อยากจะรบกวนอยากจะสอบถามความเห็นค่ะ เราเพึ่งแต่งงานกับสามีได้ไม่นาน อายุเท่ากันค่ะ 30กว่า เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ตอนทำงานด้วยกัน ด้วยความสนิทและช่วยเหลือกันในที่ทำงาน เป็นที่ปรึกษาที่ดีตอนเรามีปัญหากับแฟนเก่า จนพัฒนามาเป็นแฟนและแต่งงานกัน รวมๆทั้งหมดรู้จักกัน5 ปี พึ่งแต่งงานกันไปเมื่อต้นปี2017 ที่ผ่านมา ตอนนี้ดิฉันตั้งท้องได้ 7 เดือนแล้ว
เราเจอกันที่ทำงานบริษัทโฆษณาที่สิงคโปร์ค่ะ ทำงานด้วยกัน นอกจากทำงานแล้ว เค้าก็เปิดบริษัทตัวเองด้วย เค้าเป็นคนขยันมากค่ะ เนื่องจากที่บ้านมีแม่เค้าคนเดียวแล้วคุณแม่สุขภาพไม่แข็งแรง เค้าเป็นคนที่ทำงานเก่งมากและเป็น Director บริษัทได้ด้วยอายุน้อย ซึ่งเราเองก็ภูมิใจเค้ามาตลอด ปกติตั้งแต่รู้จักกันมาเค้าเป็นคนไม่เจ้าชู้เลยค่ะ เอาการเอางานและมีปมด้อยนิดนึงที่คุณพ่อเค้าทิ้งคุณแม่เค้าไปเพราะมีผู้หญิงใหม่ ทำให้คุณแม่เค้าต้องลำบากเลี้ยงเค้ามาคนเดียว ไม่อยากเล่าเยอะ แต่รวมๆแล้ว เค้าเป็นคนดีมากๆค่ะ ไม่เจ้าชู้ ไม่ดื่มเหล้า ไม่เล่นการพนัน รักครอบครัว ชอบเล่นกีต้าร์ ร้องเพลง ดูแลคุณแม่ เพื่อนๆและเพื่อนที่ทำงานให้ความเคารพนับถือ เราจัดงานแต่งงานกันที่ไทยหลังจากย้ายกลับมาเนื่องจากแฟนได้ขายบริษัทที่ตัวเองทำกับเพื่อนไปทำให้ได้เงินก้อนใหญ่มากมาก้อนนึง ซึ่งสัญญาก็ครอบคลุมว่าแฟนต้องไปทำงานให้บริษัทที่ซื้อไปเป็นระยะเวลา 4 ปี ซึ่งทุกอย่างก็เป็นไปตามปกติ
เค้าเป็นคนไม่ค่อยตื่นเต้นตอนรู้ว่าเราท้องเท่าไหร่ ไม่ค่อยได้สนใจเรื่องการต้องมาอ่านหนังสือให้ลูกฟังหรือเปิดเพลง หรือหาอะไรให้เราทานมาก เราเองก็ไม่ได้สนใจนัก เนื่องจากเราเองก็ยุ่งๆทำงาน และเราก็ดูแลตัวเองตอนท้องเองได้ หาอาหารมีประโยชน์ทาน และออกกำลังกาย แล้วเนื่องจากการทำงานในที่ใหม่ของสามี ด้วยหน้าที่ความรับผิดชอบสูงขึ้นมากเค้ามีลูกน้องต้องดูแลอีก 25คนใต้เค้า ซึ่งทำให้เค้ากลับบ้านสายหน่อยประมาณ 3 ทุ่มทุกวัน เราจึงได้ทานข้าวเย็นด้วยวันธรรมดาประมาณ 1-2 ครั้ง และเสาร์อาทิตย์ มีไปหาหมอทุกเดือนซึ่งเค้าเองก็ไปด้วยเป็นปกติค่ะ เรื่องบนเตียงก่อนแต่งเราเองก็มีกันปกติคือประมาณ 3 - 4 ครั้งต่ออาทิตย์ มีลดบ้างเนื่องจากท้องเราใหญ่ขึ้นจึงทำให้แฟนโดยวิธีอื่นๆแทน ซึ่งแฟนก็ไม่ได้บ่นหรือมีท่าทีอะไร ยังหอมแก้ม ลูบหัว กอดจูบปกติ เราเองก็มีสั่งอาหารจากUberไปให้ที่ทำงาน มีการส่งดอกไม้ส่งของไปให้ที่ทำงานเอาใจเค้าบ้างกลัวเค้าทำงานเหนื่อย เราเองก็ไม่ได้จู้จี้เรื่องไปรอเค้าที่ทำงานเพราะมันไม่professional เท่าไหร่ อาจทำให้เค้าอึดอัดได้ แต่มีขับรถไปรับบ้างในตอนที่โทรไปแล้วเค้าเหนื่อยจากงานด้วยแล้วนอนไม่พอตอนกลางคืน ทำให้เค้ามึนหัว เราก็จะไปรับ แต่ปกติเค้าจะนั่งแท็กซี่กลับเองเพราะว่าเค้าไม่อยากขับรถค่ะ กลัวจะหลับ
เรามองว่าเราเองดูแลสามีอย่างดี พยายามอย่างเต็มที่ เสาร์อาทิตย์ให้เค้านอนเต็มที่เพราะเค้าเหนื่อยแล้ว เค้าอยากจะไปหาเพื่อนหรือไปทานอะไรต่อหลังเลิกงานหรือเสาร์อาทิตย์เราก็ไม่เคยตามไปด้วยเพราะอยากให้เค้ามีเวลาส่วนตัวทำนู่นนี่บ้าง มีโทรตามบ้างกรณีเค้ากลับหลังตีหนึ่ง และขับรถไปรับบ้างกรณีเมามากแล้วกลับไม่ไหว งานบ้านเราทำทั้งหมดไม่ว่าก่อนท้องหรือกำลังท้องเพราะงานเค้ายุ่งกว่าเรามาก เราทานข้าวคนเดียวตอนเช้าและเย็นได้ เพราะเช้าเค้ารีบไปทำงานและจะไปทานที่ออฟฟิศและเย็นก็กลับมาไม่ทันเพราะงานเยอะ เราเองก็ไม่เคยบ่น หลักๆเลยเพราะก่อนหน้าจะย้ายเข้าไปทำที่บริษัทนี้เค้าก็ไม่เคยทำงานหนักแบบนี้ เราคิดตลอดว่าทนหน่อยแค่4 ปีเอง แถมเค้าเองก็ทำเพื่อเราและลูก ขายบริษัทก็ได้เงินก้อนมาให้เรากับลูก เค้าเองก็ทำงานหนัก นอนน้อยกลับดึกก็เพื่อเราเอง เราใกล้คลอดด้วยเลยไม่อยากคิดมาก กลัวลูกจะเครียดไปด้วย
เราเองไม่เคยสงสัยอะไรเค้าเลยด้วยความที่เป็นเพื่อนกันมาก่อน รู้จักนิสัยกันดี และสามีก็ไม่เคยล็อกมีอถือ เราจับได้ตลอด แต่เราไม่เคยเปิดอะไรส่วนตัว เพราะเมื่อเค้าไว้ใจเราเท่าไหร่ เรารู้สึกว่าเราควรเกรงใจและไว้ใจเค้าเช่นกัน ไม่นานมานี้เค้าเมามากจากการกินปีใหม่ที่ทำงาน เพื่อนที่ทำงานที่รู้จักเราจึงโทรหาเราตอนประมาณเที่ยงคืนให้เราขับรถไปรับ เราจึงขับออกไปแล้วเพื่อนๆเอาเค้าขึ้นรถ พอมาถึงบ้านเค้าเมามากเดินไม่ไหว เราเองก็แบกไม่ไหว ต้องให้แม่บ้านกับรบกวนยามหมู่บ้าน ช่วยกันแบกขึ้นห้องนอน หลังขึ้นห้องเราก็ถอดเสื้อผ้าออกเนื่องจากเค้าอาเจียนลงเสื้อ เราก็เช็ดตัวให้ ระหว่างนั้นเค้าก็พูดชื่อพึมพำผู้หญิงคนนึงขึ้นมาแล้วพูดประมาณว่า ไม่สนใจเค้าเลย ไลน์ไปก็ไม่ตอบ เราก็งงๆ เค้าเองพูดไม่ชัดด้วยค่ะในรอบแรก พอเค้าพูดประโยคเดิมรอบสอง เราก็เอะใจ
เราจึงไปเปิดมือถือเค้าแล้วหาชื่อผู้หญิงคนนั้นในไลน์ แล้วก็เจอข้อความที่เค้าคุยกัน ย่อๆเลยคือ สามีเราไลน์ไปบอกผู้หญิงคนนี้ว่าเค้าพยายามเก็บความรู้สีกนี้แล้ว แต่เค้าเก็บไว้ไม่ไหว เค้าชอบผู้หญิงคนนี้มาหลายเดือนแล้ว แล้วเค้าก็ส่งไฟล์เพลงที่เค้าร้องให้ผู้หญิงคนนี้ให้ บอกว่าเพลงนี้เค้าแต่งให้นะ..... โชคดีที่ผู้หญิงน่าจะทราบว่าเค้าแต่งงานแล้ว และคิดว่าผู้หญิงเค้าเป็นคนดีระดับนึงที่ตอบกลับมาว่า สามีคงเมาแล้วล่ะ ไว้คุยกันดีกว่า ข้อความหลังจากนั้นคือผู้หญิงก็พยายามเลี่ยงโดยการคุยแต่เรื่องงานอย่างเดียว ซึ่งสามีก็น่าจะรู้ตัวเพราะเค้ามีส่งข้อความไปขอโทษผู้หญิงว่าวันนั้นเค้าเมา ..... แต่ว่าก็แต่งเพลงให้ใครคนนึงมันใช้เวลาในการทำเสียงประกอบ การคิดโน็ต การแต่งเนื้อ การลองเล่น การเล่นจริงและอัดเพลงลงคอม มันเป็นขั้นตอนที่ใช้เวลาซึ่งเรามั่นใจว่าตอนที่สามีทำเพลงเค้าไม่ได้เมา....
หลังจากอ่านเราน้ำตาไหลเลยค่ะ เราไม่ได้ตกใจ แต่เราเสียใจมากกว่า เสียใจที่เราเชื่อใจเค้า เสียใจที่เค้าไม่ให้เกียรติเราในฐานะภรรยาทั้งต่อหน้าและลับหลัง คิดย้อนไปถึงวันแต่งงานที่เค้าพูดให้สัญญาต่อหน้าเรา เพื่อนๆ และแขกที่มาในงาน คิดถึงเพลงที่เค้าแต่งให้ตอนขอเราแต่งงาน แล้วการที่เค้าเอาห้องอัดเพลงที่เราออกแบบห้องที่บ้านด้วยกันไปทำเพลงให้ผู้หญิงคนอื่น ส่วนเพลงที่เราขอให้ทำให้ลูกเพื่อเปิดตอนท้องเค้าบอกเราว่าเค้างานยุ่งไม่มีเวลา มันทำให้เราคิดไปต่างๆนาๆว่า จริงๆแล้วที่เค้ารีบไปทำงานและกลับดึกทุกวัน เพื่ออยากรีบไปหาและใช้เวลากับผู้หญิงคนนี้รึเปล่า...
