นี่ๆ มีอะไรจะบอก ---> "บัตรเครดิต CashBack 1% คุ้มสุดแล้วครับ !!!"
- ปกติ แทบไม่เคยมาตั้งกระทู้ใน Pantip เลยครับ ถ้า Tag ผิด หรือตั้งอะไรผิด + เขียนอ่านยาก ก็ขออภัยด้วย T^T
- พอดีวันก่อน มีเพื่อนจะทำบัตรเครดิต แต่ละคนเลย Present ว่า บัตรตูเทพอย่างนั้น อย่างนี้
- พอถกไป ถกมา ผมคำนวณให้ดู บลาๆๆๆ แต่ละบัตรที่ว่าเทพๆ มันได้ผลตอบแทน "โดยเฉลี่ย" ไม่เกิน 1% [เท่าที่บัตรเพื่อนๆ ในกลุ่มมีนะครับ]
- งี้ทำบัตร CashBack 1% ไปเลย ไม่ดีก่าเหรอออออ [จะไปทำเจ้าไหน ลองไปศึกษาดูละกันคับ]
- ออกตัวก่อน ว่าไม่ใช่ "กูรู" ด้านบัตรเครดิต และไม่ได้ตามรายละเอียดทุกๆ บัตร แบบ 100% เพียงแต่เป็นคนชอบวิเคราะห์ คำนวณ
- โดยส่วนตัว มีทั้ง wisdom/ beyond/ scbt elite แต่เชื่อป่ะคับ บัตรที่ทำยากๆ ผมแทบไม่ได้ใช้เลย [เอาไว้ถืออย่างเดียว] ไปใช้ตัว CitiBank Cashback 1% ซึ่งใช้ฐานเงินเดือนแค่ 15k [ตอนแรกเห็น kfc มีคนบอกว่าคุ้ม แต่ลองดูใน web ก็ไม่เจอข้อมูลบัตรแบบชัดๆ โทรไปหา cc ก็เจอแต่ robot ไม่เจอพนักงานสักที เลยทำ Citi แทนครับ เพราะรูดประกันได้ด้วย]
- ที่ผมพกหลายใบ ไม่ใช่ไรครับ ส่วนตัวเป็นคนชอบพกใบเดียว ใช้ได้ทุกอย่าง แต่ของ wisdom อันนี้คือได้มาเพราะยอดถึง ติดตัวไว้แทบไม่ได้รูด ไว้ใช้คิวพิเศษเวลาไปธนาคาร/ beyond จริงๆ ผมเสียดายมาก ตั้งแต่ปรับ Tier ล่าสุด ผมก็เลิกใช้เลยครับ ใช้ยังไงก็ไม่คุ้ม (ขนาดผมมีประกันจากครอบครัวที่ต้องจ่ายในแต่ละปี เป็นจำนวนที่เยอะอยู่ ยังไม่คุ้มเลยครับ) / scbt elite ตัวนี้ก็ได้ 1% ครับ 20 บาท = 2 แต้ม / 10 แต้ม = 1 บาท แต่เลิกใช้ไป เพราะว่า ขายให้ TISCO แล้วระบบไม่ดีเลย แถมมาปรับผลประโยชน์ให้น้อยลง ......
- อันนี้จะไม่คิดเรื่อง ROP นะครับ เพราะส่วนตัวผม จะมองเรื่องการคิดออกมาเป็นเงินคืน
- ส่วนเรื่อง คิวพิเศษ/ เลานจ์ สนามบิน/ เลขาส่วนตัว ฯลฯ อันนี้ผมมองว่า แค่ "ถือ" ก็ได้ผลประโยชน์แล้วครับ แต่อันนี้เรากะลังคุยว่า "ควรจะรูด" โดยใช้ใบไหนดี
============== วิธีการเปรียบเทียบกับบัตรเครดิต ในแบบของผม ================
- โดยปกติ 25 บาท = 1 แต้ม
- และส่วนมาก Rate ในการแลก จะอยู่ที่ 10 แต้ม ต่อ 1 บาท เช่น 5,000 แต้ม แลก Voucher ได้ 500 บาท / 5,000 แต้ม แลกส่วนลดเงินสดได้ 500 บาท
- นั่นคือ ถ้าคุณอยากได้ส่วนลด 1 บาท จะต้องใช้ 10 แต้ม --> จะได้ 10 แต้ม ต้องรูด 250 บาท
- นั่นคือ คุณรูด 250 บาท จะได้ 10 แต้ม ==> ส่วนลด 1 บาท คิดเป็น (1x100) / 250 = 0.40% ......
