เมอร์รี่คริสต์มาสครับ! (หวังว่าจะเขียนอะไรได้พอเป็นชิ้นเป็นอันและโพสต์ทันวันคริสต์มาส)
ยิ่งเขียนรีวิวยิ่งอยากไปเที่ยว แต่ถึงไม่มานั่งเขียนรีวิวก็อยากไปเที่ยวอยู่ดี ไม่มีสมาธิ ก็เลยกลับมาเขียนรีวิวต่อดีกว่า 5555
ฟังเพลงคริสต์มาสไป พิมพ์ไป ฟินมาก วันนี้ไม่ได้โดดงานนะครับ ตอนนี้ holiday break แล้ว
แปะ link ให้สำหรับสองตอนที่เขียนไว้ก่อนหน้านี้ตรงนี้นะครับ
ตอนแรก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/37175005
- การเดินทางจากกรุงเทพฯสู่อิสตันบูล
- การเดินทางจากสนามบิน Atatürk เข้าเมือง
- โรงแรมที่ไปพักมา
- วิหาร Haghia Sophia
- ล่องเรือชมวิวสองฝั่งทวีป
- มัสยิด Süleymaniye Mosque
- ชิมกาแฟตุรกี
- พระราชวัง Topkapi
- คำแนะนำเรื่องสถานที่แลกเงิน
- สรุปค่าใช้จ่ายตลอดทริป
ตอนที่ 2
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/37212465
- พิพิธภัณฑ์โบราณคดี Archeological Museum
- ตลาด Grand Bazaar
- เสาหิน Obelisk
- พิพิธภัณฑ์ศิลปะอิสลามและตุรกี Museum of Turkish and Islamic Arts
- มัสยิด Blue Mosque
- อุโมงค์เก็บน้ำใต้ดิน Basilica Cistern
- พิพิธภัณฑ์กระเบื้องโมเสก Mosaic Museum
เช้านี้ยังอยู่ที่อิสตันบูลครับ ไปเที่ยวพระราชวังโดลมาบาชเช่กัน
วิธีเดินทางยากขึ้นนิดนึง นิดเดียวจริงๆ ขึ้น Tram สาย T1 เจ้าประจำของเราไปจนสุดสายที่สถานี Kabataş (5 ป้ายจากโรงแรมที่ผมพัก; 7 ป้ายจากจัตุรัส Sultanahmet -- แผนที่เดินรถมีแปะไว้ที่ในตอนที่ 1 ครับ)
ที่บอกว่าเดินทางยากขึ้น ที่จริงคือเดินมากขึ้น พอลงรถแล้วต้องเดินต่อไกลพอสมควรครับ ระยะทางประมาณจากสยามไปเซ็นทรัลเวิลด์ แต่ว่าที่นั่นอากาศเย็นสบาย เหงื่อไม่แตก หน้าไม่มันรับรอง
จุดสังเกตง่ายๆว่าเดินมาถึงวังแล้วคือสนามฟุตบอลของสโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเตอร์กิชลีก เบซิคตัส ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน เดินสำรวจเล่นๆก่อน
แม้ว่ามาถึงแต่เช้า ทัวร์ก็เริ่มมาลงกันแล้ว ต้องโฉบให้ว่องไว แย่งชิงหามุมถ่ายภาพดีๆอย่างสุขุม ไม่วู่วาม อย่าให้มวลมหาลูกทัวร์ไหวตัวทัน
ซื้อตั๋วแล้วเตรียมออกเดินทางกันเลย! บัตร Museum Pass ที่ใช้มาตลอดสามวันที่แล้วไม่รวมค่าเข้าชมวังที่นี่ครับ ผมซื้อบัตรราคา 60 ลีร่า ครอบคลุมการเยี่ยมชมส่วนต่างๆเพิ่มเติมในวังได้ดังนี้: Painting Museum, Harem, Crystal Museum, Clock Museum
