TrueSouth6.0 : ระยะ ๖.๐ Winter adventure บท ๓) ผจญภัยในไดเซ็ทสึซัง (วันที่๑)

"ปฐมบทของการผจญภัยที่จะสร้างเรื่องราวเล่าขานไม่รู้จบ..."

นี่คือประโยคเริ่มต้น จาก page: TrueSouth Thailand เมื่อวันที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๖๐ เวลา ๕:๕๑ น.




ในเพจกล่าวว่า..
เราจะบอกลาปี ๒๐๑๗ ด้วยการเดินทางที่เราจะจดจำไปชั่วชีวิต...
พวกเรา  พึ่งมีโอกาสได้อ่านข้อความนี้ก็ตอนที่ กลับลงมากันได้แล้ว...ด้วยรู้สึกเช่นเดียวกับข้อความนั้น...

"การผจญภัยในครั้งนี้ เป็นเรื่องราวที่เล่าขานไม่รู้จบ ที่เราจะ จ ด จำ ไป ชั่ ว ชี วิ ต . . . ."

๑๕ ชีวิตที่เข้ารอบ จะเริ่มเดินข้าม ไดเซ็ทซึ ซัง อุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และปีน อาซาฮิดาเกะ
ยอดเขาที่สูงที่สุดในฮอกไกโด การเดินทาง ใช้เวลา ๕ วัน นับตั้งแต่ ๓ - ๗ ธันวาคม๒๕๖๐
เราตรวจสอบน้ำหนักเป้กันก่อนออกเดินทาง เฉลี่ย หนักคนละ ๑๘ กิโลกรัม ความหนาวที่เราต้องเดินฝ่า
หนาวสุดถึง ลบ ๒๒ องศา ไม่รวมความเร็วลม หากบวกความเร็วลมเข้าไปแล้ว อาจะหนาวถึง ลบ ๔๐ องศา
การเดินทางครั้งนี้ เพื่อทดสอบอุปกรณ์ ฝึกทักษะเอาตัวรอดในฤดูหนาวที่โหดร้าย เหนือสิ่งอื่นใด
เพื่อทดสอบจิตใจของผู้ร่วมเดินทางทุกคน
เราเชื่อในกฎง่ายๆ ว่า หากเราจะเติบโต เราต้องมีประสบการณ์ใหม่ และการมีประสบการณ์ใหม่
หมายถึงการทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ คุยกับคนที่ไม่เคยคุย เดินทางในเส้นทางที่ไม่เคยเดิน หรือ
พยายามในสิ่งที่ไม่เคยพยายาม...
เมื่อเราก้าวลงจากรถ ตำนานบทใหม่ของเราจะเริ่มขึ้น เราจะบอกลาปี ๒๐๑๗ ด้วยการเดินทางอันหฤโหด
ที่เราจะจดจำไป... ชั่ ว ชี วิ ต . ..
(ข้อความจากโพสในเพจ TrueSouthThailand: https://web.facebook.com/truesouththailand/posts/658157777907664)

ตี ๔.๔๕ คือเวลาที่มัมตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้...
เพื่อล้างหน้า แปรงฟัน แต่งตัว และเก็บของทั้งหมด ขนลงไป ให้ทันเวลานัด ๖.๐๐ น.
ซึ่งเป็นเวลาที่รถจะมารับพวกเรา.... ที่หน้า Dorm
พวกเรารอรถกันอยู่พักใหญ่ๆ รถมาถึงเลทไป... มาตอน ๖.๔๐ น.
เมื่อรถมาถึง.. เราต้องจัดเรียงสัมภาระอันมากมายร รวมทั้ง ตัวพวกเรา เข้าไปในรถให้หมด
เราช่วยกันยกของ ส่งของ จัดเรียงกันอย่างทะมัดทะแมง แต่ก็ใช้เวลาไปพอสมควรเลย....
เมื่อขนของ จับจองที่นั่งกันเรียบร้อยแล้ว ก็ออกเดินทางได้...
(สภาพของในรถ และพวกเราค่ะ... หลับปุ๋ย สลบกันตลอดทางเชียวล่ะ)


