อัพเดทอาการป่วย "ไข้เรื้อรัง 1 เดือน"
เราไม่มีโรคประจำตัว ไม่ได้เป็นไข้มา 3 ปีได้แล้ว
แต่มีวันนึงไปโดนแอร์แรงมากที่ทำงาน
- 4 วันแรก มีไข้เฉลี่ย 38.7 ไม่ปวดหัว ไม่มีน้ำมูก ไม่ไอ
ไม่มีเสมหะ (กินพาราทุก 4 ชม.)
- 4 วันต่อมา ไข้ยังสูงเหมือนเดิม มีอาการเจ็บคอเพิ่ม
อุณหภูมิที่บริเวณคอค่อนข้างสูง ส่องคอดูไม่แดง
เริ่มทานอาหารได้น้อยลง เพราะเจ็บคอ (พาราเริ่มเอาไม่อยู่)
ไปซื้อยากินเอง Tylenol 8 Hour + ยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร (เพราะคิดว่าตัวเองร้อนใน)
- วันที่ 9 ยังไม่ดีขึ้น ไปพบหมอที่ รพ. รัฐ สิทธิ์ประกันสังคม
เล่าทุกอย่างให้หมอฟัง หมอให้ตรวจเลือด + X-Ray ปอด
ผลที่ออกมาคือ ผลเลือดทุกอย่างเป็นปกติ ปอดมีพังผืด
แต่หมออธิบายให้ฟังว่าไม่อันตราย หมอจะไม่จ่ายยาให้
เพราะเราไม่ได้เป็นอะไร ให้กลับไปพัก
จ่ายเพียงยาแก้ปวดกับวิตามินบำรุงร่างกาย (7วัน)
ปล.หมอไม่นัด ถ้ารู้สึกไม่ดีขึ้นก็กลับมาตรวจใหม่
- 7 วันที่กินยาหมอ เหมือนเรื่องไข้จะดีขึ้น
เพราะตัวเราเองก็ปรับตัว เข้านอนไวก่อน 4 ทุ่ม
ตื่นเช้ามา 7 วันนี้ได้ออกกำลังกายบ้าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้- ระหว่างนั้นมีแอบไปตรวจ รพ. เอกชน บ้าง
หมอบอกว่าเป็นไข้หวัด แอดมิดห้องพิเศษเลย
(เราไม่ได้เป็นหวัด เราตัดสินใจกลับบ้าน)
- ครบ 1 เดือน ไข้ไม่ลด บางวันก็ขึ้นสูงจนโงหัวไม่ขึ้น
อาการเจ็บคอร้อนคอก็หนักขึ้น มีอาการหนาวสั่นเพิ่มขึ้นมา
เราลดกินยาพาราเหลือ 1 เม็ด เพราะน้ำหนักเราลดไป 3 กิโล
เวลากินยาพาราเข้าไป อาการหนาวสั่นลดลงภายในเวลา 15 นาที แต่ไข้ไม่ลด ใช้วิธีเช็ดตัว
- กลับไปตรวจซ้ำที่ รพ. รัฐ สิทธิ์ประกันสังคม
พบหมอคนเดิม หมอเริ่มสงสัยว่าทำไมยังไม่หาย
หมอขอเจาะเลือดซ้ำ ตรวจตับ ไต HIV
(งวดนี้เอาเลือดไปเยอะกว่าเดิม แทบเป็นลม)
ตรวจปัสสาวะ X-Ray ปอดซ้ำอีกรอบ
ผลออกหลัง 4 โมงเย็น ต้องย้ายลงไปห้องฉุกเฉิน
6 โมง ผลตรวจออกมาปกติทุกอย่าง
แต่โดนหมออายุรกรรม (หญิง) จับเราถกเสื้อ คลำตามร่างกาย
สอบถามการใช้ชีวิตประจำวัน เรื่องการอยู่ร่วมกับผู้ป่วยวัณโรค
ซึ่งเราไม่มีภาวะเสี่ยง
หมอแจ้งว่า เรามีต่อมน้ำเหลืองโต 2 จุด อยู่ที่บริเวณไหปลาร้า
หมอขอให้เราช่วยเก็บเสมหะในช่วงเช้าหลังตื่นนอน 3 วัน
แล้วเอามาส่งที่ห้องแล็บทุกวัน
วันที่ 3 ให้มาเช้าๆพร้อมฟังผลวัณโรค