- น้อยกว่า บัตร Cashback 2.5 เท่า (0.40% x 2.5 = 1%) นั่นคือ ถ้าเอาบัตร Cashback รูด 1,000 บาท จะได้ผลประโยชน์เท่ากับ เอาบัตรข้างต้นรูด 2,500 บาท นั่นเอง
- แต่ละบัตรอาจจะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน เช่น 20 บาท ได้ 1 แต้ม / 8,000 แต้ม แลกได้ 100 บาท / 12,000 แต้ม แลกได้ 100 บาท
- ผมให้สูตรคำนวณ ตามนี้เลยครับ
- ถ้าบัตรใบหนึ่ง รูด A บาท ได้รับ B แต้ม
- ใช้คะแนน C แต้ม เพื่อแลกผลประโยชน์ D บาท
- (%) = (100DB) / (AC)
ยกตัวอย่าง บัตรใบหนึ่ง 25 บาท ได้ 2 แต้ม แล้วเอา แต้มแลกเท่ายอดซื้อ ได้ส่วนลด 10% (โปรโมชั่นนี้ ยอดฮิตเลย)
สมมุติคุณซื้อของ 2,350 บาท นั่นคือ ต้องใช้ 2,350 แต้ม เพื่อได้ส่วนลด 235 บาท
A = 25
B = 2
C = 2,350
D = 235
(%) = (100x235x2) / (25x2,350) = 0.80%
--> คุณลองไปดีดๆ ดูละกันครับ ว่าบัตรที่ใช้อยู่ ได้กี่ %
--> เรื่องตลกคือ บัตรตัวท็อป ของ Citi คือ Citi M Visa Selected [เงินเดือน 150k++] : 25 บาท = 2 แต้ม / 800 แต้ม = 100 บาท --> คิดออกมา ก็ได้ 1% ครับ
** ไม่ได้บอกว่า 1% "ดีที่สุด" นะครับ เพราะแต่ละบัตรก็มีอะไรเทพๆ อย่างอื่น เพียงแต่ว่า บัตร 1% ส่วนใหญ่ "ทำง่าย" + "ฐานเงินเดือนไม่มาก" + "เป็นบัตรที่ใครๆ ก็เอื้อมถึง"
ก็เลยอยากจะมาแนะนำกันครับ
============== ตัวอย่างการเทียบบัตรเครดิต แบบบัตรต่อบัตร ================
- ในที่นี้ ขอเทียบตัวที่ผม "เคยใช้" นะครับ คือ SCB Beyond
- เนื่องจาก เพื่อนที่เป็นหมอ มาถามว่า แกๆ Beyond น่าใช้มั๊ย คุ้มมั๊ย ---> ผมไล่ให้ไปทำบัตร Cashback 1% กระจอกๆ โดยทั่วไปแทน
- Beyond กรณีไม่มีสิทธิ์ 1Point จะไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี : 10 บาท = 1 แต้ม / 12,000 แต้ม = 1,000 บาท ---> 0.83% ....... [แน่นอน น้อยกว่า 1%]
- Beyond กรณีใช้ 1 Point จะมีค่าธรรมเนียมรายปี = 5,000 + 350 = 5,350
- Tier 1 Point (เท่าที่ทราบ) ที่สามารถแลกเป็นส่วนลดเงินสดได้ [อย่างที่แจ้ง เน้นแลกเป็นเงินสดนะครับ เพราะพวกที่พัก/ Gift Voucher ต่างๆ มันก็ต้องไปใช้อีก ขายต่อก็โดนส่วนลดอยู่ดี]
30k - 50k -> 110 บาท
50k - 100k -> 400 บาท
100k - 200k -> 1,000 บาท
200k++ -> 2,000 บาท
- โจทย์ คือ จะใช้ 1Point ยังไงให้คุ้มกับค่าธรรมเนียม ??
