คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7
ออกตัวก่อนเลย ผมไม่รับดูนะ แค่เห็นว่ากำลังสงสัยด้วย Topic ประเด็นของปฏิทินที่ผมก็เคยสงสัยมาก่อนเช่นกัน
คือคัมภีร์สุริยยาตร์ ที่เป็นสูตรใช้คำนวนปฏิทิน(คำนวนปฏิทินนะครับ ให้แยกออกจากเรื่องพยากรณ์ก่อน) มีมาตั้งตั้งแต่โบราณ เท่าที่ฟังมา มีมาตั้งแต่กรุงอุชเชนี แคว้นอวันตี สมัยพุทธกาล นู่น ถ้าจำไม่ผิดนะ ซึ่ง โหราศาสตร์แถบบ้านเรา ก็ได้รับถ่ายทอดมาจากอินเดียเนี่ยแหละครับ ตรงนี้เราจะเรียกว่า โหราศาสตร์ภารตะ หรือ ระบบนิรายนะ (Verdict Astrology,Sidereal) จะเป็นการคำนวนปฏิทินโดยอาศัยตำแหน่งดาวบนท้องฟ้า ผ่านสายตาที่เรามองเป็นหลักเห็น โดยจะมีกลุ่มดาวฤกษ์ 12 ราศี เป็นฉากหลัง
ซึ่งในไทย ยุคหลัง ๆ ก็แยกอีกออกเป็น 2 สายหลัก ๆ คือ คัมภีร์สุริยยาตร์เดิม กับ นิรายนะลาหิรี (โดยนักคำนวนปฏิทินชาวอินเดีย ชื่อ Lahiri) ที่ได้รับการสังคยนาปฏิทินใหม่ หลังจากอินเดียถูกปกครองโดยอังกฤษ
คือ ต้องยอมรับก่อนว่า สูตรคำนวนสุริยยาตร์นั้น คลาดเคลื่อนได้ องค์ความรู้เชิงคณิตศาสตร์และจักรวาลวิทยาในสมัยโบราณ ย่อมไม่เหมือนในปัจจุบันอยู่แล้ว (เราเพิ่งจะรู้ว่ารอบวงโคจร มันไม่ได้เป็นวงกลมก็ยุคของ โยฮันเนส เคปเลอร์ นี่เอง) ผลการคลาดเคลื่อน ๆ ย่อมสะสมจากจุดทศนิยมเล็กน้อยกลายเป็นหลายองศา ลิปดา พิลิปดา (ถ้าสงสัยว่าคลาดเคลื่อน แล้วทำไมแม่น ? ข้ามไปอ่านตรงสรุปครับ)
แล้วต่างจากปฏิทินโหราศาสตร์สากล หรือ ยูเรเนียนยังไง ?
ปฏิทินโหราศาสตร์สากล ระบบสายนะ (Tropical) จะอิงจากตำแหน่งมุมสัมพันธ์ระหว่างดวงอาทิตย์ และโลก โดยยึดจากเส้นศูนย์สูตรฟ้า และ เส้นสุริยวิถี (ซึ่งมันก็จะเอียงประมาณ 23 องศาครึ่ง ตามแกนโลก ถ้าเราอยู่บนโลก เราก็จะเห็นเส้นสุริยวิถีเอียงแทนครับ จึงมีจุดอาทิตย์ปัดเหนือสุด-ใต้สุด) ระบบปฏิทินนี้จะสัมพันธ์กับเรื่องฤดูกาลครับ
จุด วสันตวิษุวัต (Vernal Equinox) ฤดูใบไม้ผลิ กลางวันกลางคืนเท่ากัน - เป็นจุด 0 องศา ราศีเมษ
จุด Tropic of Cancer ฤดูร้อน อาทิตย์ปัดเหนือสุด กลางวันยาวกว่ากลางคืน (Summer Solstice) - เป็นจุด 0 องศา ราศีกรกฎ
จุด สารทวิษุวัต (Autumn Equinox)ฤดูใบไม้ร่วง กลางวันกลางคืนเท่ากัน - เป็นจุด 0 องศา ราศีตุล
จุด Tropic of Capricorn ฤดูหนาว อาทิตย์ปัดใต้สุด กลางคืนยาวกว่ากลางวัน ( Winter Solstice) - เป็นจุด 0 องศา ราศีมกร
