[CR] Review : Leica IIIa : กล้องฟิล์มวินเทจ หนึ่งในตำนานของประวัติศาสตร์การถ่ายรูป

สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมารีวิว Leica IIIa หรืออีกชื่อคือ Leica Model G หนึ่งในกล้องยุคคุณปู่ทวดที่เป็นผลงานของ Oskar Barnack ที่มี design ที่สวยงาม หนึ่งในการออกแบบของกล้องตระกูล Leica Barnack โดยการรีวิวนี้จะมีทั้งรายละเอียดของกล้องที่ควรรู้ กับรีวิวการใช้งานครับ
ก่อนที่จะลงรายละเอียด ผมอยากให้ทุกคนรู้ว่าทำไมผมถึงตัดสินใจเอกกล้องตัวนี้แบบคร่าวๆ
หลังจากผมได้ Leica M8 มาใช้อยู่ช่วงนึง ผมก็ติดใจกับระบบ rangefinder ที่มีเสน่ห์นี้ขึ้นมา
จนกระทั่งถึงจุดที่ผมใช้ระบบมือหมุนจนคล่องแล้ว ผมก็เลือก M9 ที่เป็น Full Frame มาใช้ต่อ
และแล้วผมคิดจะมาเล่นกล้องฟิล์ม (เผื่อใครสงสัย จขกท. ยังไม่เคยใช้กล้องฟิล์มแบบจริงๆจังๆซักทีครับ จนผมอยากได้กล้องฟิล์มประจำตัวขึ้นมา) ด้วยความที่ใช้ digital series M มาจนคล่องแล้ว ผมคิดว่าอยากได้อะไรที่แปลกใหม่กว่า M ที่ใช้ฟิล์ม ผมจึงให้คุกกี้ทำนายกัน//ผิด ผมค้นคว้าจนพบว่า Barnack Leica เป็นตัวเลือกที่ดี ทั้งเรื่อง spec ของตัวมันเองและ design ที่ดูดีมาก (จริงๆก็เชียร์ Leica M2 ไม่ก็ Nikon SP นะ)
ปล. ผมไม่ได้ติดแบรน เพียงแต่กล้องระบบ rangefinder ดีๆนั้นส่วนใหญ่เป็นของ Leica เฉยๆ
(พวกกล้องดิจิตอลแบรนอื่นๆที่หลายคนบอกว่าเป็น rangefinder นั้นเป็นกล้อง mirrorless ธรรมดาที่รูปทรง rangefinder-styles ครับ)
และสุดท้ายผมก็เลือกรุ่น IIIa (อ่านว่า Three-A ) เพราะ
-    ผมต้องการ slow shutter speed
-    Maximum shutter speed คือ 1/1000 เทียบเท่า M series
-    Rangefinder กับ viewfinder ยังแยกกันอยู่ (ถ้าเป็น IIIb จะไม่สะดวกสำหรับผม)
-    ระบบ rangefinder เชื่อมต่อโดยตรงกับ LTM Lenses
-    ลักษณะคล้าย Leica II ที่ดูวินเทจ
-    ระบบโฟกัสถอดออกมาซ่อมง่ายกว่า IIIc และ IIIf เพราะฝาครอบกับ body ไม่ได้เชื่อมติดกัน
และเหตุผลอื่นๆที่ผมอาจลืมไปแล้ว แต่จริงๆแอบส่งใจให้นิดๆกับ Leica IIIb เหมือนกันแต่ก็ตัดสินใจเลือกตัวนี้แทนเพราะดู vintage กว่า ต่อมาผมขอเล่าประวัติกล้อง Barnack คร่าวๆสำหรับคนที่ไม่อยากอ่านเป็นภาษาอังกฤษนะครับ
Oskar Barnack วิศวกรชาวเยอรมัน ได้ออกแบบกล้องถ่ายรูปแบบพกพาที่ใช้ฟิล์มภาพยนตร์อันเป็นจุดเปลี่ยนของประวัติศาสตร์การถ่ายรูป นั่นคือ Ur-Leica นั่นเอง (ถ้าคุณอยากลองถ่ายแนะนำซื้อ Ur-Leica Replica ที่ระบบเหมือนกันครับ) ในที่นี้ผมจะไม่กล่าวถึง Leica Prototipo , 72 , compur-leica หรือพวกที่ดูยากๆนะครับ เพราะเนื้อหาระดับนี้ควรไปเขียนเป็นกระทู้ใหม่เลย
ต่อมาทางบริษัท Leitz ได้เริ่มวางขายกล้อง 35mm รุ่นแรกของบริษัท คือ Leica I รุ่นแรกที่มาพร้อมเลนส์ Anastigmat 5cm F3.5 ที่ไม่สามารถถอดเลนส์ได้ ซึ่งไม่มี rangefinder มีแต่ 50mm viewfinder ดังนั้นต้องใช้rangefinder แยก