- 1 รอบค่าธรรมเนียม = 12 เดือน
- สมมุติการใช้จ่าย ตามนี้ [ใครใช้จ่ายมากก่านี้ก็ลองคิดดูครับ]
- 100k x 3เดือน --> 1,000 x 3 = 3,000
- 50k x 9เดือน --> 400 x 9 = 3,600
- รวม 3,000 + 3,600 = 6,600 หักค่าธรรมเนียม 5,350 เหลือ 1,250 [ใช้ทั้งปี กำไรแค่ พันต้นๆ - -']
- "แต่" นั่นหมายความว่า "ทั้งปี" มียอดใช้จ่ายผ่านบัตร = 100kx3 + 50kx9 = 300k + 450k = 750k
- Rate เอาแต้มไปแลกของ Beyond = 0.83% นั่นหมายความว่า รูดเท่าไหร่ แล้วไปแลกเป็นส่วนลดเงินสด จะได้ 750k x 0.83% = 6,225 บาท
- รวมกับกำไรจากการใช้ 1Point เท่ากับ 6,225 + 1,250 = 7,475 บาท ---> นั่นคือ รูด ทั้งปี 750,000 ได้ผลประโยชน์ 7,475 บาท
- ถ้าเราใช้ CashBack 1% ละ ..... รูด 750,000 จะได้เท่ากับ 7,500 บาท
- นั่นคือ ถ้าจะใช้ Beyond แล้วคุ้มค่าธรรมเนียม จะต้องใช้มากก่าเคสนี้ (1แสน+ 3 เดือน / 5หมื่น+ 9 เดือน)
- ซึ่งผมเข้าใจว่า คนทั่วไปโดยปกติ ไม่ได้รับหิ้วของ/ ไม่ได้เอาบัตรเครดิตไปเกี่ยวกะธุรกิจ เอาแค่ว่า กินๆ เที่ยวๆ ช็อปๆ การจะใช้เงินขนาดนี้ "ก็ยากอยู่" [คนใช้เกินนี้ก็มีครับ แต่เอาเป็นว่าเทียบโดยปกติทั่วๆ ไป]
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆ ไม่มากก็น้อยนะครับ ถ้าใครจะให้เปรียบเทียบบัตรไหน ลองเม้นๆ กันดูครับ ถ้าว่างๆ จะไปตอบให้ครับ ^^
ขอบคุณครับ
นี่ๆ มีอะไรจะบอก ---> "บัตรเครดิต CashBack 1% คุ้มสุดแล้วครับ !!!"
- ปกติ แทบไม่เคยมาตั้งกระทู้ใน Pantip เลยครับ ถ้า Tag ผิด หรือตั้งอะไรผิด + เขียนอ่านยาก ก็ขออภัยด้วย T^T
- พอดีวันก่อน มีเพื่อนจะทำบัตรเครดิต แต่ละคนเลย Present ว่า บัตรตูเทพอย่างนั้น อย่างนี้
- พอถกไป ถกมา ผมคำนวณให้ดู บลาๆๆๆ แต่ละบัตรที่ว่าเทพๆ มันได้ผลตอบแทน "โดยเฉลี่ย" ไม่เกิน 1% [เท่าที่บัตรเพื่อนๆ ในกลุ่มมีนะครับ]
- งี้ทำบัตร CashBack 1% ไปเลย ไม่ดีก่าเหรอออออ [จะไปทำเจ้าไหน ลองไปศึกษาดูละกันคับ]
- ออกตัวก่อน ว่าไม่ใช่ "กูรู" ด้านบัตรเครดิต และไม่ได้ตามรายละเอียดทุกๆ บัตร แบบ 100% เพียงแต่เป็นคนชอบวิเคราะห์ คำนวณ
- โดยส่วนตัว มีทั้ง wisdom/ beyond/ scbt elite แต่เชื่อป่ะคับ บัตรที่ทำยากๆ ผมแทบไม่ได้ใช้เลย [เอาไว้ถืออย่างเดียว] ไปใช้ตัว CitiBank Cashback 1% ซึ่งใช้ฐานเงินเดือนแค่ 15k [ตอนแรกเห็น kfc มีคนบอกว่าคุ้ม แต่ลองดูใน web ก็ไม่เจอข้อมูลบัตรแบบชัดๆ โทรไปหา cc ก็เจอแต่ robot ไม่เจอพนักงานสักที เลยทำ Citi แทนครับ เพราะรูดประกันได้ด้วย]
- ที่ผมพกหลายใบ ไม่ใช่ไรครับ ส่วนตัวเป็นคนชอบพกใบเดียว ใช้ได้ทุกอย่าง แต่ของ wisdom อันนี้คือได้มาเพราะยอดถึง ติดตัวไว้แทบไม่ได้รูด ไว้ใช้คิวพิเศษเวลาไปธนาคาร/ beyond จริงๆ ผมเสียดายมาก ตั้งแต่ปรับ Tier ล่าสุด ผมก็เลิกใช้เลยครับ ใช้ยังไงก็ไม่คุ้ม (ขนาดผมมีประกันจากครอบครัวที่ต้องจ่ายในแต่ละปี เป็นจำนวนที่เยอะอยู่ ยังไม่คุ้มเลยครับ) / scbt elite ตัวนี้ก็ได้ 1% ครับ 20 บาท = 2 แต้ม / 10 แต้ม = 1 บาท แต่เลิกใช้ไป เพราะว่า ขายให้ TISCO แล้วระบบไม่ดีเลย แถมมาปรับผลประโยชน์ให้น้อยลง ......
