมาเฟีย) จากนั้นเต็งล้อก็วางระเบิดห้องในวันจัดงานประชุมสมาพันธ์การค้าไทยจีน เพื่อให้ทุกคนเข้าใจว่าจางเหาเป็นคนวางระเบิดฆ่าตี๋ซุ้ง แต่ๆๆๆๆๆๆๆๆ ตี๋ซุ้งยังไม่ตายหรอกครับ
: *ต่อจากนี้คือการมโนขั้นสุด* หากลองสังเกตดีๆ ในวันนั้นตี๋ซุ้งมีหลายอย่างผิดปกติ ตั้งแต่การเล่นหมากรุกกับหลิวในคืนก่อนวันงาน (และแอบแนบจดหมายไว้บนกระดานหมาก ซึ่งข้อความในจดหมายเป็นกาารสั่งเสีย "ถ้าหลิวได้อ่านจดหมายฉบับนี้ แสดงว่าป๊าได้ตายไปแล้ว" หมายความว่าตี๋ซุ้งวางแผนเฟดตัวเองออกจากวงการตั้งแต่แรกโดยอ้างเหตุว่าถูกฆ่าตาย ไม่ใช่เพื่อการวางมือ แต่เพื่อล่อให้หนอนทั้งหมดทยอยออกมาจะได้กำจัดได้ง่าย) การใส่เสื้อเกราะกันกระสุน ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นตี๋ซุ้งบอกเต็งล้อว่ายอมเอาตัวเองเป็นเหยื่อเพราะเชื่อความปลอดภัยที่เต็งล้อวางเอาไว้ (จางเหาซัลโวไปเกือบหมดแม็กแต่ไม่มีเลือดสักหยด ในขณะที่ตัวละครอื่นถ้าโดยยิงคือเลือดท่วม ยกตัวอย่างเฮียโส่ย เวคิน ป๋าเสริฐ) ก่อนเดินเข้างานก็บอกเต็งล้อว่า "เฮียใช้คนมากขนาดนี้ ถ้าคนของเราถูกซื้อ เราก็จะไม่รู้เลยว่าใครเป็นใคร" ซึ่งแน่นอนว่าบอดี้การ์ดในบ้านธรรมกุลมีคนของเต็งล้ออยู่ไม่น้อย และก่อนเต็งล้อจะออกไปล่าจางเหา ตี๋ซุ้งจึงถามย้ำว่า "อะไรสำคัญในชีวิตเฮียสำคัญที่สุด" "นาย" ... หลังจากนั้นละครตัดไปที่ผกก.ธานินทร์รับโทรศัพท์แจ้งเหตุว่าเกิดเรื่องที่งานประชุม ผกก.ดูท่าร้อนรุ่มใจมาก แต่พอสารวัตรปราบมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น ผกก.ก็กลับไปสุขุมเหมือนเดิมแล้วเหมือนจะรีบวางสาย หากดูเผินๆก็ไม่มีสิ่งผิดปกติ แต่ที่ผกก.ต้องรีบวางสายด้วยสีหน้าแปลกๆ ก็เป็นเพราะคนในสายนั่นคือตี๋ซุ้ง และชัดเจนว่าทั้งสองคนฮั้วกันเตรียมทางหนีทีไล่ไว้ตั้งแต่แรกแล้ว รอบๆห้องพักตี๋ซุ้งก็คงจะมีลูกน้องผกก.คอยเตรียมช่วยเหลือตี๋ซุ้งในยามคับขัน ซึ่งแผนให้ลูกน้องดักรออยู่นอกห้องก็เป็นแผนของผกก.ธานินทร์ (ดูได้จากก่อนวันประชุมใหญ่ ตี๋ซุ้งเรียกทนายนิพนธ์เข้ามาทำพินัยกรรม ก่อนเต็งล้อนำทนายนิพนธ์เข้ามาในห้อง จะเห็นตอนที่ตี๋ซุ้งกำลังโทรศัพท์คุยกับใครสักคน นั่นแหละคือการเตี๊ยมแผนกับผกก.