ต่อมาในปี 1932 ผู้ใช้กล้องได้เจอกับความหวังที่ยังรออยู่  เพราะบริษัทได้ออก Leica II ซึ่งมี rangefinder เชื่อมกับระบบโฟกัสของเลนส์แบบ build-in
รุ่นต่อมาคือ Leica III เพิ่ม slow shutter speed dial ด้านหน้า และเพิ่มห่วงสำหรับใส่ Strap
รุ่นที่เป็นรอยต่อระหว่าง Barnack Leica กับ Leica M series คือ Leica IIIg ซึ่งเป็นต้นแบบของ M3
สำหรับรุ่นที่เป็นตัวชูธงของ Barnack series คือ Leica IIIf อันโด่งดัง
ต่อมาเป็นการอธิบายรุ่นต่างๆแบบคร่าวๆครับ ถ้ารุ่นต่างๆของ Leica เขียนเป็นแผนผังต้น-กิ่ง-ใบ ผมจะกล่าวแค่ส่วนที่ใกล้ลำต้น เพราะส่วนปลายๆอย่าง Half-frame, reporter หรือ Compur-Leica จะเฉพาะทางเกินไป
Leica I (1925) เป็นกล้อง mass product ตัวแรกของทาง Leica
Leica I (1930) สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้แล้ว เป็น LTM Mount
Leica II (1932) เพิ่มระบบ rangefinder ติดกับตัวกล้องที่เชื่อมกับระบบเลนส์โดยตรง
Leica III (1933) เพิ่ม slow shutter speed dial กับห่วงสำหรับสายคล้องกล้อง (รุ่นก่อนสายคล้องจะติดกับ Case)
Leica IIIa (1935) อัพเกรด speed shutter เพิ่มสูงสุดเป็น  1/1000 (Leica III มี 1/500)
Leica IIIb (1938) viewfinder กับ rangefinder อยู่ใกล้กันมากขึ้น
Leica IIIc (1940) ตัวโครง Body กับฝาครอบด้านบนกลายเป็นชิ้นเดียวกัน
Leica IIIc k (ไม่ทราบปีแน่นอน) เป็น Leica IIIc ที่ผลิตมาสำหรับการทหารโดยเฉพาะ ระบบกลไกพิเศษใช้ได้เต็มประสิทธิภาพแม้ในสภาพอากาศที่โหดร้ายของโลก (No. ลงท้ายด้วย K และที่ม่านชัตเตอร์จะพิมพ์ตัวอักษร K ไว้)
Leica IIId (1939) ความจริงเป็นรุ่น early ของ IIIc มี Self-timer ในตัว
Leica IIc / Leica Ic (1940) ทำระบบให้มีข้อจำกัดเหมือน Leica II กับ Leica I แต่มีห่วงสำหรับสายคล้อง โดยมีโครงสร้างเชื่อมเหมือน IIIc โดยรุ่น Ic ไม่มี viewfinder ติดมาให้
Leica IIIf (1950) ออกมาหลังสงครามครั้งที่สองจบ มีระบบ Flash Sync ในตัว ในส่วน winder จะต่างกับ IIIc มีทั้งแบบไม่มี (ช่วงแรก)และมี self-timer (1954) เป็นตัวชูโรงของ Leica ที่แท้จริง
Leica IIf (1951) / Leica If (1952) เหมือน IIc กับ Ic ต่างที่ rewinder
Leica IIIg (1957) เป็นรุ่นอัพเกรดของ IIIf มีความสูงเพิ่มขึ้นจนเกือบเท่า M series และ viewfinder ใหญ่ขึ้น เป็นต้นแบบให้กับ Leica M3 กล้องสุดอมตะของชาว Leica ทุกคน
Leica IIg (1956) / Ig (1957) เหมือนการมาของ IIc กับ Ic  ส่วน Ig นั้นเป็น Barnack Leica ที่คล้าย M ที่สุด
รายละเอียดอื่นๆ อย่างพวกขนาดกล้อง น้ำหนัก ขนาดของ adapter ที่ใช้ร่วมกับอุปกรณ์อื่น ผมแนะนำให้ไปดูเว็บ kenrockwell นะครับ เขาอธิบายไว้หมดแล้ว (พูดง่ายๆคือโบ้ยงาน)