- เก็บเสมหะครบ 3 วัน เรามั่นใจมากว่าไม่เป็นวัณโรค
เพราะเราไม่ไอมา 2 ปีแล้ว (ไอหนักๆครั้งล่าสุดคือ แพ้เกษรดอกลิลลี่)
ผลตรวจออกมาเราไม่เป็นวัณโรค
พบหมออายุรกรรม หมอกังวลเรื่องมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
เลยรีบส่งต่อแผนกศัลยกรรมให้ตัดชิ้นเนื้อในช่วงบ่ายวันนั้น
ไปตรวจหาสาเหตุ
หมออธิบายว่า สิ่งที่น่าจะเป็นไปได้ คือ
- มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
- วัณโรคต่อมน้ำเหลือง
- ติดเชื้อจากทางเดินหายใจ
- ไม่พบสาเหตุ
แต่หมอศัลยกรรมทำได้เพียงเจาะเอาน้ำเหลืองบริเวณที่เป็นไปตรวจ
จำนวน 3 หลอด (หมอบอกว่าเป็นไปตามขั้นตอน)
หมออยายุรกรรมจ่ายวิตามินบำรุงเม็ดเลือดแดง
บำรุงให้ทานอาหารได้ เพื่อเตรียมความพร้อม
ถ้าผลออกมาว่าเป็นมะเร็งก็รับการรักษาด้วยเคมีบำบัด
ระหว่างนี้ถ้าไข้ยังไม่ลดให้กินพาราไปเหมือนเดิม
หมอยังจ่ายยาอะไรให้ไม่ได้เพราะยังไม่ทราบสาเหตุ
และห้ามซื้อยากินเองเด็ดขาด
รอผลแล็บ พบหมอต้นเดือนมกราคม 2561
2 วันแรกที่ทานวิตามินบำรุงเข้าไป
มีอาการเวียนหัว แน่นหน้าอก เป็นลม
เลยรู้ว่าตัวเองแพ้กรดโฟลิกที่หมอจ่ายมาให้
โทรไปปรึกษาพยาบาลที่แผนกอายุรกรรม พยาบาลแนะนำ
ให้หยุดยาและกลับมาพบหมอคนเดิม
พบกันปีหน้านะคะ ตอนนี้เหนื่อยมากแล้ว
ถึงแม้ว่าผลตรวจจะออกมาเป็นอย่างไร
เราจะสู้และรักษาให้ถึงที่สุด
ขอบคุณครอบครัวของเรา คนที่เรารักและคนที่รักเรา
ที่คอยให้กำลังใจกันตลอด
สุดท้ายนี้ ขอบคุณที่อ่านเรื่องราวของเราจนมาถึงบรรทัดนี้
ใครรู้ตัวว่าอายุมากกว่า 20 ปี
ตรวจคลำต่อมน้ำเหลืองตามจุดต่างๆของร่างกาย ทุกๆ 1 เดือน
ไม่ว่าจะเป็นที่หลังหู ใต้คาง คอ ไหปลาร้า ใต้รักแร้ ขาหนีบ
หากพบก้อนแข็งๆ ไม่ดิ้น คลำแล้วเจ็บหรือไม่เจ็บก็ตาม
ให้รีบไปพบแพทย์ เพราะต่อมน้ำเหลืองโตเป็นภัยเงียบที่คาดไม่ถึงจริงๆ
วิธีตรวจเช็คต่อมน้ำเหลืองโตตามร่างกาย
http://youtu.be/zvzmebg30dc
และในช่วงปีใหม่นี้ขอให้คุณพระศรีรัตนตรัย
ช่วยคุ้มครองให้ทุกคนปลอดภัยจากอันตราย
และปราศจากโรคภัยไข้เจ็บด้วยเทอญ
แบ่งปันประสบการณ์ไข้เรื้อรัง ภัยเงียบต่อมน้ำเหลืองโต
เราไม่มีโรคประจำตัว ไม่ได้เป็นไข้มา 3 ปีได้แล้ว
แต่มีวันนึงไปโดนแอร์แรงมากที่ทำงาน
- 4 วันแรก มีไข้เฉลี่ย 38.7 ไม่ปวดหัว ไม่มีน้ำมูก ไม่ไอ
ไม่มีเสมหะ (กินพาราทุก 4 ชม.)
