Along with the Gods: The Two Worlds ฝ่า 7 นรกไปกับพระเจ้า
เรื่องย่อ
โดยหนังจะเล่าเรื่องของ คิม จาฮง (ชา แทฮยอน) นักดับเพลิงเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิด เขาถูกนำตัวไปยังปรโลกเคียงคู่กับเหล่าเทพผู้พิทักษ์ทั้งสาม คือ ผู้นำทีมเทพผู้พิทักษ์ คังลิม (ฮา จุงวู), เทพนักต่อสู้ฝีมือกล้าแกร่ง เฮวอนเมก (จู จีฮุน) และ เทพแห่งมันสมอง ดัคชุน (คิม ฮยางกี) นำไปสู่การผจญภัยฝ่าขุมนรกแห่งบาปทั้ง 7 ที่ทั้งมนุษย์และทวยเทพต้องยำเกรง ได้แก่ นรกแห่งบาปฆาตกรรม, นรกแห่งบาปเกียจคร้าน, นรกแห่งบาปหลอกลวง, นรกแห่งบาปอยุติธรรม, นรกแห่งบาปทรยศ, นรกแห่งบาปความรุนแรง, นรกแห่งบาปอกตัญญู เพื่อพิสูจน์ตัวตนให้ผ่านด่านพิพากษาจาก ราชันย์ยอมรา (รับบทโดย อี จุงแจ) เทพแห่งนรก เพื่อจะได้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้งภายในกำหนดเวลา 49 วัน และในขณะเดียวกันเพื่อตามล่าสืบค้นเบื้องหลังปริศนาในตัวของ คิม จาฮง เหล่าเทพผู้พิทักษ์จึงต้องเดินทางมายังโลกของมนุษย์ เพื่อพิสูจน์ตัวตนที่แท้จริงของชีวิตที่พวกเขากำลังปกป้อง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ชอบฉากความทรมานของนรกแต่ละชั้นมาก คือทำออกมาได้สื่อกับชั้นของนรกชั้นนั้นๆ ดูยิ่งใหญ่และน่ากลัวมากถ้าต้องไปเจออะไรแบบนั้น อย่างเช่น นรกแห่งบาปเกียจคร้าน ฉากวงล้อยัก ถ้าใครไม่วิ่งก็จะโดนทับตาย ใครโดดหรือตกลงไปในน้ำก็โดนกัดตาย, นรกแห่งบาปความรุนแรง ก็จะโดนก้อนหินกระแทกทรมานวนเป็นวงกลมอยู่อย่างนั้น
<< ตรงนี้สปอยนะ
รีวิว
ไม่คิดว่าจะมีหนังเรื่องใหนในปี 2017 นี้ที่ทำให้ให้ร้องให้ได้อีกแล้วนะ หลังจากเรื่อง Kimi no Suizo wo Tabetai ตับอ่อนเธอนั้น ขอฉันเถอะนะ แต่พอได้ดูเรื่องนี้จบ มันไม่ใช่แค่ซึมๆนะสิ แต่สะอึกสะอื้นเป็นบ้านเป็นหลัง ตอนแรกก็คิดว่ามันจะดราม่าอะไรขนาดนี้นะ
ถ้าดูจากหน้าปกหนังใครๆก็คิดว่ามันต้องเป็นหนังแอคชั่น แฟนตาซี ผจญภัยประมาณนั้น แต่พอเอาเข้าจริง เปิดเรื่องมาหนังเข้าเรื่องเร็วมาก ไม่ต้องท้าวความอะไรให้ยืดยาด พอดูๆไปหนังจะพยายามเฉลยถึงสิ่งที่เราสงสัยออกมาทีละหน่อย เหมือนจะเป็นอย่างที่คิดว่ามันต้องแอคชั่นแน่ๆ พอดูไปดูมา เอ้า! หนังกลับมีความดราม่าซะงั้น ไม่ใช่ดราม่าธรรมดานะ ดราม่าโคตรหนักหน่วงตลอดทั้งเรื่อง
หนังเหมือนจะไม่มีปมเยอะมากมายในตอนแรกนะ แต่พอดูๆไปปมของตัวละคร
