เรื่องมีอยู่ว่า ลูกสาวของผมเองได้เช่าหอพักอยู่บริเวณหน้าสถานศึกษาแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ ห้องที่เช่าอยู่เป็นห้องแอร์ และมีเครื่องทำน้ำอุ่น ซึ่งค่าเช่าต่อเดือนสูงกว่าห้องธรรมดา เช่าอยู่มาเกือบๆ สามปีแล้ว ไม่เคยมีปัญหาอะไร ส่วนใหญ่เวลามีของอะไรเสียแบบจุกจิกๆ (หลอดไฟ, สายชำระ ฯลฯ) เราก็ซื้อหามาเปลี่ยนเอง โดยให้ผู้ดูแลหอพักเป็นคนจัดการให้

แต่ปัญหามันเกิดเมื่อไม่กี่วันมานี้ ...เครื่องทำน้ำอุ่นที่อยู่ในห้องน้ำ เกิดใช้ไม่ได้ขึ้นมา พูดง่ายๆ ก็คือเสียนั่นหละ เราก็แจ้งทางผู้ดูแลหอพักไปว่าเครื่องทำน้ำอุ่นเสียนะ มาจัดการให้หน่อย ...ผู้ดูแลมาดูให้แล้วก็บอกว่าต้องเปลี่ยนใหม่โดยที่เราต้องควักเงินซื้อของใหม่เอง (น่าจะประมาณเกือบๆ สามพันบาท) ลูกสาวก็โทรมาบอกผม และในความคิดของผม ผมว่ามันไม่น่าจะเป็นความรับผิดชอบของเรานะ ในเมื่อเราจ่ายค่าเช่าห้องที่แพงกว่าห้องปกติ เพราะเค้ารวมค่าแอร์และเครื่องทำน้ำอุ่นไปด้วย แล้วเราจะต้องมาเสียเงินในกรณีของเสียอีกเหรอ (ในกรณีนี้หมายถึงการเสื่อมสถาพตามอายุการใช้งานนะครับ ไม่ได้ใช้งานผิดประเภทแต่อย่างใด)

หลังจากที่ลูกสาวโทรมาบอก ผมก็โทรไปคุยกับเจ้าของหอพัก และก็ยืนยันว่าไม่ใช่ความรับผิดชอบของผู้เช่าที่จะต้องจ่ายเงินค่าเครื่องทำน้ำอุ่น แต่เค้าก็ยังยืนยันว่าผู้เช่าต้องจ่าย และยังบอกด้วยว่าค่าเช่าเป็นแค่ค่าเช่าพื้นที่เท่านั้น ไม่รวมอุปกรณ์ที่อยู่ในห้อง ถ้าแอร์เสีย ผู้เช่าก็ต้องจ่าย ...ปี๊ดแตกแลยครับทีนี้ ผมเลยบอกไปว่าถ้าจะเอาเปรียบกันแบบนี้ก็คงต้องย้ายออก เค้าก็บอกว่าย้ายออกก็จะหักจากเงินประกัน ซึ่งเค้าทำได้อยู่แล้วเพราะเงินประกันอยู่ที่เค้า

มาถึงคำถามนะครับ ...ตามหัวข้อเลย สรุปว่ากรณีแบบนี้ ทางผู้เช่าหรือผู้ให้เช่าต้องเป็นคนจ่ายครับ และในกรณีที่ทางผู้ให้เช่าต้องจ่ายค่าเครื่องทำน้ำอุ่นเอง แต่เค้ายืนยันที่จะหักจากเงินประกันของเรา เราจะมีวิธีแก้ไขอย่างไรบ้าง ...ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำแนะนำครับ

ปล. ไม่ได้เสียดายเงินนะครับ แต่เกลียดพวกผู้ประกอบการที่จ้องแต่จะเอาปรียบ ในกรณีแบบนี้คงไม่ได้มีแต่ลูกเราคนเดียวที่โดน น่าจะมีคนเคยโดนเอาเปรียบแบบนี้มาก่อนแต่ก็คงยอมๆ กันไปแหละครับ