ต่อมาผมจะมาอธิบายส่วนต่างๆที่ควรรู้นะครับ
-    Viewfinder ช่องมองภาพ สำหรับเลนส์ระยะ 50mm เท่านั้น
-    Rangefinder เป็นแบบแยกออกมา ระยะ x1.5 มีตัวปรับระยะสายตาแยก ภายในมี Beam splitter half mirror เป็นหัวใจหลักของระบบนี้
-    Hot Shoes
-    Shutter speed dial (1s – 1/1000) with T (Timer) / Z (โหมด B ในปัจจุบัน)
-    Slow shutter speed dial สำหรับ 1s – 1/20
-    Shutter release bottom ไม่ต้องอธิบายมาก สามารถถอดแหวนครอบเพื่อเชื่อมกับ Flash, Self-release bottom, Self timer และอื่นๆได้
-    Winder ใช้ขึ้นฟิล์มกับดูจำนวนภาพที่ถ่าย
-    Advance-winder lever ใช้สำหรับการปลดล็อกแล้วกรอฟิล์มกลับ
-    Rewinder ปุ่มกรอฟิล์มกลับ
-    Cover ฝาด้านล่าง
ทีนี้มาดู What you should know ของกล้อง IIIa บ้างครับ
-    ใช้ฟิล์ม 35mm
-    โหลดฟิล์มโดยตัดส่วนนึงออกแล้วใส่จากด้านล่าง
-    Shutter speed 1s – 1/1000 (รุ่นก่อนหน้า III ยัง 1/500 อยู่)
-    LTM mounts
-    ไม่มีระบบ Flash sync ในตัว (พึ่งมีรุ่น IIIf)
-    Manual only 100% จ้า หมุนเองตั้งแต่เลนส์ยันปุ่มกรอฟิล์มกลับ
-    Shutter เป็นแบบผ้า แนวนอน (เสียงเพราะมากกกกก ดัง click)
-    ขึ้นฟิล์มโดยหมุน winder รอบนึงจนสุด
-    Shutter speed dial ไม่ได้หมุนเหมือนกล้องทั่วไป ต้องดึงขึ้น หมุน แล้วปล่อยลงล็อกอีกรอบ
-    ไม่ใช้ไฟฟ้า ไม่มีวัดแสง ไม่มีอะไรเลยนอกจากความ back to basic
-    Note: ผู้ใช้จำเป็นต้องมีทั้งความรู้เรื่องการถ่ายรูป และความอดทน
-    ไม่มี light meter ในตัวนะครับ ซื้อแยก แนะนำ Leica meter II ที่ใช้สารซีลีเนียม หรือแบบถือแยกเลย ถ้าไม่อยากเสียเงินก็ใช้แอปใน smartphone เอา (Leica meter ส่วนใหญ่วัดแสงไม่แม่นหรือไม่ได้แล้ว เอามาใส่เฉยๆก็เท่ดีนะ)

จริงๆผมไปตรวจ No. บนกล้องแล้วไปสืบมา ผมได้ความว่า นั่นมัน Model III ไม่ใช่เหรอ
ใช่ครับ มันคือ III แต่เจ้าของเก่าส่งกลับให้โรงงานเพื่ออัพเกรด shutter speed เป็น IIIa ครับผม
TIP : สำหรับการตรวจสอบ Serial No. ของกล้องตั้งแต่ Leica II ถึง Leica IIIb เพื่อดูปีผลิตนั้น เป็นเพราะว่า No. ประทับอยู่บนฝาด้านบนที่สามารถถอดออกได้ จึงมีสิทธิ์ที่มีการเอาฝาของกล้องอื่นมาใส่ได้ ถ้าอยากเช็กว่า No. ตรงกัน ให้ขันน็อตแล้วถอดฝาออกครับ คุณจะเจอ No. พิมพ์อยู่บน Body อีกรอบ ถ้าตรงกันคือใช่ครับ

พูดถึงอายุกล้องตัวนี้กันบ้าง ผลิตช่วงปี 1936 แสดงว่าตอนนี้อายุอย่างต่ำคือ 81 ปี!! มีใครให้มากกว่านี้ไหมครับสำหรับ 35mm

