ขอมาเล่าประสบการณ์การเป็นหัดของน้องแมวให้เหล่าทาสแมวฟังค่ะ
เพื่อจะเป็นประโยชน์ และช่วยชีวิตน้องแมวค่ะ
เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว
เราเลี้ยงแมวทั้งหมด 21 ตัวค่ะ อายุตั้งแต่ 8 เดือน - 7 ปี (ตัวที่ 7 ปีเพิ่งตายไปด้วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง)
เริ่มจากเราสังเกตุว่าแมวเราตัวหนึ่ง ชื่อ "ลาล่า" อ้วก เป็นน้ำเหลวๆ ขาวๆ มีฟอง โดยที่ไม่มีอาหารออกมาเลย
เลยมั่นใจว่าน้องไม่ได้อ้วกเพราะอาหาร หรือสำรอกขนออกมาก
เราปล่อยลาล่าไว้หนึ่งวันค่ะ เพราะเราไม่รู้จริงๆว่าน้องเป็นอะไร น้องไปหลบใต้โต๊ะ เอาแต่นอน
ตอนนั้นไม่ได้คิดว่าเป็นหัด คิดแค่ว่าคงไม่สบาย
วันรุ่งขึ้นเลยพาไปหาหมอ หมอสงสัยว่าเป็นหัด จึงทำการตรวจ ปรากฎว่าลาล่าเป็นหัดค่ะ
ตอนนั้นช็อคมาก เพราะเคยรู้มาว่าหัดสามารถติดต่อกับแมวได้ง่ายมากๆ แล้วแมวทุกตัวไม่เคยทำวัคซีนค่ะ
เราโชคร้ายค่ะ ภายในระยะเวลา 1-2 วัน แมวติดหัดทั้งหมด 6 ตัว ไม่ติด 15 ตัว
กลับมาถึงบ้าน ทำการแยกค่ะ แบ่งโซนกั้นห้อง แมวป่วยทั้ง 6 ตัวอยู่ห้องเดียวกันค่ะ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
เราเริ่มทำการรักษา ด้วยการ
1.ตรวจหัด --> เพื่อให้มั่นใจ และจะได้ทำการรักษาต่อไป
2.ตรวจเลือด --> เพื่อเชคค่าเม็ดเลือดขาว หัดจะทำลายเม็ดเลือดขาว ให้แมวไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้
3.ฉีดยาแก้อาเจียน --> เพื่อให้น้องสามารถกินข้าวได้
4.ฉีดยากระตุ้นภูมิ --> คือการฉีดเพื่อให้ค่าเม็ดเลือดขาวขึ้น มาต่อสู้กับโรค
5.น้ำเกลือเข้าเส้นเลือด --> เป็นการให้สารอาหารทางเส้นเดือนค่ะ แนะนำตัวนี้ ไม่แนะนำใต้ผิวหนังค่ะ การเข้าเส้นเลือด ต้องให้อย่างน้อย 8-12 ชั่วโมง ควรให้แต่เช้าแล้วรับกลับเย็น เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย แต่หากมีเงินมากพอ การแอดมิด ดีที่สุดค่ะ
6.การแอดมิน --> อย่างที่บอกว่าถ้าน้องเป็นหนักก็สำคัญค่ะ เพราะต้องคอยให้น้ำเกลือ ป้อนอาหาร ป้อนยา แต่ไม่ทุกรพ.นะคะ ที่จะรับสัตว์ติดเชื้อ
การทานอาหาร การป้อน
1.ยาเขียว --> ป้อนทุกๆ 2 ชั่วโมง ครั้งละ 1-2 เม็ด หักเอาค่ะ เพราะเม็ดใหญ่ น้องปากนิดเดียว // เราเชื่อมั่นในยานี้ 85% ค่ะ ว่ารักษาหัดในแมวได้ เราถามหมอแล้ว หมอก็คงพูดเหมือนๆกันว่าไม่มีประโยชน์ ไม่ได้ช่วยอะไร เราเลยถามหมอคำเดียวว่า ถ้ากินแล้วน้องก็ไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหมคะ หมอบอกว่ากินก็ไม่เป็นอะไร เราเลยจัดให้กินทุกตัวเลยค่ะ
