เรื่องเล่าขององค์คุลีมาล

กระทู้คำถาม
พระองคุลีมาล ทำไมท่านต้องสังหารคนถึง ๙๙๙ คน


...ประวัติท่านพระองคุลีมาล...
.
.
.

.
บางท่านรวมทั้งตัวผมคงเคยสงสัยว่า พระองคุลีมาล ทำไมท่านต้องสังหารคนถึง ๙๙๙ คนเพื่อตัดนิ้วตามคำสั่งของอาจารย์ และ ทำไมท่านสังหารคนตั้งมากมายทำไมถึงได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ในชาติสุดท้ายของท่าน


ครั้งหนึ่ง เหล่าพระสงฆ์สาวกพากันทูลขอให้พระพุทธองค์ทรงตรัสเล่าเรื่องราวความเป็นมาแต่อดีตชาติของพระองคุลีมาล เพื่อที่จะได้รู้สาเหตุว่า ทำไม...ชาตินี้ท่านถึงต้องเป็นโจรฆ่าคน ก่อนที่จะมาเป็นพระสงฆ์ที่อุดมด้วยศีลาจารวัตรงดงาม พระพุทธองค์ผู้ทรงเปี่ยมล้นด้วยพระมหากรุณาธิคุณ ก็ทรงประทานตรัสเล่าให้ฟังดังนี้...



ในอดีตชาตินานโพ้นทีเดียว พระองคุลีมาล ได้ถือกำเนิดเป็น “เต่าใหญ่” อยู่ในทะเลและมหาสมุทรแห่งหนึ่ง ความใหญ่ของเต่าตัวนี้ มีขนาดไม่เล็กไปกว่าปลาวาฬ โบราณาจารย์ท่านเรียกเต่าชนิดนี้ว่า “เต่าเรือน” คือ ตัวใหญ่เท่าเรือน เป็นเต่าใหญ่แต่ใจบุญ ด้วยมีนิสัยที่ไม่ดุร้าย ทำร้ายใคร มักช่วยเหลือผู้คนที่ตกอยู่ในอันตรายจากเรืออับปางให้พ้นภัยเสมอ




เต่าใหญ่อดีตชาติพระองคุลีมาล ก็เวียนว่ายหากินอยู่ในท้องทะเลตามปกติอยู่ชั่วนาตาปี จนอยู่มาวันหนึ่ง พบเรือประมงลำหนึ่งเกิดอับปางลง ผู้คนในเรือต่างก็ลอยคอ แหวกว่ายพยุงตัวเพื่อไม่ให้จมน้ำ ต่างก็หมดแรงเมื่อยล้า จะตายมิตายแหล่ ด้วยจิตแห่งความเมตตา เต่าใหญ่ตัวนั้นก็ว่ายเข้าไป เพื่อให้บรรดาชาวประมงเหล่านั้น ซึ่งคาดว่ามีประมาณ ๖ – ๗ คนได้พากันเกาะกระดองเต่า ปีนขึ้นมาบนหลังเต่า จนครบทุกคน และเต่านั้นก็ว่ายน้ำเข้าฝั่ง พาคน เหล่านั้นขึ้นบกให้พ้นภัย




แต่ด้วยเคราะห์กรรมของเต่านั้น ที่อาจจะมีเวรมีกรรมผูกพันกับชาวประมงที่ตนได้ช่วยชีวิตเอาไว้ ตามมาส่งผล ทำให้ชาวประมงเหล่านั้นเห็นผิดเป็นชอบ เกิดความโลภ ไหน ๆ ก็ไม่ได้ปลาแล้ว ฆ่าเต่าเอาเนื้อไปขายก็ยังดี ด้วยความคิดชั่วช้าขาดเสียซึ่งความกตัญญูรู้คุณเต่าที่ได้ช่วยชีวิตตนไว้ เขาเหล่านั้นก็พากันฆ่าเต่า แล้วชำแหละเนื้อเอาไปขายให้คนในหมู่บ้านนั้น ซึ่งมีอยู่หลายครัวเรือน ทุกครัวเรือนต่างก็พากันซื้อเนื้อเต่าไปกินกัน ด้วยเป็นของแปลก หายาก และมีความเชื่อที่ว่า เต่าเป็นสัตว์ที่มีอายุยืน หากใครได้กินเนื้อเต่าแล้ว จะพากันอายุยืน ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน




พระพุทธองค์ท่านทรงตรัสเล่าว่า คนในหมู่บ้านนั้น มีด้วยกันทั้งสิ้น ๑,๐๐๐ คนพอดี ทุกคนเมื่อได้เนื้อเต่าไปแล้ว ก็พากันนำไปปรุงอาหารแบ่งปันกันกินในครอบครัว แต่มีอยู่เพียงคนเดียว เป็นเด็กหญิงอายุเพียง ๙ ขวบ ที่ไม่ยอมกินเนื้อเต่านั้น แม้พ่อแม่จะบังคับให้กินอย่างไร เธอก็คายออกมาจนหมดสิ้น เพราะเธอสงสารเต่าตัวนั้น อาจด้วยจิตวิญญาณที่ทำไว้ร่วมกันแต่อดีตชาติกับเต่านั่นเอง ด้วยบุพกรรมอันนี้แหละ ที่ทำให้ชาตินี้ เต่าใหญ่ได้กลับชาติมาเกิดเป็น “องคุลีมาล”




