คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
น้อยแต่มาก มาจากประโยค less is more
(แปลได้หลากหลาย น้อยแต่เน้น ทำน้อยได้มาก ง่ายแต่งาม ผมแปลว่าน้อยคือมาก)
เป็นหลักคิดของ Ludwig Mies van der Rohe หนึ่งในผู้บุกเบิกแห่งวงการสถาปัตยกรรมสมัยใหม่
งานของเขาจะมีการใช้ส่วนประกอบที่น้อยแต่ได้ผลมาก ตัดทอนสิ่งไม่จำเป็นออกไป
เรียบง่ายแต่พิถีพิถัน เช่น การใช้แผ่นกระจกแทนผนังปูนทำให้ภายในตัวอาคารดูโปร่งโล่งสบายตา
ภายหลังประโยค less is more นี้ถูกใช้เป็นหัวใจหลักของแนวทางแบบ minimalism
น้อยคือมากคืออะไร ? ยกตัวอย่างเช่น
ถ้าบ้านคุณมีเฟอร์นิเจอร์น้อย คุณก็จะมีพื้นที่ (space) มาก
ถ้าห้องคุณเรียบๆ เหลี่ยมๆ สีขาวล้วน มีเก้าอี้ไม้โง่ๆสีเข้มตั้งอยู่กลางห้องตัวเดียว
เก้าอี้ตัวนั้นก็จะถูกขับให้โดดเด่นขึ้นมา โดยที่ไม่ต้องไปสลักลวดลายวิจิตรอะไรบนเก้าอี้ตัวนั้น
less is more
ถ้าคุณเปลี่ยนผนังปูนเป็นกระจก ห้องคุณจะโปร่ง รู้สึกถึงการเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียวกับด้านนอก
รู้สึกเหมือนห้องกว้างขึ้น มีที่ว่างเพิ่มขึ้น ทั้งที่พื้นที่ก็เท่าเดิม
less is more
modern คือยุคสมัย
industrial revolution (ปฏิวัติอุตสาหกรรม) > modern (สมัยใหม่) > post modern (หลังสมัยใหม่)
หลังการปฏิวัติอุตสาหกรรม สถาปนิกกลุ่มหนึ่งเริ่มคำนึงถึงคุณค่าและศักยภาพการใช้งานของสิ่งต่างๆ
ประโยชน์ใช้สอยที่คุ้มค่า ประหยัดวัสดุและแรงงานในการก่อสร้าง
จึงเกิดการตัดทอนองค์ประกอบตกแต่งที่ฟุ่มเฟือยมาใช้รูปทรงเรขาคณิตขั้นพื้นฐานที่มีความเรียบง่ายได้ประโยชน์สูงสุด
การออกแบบนี้มัน modern สำหรับยุคนั้น จึงเรียกงานออกแบบลักษณะนี้ว่า modern
ต่อมามีคนกลุ่มหนึ่งมองว่ารูปทรงเรขาคณิตคือข้อจำกัด คือกรอบ ขัดกับธรรมชาติของมนุษย์ที่ต้องการอิสระ
จึงเกิดงาน post modern ขึ้นมาล้อ modern เช่น
ตึกที่ทำเป็นจิ๊กซอ พิกเซล โค้งซ้อนไปมา
ซึ่งช่องหว่างระหว่างตึกถ้าเป็น modern ก็จะบอกว่าไม่มีประโยชน์
แต่ post modern จะบอกว่าแล้วไงใครแคร์
(แปลได้หลากหลาย น้อยแต่เน้น ทำน้อยได้มาก ง่ายแต่งาม ผมแปลว่าน้อยคือมาก)
เป็นหลักคิดของ Ludwig Mies van der Rohe หนึ่งในผู้บุกเบิกแห่งวงการสถาปัตยกรรมสมัยใหม่
งานของเขาจะมีการใช้ส่วนประกอบที่น้อยแต่ได้ผลมาก ตัดทอนสิ่งไม่จำเป็นออกไป
เรียบง่ายแต่พิถีพิถัน เช่น การใช้แผ่นกระจกแทนผนังปูนทำให้ภายในตัวอาคารดูโปร่งโล่งสบายตา
ภายหลังประโยค less is more นี้ถูกใช้เป็นหัวใจหลักของแนวทางแบบ minimalism
น้อยคือมากคืออะไร ? ยกตัวอย่างเช่น
ถ้าบ้านคุณมีเฟอร์นิเจอร์น้อย คุณก็จะมีพื้นที่ (space) มาก
ถ้าห้องคุณเรียบๆ เหลี่ยมๆ สีขาวล้วน มีเก้าอี้ไม้โง่ๆสีเข้มตั้งอยู่กลางห้องตัวเดียว
เก้าอี้ตัวนั้นก็จะถูกขับให้โดดเด่นขึ้นมา โดยที่ไม่ต้องไปสลักลวดลายวิจิตรอะไรบนเก้าอี้ตัวนั้น
less is more
ถ้าคุณเปลี่ยนผนังปูนเป็นกระจก ห้องคุณจะโปร่ง รู้สึกถึงการเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียวกับด้านนอก
รู้สึกเหมือนห้องกว้างขึ้น มีที่ว่างเพิ่มขึ้น ทั้งที่พื้นที่ก็เท่าเดิม
less is more
modern คือยุคสมัย
industrial revolution (ปฏิวัติอุตสาหกรรม) > modern (สมัยใหม่) > post modern (หลังสมัยใหม่)
หลังการปฏิวัติอุตสาหกรรม สถาปนิกกลุ่มหนึ่งเริ่มคำนึงถึงคุณค่าและศักยภาพการใช้งานของสิ่งต่างๆ
ประโยชน์ใช้สอยที่คุ้มค่า ประหยัดวัสดุและแรงงานในการก่อสร้าง
จึงเกิดการตัดทอนองค์ประกอบตกแต่งที่ฟุ่มเฟือยมาใช้รูปทรงเรขาคณิตขั้นพื้นฐานที่มีความเรียบง่ายได้ประโยชน์สูงสุด
การออกแบบนี้มัน modern สำหรับยุคนั้น จึงเรียกงานออกแบบลักษณะนี้ว่า modern
ต่อมามีคนกลุ่มหนึ่งมองว่ารูปทรงเรขาคณิตคือข้อจำกัด คือกรอบ ขัดกับธรรมชาติของมนุษย์ที่ต้องการอิสระ
จึงเกิดงาน post modern ขึ้นมาล้อ modern เช่น
ตึกที่ทำเป็นจิ๊กซอ พิกเซล โค้งซ้อนไปมา
ซึ่งช่องหว่างระหว่างตึกถ้าเป็น modern ก็จะบอกว่าไม่มีประโยชน์
แต่ post modern จะบอกว่าแล้วไงใครแคร์
แสดงความคิดเห็น
Minimal กับ Modern ต่างกันอย่างไงครับ
Minimal = น้อยแต่มาก
Modern = ตัดทอนสิ่งทีไม่จำเป็น
จึงเกิดคำถามว่าที่สุด มันคือแนวคิดเดียวกัน หรือไม่
(กระทู้แรก ผิดพลาดยังไงขออภัยด้วบครับ)