เปรมิกา ป่าราบ หนังที่ทำให้คน...ตกหลุมรัก

เปรมิกา ป่าราบ หนังที่ทำให้คน...ตกหลุมรัก
คน...ที่ว่าคือ ?
ตัวผมเองคือคน...ที่ว่า ที่ก็พยายามจะหาคำจำกัดความของความเป็นตัวเอง
แต่ก็นึกหาคำที่สั้นๆ ไม่ออกว่าตัวเองเป็นคนสไตล์ไหนกันแน่

ผมเพิ่งดูรอบ 21:00 ที่ผ่านมา แบบที่เรียกว่า เกิดแรงผลักดันอย่างแรงกล้าให้ต้องไปดู
และก็เป็นแรงผลักดันแบบๆ เดียวกันกับที่ผมอยากไปดูหนัง blockbuster ของ Hollywood สัก
เรื่องเลยทีเดียว ซึ่งมันคงเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่บ่อย หรือแทบเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับ
คนที่ไม่ใช่คอหนังไทยแบบผม

ที่ผ่านมาอาจจะมีหนังไทยบางเรื่องที่คลิ๊กกับตัวผม ในบางจุดอยู่บ้าง
แต่แทบทั้งหมดก็ไม่ได้ดีในภาพรวมทั้งเรื่อง อย่างเรื่องเปรมิกา ป่าราบนี่ก็เช่นกัน
ไม่ได้เป็นหนังที่ดีไร้ที่ติ และยังห่างไกลกับความสมบูรณ์แบบเป็นอย่างมาก ยังไม่มี
หนังไทยที่ว่าเยี่ยมทำให้ผมดูแล้วรู้สึกสุดเลยสักเรื่อง มันต้องมีข้อติอะไรบ้าง ไม่ใช่ว่า
จะใช้คำว่าไม่มากก็น้อย แต่ต้องใช้คำว่า ไม่มากก็กลางๆ ซะมากกว่า

แต่สิ่งที่ทำให้เติมเต็มในสิ่งที่รู้สึกไม่สุด ก็คือตัวดารานักแสดง ที่ต้องยอมรับว่า
บางทีก็เป็นสิ่งที่ทำให้มาช่วยชีวิตหนังเอาไว้ จากความไม่สมบูรณ์ บางทีก็ทำให้
เรายอมๆ ไป จากการทำเรารู้สึกหลงรักคาแรกเตอร์นั้นๆ จงให้อภัยในสิ่งอื่นๆ ที่
ด้อยๆ ไปบ้าง เปรมิกา ก็ถือว่าเข้าข่ายนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งก็ตอกย้ำตามประสบการณ์
ที่เคยเจอมา

ตัวละครที่ชื่อเปรมิกา ที่เป็นผีออกมาไม่กี่ฉาก พูดไม่กี่ประโยค แต่ว่า "น่ารักเป็นบ้า"

ขอเล่าความเป็นมา ก่อนที่จะมาสะดุด จนต้องมาดูหนังเรื่องนี้
ตอน 3 ทุ่ม รอบสุดท้าย จากแรงผลักดันที่ต้องบอกว่ามาจากตัวผีเปรมิกาใน
เรื่องก็ว่าได้ และจากรีวิวสั้นๆ ใน pantip ที่มีหลายเสียงปนๆ กัน แต่ก็พอประเมิน
ได้ว่า หนังน่าจะไม่เลวนัก ไล่เรียงลำดับเหตุการณ์ตามนี้

1. จากการเห็นใบโปสเตอร์ที่โรงหนังแถวบ้าน รูปผีใส่ชุดนักเรียนญี่ปุ่นแล้วหน้าของ
นางเอกที่เล่นเป็นผีก็คล้ายๆ เด็กญี่ปุ่นน่ารัก ใช่เลย มันโดนใจคนเป็นโอตากุได้อยู่ แต่ใน
ตัวผมอาจจะมีความเป็นโอตากุอยู่ 5-10% เท่านั้น แต่สิ่งที่น่าสนใจคือชื่อของหนัง
"เปรมิกา ป่าราบ" เป็นอะไรที่น่าสนใจ ปกติผมจะเป็นคนที่แอนตี้การตั้งชื่ออะไรที่ยาวๆ
ตามสไตล์ไทยๆ ที่สุด มันเป็นอะไรยังงี้มาตั้งแต่สมัยมัธยม 25 ปีที่แล้วก็ว่าได้ ที่คนตั้งชื่อ
หนังไทยเริ่มหันมาตั้งชื่ออะไรที่มันยาวๆ เช่น กลิ้งไว้ก่อนพ่อสอนไว้, โก๊ะจ๋าป่านะโก๊ะ,
ทั้งชื่อยาว ทั้งชื่อแปลก ซึ่งผมในวัย ม.1, ม.2 ไม่ได้รู้สึกดึงดูดอะไร อาจจะเป็นเพราะแม่พา
ผมไปดูหนังฝรั่งแทบทุกเรื่อง จนคุ้นชินกับอะไรที่เป็นสไตล์ฝรั่งๆ การตั้งชื่อแบบแนวที่ดูโฉ่งฉ่าง
อยากเรียกแขก เป็นอะไรที่ผลักไม่ให้สนใจซะมากกว่า

