เรามีกัน 3 ผู้ใหญ่ 1 เด็ก 1 ขวบ ตัดสินใจไปเที่ยวกระบี่ จึงได้จองโรงแรมไว้ 1 ห้อง ผ่านเอเยนต์รายหนึ่ง ในราคา secret deal ซึ่งถือว่าราคาน่าสนใจ
ส่วนที่เลือกที่นี่ เพราะขนาดห้อง มีสระว่ายน้ำ ถึงแม้จะห่างไกลทะเล และเข้าถึงลำบาก แต่ก็โอเค เพราะเรามีรถไปด้วย
เมื่อเราไปถึงประมาณ 17.30 จึงเข้าไปเช็คอิน พนักงาน (ทราบภายหลังว่าเป็นญาติกับเจ้าของโรงแรม) เดินมาหาถึงรถเพื่อดูว่ามีกันกี่คน เด็กโตแค่ไหน
เรารู้สึกแปลกใจ เพราะเราก็ไปเที่ยว ไปพักโรงแรมบ่อย ไม่เคยมีใครมาดูถึงรถขนาดนี้ (รู้สึกว่าโดนจับผิดยังไงไม่รู้) แต่ก็คิดว่าไม่มีอะไร เพราะเราไปพักที่ไหน ส่วนใหญ่ก็ไม่มีปัญหาอะไร
ถึงแม้เราจะมี 3 คน แต่เพราะมีเด็กเล็ก จึงต้องนอนห้องเดียวกัน และเด็กไม่สามารถนอนเตียงได้ เคยจองไว้ 2 ห้อง สุดท้ายก็ต้องยุบเหลือห้องเดียว
ทางโรงแรมแจ้งว่า เราโชคดีมากที่ได้ราคาพิเศษมาก จึงขอให้เราเพิ่มเตียงเสริมในราคา 1000 บาท ซึ่งเป็นราคาลดพิเศษ (ฟังกันไม่ผิดใช่ไหม? โชคดีตรงไหน? เตียงเสริมทำด้วยอะไร ราคา 1000 บาท) ซึ่งเราปฏิเสธไม่รับ เพราะอย่างไรก็ไม่ได้ใช้ แต่เสนอเพิ่มเงินอีก 500 เพื่อตัดปัญหา แต่โรงแรมไม่รับเพราะต้อง 1000 เท่านั้น
เรารู้สึกแปลกใจในความยุ่งยากของโรงแรมนี้ แต่ก็ไม่รู้จะไปที่ไหน เพราะไม่คุ้นเคย และมืดแล้ว ก็เลยจำใจต้องอยู่ไป ส่วนปัญหาที่โรงแรมให้เราจ่ายค่าส่วนเกิน เเราตตัดสินใจว่าคงต้องนอนในรถเอา เพื่อตัดปัญหา
เราไปพักมาหลายที่ หลายจังหวัด หลายระดับ เรายอมรับว่าไม่เคยพบปัญหาเช่นนี้มาก่อน ปกติเราชอบอุดหนุนบริการอยู่แล้ว ใครทำดีเราอุดหนุนให้เต็มที่ แต่ที่นี่เราไม่กล้า แม้แต่จะคิด เพราะพนักงานดุอย่างเสือเลยทีเดียว
สุดท้ายเราก็ตัดสินใจนอนในรถ เพราะไปหาที่พักอื่นไม่ได้ (เทศกาล คนเยอะ หายาก ราคาไม่ต้องพูดถึง) แต่ปัญหายังไม่จบแค่นั้น
พนักงานมาแจ้งว่า ถ้าเราจะนอนในรถ ต้องนำรถไปจอดที่อื่น ห้ามจอดอยู่ในโรงแรมเด็ดขาด และทางโรงแรมจะปิดประตู ห้ามแขกเข้าออกตั้งแต่ 4 ทุ่มเป็นต้นไป ซึ่งเรางงว่าต้องขนาดนี้เลยหรือ แต่ก็เข้าใจ เพราะโรงแรมนี้ไม่มี รปภ. ใช้การปิดประตูห้ามแขกเข้าออกแทน แปลกแต่จริง
เราสอบถามหลายอย่างเพราะโรงแรมนี้ให้บริการแบบแปลกๆ ก็เลยสรุปความแปลกของโรงแรมนี้เป็นข้อๆ ดังนี้