ธานินทร์) เมื่อตัดกลับมาที่ห้องโรงแรม จางเหาบุกเข้าไปในห้อง ตี๋ซุ้งเมื่อรู้ว่าเป็นจางเหาก็มีสีหน้างงๆ เพราะคิดว่าคนที่บุกเข้ามาควรจะเป็นเต็งล้อมากกว่า หลังจากตี๋ซุ้งโดนจางเหาสอยร่วงลงนอนกับพื้น จางเหารีบวิ่งออกจากห้องแล้วก็เกิดระเบิดขึ้นทันที (จากปากคำของคุงไช้เมื่อคุยกับจางเหาภายหลังบอกว่าเป็นระเบิดแอนโฟ หมายความว่าต้องใช้การจุดชนวน แน่นอน เป็นเต็งล้อแอบซุ่มดูอยู่ด้านนอกเพื่อรอจุดชนวนหลังจากจางเหาออกจากห้องแล้ว เมื่อระเบิดเสร็จก็รีบเก็บกวาดหลักฐานเผ่นออกไปอยู่รวมกับลูกน้องคนอื่น ทำให้เต็งล้อไม่เห็นเหตุการณ์ต่อมา) ตี๋ซุ้งนอนสลบอยู่บนพื้น แม้จะโดนแรงระเบิดแต่ก็เป็นไปได้ว่าไม่ถึงตาย เมื่อเกิดระเบิดขึ้น ลูกน้องผกก.ที่แอบซุ่มอยู่ก็รีบเข้ามาช่วยตี๋ซุ้งออกไป แล้วลากศพลูกน้องตี๋ซุ้งที่เป็นคนของเต็งล้อเข้าไปวางไว้แทน แต่ตี๋ซุ้งก็น่าจะได้รับบาดเจ็บพอสมควร อาจถึงขั้นเสียโฉม นี่จึงเป็นสาเหตุที่ภาพจากกล้องวงจรปิดขาดไปแค่ตอนที่จางเหาออกมาจากห้อง ก็ผกก.นั่นแหละที่ตัดออก และผกก.อีกแหละที่แทรกแซงนิติเวชให้บอกว่าตี๋ซุ้งตายเพราะระเบิด (คนอื่นก็ตรวจสอบไม่ได้ เพราะศพที่โดนระเบิดไม่ได้มีแค่คนเดียว สภาพคงจะเละจนดูไม่ออก) และตี๋ซุ้งก็รู้แล้วว่าคนที่จะฆ่าตัวเองไม่ได้มีแค่จางเหา จะเห็นได้จากการที่ผกก.บอกสารวัตรปราบว่าหลักฐานไม่พอจึงจับจางเหาไม่ได้ เนื่องจากผกก.จะอาศัยกำลังตำรวจสืบหาคนวางระเบิดที่แท้จริง แล้วตี๋ซุ้งก็ซุ่มเงียบปิดเรื่องนี้เป็นความลับ โดยแอบมองเกมจากนอกกระดานเพื่อหาว่าใครบ้างที่เป็นหนอน ค่อยๆ วางแผนกำจัดอย่างแนบเนียน เรื่องนี้น่าจะมีแค่ผกก.ธานินทร์ ทนายนิพนธ์ และอีกคนในบ้านธรรมกุล (น่าจะเป็นฮัว-สังเกตตอนล่าสุดที่เต็งล้อคุยกับฮัวในรถก่อนที่องค์การ 14K จะมาขวาง สีหน้าฮัวดูแปลกๆ) เท่านั้นที่รู้ ตี๋ซุ้งจึงใช้ให้ผกก.ธานินทร์คอยช่วยเหลือหลิวสร้างอำนาจและตรวจสอบหาหนอนในธรรมกุลที่ไม่น่าจะมีแค่เต็งล้อ (คนอย่างผกก.ถ้าไม่มีผลประโยชน์คงไม่ถึงกับเสี่ยงชีวิตเพื่อทดแทนบุญคุณคนที่ตายไปแล้ว และผกก.นี่แหละเป็นลูกน้องมือซ้ายอย่างลับๆ คอยคานอำนาจกับเต็งล้อที่เป็นมือขวา) เมื่อสืบจนมั่นใจ ผกก.ก็จะบอกความจริงต่อหลิวเพื่อจะกำจัดเสี้ยนหนาม แต่เต็งล้อสงสัยอยู่ก่อนจึงต้องวางแผนฆ่าผกก. ก่อนตายผกก.ยังจะบอกความจริงต่อสารวัตรปราบ ส่วนฮัวก็ทำหน้าที่ส่งสารที่ตี๋ซุ้งจะบอกหลิวโดยการวางจดหมายไว้ตามที่ต่างๆ ในบ้าน
4. ตี๋ซุ้งคอยจับตามองเต็งล้ออยู่ห่างๆ