2. ด้วยความที่ค่อนข้างประทับใจกับ series บุปผาราตรี ภาคแรกๆ ซึ่งมีลักษณะที่ดู
เชื่อมโยงกันกับเปรมิกา ป่าราบ จากหน้าหนังอะไรต่างๆ เพราะหน้าหนังมักจะบอกได้
คร่าวๆ ว่ามันจะไปในทางไหนสำหรับหนังไทย เช่น หนังพจน์อานนท์ก็จะออกมาหน้าตา
แบบเดียวกัน หนังของท่านมุ้ยก็ต้องประมาณนี้ การที่ส่วนตัวรู้สึกว่ามันไปในแนวทาง บุปผา ราตรี
จึงทำให้สนใจมากขึ้น

3. จำชื่อหนังแล้วกลับมา search หาที่บ้าน.... เนื่องจากผมไม่กล้า search ต่อหน้าแฟนเท่าไหร่
เพราะเดี๋ยวแฟนสงสัยว่าเราทำไมปิ๊งหนังเรื่องนี้ เนื่องจากปกติดูแต่หนังฝรั่ง ซึ่งเป็นความกลัวเกิน
กว่าเหตุส่วนตัว เมื่อกลับมา search ที่บ้าน อย่างแรกก็ต้องดูตัวอย่างหนัง เมื่อดูเสร็จแล้วก็รู้สึก อืม..
ตัวผีก็น่ารักจริงๆ ไม่ใช่สาวศัลยกรรม ส่วนตัวจะชอบ scan สาวน่ารักตรงนี้ก่อน ถ้าดูทำมา แล้วยังไม่
เนียนอีกต่างหาก ความชอบก็ drop ลงไปเยอะ หนังเกาหลีที่ว่าดีๆ เมื่อเห็นนางเอก เป็นหน้าพลาสติก
ชัดๆ เท่านั้นแหล่ะ แทบไม่อยากดู แต่ถ้าทำมาเนียนๆ แบบอั้ม อันนี้ก็อาจจะพอดูไหน แต่จะไม่ปิ๊ง
ต้องดูไม่ออกจริงๆ ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับฝีมือหมอล้วนๆ

4. ใน comment ใน youtube พูดถึงนางเอกว่าเป็นนักร้องชื่อ จีน่า ดี.... ต้องบอกก่อนว่า ตั้งแต่
มีลูกมา ก็แทบไม่ได้ดูข่าวสาร ละครใดๆ ทั้งสิ้น สิ่งที่ตามติดคือ อันดับหนังทำเงินใน box officemojo
ดังนั้น ข่าววงการอื่นๆ ไม่ได้รู้เรื่องใดๆ ทั้งสิ้น มีมาช่วงหลังอาจจะมีดู youtube ชุวิทย์ ตีแสกหน้า กับ
ยิ่งศักดิ์ ยิ่งแซ่บ ซึ่งก็ถือว่าห่างจากวงการบันเทิงไทยมากๆ ดังนั้น จีน่า ดี นี่คือใคร ต้องลองดูซะหน่อยแล้ว

5. ดู MV เปิดตัว ดูแล้วก็ยังเฉยๆ แต่ดูคลิปอื่นๆ ใน youtube เหมือน ผลตอบรับจะดี จึงลองดูคลิปอื่นๆ
จนมาเจอ คลิปที่เป็นตัวที่ไม่ใช่ MV ของทั้งเพลงที่เปิดตัว กับเพลงที่สอง ย่ำว่าไม่ใช่ MV หลักที่เปิด
ตามสื่อ โดยเฉพาะเพลงที่สอง "เรื่องของชั้น" ที่เป็น dance version ซึ่งจำนวนคนดูยังน้อยมาก เพราะ
ดูเหมือน search แล้ว จะมีแต่ MV หลักขึ้นมาก่อน ซึ่งขอบอกเลยว่า MV หลักเป็นอะไรที่ผมดูแล้วรู้สึก
ห่วย แต่กลับกัน เพราะมาดูคลิปเสริมที่เป็น dance version นี่มันโคตรเจ๋ง ผมดูแล้วดูอีก แล้วก็บ้าไปเปิด
ให้แฟนกับลูกดูอีก ผมขออนุญาติมาแปะลงในนี้ด้วย