ถ้าจำไม่ผิดเคยอ่านผ่าน ๆ ในหนังสือ ทอเลมี ก็ใช้ ระบบสายนะ กับ เรือนชะตา Placidus ย้อนกลับไปไกลสุด รากเหง้าวิชาโหราศาสตร์ทางฝั่งตะวันตก ที่มีเก็บไว้เป็นลายลักษณ์อักษร มาจากศิลาจารึกของชาวบาบิโลน ว่ามีมาตั้งแต่สมัย มหาราช ซาร์กอน แห่ง อัคคัด (ชาวอัคคาเดียน) ซึ่งเอาจริง ๆ ก็จัดว่ายุคโบราณพอ ๆ กับ คัมภีร์สุริยยาตร์ เช่นกัน (หรืออาจจะเก่ากว่า เราหาคำตอบไม่ได้ว่าคัมภีร์สุริยยาตร์ ย้อนกลับไปเก่าสุดได้แค่ไหนในประวัติศาสตร์)
ซึ่งเดิมทีปฏิทินสองระบบนี้มันเคยตรงกันครับ เมื่ออดีตกาล กี่พัน กี่หมื่นปีไม่รู้ ผมก็จำไม่ได้ แต่มันค่อย ๆ เคลื่อนมาเรื่อย ๆ จนตอนนี้ค่าความต่างของปฏิทิน 2 ระบบ ณ ปัจจุบัน (ค่าอายนางศ์) เคลื่อนอยู่ประมาณ 24 องศา
ก็นั่นแหละ ผูกดวงไทย กับ สากล ลัคนาเลยแทบจะคนละราศีกันเลย
กลับมาที่เรื่องคัมภีร์สุริยยาตร์ เป็นคัมภีร์โบราณ ซึ่งเคล็ดการพยากรณ์ที่ใช้กับสูตรคำนวน ตามคัมภีร์เราสูญหายไปมาก ก็มีคนเก็บรวบรวมได้ก็จริง แต่ผมว่าเคล็ดหรือแก่น จริง ๆ สูญหายไปเยอะพอสมควร แต่โหรที่มีวาสนากับวิชานี้ ก็มักจะได้เจออาจารย์ดีครับ สูตรแบบโบราณแท้ ๆ พร้อมเคล็ดวิชา (ซึ่งผมเองไม่มีวาสนา)
ในขณะที่ ระบบนิรายนะลาหิรี เป็นการพัฒนาปฏิทินเพื่อให้สอดคล้องกับหลักดาราศาสตร์สากลมากขึ้น จึงได้รับอิทธิพลหรือกลิ่นไอจากโหราศาสตร์ตะวันตกด้วย เช่นการใช้องศา และระยะวังกะ มีการใช้ดาวใหม่ ๆ อย่าง เนปจูน พลูโต เพิ่มเติม เพราะฉะนั้น สำนักที่สอนโหราศาสตร์ ระบบนิรายนะลาหิรี จะมีการปรับ ปรัชญาดาว ราศี เรือนชะตา ให้เข้ากับสากลยุคสมัยมากขึ้น (โรงเรียนโหราศาสตร์ยุคใหม่ สมาคมโหร จึงมักสอนระบบนี้ )
สรุป
เพราะฉะนั้นแต่ละสายวิชา ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา (อดีตสู่ปัจจุบัน) เนื้อหาทางภาคพยากรณ์ในแต่ละศาสตร์นั้น จะมีสูตรพยากรณ์ที่แก้ไขความคลาดเคลื่อนจากภาคคำนวนไปเรียบร้อยแล้วครับ (แม้จะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม ไอ้ที่เราชอบเรียกว่าเคล็ดวิชานั่นแหละ ปรัชญาดาว กับปรัชญาราศีก็ต่างกันนิดหน่อย)
ภารตะ+ไทย จะมีธาตุดาว ที่แยกออกมาจากราศี มีระบบทักษาคู่ธาตุ คู่สมพล คู่มิตร คู่ศัตรู เรือนชะตา Whole Sign ฯลฯ ของไทย มี เกตุ (๙) ที่คำนวนใหม่อีกดวง ไม่เหมือนสากล
ไปถามฝั่ง โหรสากล เค้าไม่มีทักษา ยึดธาตุจากราศีเกษตรเป็นหลัก มีดวง Progress เรือนชะตา Placidus และอีกสารพัดเรือนชะตาตามแต่ละสำนัก ฯลฯ
ยูเรเนียน มีศูนย์รังสี จุดอิทธิพล ปรัชญามุมฮาร์โมนิค เรือนชะตาเท่า เรือนชะตาจุดเจ้าชะตาทั้ง 5 และ เรือนชะตาดาว(อนุเคราะห์) ดวงโค้งอาทิตย์ ฯลฯ
ไม่ว่าจะใช้วิชาใด ถ้าใช้ศาสตร์นั้น ๆ ได้อย่างช่ำชอง และเข้าใจที่มาที่ไปก็ถือว่าแม่นยำทั้งนั้น
ป.ล. ระบบนิรายนะลาหิรี เลือก ลัคนาเวลานักษัตร ครับ ส่วนคัมภีร์สุริยยาตร์ รอ อาจารย์ท่านอื่นตอบดีกว่าครับ