ค่อยๆโผล่มา ยิ่งหนังดำเนินเรื่องไปปม
ก็เยอะขึ้นเรื่อยๆ เยอะไม่พอ พอผ่านแต่ละ Point ก็เอาปมที่ว่ามาขยี้ให้ซึ้งให้เศร้าให้น้ำตาแตกกันเป็นพักๆ ขยี้ไม่พอมีพลิกปมก็มี โอ้โห แล้วไม่ใช่แค่ปมเพื่อนนะ ปมพี่น้อง ปมพ่อแม่ เอามาหมด พอถึงฉากคลายปมสุดท้ายนะคือแบบ คลายได้หลายชั้นมากกก โอ้ God ร้องให้น้ำตาแตกสะอึกสะอื้นแบบเป็นสิบนาที เจ็บจี๊ดเลยจร้าาาา (จะดราม่าหนักหน่วงไปใหนเนี่ย น้ำตาไหลไปเป็นลิตรละ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ได้เห็นเรื่องราวของ จาฮง ในฉากย้อนความทรงจำตอนที่ทะเลาะกับน้อง ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรนะ คิดว่าเป็นเรื่องทะเลาะของพี่น้องธรรมดาแหละนะ หลังจากนั้นก่อนจะไปนรกแห่งบาปอกตัญญู คือช๊อกมาก จากฉากที่น้องจาฮงเล่าให้เทพผู้พิทักษ์ คังลิมฟัง ซึ่งเทพแห่งมันสมอง ดัคชุนเองก็เอ่ยขึ้นมาถาม คือแบบว่าเฮ้ยจาฮงจะฆ่าแม่ทำไมวะ อะไรยังไง มันต้องมีเหตผลสิ คือแบบมิน่าละนรกชั้นนี้ถึงมาอยู่ลำดับสุดท้าย แล้ว จาฮงจะรอดมั้ยวะเนี่ยจะพีคไปใหนวะเนี่ย และถึงแม้เขาเองจะแก้ต่างว่าไม่ได้อยากฆ่าแม่แค่คนเดียวแต่อยากฆ่าทุกคนรวมถึงตัวเขาด้วยเพราะทนกับโชคชะตาของครอบครัวไม่ได้ ทั้งแม่เองก็ป่วยหนักมาก ทั้งตัวเองกับน้องก็คอยเป็นภาระให้แม่
ตอนแรกก็ว่าพีคพอละนะ หลังจากที่ไปถึงนรกแห่งบาปอกตัญญู โอ๊ยยยช๊อกอีกแล้วครับท่าน พีคในพีค คือฉากที่ราชันย์ยอมรา ให้จาฮง เห็นว่าความจริงแล้วแม่เขาเองก็รู้ตัวตอนเขาจะฆ่าแม่ตัวเอง คือแบบบฉากนี้ โอ้โหเฮ้ย ไรไรวะเนี่ย ดราม่าซ้อนดราม่า น้ำตาแตกสุดๆอะคือแบบสะอึกสะอื้น ร้องให้โฮออกมาเลย อะไรจะเจ็บปวดได้ถึงเพียงนี้นะบีบหัวใจมากๆ ขนาดนั่งดูยังรู้สึกเจ็บแทนมากๆ
จาฮงถึงกับเข่าทรุดยอมรับชะตากรรมเลยฉากนี้ เทพที่คอยช่วยเหลือจาฮงเองก็เป็นไปตามๆกัน แต่เฮ้ยมันจะจบแบบนี้หรอ แบบนี้ไม่ได้สิ แล้วฉากพีคสุดท้ายก็มาเมื่อน้องของจาฮง ได้ไปเข้าฝันแม่เพื่อบอกความจริงว่าตัวเองตายแล้วและจะมาลาแม่ไปอยู่บนสวรรค์ แล้วแม่เขาก็ตอบกลับมา ประมาณว่า แม่ให้อภัย เป็นเพราะแม่ผิดเองที่ให้ลูกทั้งสองได้ไม่ดีพอ โอ๊ยยยย เจ็บอีกแล้ว เจ็บจริงๆอันนี้ คราวนี้จากที่ร้องให้จากความเศร้ายังไม่หาย กลายเป็นร้องให้ต่อด้วยความซึ้งและเป็นอารมที่แบบว่าโคตรซึ้ง โคตรอบอุ่นเลยโคตรยิ่งใหญ่เลยความรักที่แม่คนนึงจะมีให้ลูกได้ อารมณ์ ณ ตอนนั้นมันไปหมดแล้ว พูดไม่ออก มันไหลไปกับน้ำตาหมดแล้ว T_T
