Review:: เที่ยวเสียมเรียบ Part 1: https://ppantip.com/topic/37250480
Review:: เที่ยวเสียมเรียบ Part 2: https://ppantip.com/topic/37250619
Review:: เที่ยวเสียมเรียบ Part 3: https://ppantip.com/topic/37250778
Review:: เที่ยวเสียมเรียบ Part 1
สวัสดีคะ เมื่อช่วง 2-4 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปเที่ยวเมืองมรดกโลก อดีต 1 ในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคเก่า นั่นคือ นครวัด และนครธม นั่งเอง ซึ่งเป็นการเดินทางไปประเทศเพื่อนบ้านนี้ของเราเป็นครั้งแรก บอกเลยว่าไม่น่ากลัวอย่างที่คิด (ยกเว้นเรื่องเดียวคือการขับรถ ขับกันได้น่ากลัวมาก) ผู้หญิงมาเที่ยวคนเดียวชิลๆได้สบายเลยคะ เมืองเสียมเรียบนี้ได้เทิร์นตัวเองเป็นเมืองท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบ แต่ถึงแม้จะเป็นเมืองท่องเที่ยว สำหรับเราเมืองนี้มีจุดอ่อนมากๆคือ อาหาร หาของอร่อยยากมากกกกกก ใครเจอร้านอร่อยฝากแชร์ไว้ด้วยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าเลยคะ

สรุปค่าใช้จ่าย
1.    ค่าที่พักคืนละ 1500 บาท สำหรับ 3 คน พร้อมรถรับส่งไป-กลับ สนามบินและอาหารเช้า
2.    ค่าเข้าชม Angkor national museum คนละ $12 หรือ 400 บาท
3.    ค่า Angkor pass 3 days คนละ $62 หรือ 2065 บาท
4.    ค่ารถตุ๊กตุ๊กเหมา 3 วัน $60 และเพิ่มไปดูพระอาทิตย์เพิ่มอีกวันหนึ่ง $5 เป็น $65 หรือ 2165 บาท หาร 3 คน ตกคนละ 722 บาท (นั่งได้ 4 คน)
5.    ค่าใช้จ่ายอื่นๆและช็อปปิ้ง $70 หรือ 2331 บาท
รวม ประมาณ 6018 บาท ไม่รวมตั๋วเครื่องบินคะ
ค่าเงิน 33.3 บาท/ 1 USD
ที่นี่ใช้เงิน USD เป็นหลัก/ รองลงมาเป็นเงินเรียล และเงินไทยก็สามารถใช้ได้ แต่เรตจะแพงกว่า
ร้านค้าทั่วไป 4000 เรียล เท่ากับ  1USD
ร้านในห้างหรือแบรด์ เช่น KFC, Burger king, โรงแรม 4100 เรียล เท่ากับ 1USD

สิ่งของที่จำเป็น
1.    หน้ากากอนามัย เพราะฝุ่นเยอะมากๆ กลับมาได้สิวแน่นอน
2.    ยาแต้มสิว
3.    ไฟฉาย สำหรับคนที่จะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นและตก
4.    ทิชชู่เปียก
5.    ความฟิต
**ภาพทั้งหมดถ่ายด้วย iPhone7 อาจไม่ชัดบ้างขออภัยนะคะ

