จขกท มาทำวิจัยที่ประเทศโปแลนด์เป็นเวลา 6 เดือน ขณะนี้ล่วงเลยเข้ามาเดือนที่ 3 จะหมดแล้ว
อ่านรีวิวไปมา เจอที่นี่น่าสนใจ ไปโลดดดดดด
แผนคร่าวๆ
17/12/17 ไปเช้าเย็นกลับ (Krakow, Poland - Zakopane - Morskie Oko and Back)
จองตั๋ว ตี 4.45 ใช้เวลา 2 ชม 15 นาทีถึงจะถึง Zakopane
นั่งรถตู้ต่อมา National Park ใช้เวลาประมาณไม่เกิน 45 นาที
เดินอีก 2 ชมกว่าๆ ไปกลับ 4 ชมกว่าๆ
ขึ้นรถกลับ 15.45 น.
แผนจริงๆ
Saturday 21.00 น. ต้องรีบหลับเพราะรถเมล์เที่ยวเดียวที่ไปได้คือตี 3.42 พลาดคันนี้คือเดินนนน เตรียมตัวนอน นอนไม่หลับจนเที่ยงคืน ข้างห้องหัวเราะสนุกสนานเสียงดัง
Sunday 2.30 น. เลื่อนนาฬิกาปลุกจนตีสาม ออกมาอาบน้ำ ข้างห้องเพิ่งกลับห้องตัวเอง
3.40 วิ่งจ้ำอ้าวไปขึ้นรถ ผมก็ไม่ได้ทำ ข้าวก็กินไม่ทัน กาแฟก็กินไม่หมด ไปแบบหิวๆ และสวยครึ่งๆ กลางๆ (ยังจะห่วง 555+)
สภาพขึ้นรถทันเวลาอย่างเฉียดฉิววว ใส่เสื้ออีกตัวไม่ทัน แต่ถือไป ซึ่งปรากฎว่าไม่หนาวเท่าไร (-1) ต้องถอดเสื้อออกอีก เพราะเหงื่อออก #บ้าบอ
ลงรถแล้วยังต้องเดินไป บขสอีก (Kraków Główny) ในสภาพบรรยากาศ -1 แต่ไม่หนาวมาเพราะไม่มีลม
และคนเยอะมากเพราะเค้าเพิ่งจะเริ่มกลับบ้านกัน
4.30 เจอเพื่อนร่วมทางตามนัด
4.45 รถออกตรงเวลาเด๊ะ จนไปถึงระหว่างทาง เสียสตาร์ทไม่ติดเลย 555+
ชอบมีอะไรให้ตื่นเต้นนิดหน่อยอยู่เรื่อยเลย ลุงคนขับจอดรถข้างทางเพราะรถมีสัญญาณอะไรบางอย่างดัง
ลุงคนขับโทรสอบถามใครบางคน ฟังไม่รู้เรื่องภาษาโปลิช แกออกไปนอกรถ ลองสตาร์ทใหม่ สองรอบเห็นจะได้ และติดในที่สุด
(เก่งมากลูงงงงงง!!) นึกว่าทริปจะล่มซะแว้ววว!!
ประมาณเกือบ 7 โมงก็ถึง zakopane เร็วกว่ากำหนดเพราะถนนโล่งมากก เดินไปเดินมาหารถไปต่อกันสักพัก
ก็พบว่าอยู่ตรงข้ามรถบัสที่เราลงนี่เอง จะมีพี่ๆ คนขับ (เรียกพี่ดีกว่าเนอะ อาจจะแก่กว่าไม่มาก แต่หน้าไปแระ)
เดินมาเรียก (บรรยากาศเหมือนประเทศไทย) Morskie Okoๆ ในขณะนั้นจำไม่ได้แม้กระทั่งชื่อที่ๆ จะไป
พึ่งเพื่อนฝุดๆ แล้วก็นั่งรอกันไปจนคนเต็มรถ 555+
7.30 ออกเดินทางไปทางเข้าอุทยาน คนเก็บเงินคิดว่าเป็นนักเรียน เก็บค่าเข้า 5 zln เท่านักเรียนทั่วไป
โดยไม่เช็คอะไร ไอ้เราก็ยังไม่บอกอายุให้เพื่อนรู้ นักเรียนก็ได้ว่ะ
(ความจริงก็เป็นนักเรียน แต่นักเรียนที่นี่จะได้ส่วนลดต่อเมื่ออายุต่ำหว่า 26 เท่านั้น ชิ เหยียดอายุนี่ฟ่า!)