เราไม่สามารถคุยเรื่องนี้กับใครได้เลย เรากลัวไปหมด กลัวว่าบอกเพื่อนสนิทเพื่อนจะมองสามีไม่ดี และเพื่อนเราเพื่อนเค้าก็รู้จักกันหมด เรากลัวสามีจะรู้ได้จากการทำตัวที่แปลกไปของเพื่อน กลัวว่าถ้าปรึกษากับพี่สาวเรา เค้าอาจจะจะเอาไปบอกพ่อแม่เราซึ่งจะทำให้ท่านเสียใจไปด้วย
แล้วเราก็ไม่กล้าคุยกับสามีเรา เรากลัวว่าถ้าบอกไปเค้าจะไม่ไว้ใจเราอีก เค้าอาจจะล็อคมือถือไปเลย หรือถ้าเค้าชอบผู้หญิงคนนั้นมากเค้าอาจจะเลิกกับเราไปเลยโดยคิดว่าไม่ต้องแอบอีกต่อไปไหนๆเราก็รู้แล้ว
เรารักเค้ามากๆไม่อยากเสียเค้าไป แต่ที่เค้าปฎิบัติกับเรามันไม่ถูกในทุกด้าน แต่เราไม่รู้จะเตือนสติหรือดึงเค้ากลับมายังไง....ถ้าเราทำเป็นไม่รู้ต่อไป ตัวสามีเองเค้ายังจะต้องทำงานกับผู้หญิงคนนี้ไปเรื่อยๆ วันนึงผู้หญิงอาจจะใจอ่อน หรือวันนึงเค้าอาจจะไปชอบผู้หญิงคนอื่นที่ไม่มีศีลธรรมเหมือนคนนี้ ผู้หญิงอาจจะเล่นด้วยกับเค้าโดยไม่สนว่าสามีแต่งงานแล้วก็ได้ ตอนนี้เค้าแค่นอกใจเรา ต่อไปเค้าอาจจะเลยไปนอกกายเราเลย แล้วเราจะทำยังไงถ้าเค้าควบคุมตัวเองไม่ได้.... เราควรจะทำยังไงดี เราเองมีปมตอนเด็กเรื่องพ่อเคยนอกใจแม่มาก่อน เรารู้ตัวดีเลยพยายามไม่คิดมาก ไม่คิดไปเอง แต่มันเห็นด้วยหลักฐานจริงๆ ทำให้ตอนนี้เราเครียดข้างใน รู้สึกว่าหลายปีที่ผ่านมา เราผ่านอะไรมาด้วยกันเยอะ ทำไมมันช่างเปราะบางเหลือเกิน เค้าพึ่งย้ายมาทำงานที่ใหม่นี้ได้ไม่ถึงปีเอง ทำไมเค้าถึงทำแบบนี้กับเราได้ ดึกๆเรานอนหลับๆตื่นๆ ตื่นมามองหน้าเค้าและร้องไห้ข้างเตียงตอนเค้าหลับ มันทรมานจริงๆค่ะ ในใจยังคิดโทษเค้าว่าทำไมไม่ซ่อนให้ดีๆทำไมต้องเราต้องมารู้เรื่องนี้ด้วย
**แก้ไขตัดบรรทัดค่ะ**
....แต่งงานได้ไม่นาน สามีนอกใจ ปรึกษาใครไม่ได้ รบกวนแนะนำด้วยค่ะ....
เราเจอกันที่ทำงานบริษัทโฆษณาที่สิงคโปร์ค่ะ ทำงานด้วยกัน นอกจากทำงานแล้ว เค้าก็เปิดบริษัทตัวเองด้วย เค้าเป็นคนขยันมากค่ะ เนื่องจากที่บ้านมีแม่เค้าคนเดียวแล้วคุณแม่สุขภาพไม่แข็งแรง เค้าเป็นคนที่ทำงานเก่งมากและเป็น Director บริษัทได้ด้วยอายุน้อย ซึ่งเราเองก็ภูมิใจเค้ามาตลอด ปกติตั้งแต่รู้จักกันมาเค้าเป็นคนไม่เจ้าชู้เลยค่ะ เอาการเอางานและมีปมด้อยนิดนึงที่คุณพ่อเค้าทิ้งคุณแม่เค้าไปเพราะมีผู้หญิงใหม่ ทำให้คุณแม่เค้าต้องลำบากเลี้ยงเค้ามาคนเดียว