***หนักแน่นในเวลาที่ควรหนักแน่น อ่อนโยนในเวลาที่สมควรอ่อนโยน ฝึกอย่างนี้ยากมาก แต่ควรฝึกอย่างยิ่ง***


ในโอวาทปาฏิโมกข์ พระพุทธเจ้าตรัสว่า
“ผู้ทำร้ายผู้อื่น ไม่ชื่อว่าเป็นบรรพชิต
ผู้เบียดเบียนผู้อื่น ไม่ชื่อว่าเป็นสมณะ”

ในโอวาทนี้ พระพุทธองค์สรุปหลักสำคัญๆ ของพระพุทธศาสนาให้พระอรหันต์กลุ่ม ๑,๒๕๐ รูปฟัง เพื่อท่านเหล่านั้นจะได้เอาไปใช้เป็นคู่มือระหว่างการจาริกเผยแผ่พระธรรมวินัยของพระองค์ อีกตอนหนึ่งพระพุทธองค์ตรัสว่าคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลายเริ่มดัวยหลัก “การไม่กล่าวร้าย การไม่ทำร้าย” ซึ่งเป็นการยืนยันอย่างชัดเจนว่า การไม่เบียดเบียน ไม่ว่าด้วยกายหรือวาจา คือ เอกลักษณ์และเครื่องสังเกตของนักบวชในพระพุทธศาสนา แม้แต่ฆราวาสก็ควรถือกันว่า ชาวพุทธใช้ความรุนแรงเพื่อชนะการถกเถียงกันในเรื่องศาสนาเมื่อไหร่ เป็นผู้หันหลังให้พระพุทธเจ้าอย่างน่าละอายเมื่อนั้น

ความรุนแรงไม่ใช่เครื่องหมายแห่งความจริงใจ
ความรุนแรง คือ เครื่องหมายของกิเลส

การแสดงออกด้วยอารมณ์ง่ายมาก ใครทำได้ พาลทำได้ แต่พระพุทธศาสนาไม่สอนให้เราเป็นพาล ตรงกันข้าม ธรรมะสอนวิถีของบัณฑิต ผู้พ้นจากความเป็นพาล ผู้ที่กำลังฝึกตนตามหลักของพระพุทธศาสนาจึงพยายามแสดงออกด้วยจิตที่ไม่ลำเอียง มีสติ ไม่แบ่งเขาแบ่งเรา มีความหวังดีต่อทุกฝ่าย อดทน หนักแน่นในเวลาควรหนักแน่น อ่อนโยนในเวลาสมควรอ่อนโยน ฝึกอย่างนี้ยากมาก แต่ควรฝึกอย่างยิ่ง

พระอาจารย์ชยสาโร

อ้างอิง
https://www.facebook.com/jayasaro.panyaprateep.org/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่