Day 1: Angkor National Museum/ Banteay Srei/ Pre Rup/ Banteay Kdei/ Srah srang
เราเดินทางด้วยสายการบิน Thai Smile ไฟลท์เช้าออกจาก กทม 07.25 น. ซึ่งบนเครื่องตอนนี้มีการแจก snack box น่ารักมากๆ คะ ใช้เวลาเพียง 40 นาที ก็ไปถึงสนามบินเสียมเรียบ 08.15 น. (เร็วกว่าขับรถไปทำงานอีกจ้า)
เมื่อมาถึงสนามบินเสียมเรียบก็ต้องบอกเลยว่าประทับใจมากๆ อากาศเย็นๆยามเช้า แสงแดดอ่อนๆ กับสนามบินสวยๆ ที่แม้จะเล็ก แต่ดีเทลแน่น และสวยงามเรียบง่ายจริงๆ (ห้องน้ำสะอาดกว่าที่ดอนเมืองไปอีก ขอบอก)
เมื่อออกมาหน้าสนามบินก็จะเจอ driver ของโรงแรมต่างๆมายืนรอรับ และร้านขายซิมโทรศัพท์ ซึ่งส่วนใหญ่ราคาจะอยู่ที่ $2-$5/ 7 วัน โดยเราซื้อซิมของ metfone มาในราคา $3 ใช้ได้ 7 วัน เน็ตแรงไม่กระตุก แต่ไม่สามารถแชร์ได้สะงั้น ใครซื้อซิมถามคนขายให้ชัวๆเลยค่ะว่าแชร์กับเครื่องอื่นได้ป่าวนะคะ เราใช้เวลาประมาณ 20-30 นาทีเดินทางจากสนามบินไปยังที่พักซึ่งอยู่ย่าน Pub street ชื่อ Rithy Rine Angkor Residence ซึ่งขอแนะนำที่นี่ว่าดีพอควร โดยเราจองห้อง Delux family ข้อดีคือ
1.    ราคา มีความเหมาะสมกับห้องพัก ขนาดใหญ่พอสมควร เพดานสูงทำให้รู้สึกโปร่ง ตกแต่งแบบเรียบง่าย มีเครื่องใช้ให้ครบครัน เช่น Hair dryer, Soap, Shampoo, Comb, Shower cap, Toothbrush, Hot water, kettle เป็นต้น
2.    Location: ตั้งอยู่ใกล้ pub street (ถ้าอยู่ในเส้น pub street อาจจะต้องนอนทนเสียงดังและความวุ่นวายสักหน่อย), ตรงข้ามเป็น Night market เล็กๆที่ซื้อของฝากได้
3.    ส่วนเรื่องอาหารเช้า เห็นรีวิวใน Trip Advisor ว่าดีพอสมควร แต่เราทาน breakfast box ทั้ง 2 วัน เลยไม่ได้ลอง BF เลย ที่ รร. เลยคะ
4.    มีรถรับส่งไป-กลับ สนามบิน
5.    พนักงานสามารถพูดภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดีคะ
สำหรับข้อเสีย
1.    ไฟในห้องมืดไปเล็กน้อย ไม่เหมาะสำหรับแต่งหน้าคะ ดีว่ามีไฟฉายไปเอง
2.    น้ำฟักบัวบางช่วงไหลเอื่อยๆหน่อย และน้ำร้อนบางทีก็หายไปดื้อๆแว้บนึง บางทีก็ร้อนมากๆขึ้นมาแว้บนึงคะ
3.    ไม่มีลิฟท์ แต่มีคนยกกระเป๋าให้คะ
หลังจาก check in เป็นที่เรียบร้อย ประมาณ 10.00 น. ก็นัดกับคนขับรถตุ๊กๆซึ่งได้จองไว้แล้ว ทั้ง 3 วัน โดยอ่านจาก รีวิวใน pantip นี่แหละคะ ชื่อคุณ Hingpov ซึ่งพี่เค้าสามารถสื่อสารได้ทั้งภาษาไทยและอังกฤษเป็นอย่างดี สำหรับราคาตุ๊กๆจะแบ่งเป็น 3 แบบ
1.    Small round วันละ $15
2.    Big round วันละ $20
3.    ไปที่ไกลๆ เริ่มต้นวันละ $30
และดูพระอาทิตย์ขึ้นบวกเพิ่ม $5 ถ้าจองกับ รร. ส่วนใหญ่ รร. ก็จะบวกเพิ่มจากราคาพวกนี้ประมาณ $1-3


หลังจาก check in และฝากกระเป๋าเรียบร้อย เราก็เริ่มเที่ยวได้คะ!!

