ฮาร์บิน 10-15/1/2568 snow town, snow valley และ ice & snow festival

กระทู้สนทนา

สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ เที่ยวจีน เที่ยวต่างประเทศ

ทริปนี้เราเดินทางตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมาครับ คือ 10-15 มกราคม 2568 เป็นช่วงแรกๆ ของงานเทศกาลหิมะและน้ำแข็งแห่งฮาร์บิน2025 เพิ่งได้มีเวลาเขียนสรุปทริป ^^

เดินทางด้วยสายการบินเสินเจิ้นแอร์ไลน์วันที่ 10 มกราคม 2568 พอดีช่วงนั้นยังไม่มีบินตรงจากกรุงเทพฯ ถึงฮาร์บินเลยต้องอาศัยต่อเครื่องเอา เสินเจิ้นแอร์ไลน์จะไปต่อเครื่องที่เมือง Yun Cheng (运城）ซึ่งเราต้องรับสัมภาระจากกรุงเทพฯ ที่นี่และผ่านตรวจคนเข้าเมือง จากนั้นไปเช็คอินใหม่ฝั่ง domestic แล้วถึงจุดหมายปลายทางที่ฮาร์บินดึกของวันเดียวกัน

เมืองหยุนเฉิงเป็นเมืองรองที่อยู่ระหว่างซีอาน (เมืองเอกมณฑลส่านซี) และลั่วหยาง (เมืองเอกมณฑลเหอหนาน) จากกรุงเทพฯ ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงเศษ และไปฮาร์บินก็ใช้เวลาพอๆ กัน

ที่ฮาร์บินเราพักที่โรงแรม Ibis Hotel (Harbin Central Street Railway Station) (宜必思酒店哈尔滨中央大街火车站店）โรงแรมจะอยู่บนถนนซินหยางลู่ (新阳路）ซึ่งรถบัสสนามบินสาย 3 จะวิ่งผ่าน แต่ป้ายหยุดจะอยู่ก่อนถึงโรงแรมประมาณ 600 เมตร (ป้ายหยุดชื่อ Anhong street เวลาขึ้นรถกลับก็สามารถมาขึ้นตรงนี้ได้ บนรถบัสเวลาจะถึงป้ายหยุดจะมีเสียงประกาศ 2 ภาษาคือจีนและอังกฤษ ในแผนที่ด่านล่างคือจุดที่ชี้ลูกศรสีแดงไว้) ซื้อตัวรถบัสสนามบินที่เค้าเตอร์ขายตั๋วส่วนขากลับจะจ่ายเงินบนรถ

หมู่บ้านรัสเซีย (Volga manor)

เราไปในวันรุ่งขึ้น (11/1/2568) โดยนั่ง DiDi จากโรงแรม ibis ตั๋วเข้าชมซื้อผ่านแอพฯ Klook ซึ่งจะได้ QR code มา ไปถึงก็แสกนเข้าได้เลย เดี๋ยวนี้ที่ท่องเที่ยวหลักๆ ในจีนจะมีพนักงานวัยรุ่นที่ support นักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่พอสมควร

เที่ยวฮาร์บินฤดูหนาว สำคัญตรงเครื่องแต่งกายที่จะสามารถทำให้เราทนกับสภาพอาการติดลบมากๆ ได้ เราไปซื้อเสื้อผ้า,รองเท้า,ถุงมือ ฯลฯ เพิ่มเติมที่ห้างใต้ดินที่ชื่อแมนฮัทตั้น ซึ่งอยู่ข้างๆ โบสถ์เซ้นโซเฟีย แลนด์มาร์คหลักกลางเมืองฮาร์บิน

เดินทางส่วนใหญ่ในเมืองเราอาศัยกด DiDi (รถไฟใต้ดินบ้าง แต่รถไฟใต้ดินในฮาร์บินยังไม่ค่อยคลอบคลุมทั่วเมือง ไม่เหมือนกับเมืองใหญ่อื่นๆ) ไม่ว่าจะเป็น DiDi ป้ายเขียวนั่งก่อนจ่ายเงินทีหลัง หรือ DiDi taxi คันสีเขียวที่พอถึงจุดหมายก็ต้องจ่ายเงินค่าโดยสารเลย ก่อนลงรถ

1. หมวกกันหนาว

2. แมสกันลมหนาว เก็บลมร้อน

3. เสื้อฮีทเท็คชั้นที่ 1, ชั้นที่ 2 และเสื้อกันหนาวชั้นที่ 3

4. กางเกงฮีทเท็คชั้นที่ 1, ชั้นที่ 2 และกางเกงนอกที่กันลมได้เป็นชั้นที่ 3

5. ถุงร้อนสำหรับร่างกาย 1, ถุงร้อนสำหรับเท้าทั้ง 2 ข้าง ... พวกนี้สั่งซื้อออนไลน์ก่อนหน้าครับ