1. แขกต้องแจ้งชัดเจนว่ามากี่คน ถ้ามา 1 คน ห้ามนำคนอื่นเข้ามาในโรงแรม มิฉะนั้นจะโดนไล่ออกจากโรงแรมทันที (ถ้าเรามีเพื่อน ไม่สามารถนัดเจอได้ที่โรงแรมนี้ คุณไม่สามารถพาใครมาพบ มานอนด้วย หรือแม้แต่เหยียบก็ทำไม่ได้ ฟังจากพนักงานพูด หรือถ้าคุณต้องการให้ใครเข้ามาในโรงแรม คุณจะต้องแจ้ง เพื่อให้ทางโรงแรมชาร์จเพิ่มเหมือนอย่างที่เราโดน)
2. โรงแรมนี้ไม่มียาม แต่ใช้ปิดประตูใหญ่ ห้ามคนรวมถึงรถเข้าออกหลัง 4 ทุ่ม (คุณไม่มีสิทธิ์ออกไปไหน หรือถ้าคุณออก คุณจะเข้ามาอีกไม่ได้จนถึงเช้า)
3. ให้แขกเช็คเอาท์ ก่อน 11.00 น. ไม่ใช่เที่ยง เหมือนโรงแรมทั่วไป
4. พนักงานที่นี่ไม่เหมือนใคร เขาบอกว่ามีพนักงาน 4 คน ทำหน้าที่เหมือนเป็นทั้งเจ้าของ แผนกต้อนรับ แผนกบัญชี และรักษาความปลอดภัยในเวลาเดียวกัน
สุดท้ายนี้ ทริปนี้เราต้องนอนในรถริมถนนด้านนอกโรงแรม เพราะถึงแม้เราจะมีปัญญาจ่าย แต่ก็ไม่อยากจ่ายเงินให้กับบริการแบบนี้ ส่วนที่เหลือก็รีบเก็บของและเช็คเอาท์ออกมา เพราะกลัวจะเกินเวลา 11 น. ที่พนักงานบอก เป็นประสบการณ์ที่สยองจริงๆ ไม่ใช่ผี แต่เป็นบริการแย่ๆ ที่ไม่เหมือนใคร
แชร์ประสบการณ์สยอง โรงแรมอันดามณี ฯ
ส่วนที่เลือกที่นี่ เพราะขนาดห้อง มีสระว่ายน้ำ ถึงแม้จะห่างไกลทะเล และเข้าถึงลำบาก แต่ก็โอเค เพราะเรามีรถไปด้วย
เมื่อเราไปถึงประมาณ 17.30 จึงเข้าไปเช็คอิน พนักงาน (ทราบภายหลังว่าเป็นญาติกับเจ้าของโรงแรม) เดินมาหาถึงรถเพื่อดูว่ามีกันกี่คน เด็กโตแค่ไหน
เรารู้สึกแปลกใจ เพราะเราก็ไปเที่ยว ไปพักโรงแรมบ่อย ไม่เคยมีใครมาดูถึงรถขนาดนี้ (รู้สึกว่าโดนจับผิดยังไงไม่รู้) แต่ก็คิดว่าไม่มีอะไร เพราะเราไปพักที่ไหน ส่วนใหญ่ก็ไม่มีปัญหาอะไร
ถึงแม้เราจะมี 3 คน แต่เพราะมีเด็กเล็ก จึงต้องนอนห้องเดียวกัน และเด็กไม่สามารถนอนเตียงได้ เคยจองไว้ 2 ห้อง สุดท้ายก็ต้องยุบเหลือห้องเดียว
ทางโรงแรมแจ้งว่า เราโชคดีมากที่ได้ราคาพิเศษมาก จึงขอให้เราเพิ่มเตียงเสริมในราคา 1000 บาท ซึ่งเป็นราคาลดพิเศษ (ฟังกันไม่ผิดใช่ไหม? โชคดีตรงไหน? เตียงเสริมทำด้วยอะไร ราคา 1000 บาท) ซึ่งเราปฏิเสธไม่รับ เพราะอย่างไรก็ไม่ได้ใช้ แต่เสนอเพิ่มเงินอีก 500 เพื่อตัดปัญหา แต่โรงแรมไม่รับเพราะต้อง 1000 เท่านั้น