<< ตรงนี้สปอยนะ
แต่ถึงจะมีดราม่าหนักหน่วง หนังก็ยังมีส่วนฮาๆ ตลกๆมาให้หายสะอึกสะอื้นปนๆกันไปอยู่บ้าง มุขแต่ละมุขส่วนใหญ่ก็เป็นมุขแบบเกาหลีมากๆอะ แบบว่าไม่ต้องใช้คำพูดอะไรมากมายให้มันฮาเลยนะ (ถ้าคนดูซี่รี่ย์เกาหลีมาเยอะจะพอเดาได้ว่ามันเป็นยังไง) ใช้แค่กริยาท่าทาง สีหน้าและการแอคติ้ง เออ มันฮานะเฮ้ย มันฮาจริงๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
โดยเฉพาะฉากที่เทพผู้พิทักษ์ คังลิมร้องเพลง และ ตอนจ๊ะเอ๋กับแม่ของจาฮง 5555+
<< ตรงนี้สปอยนะ
ตัวหนังมีการดำเนินเรื่องที่ค่อนข้างเร็ว ตรงใหนส่วนใหนที่คิดว่าคนดูน่าะรู้อยู่แล้วก็ไม่ลงลึกถึงรายละเอียดอะไรมากมาย หลายๆฉากหลายๆปมเป็นการดำเนินเรื่องในแบบที่ให้คนดูได้คิดตามว่าท้ายแล้วจะเป็นอย่างไร บางส่วนที่ซับซ้อนหรือยากเกินไปที่จะคิดตามตัวหนังก็มีความผ่อนความเร็วลง เพื่อให้คนดูได้มีเวลาในการคิด และหายใจด้วยเช่นกัน
ฉากแอคชั่นต่อสู้โคตรเจ๋งมาก ทั้งฉากต่อสู้ ฟันดาบ การใช้อาวุธต่างๆ ที่ตัวละครทุ่มเข้าใส่กันมันมีความเท่ มีความเป๊ะ มีความมาด ยิ่งได้พระเอกแถวหน้าอย่างจุงวู และจีฮุนมาเล่นในบทนี้แล้วคือแบบว่าเท่ Susๆ อย่างกะนีโอใน The Matrix อะ โอ๊ยยยย โคตรเท่ เท่ Shift หาย ฉากไล่ล่าก็ไม่ธรรมดานะ แต่ละฉากนี่จัดเต็ม (อย่างกับ Volcano High ศึกป่วนฟ้าโรงเรียน มหาเวทย์ + Man of Streel) คือแบบว่าแต่ละฉากโคตรเจ๋งทั้งมุมกล้อง ทั้งวิธีการเคลื่อนที่ วิธีการวาร์ปของเทพกับวิญญาณ ดูแล้วตะโกน Here ออกมาดังมาก โอยยย ส่วน ฉากทำลายล้างก็เล่นใหญ่ดีมาก ถึงแม้บางส่วน CG อาจดูลอยๆไปหน่อย แต่แทบลืมไปได้เลยเพราะได้ส่วนของความดราม่ามาบังไว้หมด ยกนิ้วให้เลยตรงนี้
ที่เด็ดไม่แพ้กันเลยคงจะหนีไม่พ้น ซาวด์หรือสกอร์ประกอบ ฉากไล่ล่าก็ลุ้นกันกันแบบใจหายใจคว่ำ ฉากใหนต่อสู้ก็มันส์เวอะๆ อย่างกะหนังฮอลลีวูด ฉากเรียกน้ำตากก็บิวท์ซะแทบบ่อน้ำตาแตกกันไปข้างนึงอะ เออชอบมากตรงนี้ ถึงแม้ว่าซาวด์จะไม่ติดหูสักเท่าไหร่หลังดูหนังจบ แต่มันก็เจ๋งมากที่ทำให้อารมของเรานั้นอินไปกับภาพที่ดูอยู่ได้ปรบมือ
สนุกมากๆ สนุกที่สุด ไม่รู้จะหักคะแนนไปเพื่ออะไร ฮา จุงวู มาดโคตรเข้ม ฉากชูดาบแต่ละฉากนี่โคตรเท่