6. รองเท้าบูท

7. ถุงมือระดับที่แนะนำสำหรับเล่นสกี

เครื่องแต่งกายจะประมาณนี้ ถ้าไปพอให้ไปแมนฮัทตั้น ^^

เทศกาลหิมะและน้ำแข็งนานาชาติ

ช่วงเย็นไปเดินงานเทศกาลหิมะและน้ำแข็งนานาชาติ โดยนั่งรถไฟใต้ดินสาย 2 ลงสถานี 冰雪大世界（ice and snow world) จากนั้นซื้อบัตรเข้าชมที่เค้าเตอร์, ฝากสัมภาระ และเราใช้เวลาอยู่ที่นั่นประมาณ 3 ชั่วโมง คนเยอะครับทั้งคนจีนเองและนักท่องเที่ยว ช่วงค่ำจะเปิดไฟค่อนข้างสวยงามมากแต่ยิ่งค่ำอากาศก็ยิ่งหนาว

หมู่บ้านหิมะ (China Snow Town)

เราไปในวันที่ 12/1/2568 และพักที่ Snow valley 2 คืน วันนั้นเราเช็คเอ้าท์ออกจาก ibis และฝากของไว้เพราะอีก 2 วันข้างหน้าเราจะกลับมาพักที่นี่อีกครั้ง นั่ง DiDi ไปยังจุดนัดพบเพื่อขึ้นรถบัสที่ซื้อตั๋วทางหน้า fanpage ท่องเที่ยวฮาร์บินและข้อมูลการขึ้นรถบัสทั้งหมดจะถูกส่งมาทาง facebook messenger นั่งรถบัสประมาณ 4 ชั่วโมง รถจอดพักให้ 2 ครั้ง ถึงหมู่บ้านหิมะช่วงบ่ายๆ

ลงรถบัสเสร็จก็เข้าไปซื้อบัตรเข้าหมู่บ้านฯ จากนั้นนั่งรถบริการของหมู่บ้านเพื่อเข้าตัวหมู่บ้าน เดินเที่ยวและถ่ายรูปจนช่วงค่ำซึ่งใกล้ถึงเวลานัดรถบัสของเรา เราไปที่ทางออกหลังหมู่บ้าน นั่งรถบริการเพื่อไปยังจุดจอดรถบัสเพื่อมุ่งหน้าไปยัง Snow valley ที่พักของเรา 2 คืนต่อจากนี้ เราจองรถบัสผ่านหน้า fanpage เดียวกัน

Snow town จะอยู่คนละฝั่งเขากับ Snow valley รถบัสจะพาเรานั่งรถอ้อมเขาโดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงจะถึงที่พักที่เราจองไว้ ... รถบัสจะไปจอดส่งที่หน้าที่พัก เพียงแต่เราแจ้งพี่คนขับว่าพักที่ไหน

เราพักที่ Wu chang xue gu bi lao lv ke zhan (เรียกสั้นๆ เอาพอพี่คนขับรถบัสเข้าในก็ "ปี้เหล่าลีว" // 雪谷毕老驴客栈) ที่พักแบบโฮมสเตย์

ที่ Snow valley วันรุ่งขึ้น (13/1/2568) เราแพลนเหมือนกับนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาที่นี่คือขึ้นเขาไปชมวิวที่ยอดเขาหลังหมู่บ้าน (เขาที่กั้นระหว่าง snow town และ snow valley โดยเราซื้อบัตรนั่งรถม้าออกจากโฮมสเตย์คนละ 100 หยวน รถม้ามารับตอน 9 โมงเช้า จากนั้นแวะจ่ายค่าเข้าอุทยาน (ขึ้นเขา) นั่งรถม้าต่อและขึ้น snow mobile ในราคาคนละ 300 หยวน ทั้งหมดเป็นราคาเที่ยวเดียวซึ่งถ้าขาลงเขาและกลับที่พักจะนั่งรถก็ต้องจ่ายในราคาเดียวกัน

ซึ่งเราแพลนนั่งรถม้า, และ snow mobile ขาขึ้น ส่วนขาลงจะเดินลงจนถึงที่พักโดยขาลงระยะทางรวมประมาณ 6 กม.ครึ่ง แบบลงเขาระยะเวลาประมาณเกือบๆ 3 ชม. เพราะฉะนั้นถ้าใครจะไปเที่ยวในเส้นทางนี้และต้องการเดิน ... ถ้าเดินขึ้นจะใช้แรงและเวลามากสักหน่อยแต่ถ้าแพลนแบบเราก็ประหยัดแรงและเวลาพอควร

ช่วงสายวันที่ 14/1/2568 รถบัสเข้าฮาร์บินมารับเราตามนัดซึ่งเราซื้อตั๋วล่วงหน้าผ่าน fanpage เดิมที่เราซื้อตั๋วขามาและรถก็ไปส่งจุดนัดเดิมเมื่อ 2 วันก่อน เราพักที่ ibis อีก 1 คืนและเดินทางกลับเมืองไทยในวันรุ่งขึ้น

จุดตัดน้ำแข็ง ... ที่ล้อมรอบไปด้วยน้ำแข็ง 沙滩部落 ตรงนี้นั่ง DiDi ไป ประตูทางเข้าเปิด 8 โมงเช้า