ส่วนเลนส์ที่ผมใช้หลักๆคือ Elmar 3.5cm F3.5 ครับ ซึ่งเป็น interchangeable lens ที่เป็นระยะ 35 ตัวแรกของโลกครับ
เนืองจาก viewfinder เป็นระยะ 50mm ผมจึงต้องใช้ 35mm viewfinder แบบที่ปรับ parallax error ได้แยกต่างหากครับ
ผมขออธิบายก่อนว่าผมทำการ custom อะไรกับภายในกล้องตัวนี้บ้าง
หลักๆคือระบบต่างๆนั้นดีอยู่แล้ว เพียงแต่ช่องมอง rangefinder นั้นขุ่น ไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ ผมจึงถอดกระจกใสกลมๆด้านขวาเอามาลนไฟ (ผมไม่คิดจะขายต่อหรอกครับ) เพื่อให้โลหะขยายตัวแล้วกระจกหลุดออกมา
ต่อมาผมก็ทำการถอดฝาครอบด้านบนออกเพื่อเปลี่ยน Beam splitter half mirror โดยอันใหม่สั่งทาง Ebay เหมือนกัน
ทำแค่นี้แหละครับ ตัวกระจกอันใหม่นี้จะให้สีฟ้า-เหลือง ทำให้เห็นภาพโฟกัสซ้อนได้ง่ายกว่าครับ

เราจะอธิบายวิธีใช้กันนะครับ ตั้งแต่ใส่ฟิล์มจนถึงการกรอฟิล์มกลับเลยนะครับ
ส่วน soft release shutter นั้นผมได้มาพร้อมกับ body ครับ เดิมเป็นปุ่มเห็ดเล็กๆ

1 การใส่ฟิล์ม
คุณต้องทำการตัดฟิล์ม หรือ trimming ตามแนวยาวเพื่อให้ใส่ง่ายขึ้นครับ
สอดปลายฟิล์มกับตัวแท่งรับ ควรแน่นจนแน่ใจว่าจะไม่หลุด ต่อมาก็ใส่ฟิล์มจากด้านล่างของตัวกล้อง
แต่เจอใน youtube มีคนใช้บัตรบางๆมาเสียบตรงแผ่นดันฟิล์มแล้วใส่ฟิล์มไปเลยโดยไม่ต้องตัดนะครับ (ง่ายดีแฮะ)
หลังจากนั้นปิดฝา ถ่ายทิ้งรูปสองรูป
แนะนำว่าก่อนใส่ฟิล์ม ควรขึ้นชัตเตอร์ก่อน เพื่อล็อกการหมุนของกลไก และเซตเลขนับฟิล์มไปที่ -1 (-2 ก็ได้)

2 การถ่ายรูป
มันจะมีขั้นตอนที่ยุ่งยากแม้แต่กับกล้องฟิล์มด้วยกันเอง
-    ขึ้นฟิล์ม หมุน winder รอบนึงก็เสร็จ ประเด็นคือเป็นปุ่มหมุนธรรมดา ไม่มีก้านเหมือน M series แต่คุณสามารถซื้อ rapid winder มาเสริมแทนได้
-    โฟกัส วิธีเหมือน rangefinder ทั่วไป โดยภาพซ้อนจะเป็นกรอบกลมๆ ต่างจาก M series ที่เป็นสี่เหลี่ยม โดยมีช่องมอง x1.5 แยกจาก viewfinder ต่างหาก จะมีตัวหมุนปรับโฟกัสให้ชัดตั้งแต่อินฟินิตี้ถึงระยะใกล้ อยู่ที่ช่องส่องเลย (IIIb ขึ้นไปจะอยู่ที่ตำแหน่ง rewinder แทนเพราะ rangefinder กับ viewfinder อยู่ใกล้กัน)
-    กรณีที่ไม่ใช่เลนส์ 50mm หริอต้องการใช้ external viewfinder โฟกัสเสร็จแล้วก็ปรับ parallax error บน external viewfinder (ถ้ามี) โดยดูระยะที่เลนส์โฟกัสไปแล้วปรับให้ใกล้เคียง แล้วก็ส่องดู composition แล้วลั่นชัตเตอร์ได้เลย

3 การกรอฟิล์มกลับ
-    หมุนก้าน advance-rewind lever ไปที่ R ระบบจะคลายการล็อก
-    หมุน rewinder ไปจนกว่าฟิล์มจะกรอเข้ากลักจนหมด
-    จะถ่ายต่อให้ย้อนกลับไปข้อ 1

เดี๋ยวมาต่อครับ
ชื่อสินค้า:   Leica IIIa
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่