แต่งงานไม่ถึงเดือนเลิก...

เป็นครั้งแรกเลยที่เขียนกระทู้แบบจริงจัง ผิดพลาดตรงไหนขอโทษด้วยนะคะ ขอเริ่มเรื่องคร่าวๆเลยนะคะ...
เราอายุ 25 เป็นคนต่างจังหวัด ส่วนแฟนเราอายุ 30 เป็นคนกรุงเทพ เรากับแฟนคบกับแฟนตอนเรามาเรียนมหาลัย คบกันได้ประมาณ 4 ปีเราก็จับได้ว่าเค้ามีคนอื่น เค้าคุยกันมาได้ 4-5 เดือนแล้วแต่เราพึ่งรู้เพราะปกติเราเป็นคนไม่จู้จี้จุกจิก อยากไปไหนก็ไป คุยโทรศัพท์กับใครก็ไม่เคยถาม โทรศัพท์ก็ไม่เช็คไม่ยุ่ง เพราะเราถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของเค้า แต่อยู่ๆเซ้นส์มันก็บอกเราเลยลองดูแล้วก็เจอจริงๆ พอเราจับได้เราเลยถามเพื่อให้เค้าเลือกและสรุปเค้าบอกว่าเค้าบอกว่าเค้าเลือกเรา เราก็บอกว่าโอเคงั้นก็ไปจัดการกับทางนั้นให้เรียบร้อยเราจะไม่ยุ่ง แต่อย่าให้มีปัญหาตามมาทีหลังแล้วกัน แล้วเราก็ไม่เคยถามอีกเลยว่าสรุปแล้วเค้าเลิกกันจริงหรือเปล่า(เหมือนความรักมันเริ่มหมดตั้งแต่จับได้แล้ว) และหลังจากนั้นไม่ถึงเดือนเราก็มารู้ว่าตัวเองท้องได้ประมาณ 1 เดือนแล้ว เราจึงตัดสินใจไปบอกพ่อกับแม่ ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเห็นว่าเรียนจบแล้ว แต่ท่านต้องการให้เราแต่งงานและย้ายกลับไปอยู่ที่บ้าน(ตจว.) ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วเราไม่อยากแต่งงานเลยเพราะเหมือนเราไม่ได้รักเค้าขนาดนั้นแล้ว บวกกับว่าเรากลัวว่าถ้าเรากลับไปอยู่ต่างจังหวัดเราจะห่างกันแล้วเค้าจะมีคนอื่นอีกไม่อยากเอาชีวิตไปผูกไว้กับเค้าอีกแล้ว เราบอกพ่อกับแม่ว่าเราไม่อยากแต่งทะเลาะกันใหญ่โตแต่ท่านก็ไม่ยอม เราก็เลยกลับมาคุยกับแฟนแต่แฟนก็พูดแต่ว่าเค้าไม่มีตังค์ถ้าพ่อแม่เราอยากจัดก็ออกค่าใช้จ่ายเองสิ (เรานี่อึ้งเลย คงเพราะเค้าเห็นว่าบ้านเรามีเงินมีธุรกิจด้วยมั้งเลยพูดแบบนั้น) เราก็เลยบอกว่ามีอะไรก็ช่วยๆกันแล้วกันเพราะเรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว แล้วพ่อแม่เราก็นัดให้มาคุยเค้าก็บ่ายเบี่ยงบอกว่างานหยุดไม่ได้บ้าง ไม่ว่างบ้าง จนพ่อเราต้องโทรไปเองเค้าถึงจะยอมมาคุย พอมาคุยเค้าก็บอกพ่อแม่เราว่าเค้าไม่มีเงินช่วยได้แค่ 40,000 และจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเดือนละ 3,000 พ่อแม่เราก็ยอม ช่วงก่อนงานแต่งเราไปหาหมอและฝากท้องเพราะมีเลือดไหลตลอด คุณหมอบอกว่าเรามีภาวะแท้งคุกคาม(เดี๋ยวจะทำอีกกระทู้สำหรับเรื่องภาวะแท้งคุกคามนะคะ) จนมาถึงช่วงจัดงานแต่งก็มีแต่ฝ่ายเราที่คอยจัดงานเตรียมงาน จนงานจบแฟนเราก็กลับไปอยู่กรุงเทพเหมือนเดิม ส่วนเราก็อยู่ที่บ้าน หลังจากงานแต่งได้ประมาณ 10 วัน คุณหมอก็นัดไปซาวด์ปรากฎว่าเด็กหัวใจหยุดเต้น(อายุครรภ์ประมาณ 7 สัปดาห์) ก็ต้องแอดมิชเข้าโรงพยาบาลเพื่อเอาเด็กออก เราก็โทรไปบอกแฟน เค้าก็บอกว่ามาเยี่ยมไม่ได้งานยุ่ง เราก็เฉยๆละตอนนั้นเพราะมีเรื่องอื่นให้คิดมากกว่า แต่ตั้งแต่ช่วงที่เราเข้าโรงพยาบาลเค้าไม่เคยโทรไม่เคยติดต่อมาหาเราเลย จนเราออกจากโรงพยาบาลเราเป็นภาวะซึมเศร้าหลังแท้งเค้าก็ไม่มาเยี่ยม ไม่แม้แต่โทรมา จนเราเริ่มหายเราก็โทรไปหาเค้าว่าให้ช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายได้มั้ย เพราะไหนๆก็ลูกเค้าเหมือนกัน แต่เค้ากลับบอกว่าแท้งเองก็จ่ายเองดิ ทีนี้เราเลยโวยวายทะเลาะกันใหญ่โต สรุปเค้าให้เรามา 6,000 แต่หลังจากนั้นเราต้องเข้าโรงพยาบาลอีกเพื่อไปขูดมดลูกอีก 2 ครั้งเพราะครั้งแรกขูดแล้วไม่หมดเลยต้องไปขูดซ้ำ แต่แฟนเราก็ไม่เคยช่วยค่าใช้จ่ายอะไรอีก และหลังจากนั้นมาแฟนเราก็แทบไม่ติดต่อมาอีกเลย โทรไปหาก็ไม่ค่อยรับ พอรับก็ไม่ค่อยคุย แต่พอเราถามว่าเลิกกันมั้ย มีคนอื่นรึเปล่า เค้าก็บอกว่าไม่เลิก ไม่ได้มีใคร จนผ่านไปอีกเดือนเราเห็นว่าเค้าเองก็ไม่ติดต่อมา แล้วเราก็อยู่ได้ด้วยตัวเองเพราะที่ผ่านมาเราก็ผ่านปัญหาต่างๆมาคนเดียวตลอด เราก็เลยโทรไปหาเค้าบอกว่าเลิกกันไปเถอะต่างคนจะได้ต่างไปใช้ชีวิตของตัวเองเราอยู่ได้แล้วโดยไม่มีเค้า เค้าก็บอกว่าโอเคเลิกก็เลิก เราเลยไปบอกพ่อว่าเราเลิกกับแฟนแล้ว พ่อเราบอกว่าไม่เป็นไรก็ให้ถือเป็นบทเรียนแล้วกัน แล้วเหมือนเรื่องจะจบ แต่อยู่ๆแฟนเราเค้าก็มาหาเราที่ต่างจังหวัดเพราะเป็นวันเกิดเราพอดี มาทำให้ที่บ้านเราเข้าใจว่าเรากลับไปดีกันอีก ทั้งๆที่จริงๆแล้วมันไม่ใช่เลย ตั้งแต่แต่งงานเราก็ไม่เคยเจอกันอีกเลย คุยโทรศัพท์ก็แทบไม่ได้คุย ทักเฟสทักไลน์ไปก็ไม่อ่าน