ขออนุญาต tag ห้องสินธรด้วย เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเศรษฐกิจ อาจจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวโดยตรง แต่ก็ขอตั้งกระทู้ชวนคุยหน่อย
พอดีเมื่ออาทิตย์ก่อนเห็นทางภาครัฐเขาบอกว่า อย่าไปลงทุนหรือเล่นบิทคอยน์ (ซึ่งผมจะเรียกว่า BTC) แต่ก็มีหลายคนโพสรูปนายกทักษิณแกหิ้วหนังสือ Bitcoins ขึ้นมาเล่มหนึ่ง และได้ฟัง ดร.ชัชชาติพูดที่เชียงใหม่วันก่อน รวมถึงเห็นกระทู้คุณตุ้มข้างล่างเกี่ยวกับสื่อสิ่งพิมพ์ ก็เลยคิดว่า น่าจะถึงเวลาที่เราควรจะคุยเรื่องนี้เสียหน่อย
ตัวผมเองสนใจ cryptocurrency มาเป็นระยะหนึ่งแล้ว และได้เห็นวิวัฒนาการ ของการชำระเงินแบบใหม่นี้ วันก่อนไปเจอแม่ค้าขายเสื้อผ้าตลาดนัดแห่งหนึ่ง ผมถามเขาเล่น ๆ ว่าไม่มีเงินสดจ่ายเลย เพราะไม่ได้พกเงินสดมา เขาก็บอกว่าไม่เป็นไร เขารับชำระ ผ่านโทรศัพท์มือถือได้ เลยสอบถามเขาว่าทำยังไง เขาก็โชว์ให้ดูว่าต้องยังงี้ ๆ
คือสมัยนี้มันมีช่องทางหลายทางในการชำระเงิน อย่าง 7-11 เขาก็มี True Wallet อันนี้ก็เพิ่งเห็นว่าทางด่วนโทลเวย์รับชำระด้วยบัตรนี้ด้วย
ย้อนกลับมาเรื่อง btc อีกที ผมนั่งดูรู้สึกตื่นตาตื่นใจว่า นี่เป็น bubble แบบสมัยหุ้นดอทคอมหรือเปล่า เพราะราคาของ btc พุ่งเอา ๆ แบบรายวัน จนผมจดแทบไม่ทันว่า ราคาจะขึ้นไปเท่าไหร่ สมัยที่ผมนั่งดู ราคามันประมาณ 1BTC = 400 USD
จนเมื่อวันสองวันก่อนราคาขึ้นไป 20,000 USD (ราคาตอนนี้อยู่ราว ๆ 17,000 USD) ก็ต้องยอมรับว่าเราตกขบวนนี้ไปจริง ๆ เพราะกังวลใจว่า มันจะถอนได้จริง ๆ หรือเปล่า...
ซึ่งก็ทราบมาว่า มี "ตู้ ATM" ที่ใช้ฝาก/ถอน BTC ได้จริง ๆ ในกรุงเทพ ฯ นี่แหละ แถมยังมีร้านค้าบางร้านในสยามสแควร์ ที่รับชำระด้วย BTC แล้วก็เห็นเขาลงทุนขุดเหมืองที่อุดร ฯ และไม่รวมแถว ๆ ที่ผมเห็น อันนี้เขาขุดกันเป็นล่ำเป็นสัน ก็ต้องยอมรับว่า
เด็กสมัยนี้เก่งจริง ๆ ผมไปสอบถามพวกเขา คือฟังไม่ค่อยจะรู้เรื่อง เพราะคำศัพท์เยอะ
ก็ได้แต่ติดตามข่าวสารว่า รัฐบาลของแต่ละประเทศหรือที่ไหนเขาทำอะไรบ้าง ก็เห็นว่า มีการเปิดตลาดซื้อขายล่วงหน้า รัฐบาลสิงคโปร์ก็บอกว่า อย่าไปเล่นนะ เกาหลีใต้ก็มี wallet ปิดตัวเพราะถูก hack บางคนก็บอกว่านี่เป็นแหล่งฟอกเงินของอาชญากรต่าง ๆ (ถ้าใครจำได้เมื่อไม่นานมานี้มีผู้ต้องหาต่างชาติผูกคอตายในห้องขังในไทย ซึ่งผู้ต้องหาถูกกล่าวหาว่ารับซื้อขายอาวุธเถื่อนและมีการโอนเงินไปที่ไซปรัส ลองไปหาข่าวอ่านดู)
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็คิดว่า พวกเราควรจะได้เรียนรู้กับมันจะดีกว่า เพื่อว่า เราจะได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ไม่ใช่อะไรก็ผิดกฎหมายนั่นนี่ไปเสียหมด
สรุปประเด็นของกระทู้นี้ก็คือ cryptocurrency นี่นอกเหนือจากจะมี BTC ยังมีเงินสกุลอื่น ๆ เช่น etherium, litecoin, bitcoin cash, ripple, zcoin และอื่น ๆ อีกที่น่าจับตามอง