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
มันเป็นอะไรที่ไร้ที่ติที่สุดแล้ว (เฉพาะสำหรับผมนะครับ) เอาเท่าที่เห็นสำหรับนักร้องที่เพิ่ง debut
ที่ยังเรียกได้ว่าใหม่มากๆ ในวงการ แวบแรกที่เห็น ผมรู้สึกนึกถึง Hikaru Utada กับเพลง Automatic,
Time will tell, First love อารมณ์ประมาณนั้นเลย เมื่อมาดูคลิปอื่นๆ ตอนที่จีน่า ดีมาเข้าประกวด
ผมงี้รู้สึก feeling ประมาณเดียวกับฮิกกี้ Hikaru Utada เลย ประมาณคนที่มีความสามารถ เกิดมาเพื่อ
สิ่งนี้จริงๆ แล้วก็ได้มาอยู่ในจุดที่เขาเป็นตัวเขาจริงๆ ทำให้ผมอยากรู้จัก อยากค้นหาข้อมูลของจีน่า ดี
เข้าไปอีก แต่ก็แค่ระดับหนึ่ง เพราะถ้าค้นจริงๆ ปกติผมก็ค้นแค่ระดับ wiki พอ คงไม่ได้เข้าเป็นแฟนคลับ
เข้าชมรมอะไรขนาดนั้น ยังไงก็รบกวนแฟนคลับช่วยมา update ในวิกิด้วยนะครับ

6. ตอนนี้จึงเกิดแรงผลักดันอย่างรุนแรงที่จะต้องดูให้จงได้...ประจวบเหมาะกับ แฟนกับลูกไปค้างบ้าน
อาม๊า พอส่งเสร็จก็รีบตรงมาที่โรงหนังทันที ต้องบอกว่าในชีวิตนี้ อาจจะมีอะไรแบบนี้แค่ไม่กี่ครั้ง จาก
ในจำนวนหนังเป็นร้อยเรื่องที่ดูในโรงมา เปรมิกา ป่าราบ, ทั้งชื่อ, หน้าหนัง, ตัวแสดง หลักๆ แค่ 3 ตัว
นี่แหล่ะที่ทำให้ผมอยากไปดู แม้ว่าเมื่ออ่านจาก pantip แล้ว ดูท่า หนังคงจะไปไม่รอด แล้วไหนจะโรง
ที่เปิดฉายก็มีจำนวนน้อยมาก หลังจากช่วงที่ Star Wars เข้าโรงมาสองอาทิตย์ อาทิตย์ล่าสุด แม้จะออก
ไปจากโปรแกรมเกือบหมดแล้ว แต่หนังเล็กหนังน้อย ก็ยังเบียดเสียดมาเปิดฉายใน week ที่เรียกได้ว่า
จะมีใครดูหนังเยอะเหรอ? ถ้าเกิดเขาเลือกไปเที่ยวเดินทางไกลในช่วงวันหยุดยาวกันหมด ก็อาจจะไม่มี
คนดูหนังเลยสักเท่าไหร่ก็ได้


แล้วผมที่เป็นคนที่ตกหลุมรัก เป็นคน... แบบไหนกันแน่ แล้วมันจะตรงกับคุณหรือไม่
ถ้าสมมติต้องการหาอะไรอ้างอิงเล็กๆ อย่างเช่นถ้าคนเขียนรีวิวเป็นคนสไตล์เดียวกับเรา
โอกาสที่พอไปดูตามแล้วความผิดหวังก็อาจจะน้อยกว่าไปดูหนังที่คนรีวิวชอบแต่เขาเป็น
คนละสไตล์กับเราอย่างสิ้นเชิง แบบนี้ก็มีโอกาสสูงที่จะมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน

ผมไม่อยากจะพูดเลยว่า ผมชอบเพราะนางเอกที่เป็นผี เพราะมันดูง่ายเกินไป
แต่มันมีอะไรหลายๆ อย่างที่ทำให้ผมคลิ๊ก ทำให้เงินที่ผมจ่ายไป 170 ผมไม่เสียดายเลย
ก่อนหน้าเข้าโรงหนัง ผมไปถึงก่อนเวลา 1 ชั่วโมง ทำให้ผมต้องไปเดินดูหนังสือในร้าน
แล้วต้องจ่ายเงินซื้อ Film max ฉบับพิเศษ DC superheroes ราคา 299 บาท ซึ่งผม
รำพึงรำพันว่า หนังสือ (นิตยสาร) บ้าอะไรวะ ทำไมแพงจัง แล้วก็พูดแบบนี้ในใจอีกทีตอน
ยื่นเงินจ่ายที่เคาเตอร์

มันไม่ใช่อะไรหรอก หนังสือปกติก็อาจจะราคาแบบนี้ทั้งนั้น เพียงแต่ว่า ปกติตัวเองจะเอา
search หาข้อมูลฟรีๆ ในเน็ต ดังนั้นการที่จะมาซื้อหนังสือ 299 นั้นเป็นอะไรที่แพงมากเอาเรื่อง
ในความรู้สึก โดยเงินเท่านี้ ผมเอาไปซื้อนวนิยายภาษาอังกฤษหนาๆ ได้เป็นเล่มๆ ล่าสุดที่
ซื้อไปก็ Stephen King's It ฉบับหน้าปกแบบภาพยนตร์ กับ Murder in the Orient Express
สองเล่มที่หมายมั่นจะอ่านให้ลูกชาย 5 ขวบฟัง เป็นภาษาอังกฤษล้วนๆ ลูกชายผมรู้เรื่องเพราะ
ผมคุยกับเขาเป็นภาษาอังกฤษ เลี้ยงมาแบบให้แม่พูดไทย เราพูดอังกฤษ ใน Se-ed ก็คือโกย
พวกหนังสือเด็กภาษาอังกฤษหมดแล้ว ก็มาพวกนวนิยายบ้าง....เริ่มอ่านแล้วรู้สึกยังไงบ้างครับ

ใช่แล้วครับ ผมคนแนวที่ไม่ใช่เป็นกลุ่มเป้าหมายของหนัง เปรมิกา ป่าราบเลย ซึ่งกลุ่ม
เป้าหมายน่าจะเป็นแนวขาหนังไทย บ้านๆ หน่อยที่กะเข้าไปฮาตกเก้าอี้แบบหลวงพี่แจ้ส หรือย้อน
ไปถึง series หนังของตลกรุ่นเท้ง โหน่ง มากกว่า

ผมว่าถ้าเรื่องเปรมิกา ป่าราบ ขายผ่าน GTH แล้วให้แฟนหนัง GTH ช่วยสนับสนุน น่าจะไปไกล
กว่านี้ครับ...

เปรมิกา ป่าราบรอบที่ผมไปดู เท่าที่ผมสังเกตุคนดูข้างๆ ออกจะเป็นแนวชาวบ้านๆ ทั้งนั้นครับ
ขอนิยามกลุ่มชาวบ้านในความหมายของผม หมายถึงคนที่ไม่ติดอะไรที่อินเตอร์ แต่ชอบอะไรที่
ตรงใจตามแบบไทยๆ แต่เปรมิกา ป่าราบมันกลับเป็นหนังที่หน้าหนังเป็นแบบบ้านๆ ในขณะที่ตัว
หนังมันสื่อความเป็นอินเตอร์ๆ หน่อยๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ผมคลิ๊ก

เรื่องหน้าหนังกับตัวหนังไม่ตรงกับ target ยกตัวอย่างเรื่องที่ผมนึกได้จากความทรงจำคือ
เรื่อง The Witch หนังดีที่มีคนชื่นชมมากมาย หน้าหนังในหนังตัวอย่างเหมือนเป็นหนังผีแนวๆ
ตุ๊งแช่ทำให้คนดูสะดุ้ง แต่จริงๆ แล้วตัวหนังดำเนินเรื่องแบบไปเรื่อยๆ จึงทำให้คอหนังสยอง
แบบที่ชอบสะดุ้งเยอะๆ เบื่อได้ เปรมิกา ป่าราบนี่ก็เช่นเดียวกัน คนที่คาดหวังว่าจะฮาโคตรๆ
คงจะต้องผิดหวังไปตามๆ กัน ทุกๆ ครั้งที่มีบทฮาในหนัง มันจะออกเป็นแนวให้อมยิ้มแบบผู้ดีๆ
อมยิ้มขำๆ มากกว่าที่จะเป็นหัวเราะก๊ากจนตกเก้าอี้