ช้าก่อน ถ้าคิดว่าต้องเสียเงินเข้าชมเลยอยากตัดที่นี่ออกจากทริปของท่าน โปรดพิจารณาอีกครั้ง สำหรับผมยกให้ที่นี่ติด Top 3 ของการเที่ยวอิสตันบูลเลยนะ ที่จริงผมก็เคยไปเที่ยวชมวังแค่ไม่กี่แห่ง แต่ผมว่าที่นี่ให้ประสบการณ์ระดับใกล้เคียงพระราชวัง Schönbrunn ที่เวียนนาเลยทีเดียว
Dolmabahçe Palace มีกลิ่นอายความเป็นยุโรปสูงทีเดียว พอกลับมาดูรูปที่เซลฟี่ที่ถ่ายข้างๆวังก็เป็นอย่างนั้นจริงด้วยแฮะ เหมือนไปเที่ยวประเทศแถบยุโรปตะวันตกเลย สาเหตุเป็นเพราะว่าสุลต่าน Abdül Mecit ทรงประสงค์ให้ปรับภาพลักษณ์ของจักรวรรดิออตโตมันให้มีความเป็นยุโรปมากขึ้น จึงทรงบัญชาให้สถาปนิกชาวอาร์เมเนียอำนวยการสร้างพระราชวังแห่งนี้บนริมชายฝั่งช่องแคบบอสฟอรัสจนแล้วเสร็จในปี 1856
ภายในตัวพระราชวังไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปครับ ต้องรอเข้าไปเป็นกลุ่มเท่านั้น แยกเป็นกลุ่มมากับทัวร์กับกลุ่มที่มาเอง เจ้าหน้าที่จะจัดรอบให้ รอไม่นานครับ แต่ละรอบใช้เวลาเยี่ยมชม 30 นาที มีบรรยายภาษาอังกฤษ
นวัตกรรมที่คลุมรองเท้าจากหมวกอาบน้ำ 5555 ลื่นชะมัด แต่ก็ดี ไม่ต้องถอดรองเท้าเข้าๆออกๆ
อีกโซนที่มีไกด์ทัวร์ให้คือ Harem ครับ มีห้องสวยๆให้ดูเยอะเลย ข้างในไม่ให้ถ่ายรูปเช่นกัน เลยไม่มีรูปมาอวดนะ ไกด์ภาษาอังกฤษเขามีประสบการณ์มากเลยครับ ให้ความรู้ดีมาก แถมมีสกิลระดับเทพในการรับมือกับนักท่องเที่ยวที่ทำตัวไม่เข้าท่า
จำได้ว่ามีครอบครัวหนึ่ง ลูกร้องเสียงดังตลอดตอนบรรยาย เขาส่ายหน้าใส่เลยครับ หลังจากนั้น คนพ่อก็ยกมือขึ้นขอพูดแทรก บอกให้ผู้บรรยายพูดช้าๆหน่อย โดนดุกลับเลยครับ ไกด์บอกว่าเขาทำงานนี้มา 20 ปี เขารู้ดีว่าอะไรดีที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ตั้งใจมาฟังเพื่อรับความรู้ ไม่ต้องมาสั่ง จากนั้นลูกน้อยเขาก็กรีดร้องต่อไปครับ ดูเหมือนพ่อแม่จะเอาไม่อยู่ ไกด์และผู้ร่วมชะตาคนอื่น รวมทั้งจขกท. เริ่มทิ้งระยะห่างครับ ไกด์สบโอกาส เปรยขึ้นมาว่า ที่จริงคนบางกลุ่มก็ไม่ควรได้รับสิทธิ์ให้เข้ามาที่นี่เลย (ด้วยน้ำเสียงที่แน่ใจว่า นักท่องเที่ยวหลายคนที่เขากำลังให้บริการเข้าใจและเห็นพ้องตามนั้น)
อ้อ ก่อนมาฮาเร็มได้แวะแกลเลอรี่นี้ด้วยครับ หาเจอไม่ยาก มีภาพวาดสวยๆให้ดูเยอะเลยในนั้น
จุดที่ครอบครัวที่มากับเด็กเล็กน่าจะชอบมากคือบริเวณสวนหย่อมครับ ร่มรื่น มีบ่อปลาและฟาร์มเลี้ยงไก่ด้วย
แล้วก็มีพิพิธภัณฑ์นาฬิกา ข้างในก็เล็กๆ เดินไม่กี่นาทีก็ทั่วครับ มีนาฬิกาโบราณแบบแขวนและแบบตั้งโต๊ะที่หาดูยากให้เดินชม หลายเรือนสวยหรูมากครับ