หลังจากนี้ก็บรรเลงเพลงเดิน ตอนแรกก็คิดว่าเพื่อนจะเหนื่อยหรือเปล่า (แต่เค้าเป็นนักกีฬา ถามตัวเองดีกว่าไหมเฮา)
เราเป็นนักธรณีคุ้นชินกับการเดิน แต่ว่าเดี๋ยวววว การเดินครั้งนี้คือ -7 องศาเซลเซียล
ไม่หนาวเท่าไรนะ ถ้าไม่หยุดพัก ซึ่งก็ไม่ได้หยุดพัก
เพื่อนนั้นเป็นวิศวโยธาและนักกีฬา floorball คล้ายๆ ฮอกกี้แต่ไม่เล่นบนน้ำแข็ง สุดท้ายใครเหนื่อยกว่า รอดูกัน
บรรยากาศทางเข้า
มันค่อนข้างจะหม่นๆ หน่อย ไม่มีแดด เช้าเกิ๊นน!!
อ่อ ก่อนออกเดินทางก็เข้าห้องน้ำก่อน ห้องน้ำจะเป็นกล่องๆ บรรเทาทุกข์ลงไปรวมกัน ไม่มี flush ให้กด ซึ่งใครจะไปเดินที่นี่ ควรเข้าห้องน้ำในเมืองมาก่อน แต่ตอนนั้นในเมืองห้องน้ำยังไม่เปิด
อันนี้ไม่ใช่ห้องน้ำที่เราเข้า แต่เป็นห้องน้ำระหว่างทาง ซึ่งลักษณะเหมือนกัน
มีหมีด้วยเหรอ ไม่เห็นรู้เรื่องเลย ฮ่าๆ
ระหว่างทาง หลายๆ คนอาจจะคิดว่าเราร้องเพลง let’s go จากการ์ตูน frozen แต่ไม่ใช่เลย เราคิดถึงเพลง frozen heart
>>
https://www.youtube.com/watch?v=1Ccgn2I0D94
“…cut through the heart, cold and clear.
Strike for love and strike for fear.
See the beauty, sharp and sheer
Split the ice apart
And break the frozen heart…”
นี่ถ้าแม่มาเห็น แม่ต้องพูดว่า "สวยเหมือนอีแหลงได้" ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องพูดได้ถึงจะสวย แต่มันสวยมากจริงๆ สวยเหมือนไม่มีอยู่จริง
ป้ายบอกอีก 25 นาทีจะถึงห้องน้ำ (แต่ป้ายไม่บอกความเร็วของการเดิน 555)
ความเหนื่อยอยู่ตรงทางลัด ถ้าไปทางม้าวิ่งก็จะเบาๆ หน่อย ทางนี้ก็จะฝึกการเต้น break dance ไปตลอดทาง
เหนื่อยมากทางนี้ อยากไปเกาะเพื่อน แต่เค้าก็น่าจะลำบากเหมือนกัน เกือบจะหยุดเดิน แต่เดินต่อ 555+
Beautiful
Powerful
Dangerous
Cold
โปรดระวังช่วงที่เป็นบันไดให้เดิน บันไดน้ำแข็ง ลื่นมว๊ากกกก ระหว่างเดินไปหายใจดังมาก ถามเพื่อน ทำไมหายใจเบาจัง สงสัยต้องไปออกกำลังกายแระ เค้าออกกำลังกายอาทิตย์ละ 3 วัน เพราะเป็นนักกีฬา ต้องพร้อมเสมอ
เดินเหมือนมีกันสองคน เพราะเช้ามาก ยังไม่มีคนมา มีคนเดินกลับบ้างประปราย มีคู่รักตามหลังถ่ายภาพหวานแหววบ้างประปราย ขณะที่เราเต้น break dance เค้าก็ฮันนีมูนกันไป ชิ!
สวยจนไม่อยากเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง
โอลาฟอยู่ไหนเนี่ย!
ปากทางไปเจอดวงตาของทะเลลลลล!!!