- 4 วันต่อมา ไข้ยังสูงเหมือนเดิม มีอาการเจ็บคอเพิ่ม
อุณหภูมิที่บริเวณคอค่อนข้างสูง ส่องคอดูไม่แดง
เริ่มทานอาหารได้น้อยลง เพราะเจ็บคอ (พาราเริ่มเอาไม่อยู่)
ไปซื้อยากินเอง Tylenol 8 Hour + ยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร (เพราะคิดว่าตัวเองร้อนใน)
- วันที่ 9 ยังไม่ดีขึ้น ไปพบหมอที่ รพ. รัฐ สิทธิ์ประกันสังคม
เล่าทุกอย่างให้หมอฟัง หมอให้ตรวจเลือด + X-Ray ปอด
ผลที่ออกมาคือ ผลเลือดทุกอย่างเป็นปกติ ปอดมีพังผืด
แต่หมออธิบายให้ฟังว่าไม่อันตราย หมอจะไม่จ่ายยาให้
เพราะเราไม่ได้เป็นอะไร ให้กลับไปพัก
จ่ายเพียงยาแก้ปวดกับวิตามินบำรุงร่างกาย (7วัน)
ปล.หมอไม่นัด ถ้ารู้สึกไม่ดีขึ้นก็กลับมาตรวจใหม่
- 7 วันที่กินยาหมอ เหมือนเรื่องไข้จะดีขึ้น
เพราะตัวเราเองก็ปรับตัว เข้านอนไวก่อน 4 ทุ่ม
ตื่นเช้ามา 7 วันนี้ได้ออกกำลังกายบ้าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- ครบ 1 เดือน ไข้ไม่ลด บางวันก็ขึ้นสูงจนโงหัวไม่ขึ้น
อาการเจ็บคอร้อนคอก็หนักขึ้น มีอาการหนาวสั่นเพิ่มขึ้นมา
เราลดกินยาพาราเหลือ 1 เม็ด เพราะน้ำหนักเราลดไป 3 กิโล
เวลากินยาพาราเข้าไป อาการหนาวสั่นลดลงภายในเวลา 15 นาที แต่ไข้ไม่ลด ใช้วิธีเช็ดตัว
- กลับไปตรวจซ้ำที่ รพ. รัฐ สิทธิ์ประกันสังคม
พบหมอคนเดิม หมอเริ่มสงสัยว่าทำไมยังไม่หาย
หมอขอเจาะเลือดซ้ำ ตรวจตับ ไต HIV
(งวดนี้เอาเลือดไปเยอะกว่าเดิม แทบเป็นลม)
ตรวจปัสสาวะ X-Ray ปอดซ้ำอีกรอบ
ผลออกหลัง 4 โมงเย็น ต้องย้ายลงไปห้องฉุกเฉิน
6 โมง ผลตรวจออกมาปกติทุกอย่าง
แต่โดนหมออายุรกรรม (หญิง) จับเราถกเสื้อ คลำตามร่างกาย
สอบถามการใช้ชีวิตประจำวัน เรื่องการอยู่ร่วมกับผู้ป่วยวัณโรค
ซึ่งเราไม่มีภาวะเสี่ยง
หมอแจ้งว่า เรามีต่อมน้ำเหลืองโต 2 จุด อยู่ที่บริเวณไหปลาร้า
หมอขอให้เราช่วยเก็บเสมหะในช่วงเช้าหลังตื่นนอน 3 วัน
แล้วเอามาส่งที่ห้องแล็บทุกวัน
วันที่ 3 ให้มาเช้าๆพร้อมฟังผลวัณโรค
- เก็บเสมหะครบ 3 วัน เรามั่นใจมากว่าไม่เป็นวัณโรค