เที่ยวพระราชวังโดลมาบาชเช่แบบไม่เร่งรีบเบ็ดเสร็จใช้เวลาครึ่งวันครับ เดินเยอะเหมือนกันนะในนั้น พื้นที่กว้างขวางมากครับ
หลังจากนั้นไม่มีแผนอะไรต่อเลยครับ 5555 แถมยังเสียท่าให้นักต้มตุ๋นอีก โดนจนได้
[CR] ไปตุรกี ... คงคล้ายๆตอนที่นักท่องเที่ยวฝรั่งมาเมืองไทย (Part 3)
ยิ่งเขียนรีวิวยิ่งอยากไปเที่ยว แต่ถึงไม่มานั่งเขียนรีวิวก็อยากไปเที่ยวอยู่ดี ไม่มีสมาธิ ก็เลยกลับมาเขียนรีวิวต่อดีกว่า 5555
ฟังเพลงคริสต์มาสไป พิมพ์ไป ฟินมาก วันนี้ไม่ได้โดดงานนะครับ ตอนนี้ holiday break แล้ว
แปะ link ให้สำหรับสองตอนที่เขียนไว้ก่อนหน้านี้ตรงนี้นะครับ
ตอนแรก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 2
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เช้านี้ยังอยู่ที่อิสตันบูลครับ ไปเที่ยวพระราชวังโดลมาบาชเช่กัน
วิธีเดินทางยากขึ้นนิดนึง นิดเดียวจริงๆ ขึ้น Tram สาย T1 เจ้าประจำของเราไปจนสุดสายที่สถานี Kabataş (5 ป้ายจากโรงแรมที่ผมพัก; 7 ป้ายจากจัตุรัส Sultanahmet -- แผนที่เดินรถมีแปะไว้ที่ในตอนที่ 1 ครับ)
ที่บอกว่าเดินทางยากขึ้น ที่จริงคือเดินมากขึ้น พอลงรถแล้วต้องเดินต่อไกลพอสมควรครับ ระยะทางประมาณจากสยามไปเซ็นทรัลเวิลด์ แต่ว่าที่นั่นอากาศเย็นสบาย เหงื่อไม่แตก หน้าไม่มันรับรอง
จุดสังเกตง่ายๆว่าเดินมาถึงวังแล้วคือสนามฟุตบอลของสโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเตอร์กิชลีก เบซิคตัส ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน เดินสำรวจเล่นๆก่อน
แม้ว่ามาถึงแต่เช้า ทัวร์ก็เริ่มมาลงกันแล้ว ต้องโฉบให้ว่องไว แย่งชิงหามุมถ่ายภาพดีๆอย่างสุขุม ไม่วู่วาม อย่าให้มวลมหาลูกทัวร์ไหวตัวทัน
ซื้อตั๋วแล้วเตรียมออกเดินทางกันเลย! บัตร Museum Pass ที่ใช้มาตลอดสามวันที่แล้วไม่รวมค่าเข้าชมวังที่นี่ครับ ผมซื้อบัตรราคา 60 ลีร่า ครอบคลุมการเยี่ยมชมส่วนต่างๆเพิ่มเติมในวังได้ดังนี้: Painting Museum, Harem, Crystal Museum, Clock Museum
ช้าก่อน ถ้าคิดว่าต้องเสียเงินเข้าชมเลยอยากตัดที่นี่ออกจากทริปของท่าน โปรดพิจารณาอีกครั้ง สำหรับผมยกให้ที่นี่ติด Top 3 ของการเที่ยวอิสตันบูลเลยนะ ที่จริงผมก็เคยไปเที่ยวชมวังแค่ไม่กี่แห่ง แต่ผมว่าที่นี่ให้ประสบการณ์ระดับใกล้เคียงพระราชวัง Schönbrunn ที่เวียนนาเลยทีเดียว