Angkor National Museum (ให้คะแนน 9/10)
สำหรับวันนี้เราเริ่มเที่ยวกันประมาณ 10.30 น. เลยตัดสินใจไป Angkor National Museum ราคาคนละ $12 (รร. เราให้ส่วนลดมาคนละ $1) ถ้าเช่าหูฟังอันละ $5 คะ ซึ่งเค้าทำได้ดีมากๆนะคะ รูปปั้น ของโบราณเยอะมากๆ สถานที่กว้างขวาง ได้ความรู้ความเข้าใจในสถานที่ต่างๆ ประวัติศาสตร์ความเป็นมาและจุดเด่นของสถานที่แต่ละแห่ง ที่สำคัญมีเสียงบรรยายภาษาไทยจ้า เราคิดว่าควรไปที่นี่ก่อนก็ดี เวลาไปเที่ยวจะได้อินมากกว่าเดิม (ของไทยควรมาดูงานนะ ที่นี่เค้าก็ทำได้ดีจริงๆ) ควรให้เวลาที่นี่อย่างน้อย 2 ชม. ห้องจัดแสดงที่มีทั้งหมด 8 ห้อง
1.    ห้องจัดแสดงวิวัฒนาการของพุทธศาสนาในอาณาจักรเขมรดบราณ
2.    ห้องจัดแสดงความรุ่งเรืองเเห่งอาณาจักเขมรโบราณ
3.    ห้องจัดเเสดงศาสนาและความเชื่อ
4.    ห้องจัดแสดงพระมหากษํตริย์ผู้สร้างผู้ยิ่งใหญ่
5.    ห้องจัดแสดงสวรรค์เเห่งแดนดิน
6.    ห้องจัดแสดงแหล่งรวมวิหารเเห่งจิตวิญญาณ
7.    ห้องจัดแสดงเรื่องเล่าจากศิลาบทบันทึกทางวัฒนธรรม
8.    ห้องจัดแสดงเสน่ห์แห่งนางอัปสร
หลังจากหาความรู้บิ้วท์อารมณ์กันเสร็จแล้ว พี่ driver ก็พาเราไปซื้อตั๋วเข้าชมนครวัด บอกเลยว่าอาคารขายตั๋วเค้านี่ไม่ธรรมดาจริงๆ ยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างมาก ซึ่งตั๋วนี้มีความสำคัญมาก เค้าจะถ่ายหน้าเราติดกับตั๋วเลย ห้ามหายเด็ดขาด ต้องพกตลอด ห้ามลืม เพราะเค้าจะมีด่านตรวจตลอดเรื่อยๆทั้งย่านเมืองโบราณ และตามวัดต่างๆ ซึ่งราคาก็จะประมาณนี้จ้า

Khmer family (ให้คะแนน 8/10)
จากนั้น drive ก็พาเรามาทานอาหารกลางวันกันที่ร้าน Khmer family ซึ่งอยู่แถวๆ Srah srang ซึ่งเป็นทางผ่านที่จะไป Banteay Srei ร้านนี้อาหารอร่อยใช้ได้ แต่ราคาก็โหดอยู่ จานละ $6-7 ขึ้นไป โดยเราสั่งอาหารท้องถิ่นมา 3 อย่าง ซึ่งอร่อยมากจริง ไม่ผิดหวัง สมราคา อาหารที่ต้องลองเมื่อมาถึงกัมพูชา ได้แก่
Amok เป็นห่อหมกปลาในลูกมะพร้าว มีลักษณะทางกายภาพและรสชาดคล้ายแกงเขียวหวานผสมห่อหมก อร่อยดี
Lok lak เป็นเนื้อหรือหมูผัดซอส ซึ่งในจานเป็นเนื้อ อร่อยมาก ติดว่าเนื้อเหนียวนิดหน่อย
ผัดผักแกงกะหรี่ไก่แบบเขมร อร่อยดีคะ
มื้อนี้หมดไป $26.5 หรือ 883 บาท กินมื้อนี้ไป รู้สึกประทับใจอาหารเขมรขึ้นมาทันทีคะ