ไม่อยากเล่าเยอะ แต่รวมๆแล้ว เค้าเป็นคนดีมากๆค่ะ ไม่เจ้าชู้ ไม่ดื่มเหล้า ไม่เล่นการพนัน รักครอบครัว ชอบเล่นกีต้าร์ ร้องเพลง ดูแลคุณแม่ เพื่อนๆและเพื่อนที่ทำงานให้ความเคารพนับถือ เราจัดงานแต่งงานกันที่ไทยหลังจากย้ายกลับมาเนื่องจากแฟนได้ขายบริษัทที่ตัวเองทำกับเพื่อนไปทำให้ได้เงินก้อนใหญ่มากมาก้อนนึง ซึ่งสัญญาก็ครอบคลุมว่าแฟนต้องไปทำงานให้บริษัทที่ซื้อไปเป็นระยะเวลา 4 ปี ซึ่งทุกอย่างก็เป็นไปตามปกติ
เค้าเป็นคนไม่ค่อยตื่นเต้นตอนรู้ว่าเราท้องเท่าไหร่ ไม่ค่อยได้สนใจเรื่องการต้องมาอ่านหนังสือให้ลูกฟังหรือเปิดเพลง หรือหาอะไรให้เราทานมาก เราเองก็ไม่ได้สนใจนัก เนื่องจากเราเองก็ยุ่งๆทำงาน และเราก็ดูแลตัวเองตอนท้องเองได้ หาอาหารมีประโยชน์ทาน และออกกำลังกาย แล้วเนื่องจากการทำงานในที่ใหม่ของสามี ด้วยหน้าที่ความรับผิดชอบสูงขึ้นมากเค้ามีลูกน้องต้องดูแลอีก 25คนใต้เค้า ซึ่งทำให้เค้ากลับบ้านสายหน่อยประมาณ 3 ทุ่มทุกวัน เราจึงได้ทานข้าวเย็นด้วยวันธรรมดาประมาณ 1-2 ครั้ง และเสาร์อาทิตย์ มีไปหาหมอทุกเดือนซึ่งเค้าเองก็ไปด้วยเป็นปกติค่ะ เรื่องบนเตียงก่อนแต่งเราเองก็มีกันปกติคือประมาณ 3 - 4 ครั้งต่ออาทิตย์ มีลดบ้างเนื่องจากท้องเราใหญ่ขึ้นจึงทำให้แฟนโดยวิธีอื่นๆแทน ซึ่งแฟนก็ไม่ได้บ่นหรือมีท่าทีอะไร ยังหอมแก้ม ลูบหัว กอดจูบปกติ เราเองก็มีสั่งอาหารจากUberไปให้ที่ทำงาน มีการส่งดอกไม้ส่งของไปให้ที่ทำงานเอาใจเค้าบ้างกลัวเค้าทำงานเหนื่อย เราเองก็ไม่ได้จู้จี้เรื่องไปรอเค้าที่ทำงานเพราะมันไม่professional เท่าไหร่ อาจทำให้เค้าอึดอัดได้ แต่มีขับรถไปรับบ้างในตอนที่โทรไปแล้วเค้าเหนื่อยจากงานด้วยแล้วนอนไม่พอตอนกลางคืน ทำให้เค้ามึนหัว เราก็จะไปรับ แต่ปกติเค้าจะนั่งแท็กซี่กลับเองเพราะว่าเค้าไม่อยากขับรถค่ะ กลัวจะหลับ
เรามองว่าเราเองดูแลสามีอย่างดี พยายามอย่างเต็มที่ เสาร์อาทิตย์ให้เค้านอนเต็มที่เพราะเค้าเหนื่อยแล้ว เค้าอยากจะไปหาเพื่อนหรือไปทานอะไรต่อหลังเลิกงานหรือเสาร์อาทิตย์เราก็ไม่เคยตามไปด้วยเพราะอยากให้เค้ามีเวลาส่วนตัวทำนู่นนี่บ้าง มีโทรตามบ้างกรณีเค้ากลับหลังตีหนึ่ง และขับรถไปรับบ้างกรณีเมามากแล้วกลับไม่ไหว งานบ้านเราทำทั้งหมดไม่ว่าก่อนท้องหรือกำลังท้องเพราะงานเค้ายุ่งกว่าเรามาก