โดนหลอกให้หลงเชื่อ!! กรอกข้อมูลบัตรเครดิตของธ.กสิกรไทยไปใน e-mail ปลอม เพราะคิดว่าเป็น e-mail ที่ส่งมาจากธนาคารจริงๆ

นี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2560 ดิฉันขอเล่าคร่าวๆ ดังนี้
ตอนที่ 1  เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2560 ประมาณ 9 โมงเช้า ดิฉันเปิด E-mail เหมือนเช่นทุกวัน เห็น mail หนึ่ง จากธ.ธ.กสิกรส่งมา.. ดูหัวข้อเรื่องเขียนว่า “K-Notification: ID ผู้ใช้ของคุณถูกล็อคชั่วคราว” ดิฉันเปิดดูพบว่า มี file PDF แนบอยู่ 2 file ดิฉันเห็นว่าเป็น e-mail จากธนาคารกสิกรไทยส่งมา เพราะดิฉันมีบัตรเครดิตของธนาคาร จึงได้เปิดดูพบว่า เป็นจดหมายแจ้งเตือนจาก ธ.กสิกร สรุปคร่าวๆ ว่า ธ.กสิกรแจ้งว่า  มีกิจกรรมผิดปกติโดยบัญชีของเรา และธนาคารได้ล๊อครหัสผู้ใช้ของดิฉันไว้ชั่วคราว  จึงต้องการให้ดิฉันรีบยืนยันบัญชีว่าเป็นบัญชีของดิฉันจริงๆ ภายใน 48 ชม. มิฉะนั้นจะถูกลบถาวร...(ดูจากภาพค่ะ)

ตอนที่ 2  พอช่วงซัก 11 โมงครึ่ง ...ดิฉันเปิดโทรศัพท์ขึ้นมาดู เห็นข้อความส่งมา จากธ.กสิกร ดิฉันจึงเปิดดู...และรู้สึกตกใจว่า ทำไมมียอดซื้อของจาก LAZADA เด้งเข้ามา 8 ครั้ง ไม่โชว์ยอดด้วย แต่โชว์ยอดคงเหลือ  รวมๆ แล้วเกือบ 2 หมื่น...ดิฉันจึงรีบโทรหา call center 02-8888888  กว่าจะติดก็นานพอสมควร เมื่อมีเจ้าหน้าที่รับสายแล้ว ดิฉันจึงได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง เจ้าหน้าที่รับเรื่อง จึงรีบอายัดบัตรเครดิตให้ และแจ้งว่าจะออกบัตรใหม่ให้เราทันที ส่งให้ภายใน 7-10 วันทำการ (ปัจจุบัน เราได้บัตรใหม่แล้ว) เราจึงแจ้งว่า เราจะไม่จ่ายยอดที่เกิดขึ้น 8 รายการนี้เด็ดขาด  เจ้าหน้าที่จึงแจ้งว่า  ธนาคารฯ จะส่งเอกสารแบบฟอร์มทักท้วงรายการใช้บัตรให้...เราจึงรีบกรอกรายละเอียดส่งกลับไปทาง e-mail ทางเจ้าหน้าที่แจ้ง...เมื่อส่งแบบฟอร์มทักท้วงรายการไปให้แล้ว ดิฉันจึงโทรไปประสานงานกับเจ้าหน้าที่ call center อีกครั้ง เจ้าหน้าที่แจ้งว่า จะใช้เวลาดำเนินการภายใน 90 วัน ในการทักท้วงรายการไปที่ร้านค้า....นอกจากนี้ ดิฉันได้รีบไปที่สถานีตำรวจฯ เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เผื่อว่าธนาคารจะมีปัญหาอะไรอีก

ตอนที่ 3 และแล้วสิ่งที่ดิฉันคิดไว้ว่าธนาคารจะมีปัญหาก็มีจริงๆ ค่ะ ...เมื่อวานนี้ (วันที่ 25 ธันวาคม 2560) สักช่วงประมาณ 14.44 น. มีเจ้าหน้าที่จากธนาคารกสิกรไทยโทรมาแจ้งถึงผลการทักท้วง เบอร์ที่โทรเข้ามาคือ  02-0086222 ซึ่งไม่ใช่เบอร์ call center เจ้าหน้าที่ชื่อคุณกมลทิพย์ โทรเข้ามาคุยสรุปคือ ทักท้วงรายการไม่ได้ และเสนอให้ดิฉันต้องชำระ 50% ของยอดที่ทักท้วงไป ส่วนธนาคารจะช่วย 50%  คุณกมลทิพย์ พูดอะไรเยอะแยะเหมือนจะเห็นใจ  ดิฉันฟังแล้วเราจุกอก  งงๆ ว่า ต้องจ่ายอะไร ดิฉันเป็นผู้เสียหายนะคะ...ดิฉันจึงแจ้งกลับไปว่า ดิฉันจะไม่ยอมจ่ายตามที่คุณกมลทิพย์เสนอมา..แล้วคุณกมลทิพย์จึงแจ้งว่า ถ้าอย่างนั้น ธนาคารจะเรียกเก็บเต็มจำนวน ถ้าลูกค้าไม่ชำระอีก ก็อาจจะเสียประวัติ...ดิฉันได้ฟังดังนั้นจึงตกใจ  สรุปคือต้องจ่ายครึ่งนึงใช่มั๊ย...ตอนนั้นมีความรู้สึกว่า ลองให้คุณกมลทิพย์จัดการเรื่องให้หน่อย...ก็วางสายไป …แต่ดิฉันยังคาใจอยู่ จึงมาปรึกษากับน้องที่มีความรู้เรื่องกฎหมาย น้องบอกว่า กรณีนี้ธนาคารต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ...และน้องก็อาสาโทรไปคุยกับคุณกมลทิพย์อีกครั้ง เและยืนยันว่า  คุณเพียงใจ จะปฏิเสธการชำระเงินดังกล่าว คุณกมลทิพย์จึงอ้างว่า ดิฉันผิดข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บัตรเครดิตข้อ 14 และ ข้อ 16  ซึ่งดิฉันอ่านแล้ว ก็ไม่ได้เข้าหลักเกณฑ์เลย
    ดิฉันขอร้องเรียนไปถึงผู้บริหารระดับสูงขอธนาคารกสิกรไทย ว่าดิฉันขอปฏิเสธการชำระตามยอดที่ทักท้วงไป เพราะดิฉันไม่ได้เป็นผู้ซื้อสินค้าทั้ง 8 รายการนั้นเลย...หากดิฉันยังไม่ได้รับความเป็นธรรมอีก ดิฉันขออนุญาตทำหนังสือร้องเรียนไปถึง สคบ., ธนาคารกสิกรสำนักงานใหญ่, ธนาคารแห่งประเทศไทย, สื่อต่างๆ ให้ช่วยเหลือดิฉัน และเป็นกรณีศึกษาให้อีกหลายๆ คนที่เคยเจอเหตุการณ์คล้ายๆ ดิฉันแบบนี้...หวังว่า ดิฉันจะได้รับความเป็นธรรมจากธนาคารกสิกรไทยนะคะ....
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่