วายป่วง ทางด้าน จู จีฮุน ก็มาดนิ่งๆ แต่ฉากเสกอาวุธแล้ววิ่งไปสู้นี่แบบว่า โอ้โหมีความนิ่งและเท่วัวตายความล้มอะ (เจ้าชายเย็นชาเวอร์ชั่นนักรบ) ส่วน คิม ฮยางกี ก็มีความสดใสน่ารักมากๆ เธอคือความสดใสในเรื่องเลยก็ว่าได้ และ ชา แทฮยอน ถึงแม้จะไมีค่อยได้แสดงฉากแอ็คชั่นอะไรแต่ก็แสดงอารมได้ดีเหลือเกิน อย่างกะนายเจี๋ยมเจี้ยมเวอร์ชั่นดราม่าขั้นอัพสกิล (อันที่จริงหนังมีดาราดังคนอื่นๆมาเล่นด้วยเยอะนะ แต่ต้องไปสังเกตเอาเองนะ ถ้าเป็นคอหนังหรือซีรีย์เกาหลี ก็น่าจะดูได้ไม่ยาก)
หลังจากดูจบได้ข้อคิดเยอะมากนะเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การใช้ชีวิตอย่างไรให้คุ้มค่า การช่วยเหลือผู้อื่น การคิดร้ายคิดดีต่อกัน และท้ายที่สุดเลยที่เห็นหลักๆคือ การกตัญญู (อยากกลับบ้านไปกอดแม่มากๆ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หลังจากดูจบ จะรู้เลยว่าจุดพีคท้ายเรื่องนั้นสอนอะไรที่เด่นๆไว้บ้าง โดยเฉพาะความรักความอบอุนของครอบครัว ที่บางครั้งเราเลือกเกิดไม่ได้ บางครั้งพ่อแม่ก็ให้อะไรลูกไม่ได้ ถึงแม้ว่าลูกจะโกรธแค้นพ่อแม่ยังไง อาจไม่ได้ดี หวือหวา หรือสมบูรณ์เหมือนคนอื่นเขา แต่สิ่งที่พ่อแม่ให้ได้คือยอมตายแทนลูกๆได้ (อยากกลับไปกอดแม่เลย T_T)
ให้คะแนนเลยนะไม่ต้องคิดอะไรมาก 10/10 ก็ตามนี้ ชอบมาก (กำลังจะไปดูอีกรอบ ^^)
มาร่วมแชร์ความรู้สึกหลังดูหนังกันครับ
[รีวิวหนัง] Along with the Gods: The Two Worlds | ทำไมหนังมันดีอย่างนี้ + มาแสดงความรู้สึกหลังดูกันครับ [สปอย+ไม่สปอย]
เรื่องย่อ
โดยหนังจะเล่าเรื่องของ คิม จาฮง (ชา แทฮยอน) นักดับเพลิงเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิด เขาถูกนำตัวไปยังปรโลกเคียงคู่กับเหล่าเทพผู้พิทักษ์ทั้งสาม คือ ผู้นำทีมเทพผู้พิทักษ์ คังลิม (ฮา จุงวู), เทพนักต่อสู้ฝีมือกล้าแกร่ง เฮวอนเมก (จู จีฮุน) และ เทพแห่งมันสมอง ดัคชุน (คิม ฮยางกี) นำไปสู่การผจญภัยฝ่าขุมนรกแห่งบาปทั้ง 7 ที่ทั้งมนุษย์และทวยเทพต้องยำเกรง ได้แก่ นรกแห่งบาปฆาตกรรม, นรกแห่งบาปเกียจคร้าน, นรกแห่งบาปหลอกลวง, นรกแห่งบาปอยุติธรรม, นรกแห่งบาปทรยศ, นรกแห่งบาปความรุนแรง, นรกแห่งบาปอกตัญญู เพื่อพิสูจน์ตัวตนให้ผ่านด่านพิพากษาจาก ราชันย์ยอมรา (รับบทโดย อี จุงแจ) เทพแห่งนรก เพื่อจะได้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้งภายในกำหนดเวลา 49 วัน และในขณะเดียวกันเพื่อตามล่าสืบค้นเบื้องหลังปริศนาในตัวของ คิม จาฮง เหล่าเทพผู้พิทักษ์จึงต้องเดินทางมายังโลกของมนุษย์ เพื่อพิสูจน์ตัวตนที่แท้จริงของชีวิตที่พวกเขากำลังปกป้อง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ << ตรงนี้สปอยนะ