คือคัมภีร์สุริยยาตร์ ที่เป็นสูตรใช้คำนวนปฏิทิน(คำนวนปฏิทินนะครับ ให้แยกออกจากเรื่องพยากรณ์ก่อน) มีมาตั้งตั้งแต่โบราณ เท่าที่ฟังมา มีมาตั้งแต่กรุงอุชเชนี แคว้นอวันตี สมัยพุทธกาล นู่น ถ้าจำไม่ผิดนะ ซึ่ง โหราศาสตร์แถบบ้านเรา ก็ได้รับถ่ายทอดมาจากอินเดียเนี่ยแหละครับ ตรงนี้เราจะเรียกว่า โหราศาสตร์ภารตะ หรือ ระบบนิรายนะ (Verdict Astrology,Sidereal) จะเป็นการคำนวนปฏิทินโดยอาศัยตำแหน่งดาวบนท้องฟ้า ผ่านสายตาที่เรามองเป็นหลักเห็น โดยจะมีกลุ่มดาวฤกษ์ 12 ราศี เป็นฉากหลัง
ซึ่งในไทย ยุคหลัง ๆ ก็แยกอีกออกเป็น 2 สายหลัก ๆ คือ คัมภีร์สุริยยาตร์เดิม กับ นิรายนะลาหิรี (โดยนักคำนวนปฏิทินชาวอินเดีย ชื่อ Lahiri) ที่ได้รับการสังคยนาปฏิทินใหม่ หลังจากอินเดียถูกปกครองโดยอังกฤษ
คือ ต้องยอมรับก่อนว่า สูตรคำนวนสุริยยาตร์นั้น คลาดเคลื่อนได้ องค์ความรู้เชิงคณิตศาสตร์และจักรวาลวิทยาในสมัยโบราณ ย่อมไม่เหมือนในปัจจุบันอยู่แล้ว (เราเพิ่งจะรู้ว่ารอบวงโคจร มันไม่ได้เป็นวงกลมก็ยุคของ โยฮันเนส เคปเลอร์ นี่เอง) ผลการคลาดเคลื่อน ๆ ย่อมสะสมจากจุดทศนิยมเล็กน้อยกลายเป็นหลายองศา ลิปดา พิลิปดา (ถ้าสงสัยว่าคลาดเคลื่อน แล้วทำไมแม่น ? ข้ามไปอ่านตรงสรุปครับ)
แล้วต่างจากปฏิทินโหราศาสตร์สากล หรือ ยูเรเนียนยังไง ?
ปฏิทินโหราศาสตร์สากล ระบบสายนะ (Tropical) จะอิงจากตำแหน่งมุมสัมพันธ์ระหว่างดวงอาทิตย์ และโลก โดยยึดจากเส้นศูนย์สูตรฟ้า และ เส้นสุริยวิถี (ซึ่งมันก็จะเอียงประมาณ 23 องศาครึ่ง ตามแกนโลก ถ้าเราอยู่บนโลก เราก็จะเห็นเส้นสุริยวิถีเอียงแทนครับ จึงมีจุดอาทิตย์ปัดเหนือสุด-ใต้สุด) ระบบปฏิทินนี้จะสัมพันธ์กับเรื่องฤดูกาลครับ
จุด วสันตวิษุวัต (Vernal Equinox) ฤดูใบไม้ผลิ กลางวันกลางคืนเท่ากัน - เป็นจุด 0 องศา ราศีเมษ
จุด Tropic of Cancer ฤดูร้อน อาทิตย์ปัดเหนือสุด กลางวันยาวกว่ากลางคืน (Summer Solstice) - เป็นจุด 0 องศา ราศีกรกฎ
จุด สารทวิษุวัต (Autumn Equinox)ฤดูใบไม้ร่วง กลางวันกลางคืนเท่ากัน - เป็นจุด 0 องศา ราศีตุล
จุด Tropic of Capricorn ฤดูหนาว อาทิตย์ปัดใต้สุด กลางคืนยาวกว่ากลางวัน ( Winter Solstice) - เป็นจุด 0 องศา ราศีมกร
ถ้าจำไม่ผิดเคยอ่านผ่าน ๆ ในหนังสือ ทอเลมี ก็ใช้ ระบบสายนะ กับ เรือนชะตา Placidus ย้อนกลับไปไกลสุด รากเหง้าวิชาโหราศาสตร์ทางฝั่งตะวันตก ที่มีเก็บไว้เป็นลายลักษณ์อักษร มาจากศิลาจารึกของชาวบาบิโลน ว่ามีมาตั้งแต่สมัย มหาราช ซาร์กอน แห่ง อัคคัด (ชาวอัคคาเดียน) ซึ่งเอาจริง ๆ ก็จัดว่ายุคโบราณพอ ๆ กับ คัมภีร์สุริยยาตร์ เช่นกัน (หรืออาจจะเก่ากว่า เราหาคำตอบไม่ได้ว่าคัมภีร์สุริยยาตร์ ย้อนกลับไปเก่าสุดได้แค่ไหนในประวัติศาสตร์)