เส้นทางปกคลุมไปด้วยหิมะหนามากๆ วิสัยทัศน์ไม่ดีนัก...
(วิวเบื้องหน้าของเรา ระหว่างเดินทาง มีทั้งเวอร์ชั่นภาพ และ VDO เลย)

https://www.youtube.com/watch?v=FRpr-aIwWFc

หิมะหนาตลอดทาง มัมเองไม่ค่อยได้เห็น... เพราะนั่งอยู่ข้างหลัง และหลับ...
ส่วนคลิปและภาพ ... มัมแอบสอยมาจาก พี่ดาว และพี่อ้อยค่ะ



ขาวโพลน....ไปหมด



จากที่พักของเรา (Sapporo) ไปถึง สถานี Cable Car ที่อุทยานแห่งชาติไดเซ็ทซึ ระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตร แต่เราใช้เวลาเดินทางถึง ๓ ชั่วโมง เพราะไม่สามารถทำความเร็วได้... คุณลุงต้องขับไปอย่างช้าๆ ระมัดระวัง

ภาพบริเวณ Hokkaido Expressway service area:
พี่จุ๋ง และ รถที่เราโดยสารมาด้วยกันค่ะ (จาก บันทึกสองเท้า:  https://goo.gl/DXqsGq)



เมื่อถึงสถานี Cable Car แล้ว เราก็หอบสัมภาระที่ต้องนำติดตัวลงมา และเดินเข้าสู่สถานี เพื่อตรวจเช็ค
และใส่อุปกรณ์ให้เรียบร้อย...

ใส่แครมปอนให้เรียบร้อย เพราะออกไปก็ต้องไปลุยหิมะหนาเลย....
มัมสอบถามพี่ๆ ว่าจำเป็นต้องใช้ Ice Axe เลยไหม.. คำตอบ คือ วันนี้ยังไม่จำเป็น
เพราะฉะนั้น มัมจึงเลือกใช้ Trekking Poles ที่พกมาด้วยก่อน
เมื่อแต่งตัวกันเรียบร้อยแล้ว ก็ ขึ้ น เ ป้ ! . . . .
>> โอย ตื่นเต้น... ตื่นเต้นมาก มาก มาก จะได้เริ่มออกเดินทางแล้วจริงหรือเนี่ย
ถ่ายรูปรวมกันสักนิดนึง ก่อนออกเดินทาง.... ในช่วงเวลา ประมาณ ๑๐ โมงกว่าๆ



หิมะโปรยปราย...  (ตลอดทาง ตลอดวัน)
TJ นำทัพ!  ออกเดินทางอย่าสง่างาม...  มือนึงถือ Ice Axe อีกมือ ถือ GPS



. . . . . . .
"ผลุ่บ.........!!!!"   เสียงผลุ่บดังขึ้นมา หลังจากพวกเราก้าวเท้าเดินไปได้เพียงไม่กี่ก้าว!
(ยังไม่ทันพ้นสายตาพี่อ้อยเล้ยยยยย!!!!)
โอ้.. โนววว TJ ของพวกเรา.... จมลงไปในหิมะ ที่สูงระดับหน้าอก TJ !!!
แม่เจ้า... นี่ถ้าเป็นมัม คงจมเกือบมิดแว่นตา!



#เฮือกกกกกก นับเป็นการเดินทางที่เริ่มต้นได้หวาดเสียวเหลือเกิน.... ตกใจก็ตกใจ งงก็งง
เป็นห่วงTJก็เป็นห่วง และ.. ขำก็ขำ (อิอิ)
TJ ต้องพยายามนำตัวเองขึ้นมาจากโพรงหิมะสุดลึก พร้อมเป้ขนาดยักษ์ที่หนักเกือบ ๒๐ กิโลกรัม
เพื่อนๆ ต่างรุมเข้าช่วย ดึงแขนบ้าง ดึงกระเป๋าบ้าง... ใช้เวลาพอสมควรกว่าจะขึ้นมาได้...
เสียงหอบ กับ เสียงหัวเราะ ดังปะปนกันไป... (โชคดีที่ไม่บาดเจ็บอะไร แต่เหนื่อยกับการต้องดึงร่างกลับขึ้นมา)