บางภาพอาจจะไม่ชัดบ้างเพราะตัดมาจากวิดีโอ
Here we are! ถึงแว้ววววว
ความจริงก็ไม่ยากนะ แค่เดิน เดิน เดินและก็เดิน พยายามอย่าล้มแค่นั้นเอง 555
Morskie Oko
ที่ๆ ผู้คนยืนอยู่นั้นคือดวงตาของทะเลนั้นเอง ยืนบนน้ำ และแล้วความหนาแน่นของเราก็น้อยกว่าน้ำในที่สุด
ระหว่างจะเดินลง ด้วยความที่มีโกโปรแต่ไม่มีอุปกรณ์เสริม มือนึงถือกล้อง มือนึงจับเชือกลงเดินลงบันไดธรรมดา แต่อย่าลืมว่าบันไดน้ำแข็ง รองเท้าพี่ว่าดีแล้ว ดอกยังกะยางรถยนต์ ยังไม่อยู่ ต้องมีสติจริงๆ บันทึกตัวเองล้มก้นจ้ำเบ้า แต่โกโปรเค้าดี กล้องไม่แกว่งมาก 555
My first Break Dance ever!
สงสารแต่แม่ปลาบู่!! อาศัยอยู่ในฝั่งคงคาาาาา อยู่เพลงนี้ก็แว่บมา
เอิ่มมมมม...ช่วยก่อนมั้ย?
เมื่อล้มลงไปแล้ว เพื่อนถามว่า are you ok? บอกว่า okๆ หันกลับไปดู เค้ายกมือถือขึ้นมาถ่ายรูป ขอบใจมาก มาช่วยก่อนมั้ย 555+ เลยหันไปบอกว่าจะไปกะตูดแล้วนะ สไลด์ไป แต่ก็กลัวเปียก
หนาวเฟ่อออออออ!!! ถ้าจองที่พักใกล้ๆ ไว้ จะเล่น
หลังจากนั้นก็เดินแบบมีสติ แต่ยังก็ยังบันทึกวีดีโออยู่ เราจะไม่ละทิ้งความตั้งใจ แม้อุปสรรคจะมากกมาย
คราวนี้เค้าเดินนำไปก่อน เราก็เหมือนเดิม ถ่ายไปบ่นไป ซึ่งเพิ่งรู้ว่าต้องเดินตรงกลาง ไม่ใช่เดินข้างๆ ที่มีเชือก ตรงกลางยังไม่เป็นน้ำแข็งเพียวๆ ยังมีหิมะ แต่ที่มาเลือกเดินข้างๆ เพราะกลัวร่วงอยากจับเชือก ตรงกลางไม่มีเชือก
ทำท่าจะลื่นอีก เค้าบอก ต้องการมือเค้ามั้ย? จับมือฉันมา?
คิดในใจ ถ้าร่วงสองคนมันจะฮากว่าเดิมมั้ย แต่ก็อ่ะ จับก็ได้ แก่แล้ว ยอมๆ ไป
ถ้าเป็นเมื่อก่อน ไม่จับแน่ๆ เพราะต้องการแสดงความแข็งแกร่งของตัวเองให้โลกรู้
ตอนนั้นฮามาก ไม่คิดอะไร พอกลับมาดูวิดีโอ ก็โรแมนติกไปนะ 555+
คือควรจะเดินตรงที่มีหินโผล่ๆ ไม่ใช่เดินบนสีขาววววว
ดีใจที่ยังสวยอยู่ 555+ (ใครชม?)