ซึ่งเราไม่รู้เลยว่าเค้าต้องการอะไรกันแน่ แต่เค้ามาครั้งนี้เราไม่ค่อยสนใจเค้าเหมือนแต่ก่อน เราทิ้งเค้าไว้บ้านแล้วเราก็ไปเที่ยวกับเพื่อน(เราก็ไม่รู้ว่าตอนนั้นเราคิดอะไรถึงทำแบบนั้น แต่ความรู้สึกมันเหมือนว่าเราไม่อยากสนใจเค้าแล้ว อยากให้เค้ารู้บ้างว่าตอนโดนทิ้งมันเป็นยังไง เหมือนที่เค้าทิ้งให้เราเจอปัญหาคนเดียว) แล้วพอเค้ากลับกรุงเทพไปเค้าก็ไม่ได้ติดต่อกับเราอีกเลย หลังจากนั้นเราเคยโทรไปจะธุระ เค้าก็ไม่รับ จนตอนหลังที่เค้ารับเค้าบอกว่าเค้าโกรธมากที่เราทิ้งเค้า โกรธที่ทำกับเค้าแบบนั้น แล้วคือยังไงอะเราไม่มีสิทธิ์โกรธบ้างหรอ คิดจะมาหาก็มาแล้วเราก็ต้องหายโกรธแบบนั้นหรอ ทั้งที่สิ่งที่เค้าทำมันหนักกว่าหลายเท่า ตอนนี้ในความรู้สึกเรามันเหมือนเลิกกันไม่ขาดสักที มันมีหลายปัจจัยที่ทำให้เรายังต้องติดต่อกันในบางครั้ง แต่ความรู้สึกมันหมดไปนานแล้ว
ไม่รู้ตอนนี้เราควรจะทำยังไงต่อไปดี เราไม่รู้จะไปเล่าให้ใครฟังหรือจะไปปรึกษาใครดี ใครมีประสบการณ์อะไรหรือแนะนำอะไรมาแชร์กันได้นะคะ ขอบคุณนะคะ พาพันขอบคุณ พาพันขอบคุณ

*** ขอเพิ่มเติมนะคะ (22/12/60) ***
ไม่ได้เข้ามาดู 2-3 วันมีความเห็นเยอะแยะเลย ไปเป็นกระทู้แนะนำใน Facebook ด้วย .... ขอขอบคุณสำหรับทุกๆความคิดเห็นเลยนะคะ อยากจะขอเพิ่มเติมว่า.. เราไม่ได้จดทะเบียนสมรสค่ะ ส่วนคำว่าเลิกไม่ขาด ไม่ได้หมายถึงตัวเราค่ะ ความรู้สึกของเรามันหมดไปนานแล้วจริงๆค่ะ เราสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเองแล้ว แต่ที่บ้านเราจะเป็นประเภทหัวโบราณค่ะประมาณว่า ถ้าเค้ากลับมาหากลับมาง้อก็ดีๆกันไปเถอะไหนๆก็แต่งงานกันแล้ว ความคิดของท่านคืออยากให้มีสามีเดียว ไม่อยากเป็นขี้ปากชาวบ้านว่าแต่งไม่นานก็เลิกอะไรทำนองนั้น นอกจากที่เค้ามาหาเรา บางครั้งก็เป็นพ่อแม่เราซะเองที่ติดต่อไป โทรไปคุยถามสารทุกข์สุขดิบบ้างอะไรบ้าง มันก็เลยเหมือนเลิกไม่ขาดสักที และเราเองก็กลับมาอยู่กับท่านพูดอะไรเราก็มีแต่จะต้องฟังต้องทำตาม อีกอย่างเหมือนแฟนเราจะรู้ว่าถึงเราไม่เล่นด้วยแล้ว แต่ยังไงก็ยังเข้าทางพ่อแม่เราได้บ้าง เพราะเค้ารู้ว่าผู้ใหญ่ไม่อยากให้เลิกกัน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่