Battle of the Metaurus จุดเปลี่ยนของสงครามพิวนิคครั้งที่ 2

หากพูดถึงสงครามพิวนิคครั้งที่ 2 หลายท่านอาจจะนึกถึง ฮันนิบาล บาร์กา ขุนศึกชาวคาร์เธจผู้เชี่ยวชาญศึก เอาชนะโรมันได้หลายครั้งหลายครา คาบ้านจนชาวโรมันทั้งหลายนั้นต่างหวาดกลัว ฮันนิบาลและบอกว่า เขาคือฝันร้ายที่สุดของโรม แต่หลายๆคนนั้นอาจจะไม่รู้จักการรบครั้งสำคัญครั้งหนึ่งในสงครามพิวนิค การรบนี้คือจุดเปลี่ยนของสงครามและประวัติศาสตร์ในอีกนับพันปีต่อจากนี้....การรบที่จะกำหนดชะตาว่าใครจะเป็นใหญ่ในเมดิเตอร์เรเนียน .... นั้นคือการยุทธแห่งแม่น้ำ Metaurus


มูลเหตุแห่งการยุทธ



เส้นทางการเดินทัพ



หลังจากได้รับชัยชนะที่เมือง Canne ทั้งตอนใต้ของอิตาลี.... ในปี ก่อน ค.ศ. 216 กองทัพโรมันที่แข็งแกร่งกว่า 85000 นายถูกทำลายอย่างย่อยยับ นั้นเป็นเหตุที่ทำให้เหล่าโรมันนั้นไม่กล้าออกไปรบตรงๆกับ ฮันนิบาลอีก ในขณะเดียวกันนั้น กองทัพฮันนิบาลก็ไม่แข็งแกร่งพอจะยึดกรุงโรม สิ่งที่ฮันนิบาลทำนั้นคือ พยายามกีดกันโรมให้ออกห่างจากพันธมิตร ฮันนิบาลนั้นยังคงยึดเมืองทางใต้ของอิตาลีเช่น Capua ไว้เป็นฐานกำลังและยังยุยงให้ชาวกรีกที่อยู่แถบภาคใต้ของอิตาลีนั้นตีตัวออกห่างโรม ส่วนทางโรมนั้นก็ส่งกองทัพออกมาคุมเชิงฮันนิบาลตลอด สถานะของฮันนิบาลในตอนนี้นั้นคือ ถูกตรึงอยู่ทางใต้โดยมิอาจเข้าตีหักฝั่งโรมันได้ .... ทางอีกฟากฝั่งข้ามทะเลไปนั้น ในสเปน กองทัพของ พูลบิอุส สกิปิโอที่ 2 (หรือ สกิปิโอ แอฟริกานัส ที่จะเอาชนะ ฮันนิบาลได้ในอนาคต) สามารถเอาชนะกองทัพ คาร์เธจได้ในสเปน จนน้องชายของ ฮันนิบาลนั้น คือ ฮัสรูบาล บาการ์ ต้องนำทัพถอยออกมาจาก สเปน ด้วยกองทัพผสมประมาณ 30000 และช้างศึกอีกไม่ทราบจำนวน ... ทางฮันนิบาลนั้นจึงได้ส่งสาส์นให้ ฮัสรูบาลนำกองทัพของตนมาสมทบกับเขาในภาคใต้ของอิตาลี ซึ่งหากเข้าได้กองทัพ ฮัสรูบาลมาเสริมแล้ว กองทัพของคาร์เธจน่าจะเข็งแกร่งพอจะขยี้โรมันจนเบ็ดเสร็จได้ ...... ทางฮัสรูบาลนั้นรับทราบและเคลื่อนทัพข้ามเทือกเขาแอลป์มาอย่างรวดเร็วเข้าสู่อิตาลี...สร้างความประหลาดใจให้เหล่าโรมันมาก.....



ภาพสลักของ ฮัสรูบาล บาร์กา



อันที่จริงทางฝั่งโรมันนั้นก็พอจะรับรู้เช่นกันว่า จะมีกองทัพอีกกองของคาร์เธจมาหนุน แต่ไม่นึกว่าจะเร็วขนาดนี้ ...... ทางแม่ทัพโรมัน มาร์คัส ลิเวียส ซารินาเตอร์ ได้ส่งกองทัพมาสกัดไว้ทางเหนือของอิตาลีบริเวณ อุมเบรีย ส่วนทางใต้นั้นมีแม่ทัพโรมันอีกคนนั้นคือ ไกอัส คลอดิอุส เนโร วางกำลังสกัด ฮันนิบาลเอาไว้ ฮัสรูบาลนั้น ได้ส่งสาส์นไปหาพี่ชายในตอนใต้ของอิตาลีให้ส่งกองทัพขึ้นมาหนุนตัวเองที่ อุมเบรีย แต่ผลปรากฏว่า ผลส่งสาส์นของเขานั้นถูกจับได้ ทำให้โรมันนั้นล่วงรู้แผนการของฝั่ง คาร์เธจทั้งหมด ฮันนิบาลนั้นยังคงรอคอยกำลังหนุนของน้องชาย ส่วนทาง เนโร นั้นได้เร่งเคลื่อนทัพของตนขึ้นเหนือเป็นการด่วนเพื่อไปสมทบกับ มาร์คัส โดยทาง เนโรนั้นได้ทำทุกวิถีทางทำให้กองทัพของเขานั้นเคลื่อนที่ให้ได้เร็วสุดเท่าที่จะทำได้ ทั้งใช้เกวียนในการช่วยขนทหาร ถือได้ว่าเป็นนักการทหารคนแรกคนโลกที่ใช้ยานพาหนะในการขนย้ายทหาร จนในที่สุดไม่กี่วัน กองทัพ เนโรจำนวน 7000 นาย ก็เดินทางมาสมทบกับกองทัพของ มาร์คัส ได้ทันที่ อุมเบรีย ทำให้กองทัพโรมันนั้นมีกำลังพลที่แข็งแกร่ง ราวๆ 45000 ในขณะที่ฝั่งคาร์เธจนั้นมีประมาณ 30000 เท่านั้น