พวกเราต้องเปลี่ยนเส้นทางในการเดิน... ตั้งแต่เริ่มต้น! เส้นทางที่เดินไป หิมะหนาสูงระดับหัวเข่าถึงเอวเกือบตลอดทาง
แผนการกรุยทางโดยทีมรถถัง ด้วยพลังช้างสารของ TJ, เฮียบาส, ณเด่น และมัม ไม่มีทางเพียงพอ...
พวกเราต้องสลับกันขึ้นมาเป็น ค น ก รุ ย ท า ง ... ทั้ง ๑๕ ชีวิต เวียนกันขึ้นมานำ เมื่อเหนื่อยก็รีบหลบออกข้าง
ให้คนที่มีแรงขึ้นมานำ เพื่อให้การเดินทางมีความเร็วสูงสุด
ส่วนของเส้นทางที่แต่ละก้าว เป็นไปอย่างยากลำบากลากเลือด... หิมะสูง อย่างไม่เกรงใจกำลังขาเราเลย
(ดูความสูงของหิมะในภาพเหล่านี้สิ.....)






แต่...ธรรมชาติ ก็ได้ส่งความสวยงามกลับมาเสริมแรงให้พวกเรา นั่นคือ...
วิวที่ ส ว ย ง า ม อ ย่ า ง ม หั ศ จ ร ร ย์  ตลอดทาง...  
พวกเราตื่นตาตื่นใจมาก เพราะไม่เคยเห็นมาก่อน  และไม่คิดว่าจะได้มาเห็นอะไรที่สวยงามขนาดนี้....




ดูป่าหิมะ และต้นไม้ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะนั่นสิ...




ความสวยงามที่ไม่รู้จะบรรยายออกมายังไง..ของ ต้นไม้ที่ถูกหิมะปกคลุมไปทั้ง กิ่ง ก้าน ใบ (ชะ ชะ ใบก้านกิ่ง)

นอกจากความสวยงามสองข้างทางแล้ว... ก้มลงไปที่พื้นดูสิ...
เหยยยยยย.... นี่พวกเราเหยียบอยู่บนต้นไม้ใหญ่หรือนี่??? หิมะท่วมสูงจนปกคลุมทับต้นสนแทบมิด...
และพวกเราเดินอยู่บนยอดต้นสนกันอยู่... โอ้วววววววว

ช่วงประมาณเที่ยงวัน... พวกเราเข้าใกล้ยอดอาซาฮิดาเกะ แล้ว...




ทางชันได้ที่เลยล่ะ....



จิกแครมปอนกันดีๆ นะ



ฮึบๆ ฮึบๆ



การเดินทางของพวกเรา ช้ากว่าที่วางแผนไว้พอสมควร...
ด้วยการออกตัวที่ช้ากว่าแผน กอปรกับหิมะที่สูงเกินกว่าระดับที่เราคาดไว้  พวกเราจึงสูญเสียพลังงานไปเยอะมากๆ กับการกรุยหิมะสูง....

ยังไม่ ๔ โมงเย็นเลย... ฟ้าก็มืดลง มืดลง... ส่วนลมก็แรงขึ้น แรงขึ้น....
TJ บอกว่า ที่จริง.. เค้าตั้งใจจะ Push พวกเรา ขึ้นไปถึงยอดให้ได้...
เพราะเราอยู่กันใต้ Gondola แล้ว ซึ่งห่างจากยอดแค่ประมาณ ๒ ถึง ๓๐๐ เมตรเอง...
แต่พระอาทิตย์ตกซะแล้ว..  มืดลง มืดลง... สภาพอากาศก็แย่ลงเรื่อยๆ หิมะตกลงมาไม่หยุด
ลมแรง วิสัยทัศน์ก็แย่ลง แย่ลง เรามองเห็นทางได้แค่ระยะ ไม่น่าถึง ๑๐ เมตร...
ด้วยเหตุนี้... จึงต้องตัดสินใจ... เดินย้อนกลับลงไปยังบริเวณที่เป็นทางราบ เพื่อกางเต๊น
สำหรับค่ำคืนอันเหน็บหนาว คืนแรกของพวกเรา....


(โควต้าตัวอักษรเต็มอีกแล้ว... ติดตามการกางเต๊นต่อ ในคอมเม้นข้างล่างนะคะ ^_^)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่