ผิดเองที่รู้ตัวช้า... กว่าจะคิดได้ ก็สายเกินไปแล้ว

สวัสดีค่ะ จขกท มีเรื่องความรักอยากมาแชร์ เกี่ยวกับความผิดพลาดในความรัก ที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว สาเหตุที่อยากแชร์เพราะ เป็นเรื่องราว ความรู้สึกผิดพลาด ที่อยู่กับ จขกท มา 1 ปีเต็ม

จขกท อายุ 31 ปี เรียกได้ว่า แก่แล้ว 5555 แต่การที่มีอายุที่เพิ่มขึ้น ก็ไม่ได้ทำให้ใช้สติในความรักมากขึ้น และไม่เคยมองดูตัวเอง ไม่เคยทบทวน ไม่เคยพิจารณา ไตรตร่อง ความรักครั้งก่อนๆ ที่สำคัญคือ ไม่เคยนำ Learning ที่ได้มาปรับใช้ เพื่อทำให้ดีขึ้นเลย


เริ่มต้นจาก จขกท มีแฟนที่คบกันมานานเกือบ 4 ปี ขอใช้สรรพนามว่า P ละกันนะคะ ตลอดเวลาเกือบ 4 ปีที่ผ่านมา จขกท รัก P มาก เพราะตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ P เป็นเหมือนคนในสเปคที่หลุดออกมาในความจริง จขกท จึงยอมและเต็มที่ทุกอย่าง แม้กระทั่งยอมเสียความเป็นตัวเอง เลือกทำในสิ่งที่ทำให้ P พอใจ มากกว่า นึกถึงตัวเอง แต่ช่วงหนึ่งปีหลังความอดทนที่มีค่อยๆ ปรากฏขึ้น จนรู้สึกว่า เราไม่ได้ทำด้วยความเต็มใจ แต่ละครั้งมันฝืน ทำไปเพราะไม่อยากมีปัญหา ไม่อยากทะเลาะ แล้วก็คอยสังเกตตัวเองว่า ช่วงไหนที่ P ไม่อยู่จะรู้สึกโล่งอกโล่งใจ เพราะไม่ต้องกังวล ไม่ต้องห่วง หรือพะวง อะไร ไม่ต้องคิดมากว่าเราจะทำให้เค้าไม่พอใจอีกมั๊ย


และก็เป็นช่วงเวลาใกล้ๆกับที่มีอีกคนเข้ามา ขอใช้สรรพนามว่า S นะคะ S เป็นคนที่มีเสน่ห์มากค่ะ แต่ จขกท ไม่ได้ชอบ S ทันทีที่เห็นและรู้จัก เพราะหน้าตาและบุคลิกห่างไกลจากสเปคของ จขกท มาก (ไม่ใช่ว่าไม่น่ารักนะคะ น่ารักมาก แต่คนละแนวกับแบบที่ชอบ) แต่กลายเป็นว่า แต่ละวันที่มีโอกาสได้คุย ได้รู้จัก มันทำให้ จขกท รู้สึกสนใจ S มากขึ้นทุกวัน จนกลายเป็นความชอบในที่สุด


จขกท มีเรื่องระหองระแหงกับ P และ P บอกเลิก จขกท เหมือนทุกครั้งเช่นเคย สิ่งที่ต่างจากทุกครั้งคือ จขกท ไม่รั้งเหมือนทุกครั้ง ยอมที่จะจบความสัมพันธ์ เพราะเหนื่อย รู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า อยากกลับไปเป็นตัวเอง และปฏิเสธไม่ได้ค่ะว่า ปัจจัยที่เป็นตัวเร่งและกระตุ้นที่ทำให้กล้าตัดสินใจครั้งนี้คือ น้อง S คนนั้นเอง (ตอนที่ตัดสินใจเลิก จขกท ยังไม่รู้นะคะว่า น้อง S มีใจรึป่าว รู้แค่ว่า จขกท สนใจและชอบเค้ามาก ถึงขนาดยอมมาทำงานแต่เช้าทุกวัน) มันเป็นความโชคดี ของ จขกท ค่ะ ที่หลังจากเลิกมา ก็ได้รู้ว่า น้อง S ก็รู้สึกดีกับ จขกท เหมือนกัน ลืมบอกไปค่ะว่า น้อง S อายุห่างจาก จขกท มากถึง 10 ปี สิ่งที่ทำให้ จขกท มั่นใจว่า จขกท ชอบน้อง S จริงๆ ก็มาจากเหตุผลนี้แหละค่ะ เหตุผลที่ว่า จขกท สามารถก้าวผ่านความกลัว ความไม่มั่นใจ ในความต่างเรื่องอายุ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีแฟนที่เด็กกว่ามากขนาดนี้ และน้อง S เองก็มีบุคลิก ไลฟ์สไตล์ การใช้ชีวิตที่ต่างจาก P แฟนเก่า มากเลยทีเดียว