เราทานข้าวคนเดียวตอนเช้าและเย็นได้ เพราะเช้าเค้ารีบไปทำงานและจะไปทานที่ออฟฟิศและเย็นก็กลับมาไม่ทันเพราะงานเยอะ เราเองก็ไม่เคยบ่น หลักๆเลยเพราะก่อนหน้าจะย้ายเข้าไปทำที่บริษัทนี้เค้าก็ไม่เคยทำงานหนักแบบนี้ เราคิดตลอดว่าทนหน่อยแค่4 ปีเอง แถมเค้าเองก็ทำเพื่อเราและลูก ขายบริษัทก็ได้เงินก้อนมาให้เรากับลูก เค้าเองก็ทำงานหนัก นอนน้อยกลับดึกก็เพื่อเราเอง เราใกล้คลอดด้วยเลยไม่อยากคิดมาก กลัวลูกจะเครียดไปด้วย
เราเองไม่เคยสงสัยอะไรเค้าเลยด้วยความที่เป็นเพื่อนกันมาก่อน รู้จักนิสัยกันดี และสามีก็ไม่เคยล็อกมีอถือ เราจับได้ตลอด แต่เราไม่เคยเปิดอะไรส่วนตัว เพราะเมื่อเค้าไว้ใจเราเท่าไหร่ เรารู้สึกว่าเราควรเกรงใจและไว้ใจเค้าเช่นกัน ไม่นานมานี้เค้าเมามากจากการกินปีใหม่ที่ทำงาน เพื่อนที่ทำงานที่รู้จักเราจึงโทรหาเราตอนประมาณเที่ยงคืนให้เราขับรถไปรับ เราจึงขับออกไปแล้วเพื่อนๆเอาเค้าขึ้นรถ พอมาถึงบ้านเค้าเมามากเดินไม่ไหว เราเองก็แบกไม่ไหว ต้องให้แม่บ้านกับรบกวนยามหมู่บ้าน ช่วยกันแบกขึ้นห้องนอน หลังขึ้นห้องเราก็ถอดเสื้อผ้าออกเนื่องจากเค้าอาเจียนลงเสื้อ เราก็เช็ดตัวให้ ระหว่างนั้นเค้าก็พูดชื่อพึมพำผู้หญิงคนนึงขึ้นมาแล้วพูดประมาณว่า ไม่สนใจเค้าเลย ไลน์ไปก็ไม่ตอบ เราก็งงๆ เค้าเองพูดไม่ชัดด้วยค่ะในรอบแรก พอเค้าพูดประโยคเดิมรอบสอง เราก็เอะใจ
เราจึงไปเปิดมือถือเค้าแล้วหาชื่อผู้หญิงคนนั้นในไลน์ แล้วก็เจอข้อความที่เค้าคุยกัน ย่อๆเลยคือ สามีเราไลน์ไปบอกผู้หญิงคนนี้ว่าเค้าพยายามเก็บความรู้สีกนี้แล้ว แต่เค้าเก็บไว้ไม่ไหว เค้าชอบผู้หญิงคนนี้มาหลายเดือนแล้ว แล้วเค้าก็ส่งไฟล์เพลงที่เค้าร้องให้ผู้หญิงคนนี้ให้ บอกว่าเพลงนี้เค้าแต่งให้นะ..... โชคดีที่ผู้หญิงน่าจะทราบว่าเค้าแต่งงานแล้ว และคิดว่าผู้หญิงเค้าเป็นคนดีระดับนึงที่ตอบกลับมาว่า สามีคงเมาแล้วล่ะ ไว้คุยกันดีกว่า ข้อความหลังจากนั้นคือผู้หญิงก็พยายามเลี่ยงโดยการคุยแต่เรื่องงานอย่างเดียว ซึ่งสามีก็น่าจะรู้ตัวเพราะเค้ามีส่งข้อความไปขอโทษผู้หญิงว่าวันนั้นเค้าเมา ..... แต่ว่าก็แต่งเพลงให้ใครคนนึงมันใช้เวลาในการทำเสียงประกอบ การคิดโน็ต การแต่งเนื้อ การลองเล่น การเล่นจริงและอัดเพลงลงคอม มันเป็นขั้นตอนที่ใช้เวลาซึ่งเรามั่นใจว่าตอนที่สามีทำเพลงเค้าไม่ได้เมา....