รีวิว
ไม่คิดว่าจะมีหนังเรื่องใหนในปี 2017 นี้ที่ทำให้ให้ร้องให้ได้อีกแล้วนะ หลังจากเรื่อง Kimi no Suizo wo Tabetai ตับอ่อนเธอนั้น ขอฉันเถอะนะ แต่พอได้ดูเรื่องนี้จบ มันไม่ใช่แค่ซึมๆนะสิ แต่สะอึกสะอื้นเป็นบ้านเป็นหลัง ตอนแรกก็คิดว่ามันจะดราม่าอะไรขนาดนี้นะ
ถ้าดูจากหน้าปกหนังใครๆก็คิดว่ามันต้องเป็นหนังแอคชั่น แฟนตาซี ผจญภัยประมาณนั้น แต่พอเอาเข้าจริง เปิดเรื่องมาหนังเข้าเรื่องเร็วมาก ไม่ต้องท้าวความอะไรให้ยืดยาด พอดูๆไปหนังจะพยายามเฉลยถึงสิ่งที่เราสงสัยออกมาทีละหน่อย เหมือนจะเป็นอย่างที่คิดว่ามันต้องแอคชั่นแน่ๆ พอดูไปดูมา เอ้า! หนังกลับมีความดราม่าซะงั้น ไม่ใช่ดราม่าธรรมดานะ ดราม่าโคตรหนักหน่วงตลอดทั้งเรื่อง
หนังเหมือนจะไม่มีปมเยอะมากมายในตอนแรกนะ แต่พอดูๆไปปมของตัวละครค่อยๆโผล่มา ยิ่งหนังดำเนินเรื่องไปปมก็เยอะขึ้นเรื่อยๆ เยอะไม่พอ พอผ่านแต่ละ Point ก็เอาปมที่ว่ามาขยี้ให้ซึ้งให้เศร้าให้น้ำตาแตกกันเป็นพักๆ ขยี้ไม่พอมีพลิกปมก็มี โอ้โห แล้วไม่ใช่แค่ปมเพื่อนนะ ปมพี่น้อง ปมพ่อแม่ เอามาหมด พอถึงฉากคลายปมสุดท้ายนะคือแบบ คลายได้หลายชั้นมากกก โอ้ God ร้องให้น้ำตาแตกสะอึกสะอื้นแบบเป็นสิบนาที เจ็บจี๊ดเลยจร้าาาา (จะดราม่าหนักหน่วงไปใหนเนี่ย น้ำตาไหลไปเป็นลิตรละ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ << ตรงนี้สปอยนะ
แต่ถึงจะมีดราม่าหนักหน่วง หนังก็ยังมีส่วนฮาๆ ตลกๆมาให้หายสะอึกสะอื้นปนๆกันไปอยู่บ้าง มุขแต่ละมุขส่วนใหญ่ก็เป็นมุขแบบเกาหลีมากๆอะ แบบว่าไม่ต้องใช้คำพูดอะไรมากมายให้มันฮาเลยนะ (ถ้าคนดูซี่รี่ย์เกาหลีมาเยอะจะพอเดาได้ว่ามันเป็นยังไง) ใช้แค่กริยาท่าทาง สีหน้าและการแอคติ้ง เออ มันฮานะเฮ้ย มันฮาจริงๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ << ตรงนี้สปอยนะ
ตัวหนังมีการดำเนินเรื่องที่ค่อนข้างเร็ว ตรงใหนส่วนใหนที่คิดว่าคนดูน่าะรู้อยู่แล้วก็ไม่ลงลึกถึงรายละเอียดอะไรมากมาย หลายๆฉากหลายๆปมเป็นการดำเนินเรื่องในแบบที่ให้คนดูได้คิดตามว่าท้ายแล้วจะเป็นอย่างไร บางส่วนที่ซับซ้อนหรือยากเกินไปที่จะคิดตามตัวหนังก็มีความผ่อนความเร็วลง เพื่อให้คนดูได้มีเวลาในการคิด และหายใจด้วยเช่นกัน