Dolmabahçe Palace มีกลิ่นอายความเป็นยุโรปสูงทีเดียว พอกลับมาดูรูปที่เซลฟี่ที่ถ่ายข้างๆวังก็เป็นอย่างนั้นจริงด้วยแฮะ เหมือนไปเที่ยวประเทศแถบยุโรปตะวันตกเลย สาเหตุเป็นเพราะว่าสุลต่าน Abdül Mecit ทรงประสงค์ให้ปรับภาพลักษณ์ของจักรวรรดิออตโตมันให้มีความเป็นยุโรปมากขึ้น จึงทรงบัญชาให้สถาปนิกชาวอาร์เมเนียอำนวยการสร้างพระราชวังแห่งนี้บนริมชายฝั่งช่องแคบบอสฟอรัสจนแล้วเสร็จในปี 1856
ภายในตัวพระราชวังไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปครับ ต้องรอเข้าไปเป็นกลุ่มเท่านั้น แยกเป็นกลุ่มมากับทัวร์กับกลุ่มที่มาเอง เจ้าหน้าที่จะจัดรอบให้ รอไม่นานครับ แต่ละรอบใช้เวลาเยี่ยมชม 30 นาที มีบรรยายภาษาอังกฤษ
นวัตกรรมที่คลุมรองเท้าจากหมวกอาบน้ำ 5555 ลื่นชะมัด แต่ก็ดี ไม่ต้องถอดรองเท้าเข้าๆออกๆ
อีกโซนที่มีไกด์ทัวร์ให้คือ Harem ครับ มีห้องสวยๆให้ดูเยอะเลย ข้างในไม่ให้ถ่ายรูปเช่นกัน เลยไม่มีรูปมาอวดนะ ไกด์ภาษาอังกฤษเขามีประสบการณ์มากเลยครับ ให้ความรู้ดีมาก แถมมีสกิลระดับเทพในการรับมือกับนักท่องเที่ยวที่ทำตัวไม่เข้าท่า
จำได้ว่ามีครอบครัวหนึ่ง ลูกร้องเสียงดังตลอดตอนบรรยาย เขาส่ายหน้าใส่เลยครับ หลังจากนั้น คนพ่อก็ยกมือขึ้นขอพูดแทรก บอกให้ผู้บรรยายพูดช้าๆหน่อย โดนดุกลับเลยครับ ไกด์บอกว่าเขาทำงานนี้มา 20 ปี เขารู้ดีว่าอะไรดีที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ตั้งใจมาฟังเพื่อรับความรู้ ไม่ต้องมาสั่ง จากนั้นลูกน้อยเขาก็กรีดร้องต่อไปครับ ดูเหมือนพ่อแม่จะเอาไม่อยู่ ไกด์และผู้ร่วมชะตาคนอื่น รวมทั้งจขกท. เริ่มทิ้งระยะห่างครับ ไกด์สบโอกาส เปรยขึ้นมาว่า ที่จริงคนบางกลุ่มก็ไม่ควรได้รับสิทธิ์ให้เข้ามาที่นี่เลย (ด้วยน้ำเสียงที่แน่ใจว่า นักท่องเที่ยวหลายคนที่เขากำลังให้บริการเข้าใจและเห็นพ้องตามนั้น)
อ้อ ก่อนมาฮาเร็มได้แวะแกลเลอรี่นี้ด้วยครับ หาเจอไม่ยาก มีภาพวาดสวยๆให้ดูเยอะเลยในนั้น
จุดที่ครอบครัวที่มากับเด็กเล็กน่าจะชอบมากคือบริเวณสวนหย่อมครับ ร่มรื่น มีบ่อปลาและฟาร์มเลี้ยงไก่ด้วย
แล้วก็มีพิพิธภัณฑ์นาฬิกา ข้างในก็เล็กๆ เดินไม่กี่นาทีก็ทั่วครับ มีนาฬิกาโบราณแบบแขวนและแบบตั้งโต๊ะที่หาดูยากให้เดินชม หลายเรือนสวยหรูมากครับ
เที่ยวพระราชวังโดลมาบาชเช่แบบไม่เร่งรีบเบ็ดเสร็จใช้เวลาครึ่งวันครับ เดินเยอะเหมือนกันนะในนั้น พื้นที่กว้างขวางมากครับ
หลังจากนั้นไม่มีแผนอะไรต่อเลยครับ 5555 แถมยังเสียท่าให้นักต้มตุ๋นอีก โดนจนได้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น