ผมว่าหนังเรื่อง เปรมิกา ป่าราบ ไม่ใช่หนังฮาสักเท่าไหร่ เอาจริงๆ แล้ว เป็นการแนะนำเรื่องราว
ให้เราได้รู้จักกับตัวเปรมิกา ผีคาราโอเกะซะมากกว่า และมุกตลกในเรื่อง ไม่ใช่ว่าฝืด มันไม่ได้เรียก
ว่าฝืดจนทำให้เสียอารมณ์ แต่มันทำให้เราอมยิ้มนิดๆ เพื่อไม่ให้ตึงเครียดไปนักกับเนื้อเรื่องมากกว่า
เขียนไปแบบนี้อาจจะนึกว่าเรื่องราวเป็นเรื่องหนัก เปล่าเลย...เนื้อเรื่องไม่ได้หนักอะไร
แต่โดยทั้งหมด ก็สามารถทำให้เนื้อเรื่องไปได้เรื่อยๆ ไม่มีสะดุด และไม่ได้ทำให้เสียอารมณ์มากขนาดนั้น
ยกเว้น กับคนที่กะเข้าไปดูหนังฮาแบบว่า อะไรก็ได้ขอให้กูฮา แบบนี้คุณได้ผิดหวังแน่ๆ

แต่สำหรับผม เรื่องนี้มันขึ้นหิ้งไปแล้ว
อารมณ์ของตัวหนัง มันออกจะเป็นแนว cult สไตล์ญี่ปุ่นๆ หน่อย ถ้าดู series ญี่ปุ่นเช่น Minna!-Esper-Dayo
หรือพวกหนังโรงญี่ปุ่นที่ใช้เลือดสาดบ่อยๆ มันจะออกแนวๆ นั้น ซึ่งหนัง cult มันยังไม่ใช่หนังแบบที่
ตรงกับคอคนไทย ไม่แปลกที่บางคนอธิบายว่า หนังดูติงต๊อง

ตัวผีเปรมิกา เน้นออกมาได้ดีมากๆ ตรงนี้คือหัวใจสำคัญเลย หลายๆ เรื่องตัวละครหญิงที่ดูดีมีสเน่ห์มากๆ เช่น
ตงฟางปุ๊ป้าย ฉบับ หลินชิงเสีย, Hit girl จาก Kick Ass, Sadako จาก The Ring, Hiromi Hayakari จาก I am hero,
Jiu Gong จาก Journey to the West 2, Catwoman ของ Batman ฉบับ Nolan...
บอกได้เลยว่า ถ้าคุณเห็นตัวคาแรกเตอร์แล้วชอบ เข้าไปดูก็จะไม่ผิดหวังแน่นอน เพราะเนื้อเรื่องนั้น
ส่งให้ตัวผีเปรมิกาจริงๆ แม้เพียงแค่ เอียงหน้า เขม็งสายตา ส่ายหัว หรือที่แยกร่างมาประกอบร่างแบบหุ่นมาชีนก้า
คุณจะยิ่งรักผีเปรมิกา ซึ่งตรงนี้ทำได้สุดจริงๆ ซึ่งส่วนหนึ่งของหนัง cult ก็แบบนี้ คือถ้าไม่บ้าสุดๆ
ก็คือขับสเน่ห์ของตัวละครเอกได้สุดๆ แล้วก็จะมีคนกลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่งรัก นี่เป็นลักษณะแบบหนัง cult
ที่ผมมองเห็น ทั้งๆ ที่มีจุดด้อยเพียบ

แต่ทุกอย่างก็ไม่มีอะไรให้สะดุด แม้คู่ตัวตลกอ้วนจะพูดมุกฝืดๆ จริงๆ นั่นแหล่ะ แต่ยังดีที่มีการตัด
เปลี่ยนไปฉากอื่นที่น่าสนใจทันที ซึ่งจังหวะเหมาะช่วยให้คนดูเปลี่ยนอารมณ์ไปก่อนที่จะรู้สึกเฟล
เนื้อเรื่องอาจจะเดาง่ายไปนิด แต่ก็ไม่ได้เรียบจนไม่ได้มีอะไรให้น่าจดจำ

สรุปหนังเองก็ไม่มีอะไรมาก ก็แค่เป็นแบบนี้...
คุณนึกถึง Batman 1989 ได้ไหม ถ้าดูเนื้อเรื่องต้องบอกเลยว่า เมื่อย้อนกลับมาดู(มีต่อ)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่