เมื่ออหิงสกกุมาร หรือ พระองคุลีมาลมีอายุพอจะศึกษาศิลปวิทยาแล้วบิดามารดาจึงส่งไปเรียนกับอาจารย์ทิศาปาโมกข์ที่เมืองตักกศิลา อหิงสกกุมารเป็นคนมีปัญญา ขยัน ตั้งใจเรียนดี มีความประพฤติเรียบร้อย คอยรับใช้อาจารย์ด้วยความเคารพ พูดจาไพเราะจึงเป็นที่พอใจของอาจารย์มาก แต่ศิษย์คนอื่น ๆ เห็นท่านเป็นคนโปรดของอาจารย์ก็ริษยา พากันออกอุบายเพื่อกำจัดอหิงสกมาณพ โดยแบ่งคนออกเป็นสามพวก พวกแรกก็เข้าไปบอกอาจารย์ว่า ได้ยินมาว่าอหิงสกมาณพจะประทุษร้ายท่านอาจารย์ ทีแรกอาจารย์ไม่เชื่อ แต่เมื่อพวกที่สอง และ พวกที่สามเข้าไปบอกเรื่องอย่างเดียวกัน หนักเข้าก็กลับใจเชื่อ แล้วอาจารย์จึงหาอุบายฆ่าอหิงสกมาณพเสีย




อาจารย์คิดต่อไปอีกว่า ถ้าเราฆ่ามัน ใคร ๆ ก็จะคิดว่าอาจารย์ทิศาปาโมกข์ ลงโทษมาณพผู้มาเรียนศิลปะยังสำนักของตนแล้วปลงชีวิตเสีย ดังนี้ ก็จักไม่มีใครมาเล่าเรียนศิลปะกับเราอีก ถ้าเป็นอย่างนั้นเราก็จะเสื่อมลาภ ดังนั้นจึงได้ออกอุบายยืมมือคนอื่นฆ่า โดยให้มาณพนั้นฆ่าคนให้ได้พันคน ด้วยคาดว่าเมื่ออหิงสกกุมารปฏิบัติตามคำสั่งของตน เที่ยวได้ฆ่าคนไป ก็จะต้องมีใครคนใดคนหนึ่งต่อสู้ และฆ่ามาณพนั้นจนได้ แล้วอาจารย์จึงบอกมาณพนั้นว่า ยังมีคำสำหรับศิลปะวิชาขั้นสุดท้ายอยู่ เจ้าจะต้องฆ่าคนให้ได้ ๑๐๐๐ คน




เพื่อประกอบพิธีบูชาครู (ครุทักษิณา) มิฉะนั้นวิชานั้นก็จะไม่มีผล อหิงสกกุมาร หรือ พระองคุลีมาลจึงได้ออกสังหารเพื่อให้ครบ ๑๐๐๐ คน ตามคำสั่งของอาจารย์ ได้สังหารคนได้ถึง ๙๙๙ คนแล้ว ซึ่งคนเหล่านั้นล้วนเป็นคนที่กินเนื้อเต่าในชาติก่อน และกลับชาติมาเกิดเป็นผู้บริสุทธิ์ถูกโจรฆ่าในชาตินี้ ส่วนเด็กหญิงคนนั้น ก็เกิดมาเป็นมารดาของท่านองคุลีมาล และด้วยเหตุนี้แหละที่พระพุทธองค์ท่านถึงทรงรีบไปโปรดองคุลีมาลเสียก่อนที่จะฆ่ามารดาของตน




กุศลบารมีที่องคุลีมาลสั่งสมไว้ในภพชาติก็มีมากมาย ด้วยพุทธญาณ ทรงหยั่งรู้ในบารมีนั้นว่าถึงพร้อมแล้วแก่อรหัตผล จึงทรงไปโปรด พระวาจาสั้นๆ ว่า “เราหยุดแล้ว แต่ท่านยังไม่หยุด” เพราะหากองคุลีมาลกระทำมาตุฆาต ฆ่ามารดาของตนแล้ว ซึ่งเป็นอนันตริยกรรม ก็จักไม่อาจสำเร็จอรหัตผลในชาตินั้นได้ และจะต้องไปรับผลกรรมที่ตนก่อ เมื่อสำเร็จอรหัตผลแล้วและปรินิพพานแล้ว กรรมต่างๆทั้งฝ่ายกุศลและฝ่ายอกุศลที่ยังไม่ส่งผลย่อมกลายเป็นอโหสิกรรมไปด้วยไม่มีเวรมีกรรมผูกพันกัน




อีกประการหนึ่งก็คือ เต่าใหญ่ตัวนั้น หลังจากสิ้นสุดแห่งภาวะของเดรัจฉานภูมิแล้ว ด้วยผลแห่งกรรมดี ก็ได้บังเกิดไปเป็นมนุษย์ที่มีรูปร่างแข็งแรง ใหญ่โต ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ และมีอายุยืนยาว เป็นผู้มีใจเมตตากรุณา ได้สั่งสมบุญบารมีมาอีกหลายภพหลายชาติด้วยการให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา เวียนว่ายตายเกิด ทั้งในโลกมนุษย์ และสวรรค์ จนชาตินี้ได้มาบังเกิดในตระกูลพราหมณ์นามว่า “อหิงสกะ” หรือ “องคุลีมาล”


เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร กฎแห่งกรรมมีจริง เวียน ว่าย ตาย เกิดใหม่ ก็เป็นวัฎจักรบนโลกใบนี้
และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงกฎที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมาได้ จนกว่าจิตใจของเราจะหลุดพ้นจากกิเลสตัณหา
หรือที่เรียกว่า นิพพาน

เม่าปัดรังควาน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่