- อันนี้จะไม่คิดเรื่อง ROP นะครับ เพราะส่วนตัวผม จะมองเรื่องการคิดออกมาเป็นเงินคืน
- ส่วนเรื่อง คิวพิเศษ/ เลานจ์ สนามบิน/ เลขาส่วนตัว ฯลฯ อันนี้ผมมองว่า แค่ "ถือ" ก็ได้ผลประโยชน์แล้วครับ แต่อันนี้เรากะลังคุยว่า "ควรจะรูด" โดยใช้ใบไหนดี
============== วิธีการเปรียบเทียบกับบัตรเครดิต ในแบบของผม ================
- โดยปกติ 25 บาท = 1 แต้ม
- และส่วนมาก Rate ในการแลก จะอยู่ที่ 10 แต้ม ต่อ 1 บาท เช่น 5,000 แต้ม แลก Voucher ได้ 500 บาท / 5,000 แต้ม แลกส่วนลดเงินสดได้ 500 บาท
- นั่นคือ ถ้าคุณอยากได้ส่วนลด 1 บาท จะต้องใช้ 10 แต้ม --> จะได้ 10 แต้ม ต้องรูด 250 บาท
- นั่นคือ คุณรูด 250 บาท จะได้ 10 แต้ม ==> ส่วนลด 1 บาท คิดเป็น (1x100) / 250 = 0.40% ......
- น้อยกว่า บัตร Cashback 2.5 เท่า (0.40% x 2.5 = 1%) นั่นคือ ถ้าเอาบัตร Cashback รูด 1,000 บาท จะได้ผลประโยชน์เท่ากับ เอาบัตรข้างต้นรูด 2,500 บาท นั่นเอง
- แต่ละบัตรอาจจะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน เช่น 20 บาท ได้ 1 แต้ม / 8,000 แต้ม แลกได้ 100 บาท / 12,000 แต้ม แลกได้ 100 บาท
- ผมให้สูตรคำนวณ ตามนี้เลยครับ
- ถ้าบัตรใบหนึ่ง รูด A บาท ได้รับ B แต้ม
- ใช้คะแนน C แต้ม เพื่อแลกผลประโยชน์ D บาท
- (%) = (100DB) / (AC)
ยกตัวอย่าง บัตรใบหนึ่ง 25 บาท ได้ 2 แต้ม แล้วเอา แต้มแลกเท่ายอดซื้อ ได้ส่วนลด 10% (โปรโมชั่นนี้ ยอดฮิตเลย)
สมมุติคุณซื้อของ 2,350 บาท นั่นคือ ต้องใช้ 2,350 แต้ม เพื่อได้ส่วนลด 235 บาท
A = 25
B = 2
C = 2,350
D = 235
(%) = (100x235x2) / (25x2,350) = 0.80%
--> คุณลองไปดีดๆ ดูละกันครับ ว่าบัตรที่ใช้อยู่ ได้กี่ %
--> เรื่องตลกคือ บัตรตัวท็อป ของ Citi คือ Citi M Visa Selected [เงินเดือน 150k++] : 25 บาท = 2 แต้ม / 800 แต้ม = 100 บาท --> คิดออกมา ก็ได้ 1% ครับ
** ไม่ได้บอกว่า 1% "ดีที่สุด" นะครับ เพราะแต่ละบัตรก็มีอะไรเทพๆ อย่างอื่น เพียงแต่ว่า บัตร 1% ส่วนใหญ่ "ทำง่าย" + "ฐานเงินเดือนไม่มาก" + "เป็นบัตรที่ใครๆ ก็เอื้อมถึง"
ก็เลยอยากจะมาแนะนำกันครับ
============== ตัวอย่างการเทียบบัตรเครดิต แบบบัตรต่อบัตร ================