: หลังจากหลิวขึ้นเป็นเจ้าแม่ เต็งล้อก็ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อหลิวและธรรมกุล เต็งล้อแม้จะมักใหญ่ใฝ่สูง แต่ก็รู้ดีว่าตนเองขาดความชอบธรรมในการขึ้นสู่อำนาจ หากวันใดตนขึ้นเป็นหัวหน้าใหญ่เสียเอง ไม่เพียงแต่คนในธรรมกุลจะไม่ยอมรับ คนนอกสมาคมที่หวังจะให้มานบนอบยิ่งเป็นไปไม่ได้ ทางเดียวของเต็งล้อคือการนำหลิวเป็นตัวตายตัวแทนเพื่อกวาดล้างทุกอย่างและปูทางให้ตี๋เล็กเป็นใหญ่ต่อไปโดยมีตนเองชักใยอยู่เบื้องหลัง เพราะเต็งล้อรู้ดีว่าตี๋เล็กขาดคุณวุฒิ แต่เหตุการณ์ทั้งหมดน่าจะอยู่ในสายตาของตี๋ซุ้งที่คอยตามเกมเรื่อยๆเพื่อจะดัดหลังเต็งล้อในตอนท้าย พอใกล้วันเลือกตั้งนายกสมาพันธ์การค้าไทยจีน ตี๋ซุ้งจึงให้ทนายนิพนธ์เปิดพินัยกรรมฉบับที่สองคือการให้ตี๋เล็กขึ้นเป็นผู้นำคนใหม่ เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ตำแหน่งหัวหน้าสมาคมธรรมกุลอันตรายที่สุดจากการถูกเพ่งเล็งจากแก๊งค์อื่น ตี๋ซุ้งจึงให้ตี๋เล็กมารับกรรมแทนหลิว แต่เต็งล้อไม่ยอม ไพ่ใบสุดท้ายที่ตี๋ซุ้งต้องงัดมาใช้คือองค์การ 14K
5. องค์การ 14K
: จากปากคำของเต็งล้อที่บอกตี๋เล็กว่า "การได้เป็นสมาชิกองค์การ 14K เป็นเป้าหมายของนายใหญ่มาตลอด" หมายความว่าสมาคมนี้มีความสำคัญต่อตี๋ซุ้งมาก หลังจากรอดตายมาได้ตี๋ซุ้งต้องหาแบ็คคนใหม่ที่คอยส่งเสริมหลิวในฐานะเจ้าแม่ธรรมกุล ตี๋ซุ้งเลือกที่จะไปกบดานที่ต่างประเทศโดยไปซบอกมาเฟียระดับนานาชาติอย่างองค์การ 14K ตอนนี้เองที่ตี๋ซุ้งได้ยื่นข้อเสนอผลประโยชน์ให้องค์การ 14K ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ละครแสดงให้เห็นพิรุธในตอนล่าสุดที่เต็งล้อฉุกคิดขึ้นได้แล้วถามคนส่งเทียบเชิญว่า "ทำไมต้องประชุมที่เมืองไทย" แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ นั่นเป็นเพราะองค์การ 14K ต้องมาเพื่อกวาดล้างเต็งล้อและจัดระเบียบสมาพันธ์การค้าไทยจีนใหม่นั่นเอง และเมื่อองค์การ 14K ปรากฏตัว เรื่องทุกอย่างจะคลายปม ไม่แน่ว่าคนที่มักใหญ่ใฝ่สูงที่สุดไม่ใช่เต็งล้อ แต่อาจเป็นตี๋ซุ้งที่ร้ายมากกว่า
___________________________
กระทู้นี้ยาวมาก ถ้าผมทายผิด ก็ถือว่าเป็นเรื่องแต่งแฟนเมดแล้วกันครับ
มาร่วมทายร่วมลุ้นไปด้วยกัน ว่าละครหงส์เหนือมังกรจะหักหลังคนดูได้ถึงไหน