หลังจากอ่านเราน้ำตาไหลเลยค่ะ เราไม่ได้ตกใจ แต่เราเสียใจมากกว่า เสียใจที่เราเชื่อใจเค้า เสียใจที่เค้าไม่ให้เกียรติเราในฐานะภรรยาทั้งต่อหน้าและลับหลัง คิดย้อนไปถึงวันแต่งงานที่เค้าพูดให้สัญญาต่อหน้าเรา เพื่อนๆ และแขกที่มาในงาน คิดถึงเพลงที่เค้าแต่งให้ตอนขอเราแต่งงาน แล้วการที่เค้าเอาห้องอัดเพลงที่เราออกแบบห้องที่บ้านด้วยกันไปทำเพลงให้ผู้หญิงคนอื่น ส่วนเพลงที่เราขอให้ทำให้ลูกเพื่อเปิดตอนท้องเค้าบอกเราว่าเค้างานยุ่งไม่มีเวลา มันทำให้เราคิดไปต่างๆนาๆว่า จริงๆแล้วที่เค้ารีบไปทำงานและกลับดึกทุกวัน เพื่ออยากรีบไปหาและใช้เวลากับผู้หญิงคนนี้รึเปล่า...
เราไม่สามารถคุยเรื่องนี้กับใครได้เลย เรากลัวไปหมด กลัวว่าบอกเพื่อนสนิทเพื่อนจะมองสามีไม่ดี และเพื่อนเราเพื่อนเค้าก็รู้จักกันหมด เรากลัวสามีจะรู้ได้จากการทำตัวที่แปลกไปของเพื่อน กลัวว่าถ้าปรึกษากับพี่สาวเรา เค้าอาจจะจะเอาไปบอกพ่อแม่เราซึ่งจะทำให้ท่านเสียใจไปด้วย
แล้วเราก็ไม่กล้าคุยกับสามีเรา เรากลัวว่าถ้าบอกไปเค้าจะไม่ไว้ใจเราอีก เค้าอาจจะล็อคมือถือไปเลย หรือถ้าเค้าชอบผู้หญิงคนนั้นมากเค้าอาจจะเลิกกับเราไปเลยโดยคิดว่าไม่ต้องแอบอีกต่อไปไหนๆเราก็รู้แล้ว
เรารักเค้ามากๆไม่อยากเสียเค้าไป แต่ที่เค้าปฎิบัติกับเรามันไม่ถูกในทุกด้าน แต่เราไม่รู้จะเตือนสติหรือดึงเค้ากลับมายังไง....ถ้าเราทำเป็นไม่รู้ต่อไป ตัวสามีเองเค้ายังจะต้องทำงานกับผู้หญิงคนนี้ไปเรื่อยๆ วันนึงผู้หญิงอาจจะใจอ่อน หรือวันนึงเค้าอาจจะไปชอบผู้หญิงคนอื่นที่ไม่มีศีลธรรมเหมือนคนนี้ ผู้หญิงอาจจะเล่นด้วยกับเค้าโดยไม่สนว่าสามีแต่งงานแล้วก็ได้ ตอนนี้เค้าแค่นอกใจเรา ต่อไปเค้าอาจจะเลยไปนอกกายเราเลย แล้วเราจะทำยังไงถ้าเค้าควบคุมตัวเองไม่ได้.... เราควรจะทำยังไงดี เราเองมีปมตอนเด็กเรื่องพ่อเคยนอกใจแม่มาก่อน เรารู้ตัวดีเลยพยายามไม่คิดมาก ไม่คิดไปเอง แต่มันเห็นด้วยหลักฐานจริงๆ ทำให้ตอนนี้เราเครียดข้างใน รู้สึกว่าหลายปีที่ผ่านมา เราผ่านอะไรมาด้วยกันเยอะ ทำไมมันช่างเปราะบางเหลือเกิน เค้าพึ่งย้ายมาทำงานที่ใหม่นี้ได้ไม่ถึงปีเอง ทำไมเค้าถึงทำแบบนี้กับเราได้ ดึกๆเรานอนหลับๆตื่นๆ ตื่นมามองหน้าเค้าและร้องไห้ข้างเตียงตอนเค้าหลับ มันทรมานจริงๆค่ะ ในใจยังคิดโทษเค้าว่าทำไมไม่ซ่อนให้ดีๆทำไมต้องเราต้องมารู้เรื่องนี้ด้วย
**แก้ไขตัดบรรทัดค่ะ**