2.อาหารเปียก --> a/d หรือ recovery ที่เป็นกระป๋อง ผสมน้ำ ใช้ไซริง ฉีดเข้าปากค่ะ ทุกมื้อ เพราะน้องไม่ทานอยู่แล้ว ต้องคอยป้อน กึ่งบังคับ
3.น้ำแดงเฮลบูบอย --> ดีค่ะ ป้อนใส่ไซริง 2 หลอด ประมาณ 6 cc หลังอาหาร หมอแจ้งว่าแมวป่วยต้องทานกลูโคสช่วย
4.ยาที่หมอจ่าย --> สำคัญค่ะ ต้องคอยป้อน ยาละเลย
การรักษาแต่ละอย่าง ขอให้เชื่อหมอ 90% พอนะคะ ที่เหลือเราต้องดูลูกของเราว่าเขาสู้กับยาไหม เขาจะรับการอัดฉีดยามากๆได้ไหม
หรือแม้แต่ขั้นตอนการรักษาของหมอเองก็ตาม ที่หลายครั้งเองเราก็ไม่เห็นด้วยและปฏิเสธไป
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอแจ้งอาการแต่ละตัวดังนี้ค่ะ
ลาล่า --> แมวเมีย อายุ 8 เดือน เริ่มจากอาเจียน ไม่กินข้าว หอบ อ้าปากเหมือนหายใจไม่ออก เป็นๆหายๆ ถ่ายเป็นเลือด
รักษาเหมือนข้างต้นทั้งหมด เลิกอาเจียนเพราะยา แต่ไม่หายหอบ อยู่มา 7 วัน แต่น้องเสียที่รพ.สัตว์ ตอนที่หมอป้อนยา คามือหมอค่ะ
สโนว์ -- > มิ้วน้อย อายุ 1 เดือน เริ่มจากอาเจียนเพียงอย่างเดียว ซึม ไม่กินข้าว ไม่หอบ ถ่ายปกติ แต่น้องไม่รับอาหารเลย ไม่ยอมกลืน ไม่กิน เอาแต่นอน ให้น้ำเกลือเข้าเส้นเลือด ไม่หยุดอ้วกแม่แต่น้อย รักษาตามข้างต้น อยู่มา 7 วัน จากไปอย่างสงบ หลังจากลาล่า 5 ชั่วโมง
ไขตุ๋น --> เพศผู้ อายุ 8 เดือน ซึม ไม่ยอมกินข้าว ให้ยาระงับอาเจียนก็ไม่อาเจียนอีก ยังคงถ่ายเป็นเลือด พยายามป้อนข้าวน้องทุกวัน รักษาตามข้างต้น หลังจาก 7 วัน น้องเริ่มดีขึ้น แล้วหายเป็นปกติ
เนวี่ --> เพศผู้ อายุ 8 เดือน เป็นเหมือนไขตุ๋นทุกอย่าง เอาแต่นอน รักษา จนหายเป็นปกติ
ขวัญ --> เพศเมีย อายุ 1.5 ปี ซึม ไม่กินข้าว หอบหนักมาก อ้าปาก ไปแอดมินรพ.1คืน รักษาตามข้างต้นทุกอย่าง 7 วัน หายเป็นปกติค่ะ
ข้าว --> เพศเมีย อายุ 1.5 ปี พาไปหาหมอ เหมือนปกติทุกอย่าง ให้น้ำเกลือใต้ผิว
กลับถึงบ้าน 1 ชั่วโมง น้องเสียทันทีค่ะ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
อาการของสัตว์ป่วยเป็นหัด ที่ต้องคอยระวัง
1.ซึม นอนมากผิดปกติ
2.ไม่ทานข้าว ไม่อยากอาหาร
3.อาเจียนเป็นฟอง และน้ำใสๆ **
4.ถ่ายเป็นเลือด แดงสดหรือเลือดหมู **
5.หอบ การหายใจผิดปกติ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
ค่ารักษา โดยประมาณ
ค่อนข้างบานปลายค่ะ และแพงมากๆ เราอยู่กรุงเทพในเมืองก็จริงค่ะ แต่เลือกที่จะรักษาโรงพยาบาลเอกชน เพราะรวดเร็ว ประหยัดเวลา
ตัวเราเองก็ทำงาน ไม่มีเวลามากพอไปที่จะต่อคิวตามโรงพยาบาลจุฬา หรือเกษตร เพราะฉะนั้นขอแจ้งค่ารักษา ของเอกชนนะคะ
ตรวจหัด 600 บาท
ตรวจเลือด 500 บาท
ออกซิเจน ทั้งวัน 600 บาท
ค่าน้ำเกลือเข้าเส้น 400 บาท
ค่าหมอ+ค่ายา+ค่าฉีดยา 800 บาท