แล้ว P ก็กลับมาง้อค่ะ กลับมาขอโอกาส และสัญญาว่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ไม่มองแต่ตัวเองเหมือนที่ผ่านมา ความรู้สึกของ จขกท ตอนนั้นมันกลัวตัวเองจะเลือกผิด ตัดสินใจผิด จะทิ้งคนที่คบกันมาเกือบ 4 ปี และเลือกคนที่เพิ่งรู้จักกันได้แค่เดือนเดียวจริงๆหรอ ที่รู้สึกแบบนั้นเพราะตลอดเวลาที่คบกับ P มา ทุกครั้งที่ P บอกเลิก เค้าไม่เคยกลับมาง้อเลยซักครั้ง มีแต่ จขกท ที่กลับไปขอโทษ ขอโอกาสเอง  แต่จขกท ก็ได้บอก P ไปนะคะว่า คุยกับ S เและชอบ S แล้ว ส่วน S ในช่วงที่ P กลับมาง้อ S ก็รู้ค่ะ ตอนนั้น S บอก จขกท ว่า ให้ใช้เวลาคิด ทบทวนตัวเองดีๆ โดยที่ไม่เร่งรัดอะไรเลย อยากให้ตัดสินใจ แค่ในส่วนของ จขกท กับ P อย่าเอา S เข้าไปเป็นปัจจัย ส่วน S รอได้และจะเคารพในการตัดสินใจ มันเลยทำให้ จขกท ตัดสินใจไม่เลือก P ค่ะ เพราะ S ทำให้เรารู้สึกว่าเค้ามีเหตุผล และดูไม่เห็นแก่ตัว จุดนี้เลยทำให้ S ชนะ P ในความคิดเราตอนนั้น


หลังจากที่ตัดสินใจได้ จขกท ควรมีความสุขดีกับ S ใช่มั๊ยคะ? แต่ป่าวเลยค่ะ ไม่ใช่เพราะ S ไม่ดีนะ กลายเป็นว่า แทนที่ จขกท จะได้เริ่มต้นใหม่ ได้ศึกษา เรียนรู้ S กลับกลายเป็นช่วงเวลาที่ จขกท เหมือนคนเห็นแก่ตัว อยากให้ S เติมเต็มในสิ่งที่ขาด เมื่อตอนคบกับ P (เช่น ยืดหยุ่นเรื่องเวลา ตัวไม่ต้องติดกันมาก ให้อิสระ โลกนี้ไม่ต้องมีกันแค่ 2 คน …) และก็คาดหวังให้ S ทำในส่วนที่ดีที่ P เป็น ตลอดเวลาที่ เลือก S จขกท เองรู้ตัวเองดีว่า ความไม่มั่นใจ ความกลัวว่าตัวเองจะเลือกผิด ตัดสินใจผิด ยังอยู่ในความคิดมาตลอด เพราะคิดว่าตัวเองอายุเยอะ ไม่อยากไม่ผิดหวังอีก อยากเลือกคนนี้แล้วใช่ตลอดไป


ส่วน S ก็ดีมากค่ะ แรกๆ เค้าเข้าใจและรับรู้ความกลัวของ จขกท ดี เค้าเลยบอกเสมอว่า เค้าจะพยายามทำให้ดีที่สุด เพื่อปิด Gap ความรู้สึกกลัวนี้ของเราค่ะ แต่ จขกท เอง ที่เป็นฝ่ายคิดไม่ได้ แทนที่จะทำแต่ละวันให้ดีที่สุด และยอมปรับบ้างเพื่อให้เข้ากันได้ อีกฝ่ายจะได้ไม่ต้องทำ และเหนื่อยอยู่ฝ่ายเดียว จขกท กลับ กั๊กความรู้สึกตัวเอง ไม่ศึกษา ทำทุกอย่าง ปฏิบัติต่อ S แบบไม่เต็มที่ ไม่สุด เหมือนกับความรักทุกครั้งที่ผ่านมา (ไม่ใช่ว่าทำแย่นะคะ แต่ต่ำกว่ามาตรฐานตัวเองที่ผ่านมา) จนเรียกได้ว่า Take มากกว่า Give และด้วยความเชื่อแบบผิดๆ ว่า คนเราคบกัน ควรเป็นตัวเอง เพราะคิดแค่ว่าถึงปรับไปวันนึงก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม จขกท เลยเลือกที่จะไม่ปรับอะไรเลย ในขณะที่อีกฝ่าย คือ S ทำเต็มที่และปรับมาตลอด เพราะหวังว่า เราจะมั่นใจในตัวเค้าคนที่เด็กกว่าเป็น 10 ปี ได้ซักวัน


