คำเตือนบทความต่อไปนี้ไม่สามรถหาเเหล่งอ้างอิงที่ถูกต้อง 100 เปอร์เซ็นได้โปรดใช้วิจารณญาณ
(การระบุจำเเนกจะอ้างอิงตามโมเดลหลัก)

ประวัติเต็ม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://en.wikipedia.org/wiki/HK%2032?redirect=no


เมื่อโลกเข้าสู่ยุคสงครามเย็นเยอรมันมีถูกแบ่งออกเป็นตะวันตกและตะวันออกถูกปิดกั้นด้วยกำแพงและลวดหนามแต่ว่าก็ยังมีอยู่อย่างหนึ่งที่ทั้งสองประเทศสามารถยื่นมือไปหากันได้นั่นก็คือเรื่องของอาวุธปืนผมจึงขอตั้งชื่อสารานุกรมปืนตอนที่ 85 กับ 86 ว่าเมื่อตะวันตกและตะวันออกยื่นมือเข้าหากัน

จากความสำเร็จอย่างถล่มทลายของปืนไรเฟิล G3 ทำให้ทางบริษัทเริ่ม HK พัฒนาปืนที่ใช้กระสุนแบบใหม่ๆเพื่อตีตลาดมากขึ้น ในเวลานั้นจึงมีปืนรุ่นต้นแบบหรือรุ่นทดสอบขึ้นมาหลายกระบอกเพื่อทดลองในหลายๆแบบ HK 32 ใช้กระสุนขนาด 7.62x39 mm ตามมาตรฐานสนธิสัญญาวอร์ซอหรือที่จริงมันก็ตามมาตรฐานโซเวียตนั่นแหละ แต่ว่าไม่มีกองทัพประเทศไหนสนใจซื้อปืนชนิดนี้ไปใช้เลย

เเต่ผมว่ามันมีสาเหตุนะ
1.ในเวลานั้นมันเป็นยุคสงครามเย็นประเทศที่ไม่ใช่คอมมิวนิสต์ที่ไหนจะกล้าซื้อไปใช้กันต่อให้ซื้อก็โดนอเมริกาสั่งห้ามเเน่
2.มันเป็นปืนที่ทำในเยอรมันตะวันตกขืนประเทศในกลุ่มสนธิสัญญาวอร์ซอหรือประเทศที่เป็นคอมมิวนิสต์ซื้อมาใช้อาจจะโดนสปอนเซอร์รายใหญ่อย่างโซเวียตไม่พอใจเอาได้
3. AK47 ก็มีอยู่เเล้วจะเอา HK 32 ไปทำอะไรอีก



อย่างไรก็ตามในหลายปีหลังจาก HK พับเก็บโครงการนี้ไปก็มีบริษัทผลิตอาวุธสำหรับพลเรือนสัญชาติอเมริกันนามว่า SW ได้นำแบบของปืนนี้ไปผลิตเป็นของตัวเองแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จนะเพราะมีเสียงจากผู้ซื้อและนักวิจารณ์ว่าเป็นงานผลิตที่แย่และบริการขายที่ไม่ได้เรื่อง


SW 32

ต่อมาช่วงต้นยุคปี 2000 บริษัท PTR ผู้ซื้อสิทธิบัตร CETME Battle Rifle จากสเปนไปผลิตเป็นไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติสำหรับพลเรือนก็ได้นำแบบของ HK 32 ไปผลิตเป็นรุ่น PTR 32 และก็กลายเป็นหนึ่งในปืนไรเฟิลพลเรือนที่ Popular อย่างมากในสหรัฐและแคนาดา