ไม่อยากเห็นพวกเราต้องตกขบวนกับชาวโลก เพราะคนที่ไม่ยอมปรับตัวหรือปรับแล้วแต่ทำไม่ทัน..ก็จะต้องมีจุดจบเช่นเดียวกับสื่อสิ่งพิมพ์ที่ทะยอยปิดตัวลงไปนั่นเอง
**น่าสนใจกระแส Bitcoins***
พอดีเมื่ออาทิตย์ก่อนเห็นทางภาครัฐเขาบอกว่า อย่าไปลงทุนหรือเล่นบิทคอยน์ (ซึ่งผมจะเรียกว่า BTC) แต่ก็มีหลายคนโพสรูปนายกทักษิณแกหิ้วหนังสือ Bitcoins ขึ้นมาเล่มหนึ่ง และได้ฟัง ดร.ชัชชาติพูดที่เชียงใหม่วันก่อน รวมถึงเห็นกระทู้คุณตุ้มข้างล่างเกี่ยวกับสื่อสิ่งพิมพ์ ก็เลยคิดว่า น่าจะถึงเวลาที่เราควรจะคุยเรื่องนี้เสียหน่อย
ตัวผมเองสนใจ cryptocurrency มาเป็นระยะหนึ่งแล้ว และได้เห็นวิวัฒนาการ ของการชำระเงินแบบใหม่นี้ วันก่อนไปเจอแม่ค้าขายเสื้อผ้าตลาดนัดแห่งหนึ่ง ผมถามเขาเล่น ๆ ว่าไม่มีเงินสดจ่ายเลย เพราะไม่ได้พกเงินสดมา เขาก็บอกว่าไม่เป็นไร เขารับชำระ ผ่านโทรศัพท์มือถือได้ เลยสอบถามเขาว่าทำยังไง เขาก็โชว์ให้ดูว่าต้องยังงี้ ๆ
คือสมัยนี้มันมีช่องทางหลายทางในการชำระเงิน อย่าง 7-11 เขาก็มี True Wallet อันนี้ก็เพิ่งเห็นว่าทางด่วนโทลเวย์รับชำระด้วยบัตรนี้ด้วย
ย้อนกลับมาเรื่อง btc อีกที ผมนั่งดูรู้สึกตื่นตาตื่นใจว่า นี่เป็น bubble แบบสมัยหุ้นดอทคอมหรือเปล่า เพราะราคาของ btc พุ่งเอา ๆ แบบรายวัน จนผมจดแทบไม่ทันว่า ราคาจะขึ้นไปเท่าไหร่ สมัยที่ผมนั่งดู ราคามันประมาณ 1BTC = 400 USD
จนเมื่อวันสองวันก่อนราคาขึ้นไป 20,000 USD (ราคาตอนนี้อยู่ราว ๆ 17,000 USD) ก็ต้องยอมรับว่าเราตกขบวนนี้ไปจริง ๆ เพราะกังวลใจว่า มันจะถอนได้จริง ๆ หรือเปล่า...
ซึ่งก็ทราบมาว่า มี "ตู้ ATM" ที่ใช้ฝาก/ถอน BTC ได้จริง ๆ ในกรุงเทพ ฯ นี่แหละ แถมยังมีร้านค้าบางร้านในสยามสแควร์ ที่รับชำระด้วย BTC แล้วก็เห็นเขาลงทุนขุดเหมืองที่อุดร ฯ และไม่รวมแถว ๆ ที่ผมเห็น อันนี้เขาขุดกันเป็นล่ำเป็นสัน ก็ต้องยอมรับว่า
เด็กสมัยนี้เก่งจริง ๆ ผมไปสอบถามพวกเขา คือฟังไม่ค่อยจะรู้เรื่อง เพราะคำศัพท์เยอะ
ก็ได้แต่ติดตามข่าวสารว่า รัฐบาลของแต่ละประเทศหรือที่ไหนเขาทำอะไรบ้าง ก็เห็นว่า มีการเปิดตลาดซื้อขายล่วงหน้า รัฐบาลสิงคโปร์ก็บอกว่า อย่าไปเล่นนะ เกาหลีใต้ก็มี wallet ปิดตัวเพราะถูก hack บางคนก็บอกว่านี่เป็นแหล่งฟอกเงินของอาชญากรต่าง ๆ (ถ้าใครจำได้เมื่อไม่นานมานี้มีผู้ต้องหาต่างชาติผูกคอตายในห้องขังในไทย ซึ่งผู้ต้องหาถูกกล่าวหาว่ารับซื้อขายอาวุธเถื่อนและมีการโอนเงินไปที่ไซปรัส ลองไปหาข่าวอ่านดู)
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็คิดว่า พวกเราควรจะได้เรียนรู้กับมันจะดีกว่า เพื่อว่า เราจะได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ไม่ใช่อะไรก็ผิดกฎหมายนั่นนี่ไปเสียหมด
สรุปประเด็นของกระทู้นี้ก็คือ cryptocurrency นี่นอกเหนือจากจะมี BTC ยังมีเงินสกุลอื่น ๆ เช่น etherium, litecoin, bitcoin cash, ripple, zcoin และอื่น ๆ อีกที่น่าจับตามอง
ไม่อยากเห็นพวกเราต้องตกขบวนกับชาวโลก เพราะคนที่ไม่ยอมปรับตัวหรือปรับแล้วแต่ทำไม่ทัน..ก็จะต้องมีจุดจบเช่นเดียวกับสื่อสิ่งพิมพ์ที่ทะยอยปิดตัวลงไปนั่นเอง