สภาพยืนบน lake ไม่ได้กลัวเลยว่าจะร่วง แต่น้ำแข็งค่อนข้างหนา (เดาเอา) หนาวแค่ไหนดูจากน้ำที่พกไป ยกขึ้นมาดื่ม อ้าววว...แข็งซะแระ
บรรยากาศที่พักหลบกินข้าวเที่ยงและความหนาว หนาวมาก หนาวกว่าเดิม
รองเท้าเปียก และหนาวมาก เอา kebab ไป ทุกอย่างแข็ง friedแข็ง ไก่แข็ง ฮือออออ
นั่งไปนั่งมาหยิบเสื้อมาใส่เหมือนเดิม หนาวจนสั่น ขอพักแปปเดียวเดินต่อดีกว่า สร้างความร้อนให้ตัวเอง
ร้านอาหารหน้าทะเลสาบ
บรรยากาศเดินกลับสวยกว่าเดิมอีก เพราะแดดเริ่มออกแล้ว และคนก็เริ่มเดินสวนมาเยอะ
แทบจะมีแค่เราที่เดินกลับ แต่รู้สึกว่าดีกว่ามาตอนคนเยอะ
จะว่าเหนื่อยก็ไม่เท่าไร มันสวยจนหายเหนื่อยยย
แต่ถ้ามีที่นั่งให้คนลาก ก็คงจะสนุก อิอิ
Thank you for coming with me
ขากลับเจอคนนั่งรถม้าไปเยอะ ขามาไม่มีใครนั่งเลย ไม่ได้สอบถามราคาเลยไม่รู้ว่าเท่าไร แฮ่ๆ
น้ำแข็งงอก น้ำแข็งย้อย
สวยจนหมดคำจะพูด
โดดได้หนังตะลุงมาเลยครัชโผมมม น่องแหน่งน่องแหน่ง
เทอสวยยยยยยยย! ทุกนาทีที่เคยสัมผัสสสส
จบทริปไปด้วยเวลาการเดินประมาณ 4 ชม ไป 2 ชมนิดๆ กลับ 1.5 ชมนิดๆ
ตื่นเช้ามาคิดว่าจะปวดขา ดันปวดแขนขวา
เล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนบอกว่า เพราะคุณถ่ายรูปมากเกินไป 555+
ลาก่อยยยย ทริปหน้าเจอกันใหม่
ราตรีสวัสดิ์
[CR] Morskie Oko: Zakopane, Poland ทริปการเดินป่าเข้าไปหาดวงตาของทะเล
จขกท มาทำวิจัยที่ประเทศโปแลนด์เป็นเวลา 6 เดือน ขณะนี้ล่วงเลยเข้ามาเดือนที่ 3 จะหมดแล้ว
อ่านรีวิวไปมา เจอที่นี่น่าสนใจ ไปโลดดดดดด
แผนคร่าวๆ
17/12/17 ไปเช้าเย็นกลับ (Krakow, Poland - Zakopane - Morskie Oko and Back)
จองตั๋ว ตี 4.45 ใช้เวลา 2 ชม 15 นาทีถึงจะถึง Zakopane
นั่งรถตู้ต่อมา National Park ใช้เวลาประมาณไม่เกิน 45 นาที
เดินอีก 2 ชมกว่าๆ ไปกลับ 4 ชมกว่าๆ
ขึ้นรถกลับ 15.45 น.
แผนจริงๆ
Saturday 21.00 น. ต้องรีบหลับเพราะรถเมล์เที่ยวเดียวที่ไปได้คือตี 3.42 พลาดคันนี้คือเดินนนน เตรียมตัวนอน นอนไม่หลับจนเที่ยงคืน ข้างห้องหัวเราะสนุกสนานเสียงดัง
Sunday 2.30 น. เลื่อนนาฬิกาปลุกจนตีสาม ออกมาอาบน้ำ ข้างห้องเพิ่งกลับห้องตัวเอง
3.40 วิ่งจ้ำอ้าวไปขึ้นรถ ผมก็ไม่ได้ทำ ข้าวก็กินไม่ทัน กาแฟก็กินไม่หมด ไปแบบหิวๆ และสวยครึ่งๆ กลางๆ (ยังจะห่วง 555+)
ลงรถแล้วยังต้องเดินไป บขสอีก (Kraków Główny) ในสภาพบรรยากาศ -1 แต่ไม่หนาวมาเพราะไม่มีลม
และคนเยอะมากเพราะเค้าเพิ่งจะเริ่มกลับบ้านกัน
4.30 เจอเพื่อนร่วมทางตามนัด
4.45 รถออกตรงเวลาเด๊ะ จนไปถึงระหว่างทาง เสียสตาร์ทไม่ติดเลย 555+
ชอบมีอะไรให้ตื่นเต้นนิดหน่อยอยู่เรื่อยเลย ลุงคนขับจอดรถข้างทางเพราะรถมีสัญญาณอะไรบางอย่างดัง
ลุงคนขับโทรสอบถามใครบางคน ฟังไม่รู้เรื่องภาษาโปลิช แกออกไปนอกรถ ลองสตาร์ทใหม่ สองรอบเห็นจะได้ และติดในที่สุด
(เก่งมากลูงงงงงง!!) นึกว่าทริปจะล่มซะแว้ววว!!