- ในที่นี้ ขอเทียบตัวที่ผม "เคยใช้" นะครับ คือ SCB Beyond
- เนื่องจาก เพื่อนที่เป็นหมอ มาถามว่า แกๆ Beyond น่าใช้มั๊ย คุ้มมั๊ย ---> ผมไล่ให้ไปทำบัตร Cashback 1% กระจอกๆ โดยทั่วไปแทน
- Beyond กรณีไม่มีสิทธิ์ 1Point จะไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี : 10 บาท = 1 แต้ม / 12,000 แต้ม = 1,000 บาท ---> 0.83% ....... [แน่นอน น้อยกว่า 1%]
- Beyond กรณีใช้ 1 Point จะมีค่าธรรมเนียมรายปี = 5,000 + 350 = 5,350
- Tier 1 Point (เท่าที่ทราบ) ที่สามารถแลกเป็นส่วนลดเงินสดได้ [อย่างที่แจ้ง เน้นแลกเป็นเงินสดนะครับ เพราะพวกที่พัก/ Gift Voucher ต่างๆ มันก็ต้องไปใช้อีก ขายต่อก็โดนส่วนลดอยู่ดี]
30k - 50k -> 110 บาท
50k - 100k -> 400 บาท
100k - 200k -> 1,000 บาท
200k++ -> 2,000 บาท
- โจทย์ คือ จะใช้ 1Point ยังไงให้คุ้มกับค่าธรรมเนียม ??
- 1 รอบค่าธรรมเนียม = 12 เดือน
- สมมุติการใช้จ่าย ตามนี้ [ใครใช้จ่ายมากก่านี้ก็ลองคิดดูครับ]
- 100k x 3เดือน --> 1,000 x 3 = 3,000
- 50k x 9เดือน --> 400 x 9 = 3,600
- รวม 3,000 + 3,600 = 6,600 หักค่าธรรมเนียม 5,350 เหลือ 1,250 [ใช้ทั้งปี กำไรแค่ พันต้นๆ - -']
- "แต่" นั่นหมายความว่า "ทั้งปี" มียอดใช้จ่ายผ่านบัตร = 100kx3 + 50kx9 = 300k + 450k = 750k
- Rate เอาแต้มไปแลกของ Beyond = 0.83% นั่นหมายความว่า รูดเท่าไหร่ แล้วไปแลกเป็นส่วนลดเงินสด จะได้ 750k x 0.83% = 6,225 บาท
- รวมกับกำไรจากการใช้ 1Point เท่ากับ 6,225 + 1,250 = 7,475 บาท ---> นั่นคือ รูด ทั้งปี 750,000 ได้ผลประโยชน์ 7,475 บาท
- ถ้าเราใช้ CashBack 1% ละ ..... รูด 750,000 จะได้เท่ากับ 7,500 บาท
- นั่นคือ ถ้าจะใช้ Beyond แล้วคุ้มค่าธรรมเนียม จะต้องใช้มากก่าเคสนี้ (1แสน+ 3 เดือน / 5หมื่น+ 9 เดือน)
- ซึ่งผมเข้าใจว่า คนทั่วไปโดยปกติ ไม่ได้รับหิ้วของ/ ไม่ได้เอาบัตรเครดิตไปเกี่ยวกะธุรกิจ เอาแค่ว่า กินๆ เที่ยวๆ ช็อปๆ การจะใช้เงินขนาดนี้ "ก็ยากอยู่" [คนใช้เกินนี้ก็มีครับ แต่เอาเป็นว่าเทียบโดยปกติทั่วๆ ไป]
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆ ไม่มากก็น้อยนะครับ ถ้าใครจะให้เปรียบเทียบบัตรไหน ลองเม้นๆ กันดูครับ ถ้าว่างๆ จะไปตอบให้ครับ ^^
ขอบคุณครับ