ค่ายากระตุ้นภูมิขวดละ 2000 บาท ใช้ได้หลายครั้ง (ของเราโชคดี หมอจัดที่เหลือของตัวเก่าให้ได้ประมาณ 3-4 เข็ม แต่ก็ไม่ได้ฉีดอีกค่ะ)
แต่ของเรารวมหมดไปเกือบ 30,000 ค่ะ เพราะเราเป็น 6 ตัว รักษาเข้าออก รพ.ประมาณ 7 วัน
1 ตัว ตกวันละ 1,500 บาท 6 ตัว = 9000 บาท
7 วัน บวกลบ มากบ้าง น้อยมาก รวมๆ 30,000 ค่ะ
เป็นหนี้ค่ะ ค่อนข้างหนัก แต่ตอนนี้แฮปปีค่ะ น้องดีขึ้น น้องรอดเราก็มีความสุขตาม
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรากลับมาทบทวนค่ะ ว่าน้องติดหัดมาได้ยังไง ในเมื่อเราเลี้ยงระบบปิด น้องไม่เคยออกจากบ้านเลยแม้แต่นิดเดียว
แต่ก่อนหน้านั้น 4 วัน เราเพิ่งเจอมิ้วน้อย 3 ตัวถูกทิ้งในถังขยะ อายุ 1 เดือน ด้วยความที่ไม่คิดอะไร เลยพาน้องเข้ามาในบ้าน ไว้ในกรง เพื่อรอหาบ้าน
ปล่อยน้องออกมาบ้าง ออกมากินนม เล่นกับพี่ๆ ประมาณ 2-3 วันน้องก็ได้บ้านแล้วค่ะ เราไม่ได้มองว่าติดมาจากจุดนี้ 100% เพราะถ้าน้องเป็นหัดแต่เด็ก น้องต้องไม่รอด น้อง 3 ตัว ตาย1 อีก2 ไม่มีหัด ยังมีชีวิตอยู่กับคนที่รับไปเลี้ยง ทำให้เราพูดได้ไม่เต็มปากว่าเกิดจากมิ้วน้อย 3 ตัวนี้
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
แต่ครั้งนี้ทำให้เราได้ประสบการณ์มากๆเลยค่ะ และอยากให้เป็นอุทาหรณ์
ว่าไม่ควรเอาแมวอื่นเข้าบ้านหรือการพาเข้าบ้าน ควรจะไปตรวจสุขภาพให้เรียบร้อยนะคะ
ทั้งนี้ ในระหว่างที่มาแบ่งปันประสบการณ์ กำลังรักษาแมวที่เป็นเนื้องอกในช่องอก ที่เกิดจากลิวคีเมียอยู่
จะทยอยอัพเดตเพิ่มอีก 3 โรค คือไต+นิ่ว , ลิวคีเมีย , เนื้องอก ให้ค่ะ
ขอให้ทาสทั้งหลายที่มาอ่านอยู่ แล้วน้องเกิดป่วย ขอให้สู้ๆนะคะ อย่าท้อ ถ้าน้องสู้เราต้องสู้ค่ะ
ในความเสียใจ ยังมีความหวัง ขอให้น้องหายรอดปลอดภัยนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
ไข้หัดแมว อ่านเถอะค่ะ รักษาจนหายดี
เพื่อจะเป็นประโยชน์ และช่วยชีวิตน้องแมวค่ะ
เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว
เราเลี้ยงแมวทั้งหมด 21 ตัวค่ะ อายุตั้งแต่ 8 เดือน - 7 ปี (ตัวที่ 7 ปีเพิ่งตายไปด้วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง)
เริ่มจากเราสังเกตุว่าแมวเราตัวหนึ่ง ชื่อ "ลาล่า" อ้วก เป็นน้ำเหลวๆ ขาวๆ มีฟอง โดยที่ไม่มีอาหารออกมาเลย
เลยมั่นใจว่าน้องไม่ได้อ้วกเพราะอาหาร หรือสำรอกขนออกมาก
เราปล่อยลาล่าไว้หนึ่งวันค่ะ เพราะเราไม่รู้จริงๆว่าน้องเป็นอะไร น้องไปหลบใต้โต๊ะ เอาแต่นอน
ตอนนั้นไม่ได้คิดว่าเป็นหัด คิดแค่ว่าคงไม่สบาย
วันรุ่งขึ้นเลยพาไปหาหมอ หมอสงสัยว่าเป็นหัด จึงทำการตรวจ ปรากฎว่าลาล่าเป็นหัดค่ะ