ประมาณเกือบ 7 โมงก็ถึง zakopane เร็วกว่ากำหนดเพราะถนนโล่งมากก เดินไปเดินมาหารถไปต่อกันสักพัก
ก็พบว่าอยู่ตรงข้ามรถบัสที่เราลงนี่เอง จะมีพี่ๆ คนขับ (เรียกพี่ดีกว่าเนอะ อาจจะแก่กว่าไม่มาก แต่หน้าไปแระ)
เดินมาเรียก (บรรยากาศเหมือนประเทศไทย) Morskie Okoๆ ในขณะนั้นจำไม่ได้แม้กระทั่งชื่อที่ๆ จะไป
พึ่งเพื่อนฝุดๆ แล้วก็นั่งรอกันไปจนคนเต็มรถ 555+
7.30 ออกเดินทางไปทางเข้าอุทยาน คนเก็บเงินคิดว่าเป็นนักเรียน เก็บค่าเข้า 5 zln เท่านักเรียนทั่วไป
โดยไม่เช็คอะไร ไอ้เราก็ยังไม่บอกอายุให้เพื่อนรู้ นักเรียนก็ได้ว่ะ
(ความจริงก็เป็นนักเรียน แต่นักเรียนที่นี่จะได้ส่วนลดต่อเมื่ออายุต่ำหว่า 26 เท่านั้น ชิ เหยียดอายุนี่ฟ่า!)
หลังจากนี้ก็บรรเลงเพลงเดิน ตอนแรกก็คิดว่าเพื่อนจะเหนื่อยหรือเปล่า (แต่เค้าเป็นนักกีฬา ถามตัวเองดีกว่าไหมเฮา)
เราเป็นนักธรณีคุ้นชินกับการเดิน แต่ว่าเดี๋ยวววว การเดินครั้งนี้คือ -7 องศาเซลเซียล
ไม่หนาวเท่าไรนะ ถ้าไม่หยุดพัก ซึ่งก็ไม่ได้หยุดพัก
เพื่อนนั้นเป็นวิศวโยธาและนักกีฬา floorball คล้ายๆ ฮอกกี้แต่ไม่เล่นบนน้ำแข็ง สุดท้ายใครเหนื่อยกว่า รอดูกัน
อ่อ ก่อนออกเดินทางก็เข้าห้องน้ำก่อน ห้องน้ำจะเป็นกล่องๆ บรรเทาทุกข์ลงไปรวมกัน ไม่มี flush ให้กด ซึ่งใครจะไปเดินที่นี่ ควรเข้าห้องน้ำในเมืองมาก่อน แต่ตอนนั้นในเมืองห้องน้ำยังไม่เปิด
ระหว่างทาง หลายๆ คนอาจจะคิดว่าเราร้องเพลง let’s go จากการ์ตูน frozen แต่ไม่ใช่เลย เราคิดถึงเพลง frozen heart
>> https://www.youtube.com/watch?v=1Ccgn2I0D94
“…cut through the heart, cold and clear.
Strike for love and strike for fear.