เพราะเราไม่ไอมา 2 ปีแล้ว (ไอหนักๆครั้งล่าสุดคือ แพ้เกษรดอกลิลลี่)
ผลตรวจออกมาเราไม่เป็นวัณโรค
พบหมออายุรกรรม หมอกังวลเรื่องมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
เลยรีบส่งต่อแผนกศัลยกรรมให้ตัดชิ้นเนื้อในช่วงบ่ายวันนั้น
ไปตรวจหาสาเหตุ
หมออธิบายว่า สิ่งที่น่าจะเป็นไปได้ คือ
- มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
- วัณโรคต่อมน้ำเหลือง
- ติดเชื้อจากทางเดินหายใจ
- ไม่พบสาเหตุ
แต่หมอศัลยกรรมทำได้เพียงเจาะเอาน้ำเหลืองบริเวณที่เป็นไปตรวจ
จำนวน 3 หลอด (หมอบอกว่าเป็นไปตามขั้นตอน)
หมออยายุรกรรมจ่ายวิตามินบำรุงเม็ดเลือดแดง
บำรุงให้ทานอาหารได้ เพื่อเตรียมความพร้อม
ถ้าผลออกมาว่าเป็นมะเร็งก็รับการรักษาด้วยเคมีบำบัด
ระหว่างนี้ถ้าไข้ยังไม่ลดให้กินพาราไปเหมือนเดิม
หมอยังจ่ายยาอะไรให้ไม่ได้เพราะยังไม่ทราบสาเหตุ
และห้ามซื้อยากินเองเด็ดขาด
รอผลแล็บ พบหมอต้นเดือนมกราคม 2561
2 วันแรกที่ทานวิตามินบำรุงเข้าไป
มีอาการเวียนหัว แน่นหน้าอก เป็นลม
เลยรู้ว่าตัวเองแพ้กรดโฟลิกที่หมอจ่ายมาให้
โทรไปปรึกษาพยาบาลที่แผนกอายุรกรรม พยาบาลแนะนำ
ให้หยุดยาและกลับมาพบหมอคนเดิม
พบกันปีหน้านะคะ ตอนนี้เหนื่อยมากแล้ว
ถึงแม้ว่าผลตรวจจะออกมาเป็นอย่างไร
เราจะสู้และรักษาให้ถึงที่สุด
ขอบคุณครอบครัวของเรา คนที่เรารักและคนที่รักเรา
ที่คอยให้กำลังใจกันตลอด
สุดท้ายนี้ ขอบคุณที่อ่านเรื่องราวของเราจนมาถึงบรรทัดนี้
ใครรู้ตัวว่าอายุมากกว่า 20 ปี
ตรวจคลำต่อมน้ำเหลืองตามจุดต่างๆของร่างกาย ทุกๆ 1 เดือน
ไม่ว่าจะเป็นที่หลังหู ใต้คาง คอ ไหปลาร้า ใต้รักแร้ ขาหนีบ
หากพบก้อนแข็งๆ ไม่ดิ้น คลำแล้วเจ็บหรือไม่เจ็บก็ตาม
ให้รีบไปพบแพทย์ เพราะต่อมน้ำเหลืองโตเป็นภัยเงียบที่คาดไม่ถึงจริงๆ
วิธีตรวจเช็คต่อมน้ำเหลืองโตตามร่างกาย
http://youtu.be/zvzmebg30dc
และในช่วงปีใหม่นี้ขอให้คุณพระศรีรัตนตรัย
ช่วยคุ้มครองให้ทุกคนปลอดภัยจากอันตราย
และปราศจากโรคภัยไข้เจ็บด้วยเทอญ