เตรียมการณ์เข้าสู่สมรภูมิ

กองทัพของ ฮัสรูบาล นั้นประกอบด้วยทหารหลายเชื้อชาติและหลายประเภทเช่นเดียวกับของ ฮันนิบาล มีทั้งชาวป่าเถื่อน กอล และ ลูกูเรียล ซึ่งไว้ใจมิค่อยได้ ที่น่าไว้ใจได้นั้นคือทหารพลดาบและโล่ จากสเปนและแอฟริกัน อันเป็นทหารชำนาญศึก ทหารม้าที่มีมากกว่า และช้างศึกจำนวน 10 เชือก.. แต่แม้ทางโรมันนั้นจะปกปิดการเคลื่อนทัพของพวกเขา และทางกองทัพโรมันนั้นก็ไม่ได้สั่งการณ์ให้สร้างเต็นท์เพิ่มเติมสำหรับ กองทัพของ เนโรที่พึ่งมาถึง แต่ ฮัสรูบาลนั้นสังเกตได้จาก ธงประจำหน่วยต่างๆที่มากกว่าปกติ รวมถึงม้าหลายตัวของพวกเขานั้นอยู่ในสภาพแปดเปื้อนแสดงถึงการเร่งรีบเดินทาง เขาจึงรู้ทันทีว่าตอนนี้โรมันนั้นได้ กำลังหนุนมาเพิ่ม ฮัสรูบาลจึงตัดสินถอยทัพข้ามแม่น้ำ Metaurus กลับไปยังทางเหนือเพื่อตั้งหลักก่อน โดยเขานั้นแอบเคลื่อนทัพไปในตอนกลางคืนเพื่อไม่ให้ฝั่งโรมันติดตาม พอเช้าตรู่มา ทั้ง 2 แม่ทัพโรมันต่างตกใจเมื่อ กองทัพคาร์เธจนั้นหายไปเฉยราวกับอากาศธาตุ พวกเขาจึงเร่งติดตามไปเพราะกลัว ฮัสรูบาลจะหนีไปได้ แต่ความซวยก็มาเยือน ฮัสรูบาลอีกครั้งเมื่อ แม่น้ำ Metaurus นั้นกลับเกิดน้ำท่วมหลากทำให้ไม่สามารถข้ามได้ในขณะนี้...ส่วนกองทัพโรมันนั้นตามมาทันถ่วงทีพอดี ดังนั้นจึงเกิดการยุทธแห่งแม่น้ำ Metaurus





ทหารราบ Hastati , Principes , Triarii กองทัพหลักของโรมันในยุคนั้น





กองทหารไอบีเรียนกองทหารซึ่งดีที่สุดของ คาร์เธจ





เหล่าชาวกอล ชาวเซลต์ทั้งหลายที่เข้าร่วมกับ คาร์เธจนั้น ล้วนรบดุดัน และป่าเถื่อน แต่ขาดซึ่งวินัย




ภูมิประเทศและการจัดกำลัง (ดูภาพประกอบด้วยจะเข้าใจมาก)






เนื่องด้วยน้ำท่วมเอ่อล้นและชัยภูมิอันคับแคบ ทางปีกซ้ายของกองทัพคาร์เธจนั้นติดภูเขา ส่วนปีกขวานั้นมีแม่น้ำ Metaurus ซึ่งด้วยชัยภูมิและสภาพการณ์แบบนี้นั้นไม่เหมาะอย่างยิ่งที่ใช้กำลังทหารม้าที่มากกว่าในสมรภูมิ ฮัสรูบาลนั้นจึงนำกองกำลัง กอลนั้นไปตั้งบนปีกซ้ายตรงเนินเขาซึ่งเขามองว่าจะสามารถตรึงพวกโรมันให้อยู่กับที่ ... ส่วนกองกลางนั้นเป็น ช้างศึก 10 เชือกและทหารลิกูเรีย ส่วนทางปีกขวานั้นเป็นทหารราบ แอฟริกันและสเปนรวมถึงทหารม้าซึ่งเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งสุด โดยความตั้งใจของ ฮัสรูบาลนั้นคือใช้ปีกซ้ายตรึงกองทัพโรมันไว้ หลังจากเข้าโจมตีด้วยช้างศึกสร้างความอลม่านให้ข้าศึก แล้วขยี้กองทัพโรมันที่เหลือด้วยกองทัพทางปีกขวาที่แข็งแกร่ง ส่วนทางกองทัพโรมันนั้น แม่ทัพ เนโรคุมกำลังตรงปีกขวา แม่ทัพ มาร์คัส คุมปีกซ้าย ส่วนตรงกลางนั้นคุมโดยแม่ทัพอีกคนซึ่งชื่อ ลิซินัส โดยทางฝั่งโรมันนั้นนำกำลังทหารม้าทั้งหมดไว้ทางปีกซ้าย ส่วนเหล่าทหารราบเบากับหนักนั้นก็จะลดหลั่นกันไป