See the beauty, sharp and sheer
Split the ice apart
And break the frozen heart…”
ป้ายบอกอีก 25 นาทีจะถึงห้องน้ำ (แต่ป้ายไม่บอกความเร็วของการเดิน 555)
ความเหนื่อยอยู่ตรงทางลัด ถ้าไปทางม้าวิ่งก็จะเบาๆ หน่อย ทางนี้ก็จะฝึกการเต้น break dance ไปตลอดทาง
Powerful
Dangerous
Cold
โปรดระวังช่วงที่เป็นบันไดให้เดิน บันไดน้ำแข็ง ลื่นมว๊ากกกก ระหว่างเดินไปหายใจดังมาก ถามเพื่อน ทำไมหายใจเบาจัง สงสัยต้องไปออกกำลังกายแระ เค้าออกกำลังกายอาทิตย์ละ 3 วัน เพราะเป็นนักกีฬา ต้องพร้อมเสมอ
Here we are! ถึงแว้ววววว
ความจริงก็ไม่ยากนะ แค่เดิน เดิน เดินและก็เดิน พยายามอย่าล้มแค่นั้นเอง 555
ที่ๆ ผู้คนยืนอยู่นั้นคือดวงตาของทะเลนั้นเอง ยืนบนน้ำ และแล้วความหนาแน่นของเราก็น้อยกว่าน้ำในที่สุด
ระหว่างจะเดินลง ด้วยความที่มีโกโปรแต่ไม่มีอุปกรณ์เสริม มือนึงถือกล้อง มือนึงจับเชือกลงเดินลงบันไดธรรมดา แต่อย่าลืมว่าบันไดน้ำแข็ง รองเท้าพี่ว่าดีแล้ว ดอกยังกะยางรถยนต์ ยังไม่อยู่ ต้องมีสติจริงๆ บันทึกตัวเองล้มก้นจ้ำเบ้า แต่โกโปรเค้าดี กล้องไม่แกว่งมาก 555
เมื่อล้มลงไปแล้ว เพื่อนถามว่า are you ok? บอกว่า okๆ หันกลับไปดู เค้ายกมือถือขึ้นมาถ่ายรูป ขอบใจมาก มาช่วยก่อนมั้ย 555+ เลยหันไปบอกว่าจะไปกะตูดแล้วนะ สไลด์ไป แต่ก็กลัวเปียก
หนาวเฟ่อออออออ!!! ถ้าจองที่พักใกล้ๆ ไว้ จะเล่น
หลังจากนั้นก็เดินแบบมีสติ แต่ยังก็ยังบันทึกวีดีโออยู่ เราจะไม่ละทิ้งความตั้งใจ แม้อุปสรรคจะมากกมาย
คราวนี้เค้าเดินนำไปก่อน เราก็เหมือนเดิม ถ่ายไปบ่นไป ซึ่งเพิ่งรู้ว่าต้องเดินตรงกลาง ไม่ใช่เดินข้างๆ ที่มีเชือก ตรงกลางยังไม่เป็นน้ำแข็งเพียวๆ ยังมีหิมะ แต่ที่มาเลือกเดินข้างๆ เพราะกลัวร่วงอยากจับเชือก ตรงกลางไม่มีเชือก
ทำท่าจะลื่นอีก เค้าบอก ต้องการมือเค้ามั้ย? จับมือฉันมา?
คิดในใจ ถ้าร่วงสองคนมันจะฮากว่าเดิมมั้ย แต่ก็อ่ะ จับก็ได้ แก่แล้ว ยอมๆ ไป
ถ้าเป็นเมื่อก่อน ไม่จับแน่ๆ เพราะต้องการแสดงความแข็งแกร่งของตัวเองให้โลกรู้
ตอนนั้นฮามาก ไม่คิดอะไร พอกลับมาดูวิดีโอ ก็โรแมนติกไปนะ 555+
บรรยากาศที่พักหลบกินข้าวเที่ยงและความหนาว หนาวมาก หนาวกว่าเดิม
รองเท้าเปียก และหนาวมาก เอา kebab ไป ทุกอย่างแข็ง friedแข็ง ไก่แข็ง ฮือออออ
นั่งไปนั่งมาหยิบเสื้อมาใส่เหมือนเดิม หนาวจนสั่น ขอพักแปปเดียวเดินต่อดีกว่า สร้างความร้อนให้ตัวเอง
บรรยากาศเดินกลับสวยกว่าเดิมอีก เพราะแดดเริ่มออกแล้ว และคนก็เริ่มเดินสวนมาเยอะ
แทบจะมีแค่เราที่เดินกลับ แต่รู้สึกว่าดีกว่ามาตอนคนเยอะ
จะว่าเหนื่อยก็ไม่เท่าไร มันสวยจนหายเหนื่อยยย
ขากลับเจอคนนั่งรถม้าไปเยอะ ขามาไม่มีใครนั่งเลย ไม่ได้สอบถามราคาเลยไม่รู้ว่าเท่าไร แฮ่ๆ
น้ำแข็งงอก น้ำแข็งย้อย
สวยจนหมดคำจะพูด
จบทริปไปด้วยเวลาการเดินประมาณ 4 ชม ไป 2 ชมนิดๆ กลับ 1.5 ชมนิดๆ
ตื่นเช้ามาคิดว่าจะปวดขา ดันปวดแขนขวา
เล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนบอกว่า เพราะคุณถ่ายรูปมากเกินไป 555+
ลาก่อยยยย ทริปหน้าเจอกันใหม่
ราตรีสวัสดิ์