เรารู้สึกแปลกใจในความยุ่งยากของโรงแรมนี้ แต่ก็ไม่รู้จะไปที่ไหน เพราะไม่คุ้นเคย และมืดแล้ว ก็เลยจำใจต้องอยู่ไป ส่วนปัญหาที่โรงแรมให้เราจ่ายค่าส่วนเกิน เเราตตัดสินใจว่าคงต้องนอนในรถเอา เพื่อตัดปัญหา
เราไปพักมาหลายที่ หลายจังหวัด หลายระดับ เรายอมรับว่าไม่เคยพบปัญหาเช่นนี้มาก่อน ปกติเราชอบอุดหนุนบริการอยู่แล้ว ใครทำดีเราอุดหนุนให้เต็มที่ แต่ที่นี่เราไม่กล้า แม้แต่จะคิด เพราะพนักงานดุอย่างเสือเลยทีเดียว
สุดท้ายเราก็ตัดสินใจนอนในรถ เพราะไปหาที่พักอื่นไม่ได้ (เทศกาล คนเยอะ หายาก ราคาไม่ต้องพูดถึง) แต่ปัญหายังไม่จบแค่นั้น
พนักงานมาแจ้งว่า ถ้าเราจะนอนในรถ ต้องนำรถไปจอดที่อื่น ห้ามจอดอยู่ในโรงแรมเด็ดขาด และทางโรงแรมจะปิดประตู ห้ามแขกเข้าออกตั้งแต่ 4 ทุ่มเป็นต้นไป ซึ่งเรางงว่าต้องขนาดนี้เลยหรือ แต่ก็เข้าใจ เพราะโรงแรมนี้ไม่มี รปภ. ใช้การปิดประตูห้ามแขกเข้าออกแทน แปลกแต่จริง
เราสอบถามหลายอย่างเพราะโรงแรมนี้ให้บริการแบบแปลกๆ ก็เลยสรุปความแปลกของโรงแรมนี้เป็นข้อๆ ดังนี้
1. แขกต้องแจ้งชัดเจนว่ามากี่คน ถ้ามา 1 คน ห้ามนำคนอื่นเข้ามาในโรงแรม มิฉะนั้นจะโดนไล่ออกจากโรงแรมทันที (ถ้าเรามีเพื่อน ไม่สามารถนัดเจอได้ที่โรงแรมนี้ คุณไม่สามารถพาใครมาพบ มานอนด้วย หรือแม้แต่เหยียบก็ทำไม่ได้ ฟังจากพนักงานพูด หรือถ้าคุณต้องการให้ใครเข้ามาในโรงแรม คุณจะต้องแจ้ง เพื่อให้ทางโรงแรมชาร์จเพิ่มเหมือนอย่างที่เราโดน)
2. โรงแรมนี้ไม่มียาม แต่ใช้ปิดประตูใหญ่ ห้ามคนรวมถึงรถเข้าออกหลัง 4 ทุ่ม (คุณไม่มีสิทธิ์ออกไปไหน หรือถ้าคุณออก คุณจะเข้ามาอีกไม่ได้จนถึงเช้า)
3. ให้แขกเช็คเอาท์ ก่อน 11.00 น. ไม่ใช่เที่ยง เหมือนโรงแรมทั่วไป
4. พนักงานที่นี่ไม่เหมือนใคร เขาบอกว่ามีพนักงาน 4 คน ทำหน้าที่เหมือนเป็นทั้งเจ้าของ แผนกต้อนรับ แผนกบัญชี และรักษาความปลอดภัยในเวลาเดียวกัน
สุดท้ายนี้ ทริปนี้เราต้องนอนในรถริมถนนด้านนอกโรงแรม เพราะถึงแม้เราจะมีปัญญาจ่าย แต่ก็ไม่อยากจ่ายเงินให้กับบริการแบบนี้ ส่วนที่เหลือก็รีบเก็บของและเช็คเอาท์ออกมา เพราะกลัวจะเกินเวลา 11 น. ที่พนักงานบอก เป็นประสบการณ์ที่สยองจริงๆ ไม่ใช่ผี แต่เป็นบริการแย่ๆ ที่ไม่เหมือนใคร