Banteay Srei (ให้คะแนน 7.5/10)
หลังจากทานอาหารกลางวันเสร็จเรียบร้อย เราก็นั่งรถต่อไปประมาณ 40 นาที ก็เดินทางไปถึง Banteay Srei ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 30 กม. ถึงตอนประมาณ 15.00 น. ซึ่งเป็นเวลากำลังดี (ควรเลี่ยงเที่ยวตอน 11.00 – 14.00 เพราะแดดแรงมาก) Banteay Srei จัดเป็นปราสาทหินที่ถือได้ว่างดงามที่สุดในประเทศกัมพูชา วัดนี้อาจจะไม่ได้อยู่ยิ่งใหญ่ แต่เป็นวัดที่เหมาะแก่การบิ้วท์อารมณ์สุดๆ เพราะถึงแม้จะไม่ใหญ่อลังการ แต่ความละเอียดของลายสลักหินอ่อนช้อยและสมบูรณ์มาก ความสีชมพูมุ้งมิ้งทั้งวัด และบรรยากาศของป่ารอบๆ ส่วนตัวคิดว่าถ้ามาที่นี่ทีหลังวัดอื่นๆก็อาจจะไม่ได้รู้สึกประทับใจมากมาย เพราะอาจจะเจอความยิ่งใหญ่กระชากอารมณ์ไปบ้างแล้ว แต่ถ้าไม่มีเวลา ไม่ต้องมาก็ได้คะ ไกล 55 เราใช้เวลาอยู่ที่นี่ประมาณ 1 ชม. ก็เดินทางกลับ โดยกะว่าจะไปรอดูพระอาทิตย์ตกวันแรกที่ Srag Srang หรือสระทรง แต่พอไปถึงแค่ 16.00 เวลายังเหลือเลยไปเที่ยววัดใกล้เคียงก่อน

Pre Rup (ให้คะแนน 8/10)
ปราสาทแปรรูป อยู่แถวๆสระทรง เป็นวัดที่สวยมาก ตั้งอยู่สูงมองเห็ววิวได้ไกลทั้ง 4 ทิศ และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกเช่นกัน ถ้าใครอยากหนีความวุ่นวายของการชมพระอาทิตย์ตกที่ Phanom Bakheng ก็ขอแนะนำที่นี่เลยคะ เนื่องจากตัวปราสาทอยู่สูงและรอบๆไม่มีต้นไม้ใหญ่มากนักและมีสระน้ำอยู่ ทำให้มองวิวได้ไกลกว่าปราสาทอื่นๆ

Banteay Kdei (ให้คะแนน 6.5/10)
อยู่ตรงข้ามกับสระทรง เป็นปราสาทในศิลปะบายน สร้างขึ้นโดยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เพื่ออุทิศให้พระพุทธศาสนา อันนี้เราเฉยๆ แต่ป่าๆดีคะ

Srah Srang (ให้คะแนน 7.5/10)
สระทรงเป็นอ่างเก็บน้ำขุด เป็นจุดสำหรับชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่สวยจุดหนึ่ง แต่เนื่องด้วยวันนั้นเมฆค่อนข้างมาก และสมาชิกค่อนข้างหิว หลังจากถ่ายรูปเสร็จจึงตัดสินใจไม่รอชมพระอาทิตย์ตกและเข้าเมืองไปทานข้าวเย็นและเดินเล่นคะ

Angkor Wat (ให้คะแนน 10/10)
ระหว่างทางกลับ ก็เป็นบุญตาได้เห็นนครวัดแบบสวยๆ เพราะคืนที่เราไปเป็นคืน super moon พอดีคะ และฮุนเซนมาทำบุญเลยมีการเปิดไฟที่นครวัด ออกมาสวยงามอลังการมากมาย

ขอจบวันแรกเท่านี้ก่อนนะคะ
เดี่ยวมาต่อ Part 2 ให้นะคะ