การยุทธเริ่มต้น

ในเช้าตรู่วันที่ 22 มิถุนายน ก่อน ค.ศ. 207 อากาศนั้นแจ่มใสกองทัพทั้ง 2 ฝ่ายต่างมองเห็นกันอย่างชัดเจน ฝั่งกองทัพโรมันทางปีกซ้ายที่นำโดย มาร์คัส นั้นเข้าโจมตีปีกขวาของกองทัพคาร์เธจอย่างฉับไว.. แต่โดยจำนวนทหารม้าคาร์เธจที่แกร่งกว่า กอปรกับทหารสเปนและแอฟริกันนั้นยังคงเข้มแข็งพวกเขาจึงไม่สามารถผลักดัน คาร์เธจถอยไปได้ .. ในขณะเดียวตรงกองกลางนั้น กองทัพโรมันต้องเจอศึกหนักและระส่ำระส่ายเมื่อ ช้างศึกทั้ง 10 เชือกนั้นโจมตีใส่แนวทหารโรมันและตามด้วยทหารราบลิกูเรียอันป่าเถื่อน การต่อสู้แนวตะรางกลางเป็นไปอย่างถึงตัว ช้างต่อคน เลือดต่อเลือด. ในขณะเดียวกันทางปีกขวานั้น เนโรต้องเขาตีกองทัพ กอล ที่อยู่บนเนิน แต่ด้วยเนินที่ สูงชันเกินนั้น เนโรจึงเห็นว่าเป็นการเปล่าประโยชน์เข้าจึงถอนตัวกลับมาจัดทัพใหม่หลังแนว โดยแบ่งกองทัพเป็น 2 ส่วน เข้าเสริมให้ทางปีกขวาและกองกลางของทัพโรมัน เมื่อกองกลางที่กำลังระส่ำระสายนั้นได้กำลังเสริมก็สามารถตรึงกองทัพของคาร์เธจได้อยู่.....มาร์คัสที่ได้รับกองหนุนเพิ่มนั้นสามารถนำปีกขวาของโรมันตีปีกซ้ายคาร์เธจจนแตกกระเจิงไปได้ และนำกำลังปีกขวาทั้งหมดวกกลับย้อนหลังเข้าล้อมกองทัพคาร์เธจ กลับกลายเป็นว่าคาร์เธจกลายเป็นฝ่ายเพลี้ยงพล้ำและโดนล้อมจากทหารโรมันที่มีจำนวนมากกว่า ทาง ฮัสรูบาลเห็นท่าไม่ดีจึงควบม้าเข้าไปกลางสนามรบและคุมการรบด้วยตัวเอง แต่ก็พลาดท่าถูกฆ่าตายกลางสนามรบ...ยิ่งทำให้กองทัพคาร์เธจนั้นปั่นป่วนกว่าเดิม ในที่สุดกองทัพคาร์เธจนั้นก็พ่ายแพ้อย่างขาดลอย.... โดยสูญเสียทหารไปกว่า 10000 นาย รวมถึงตัวแม่ทัพ ส่วนทางฝั่งโรมันนั้นเสียทหารไปเพียง 2000 นายเท่านั้น





หลังการรบครั้งนี้แทนที่โรมันจะปฎิบัติกับศพของ ฮัสรูบาลอย่างให้เกียรติเยี่ยงแม่ทัพ พวกเขากับตัดศีรษะของฮัสรูบาลและส่งให้กับฮันนิบาล เมื่อฮันนิบาลนั้นได้ทราบว่าน้องชายของตนนั้นเสียชีวิตเขานั้นเสียใจมาก ยิ่งกว่านั้นโอกาสที่จะพิชิตกรุงโรมและขยี้เหล่าทหารโรมันนั้นก็ได้จบสิ้นไปพร้อมกับชีวิตของน้องชายเขาจะไม่มีกองทัพใดอีกแล้วมาหนุนฮันนิบาล การยุทธแห่ง Metaurus นั้นจบลงด้วยชัยชนะอันงดงามขอโรมันเหนือคาร์เธจ ชัยชนะที่จะทำให้โรมรุ่งโรจนไปอีกนานนับพันปี
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่