ฉากแอคชั่นต่อสู้โคตรเจ๋งมาก ทั้งฉากต่อสู้ ฟันดาบ การใช้อาวุธต่างๆ ที่ตัวละครทุ่มเข้าใส่กันมันมีความเท่ มีความเป๊ะ มีความมาด ยิ่งได้พระเอกแถวหน้าอย่างจุงวู และจีฮุนมาเล่นในบทนี้แล้วคือแบบว่าเท่ Susๆ อย่างกะนีโอใน The Matrix อะ โอ๊ยยยย โคตรเท่ เท่ Shift หาย ฉากไล่ล่าก็ไม่ธรรมดานะ แต่ละฉากนี่จัดเต็ม (อย่างกับ Volcano High ศึกป่วนฟ้าโรงเรียน มหาเวทย์ + Man of Streel) คือแบบว่าแต่ละฉากโคตรเจ๋งทั้งมุมกล้อง ทั้งวิธีการเคลื่อนที่ วิธีการวาร์ปของเทพกับวิญญาณ ดูแล้วตะโกน Here ออกมาดังมาก โอยยย ส่วน ฉากทำลายล้างก็เล่นใหญ่ดีมาก ถึงแม้บางส่วน CG อาจดูลอยๆไปหน่อย แต่แทบลืมไปได้เลยเพราะได้ส่วนของความดราม่ามาบังไว้หมด ยกนิ้วให้เลยตรงนี้
ที่เด็ดไม่แพ้กันเลยคงจะหนีไม่พ้น ซาวด์หรือสกอร์ประกอบ ฉากไล่ล่าก็ลุ้นกันกันแบบใจหายใจคว่ำ ฉากใหนต่อสู้ก็มันส์เวอะๆ อย่างกะหนังฮอลลีวูด ฉากเรียกน้ำตากก็บิวท์ซะแทบบ่อน้ำตาแตกกันไปข้างนึงอะ เออชอบมากตรงนี้ ถึงแม้ว่าซาวด์จะไม่ติดหูสักเท่าไหร่หลังดูหนังจบ แต่มันก็เจ๋งมากที่ทำให้อารมของเรานั้นอินไปกับภาพที่ดูอยู่ได้ปรบมือ
สนุกมากๆ สนุกที่สุด ไม่รู้จะหักคะแนนไปเพื่ออะไร ฮา จุงวู มาดโคตรเข้ม ฉากชูดาบแต่ละฉากนี่โคตรเท่วายป่วง ทางด้าน จู จีฮุน ก็มาดนิ่งๆ แต่ฉากเสกอาวุธแล้ววิ่งไปสู้นี่แบบว่า โอ้โหมีความนิ่งและเท่วัวตายความล้มอะ (เจ้าชายเย็นชาเวอร์ชั่นนักรบ) ส่วน คิม ฮยางกี ก็มีความสดใสน่ารักมากๆ เธอคือความสดใสในเรื่องเลยก็ว่าได้ และ ชา แทฮยอน ถึงแม้จะไมีค่อยได้แสดงฉากแอ็คชั่นอะไรแต่ก็แสดงอารมได้ดีเหลือเกิน อย่างกะนายเจี๋ยมเจี้ยมเวอร์ชั่นดราม่าขั้นอัพสกิล (อันที่จริงหนังมีดาราดังคนอื่นๆมาเล่นด้วยเยอะนะ แต่ต้องไปสังเกตเอาเองนะ ถ้าเป็นคอหนังหรือซีรีย์เกาหลี ก็น่าจะดูได้ไม่ยาก)
หลังจากดูจบได้ข้อคิดเยอะมากนะเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การใช้ชีวิตอย่างไรให้คุ้มค่า การช่วยเหลือผู้อื่น การคิดร้ายคิดดีต่อกัน และท้ายที่สุดเลยที่เห็นหลักๆคือ การกตัญญู (อยากกลับบ้านไปกอดแม่มากๆ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ให้คะแนนเลยนะไม่ต้องคิดอะไรมาก 10/10 ก็ตามนี้ ชอบมาก (กำลังจะไปดูอีกรอบ ^^)