ซึ่งเดิมทีปฏิทินสองระบบนี้มันเคยตรงกันครับ เมื่ออดีตกาล กี่พัน กี่หมื่นปีไม่รู้ ผมก็จำไม่ได้ แต่มันค่อย ๆ เคลื่อนมาเรื่อย ๆ จนตอนนี้ค่าความต่างของปฏิทิน 2 ระบบ ณ ปัจจุบัน (ค่าอายนางศ์) เคลื่อนอยู่ประมาณ 24 องศา
ก็นั่นแหละ ผูกดวงไทย กับ สากล ลัคนาเลยแทบจะคนละราศีกันเลย
กลับมาที่เรื่องคัมภีร์สุริยยาตร์ เป็นคัมภีร์โบราณ ซึ่งเคล็ดการพยากรณ์ที่ใช้กับสูตรคำนวน ตามคัมภีร์เราสูญหายไปมาก ก็มีคนเก็บรวบรวมได้ก็จริง แต่ผมว่าเคล็ดหรือแก่น จริง ๆ สูญหายไปเยอะพอสมควร แต่โหรที่มีวาสนากับวิชานี้ ก็มักจะได้เจออาจารย์ดีครับ สูตรแบบโบราณแท้ ๆ พร้อมเคล็ดวิชา (ซึ่งผมเองไม่มีวาสนา)
ในขณะที่ ระบบนิรายนะลาหิรี เป็นการพัฒนาปฏิทินเพื่อให้สอดคล้องกับหลักดาราศาสตร์สากลมากขึ้น จึงได้รับอิทธิพลหรือกลิ่นไอจากโหราศาสตร์ตะวันตกด้วย เช่นการใช้องศา และระยะวังกะ มีการใช้ดาวใหม่ ๆ อย่าง เนปจูน พลูโต เพิ่มเติม เพราะฉะนั้น สำนักที่สอนโหราศาสตร์ ระบบนิรายนะลาหิรี จะมีการปรับ ปรัชญาดาว ราศี เรือนชะตา ให้เข้ากับสากลยุคสมัยมากขึ้น (โรงเรียนโหราศาสตร์ยุคใหม่ สมาคมโหร จึงมักสอนระบบนี้ )
สรุป
เพราะฉะนั้นแต่ละสายวิชา ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา (อดีตสู่ปัจจุบัน) เนื้อหาทางภาคพยากรณ์ในแต่ละศาสตร์นั้น จะมีสูตรพยากรณ์ที่แก้ไขความคลาดเคลื่อนจากภาคคำนวนไปเรียบร้อยแล้วครับ (แม้จะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม ไอ้ที่เราชอบเรียกว่าเคล็ดวิชานั่นแหละ ปรัชญาดาว กับปรัชญาราศีก็ต่างกันนิดหน่อย)
ภารตะ+ไทย จะมีธาตุดาว ที่แยกออกมาจากราศี มีระบบทักษาคู่ธาตุ คู่สมพล คู่มิตร คู่ศัตรู เรือนชะตา Whole Sign ฯลฯ ของไทย มี เกตุ (๙) ที่คำนวนใหม่อีกดวง ไม่เหมือนสากล
ไปถามฝั่ง โหรสากล เค้าไม่มีทักษา ยึดธาตุจากราศีเกษตรเป็นหลัก มีดวง Progress เรือนชะตา Placidus และอีกสารพัดเรือนชะตาตามแต่ละสำนัก ฯลฯ
ยูเรเนียน มีศูนย์รังสี จุดอิทธิพล ปรัชญามุมฮาร์โมนิค เรือนชะตาเท่า เรือนชะตาจุดเจ้าชะตาทั้ง 5 และ เรือนชะตาดาว(อนุเคราะห์) ดวงโค้งอาทิตย์ ฯลฯ
ไม่ว่าจะใช้วิชาใด ถ้าใช้ศาสตร์นั้น ๆ ได้อย่างช่ำชอง และเข้าใจที่มาที่ไปก็ถือว่าแม่นยำทั้งนั้น
ป.ล. ระบบนิรายนะลาหิรี เลือก ลัคนาเวลานักษัตร ครับ ส่วนคัมภีร์สุริยยาตร์ รอ อาจารย์ท่านอื่นตอบดีกว่าครับ
แสดงความคิดเห็น
ใครดูดวงผูกดวงลัคนาได้ทั้งแบบ สุริยาตร์ และ ลาหิรี ขอถามหน่อยครับ เข้ามาหน่อยครับ