ความพยายาม มันควรจะสำเร็จ ถ้าเป้าหมายที่พยายามจะไปให้ถึงมันอยู่แบบแน่นอนใช่มั๊ยคะ? แต่ S คงคิดว่าทำมากเท่าไหร่ ทำมากแค่ไหน ก็ไม่เคยแตะความคาดหวังของเราได้ซักที S เลยบอกเลิก จขกท หลังจากที่พยายามมาตลอด 4 เดือน ด้วยเหตุผลว่า จขกท นิสัยเด็ก และ S อยากกลับไปเป็นตัวเอง เพราะคิดว่าเราคงไปกันไม่ได้ เราไม่เหมาะกันหรอก จขกท เสียใจมาก แต่แรกๆ ก็ยังไม่เข้าใจ คิดแต่ว่าตัวเองถูกทิ้ง และโง่ที่เลือกคนผิด บวกกับพอเฮิร์ท แล้วเมา ทำให้ช่วงที่กลับไปง้อ S  มีโมเม้นท์ที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ เพราะขาดสติ จึงพูดจาแย่ๆออกไป เพียงเพราะอยากให้ S สนใจ แต่มันดันผิดวิธี เลยคงทำให้ S คิดว่าที่ผ่านมา ลึกๆแล้วใจ จขกท มีแต่ P และอยากกลับไปหา P มาโดยตลอด (จนถึงวันนี้ จขกท ก็จำไม่ได้ และไม่รู้อยู่ดีว่าพูดอะไรไปบ้าง T_T) หลังจากเหตุการณ์แย่ๆครั้งนั้น จขกท ก็ยังกลับไปขอโอกาส S อีกนะ แต่ทุกอย่างก็สายเกินไปแล้ว S หมดความรู้สึก และไม่อยากกลับมาอยู่ในจุดเดิมอีก ด้วยความเสียใจแบบผิดๆ ทำให้ช่วงนั้น จขกท โพสท์ข้อความลงในเฟส ในไอจี S เห็นเข้าก็รู้สึกไม่ดี เพราะมันทำให้คนอื่นเข้าใจว่า S มีคนใหม่ และทิ้ง จขกท ไป หลังจากนั้น S ก็ Block จขกท ทุกช่องทาง และ จขกท ก็ไม่เคยได้กลับไปอยู่ในชีวิตของ S อีกเลย ไม่ว่าจะในฐานะไหนก็ตาม



จขกท เคยคิดนะว่าเรื่องราวระหว่าง S และ จขกท เกิดขึ้นแค่เพียง 4 เดือน มันไม่ได้นานมากมายอะไรเลย คงใช้เวลาไม่นานในการลืม และ จขกท เองก็คงจะลืม S ไปได้ซักวัน แต่มันก็ไม่เป็นแบบที่คิด ผ่านเวลามา 1 ปี แล้ว ความรู้สึกผิดที่มี ยังคงอยู่ลึกๆในใจ ไม่เคยหายไปไหน ถึง จขกท จะไม่ได้เสียใจ ไม่ได้ฟูมฟาย เหมือนเมื่อก่อน แต่มันก็เป็นเหมือนแผลลึก ที่สะกิดทีไรก็ยังรู้สึก จขกท ไม่ได้รอ ไม่ได้หวังว่าวันนึงจะได้กลับมาคบกัน เพราะรู้และเข้าใจว่ามันไม่มีวันนั้น แต่ถ้าสามารถย้อนเวลากลับไปได้ จขกท ก็อยากกลับไปแก้ไข ในความผิดพลาดนั้น ถึงแม้ว่า ต่อให้แก้ไขแล้ว ผลลัพธ์ของความสัมพันธ์ มันจะไม่เปลี่ยนไปจากเดิมก็ตาม อยาก..ที่จะกลับไปใช้เวลาตรงนั้นให้คุ้มค่า และไม่ปล่อยให้เวลาหมดไปกับความลังเล ความไม่แน่ใจอีก เพราะรู้ซึ้งแล้วว่า แต่ละวันมันมีความหมายมากแค่ไหน และทุกๆวันคือ โอกาส เราควรทำในส่วนของเราให้เต็มที่ และทำให้ดีที่สุด เพราะต่อให้ทุกอย่างจบลง จะไม่ต้องมาเสียใจ และรู้สึกค้างคาในวันที่คิดได้ แต่ไม่มีโอกาสอีกแล้ว T____T
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่