ตอนนั้นช็อคมาก เพราะเคยรู้มาว่าหัดสามารถติดต่อกับแมวได้ง่ายมากๆ แล้วแมวทุกตัวไม่เคยทำวัคซีนค่ะ
เราโชคร้ายค่ะ ภายในระยะเวลา 1-2 วัน แมวติดหัดทั้งหมด 6 ตัว ไม่ติด 15 ตัว
กลับมาถึงบ้าน ทำการแยกค่ะ แบ่งโซนกั้นห้อง แมวป่วยทั้ง 6 ตัวอยู่ห้องเดียวกันค่ะ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
เราเริ่มทำการรักษา ด้วยการ
1.ตรวจหัด --> เพื่อให้มั่นใจ และจะได้ทำการรักษาต่อไป
2.ตรวจเลือด --> เพื่อเชคค่าเม็ดเลือดขาว หัดจะทำลายเม็ดเลือดขาว ให้แมวไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้
3.ฉีดยาแก้อาเจียน --> เพื่อให้น้องสามารถกินข้าวได้
4.ฉีดยากระตุ้นภูมิ --> คือการฉีดเพื่อให้ค่าเม็ดเลือดขาวขึ้น มาต่อสู้กับโรค
5.น้ำเกลือเข้าเส้นเลือด --> เป็นการให้สารอาหารทางเส้นเดือนค่ะ แนะนำตัวนี้ ไม่แนะนำใต้ผิวหนังค่ะ การเข้าเส้นเลือด ต้องให้อย่างน้อย 8-12 ชั่วโมง ควรให้แต่เช้าแล้วรับกลับเย็น เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย แต่หากมีเงินมากพอ การแอดมิด ดีที่สุดค่ะ
6.การแอดมิน --> อย่างที่บอกว่าถ้าน้องเป็นหนักก็สำคัญค่ะ เพราะต้องคอยให้น้ำเกลือ ป้อนอาหาร ป้อนยา แต่ไม่ทุกรพ.นะคะ ที่จะรับสัตว์ติดเชื้อ
การทานอาหาร การป้อน
1.ยาเขียว --> ป้อนทุกๆ 2 ชั่วโมง ครั้งละ 1-2 เม็ด หักเอาค่ะ เพราะเม็ดใหญ่ น้องปากนิดเดียว // เราเชื่อมั่นในยานี้ 85% ค่ะ ว่ารักษาหัดในแมวได้ เราถามหมอแล้ว หมอก็คงพูดเหมือนๆกันว่าไม่มีประโยชน์ ไม่ได้ช่วยอะไร เราเลยถามหมอคำเดียวว่า ถ้ากินแล้วน้องก็ไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหมคะ หมอบอกว่ากินก็ไม่เป็นอะไร เราเลยจัดให้กินทุกตัวเลยค่ะ
2.อาหารเปียก --> a/d หรือ recovery ที่เป็นกระป๋อง ผสมน้ำ ใช้ไซริง ฉีดเข้าปากค่ะ ทุกมื้อ เพราะน้องไม่ทานอยู่แล้ว ต้องคอยป้อน กึ่งบังคับ
3.น้ำแดงเฮลบูบอย --> ดีค่ะ ป้อนใส่ไซริง 2 หลอด ประมาณ 6 cc หลังอาหาร หมอแจ้งว่าแมวป่วยต้องทานกลูโคสช่วย
4.ยาที่หมอจ่าย --> สำคัญค่ะ ต้องคอยป้อน ยาละเลย
การรักษาแต่ละอย่าง ขอให้เชื่อหมอ 90% พอนะคะ ที่เหลือเราต้องดูลูกของเราว่าเขาสู้กับยาไหม เขาจะรับการอัดฉีดยามากๆได้ไหม
หรือแม้แต่ขั้นตอนการรักษาของหมอเองก็ตาม ที่หลายครั้งเองเราก็ไม่เห็นด้วยและปฏิเสธไป
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอแจ้งอาการแต่ละตัวดังนี้ค่ะ
ลาล่า --> แมวเมีย อายุ 8 เดือน เริ่มจากอาเจียน ไม่กินข้าว หอบ อ้าปากเหมือนหายใจไม่ออก เป็นๆหายๆ ถ่ายเป็นเลือด
รักษาเหมือนข้างต้นทั้งหมด เลิกอาเจียนเพราะยา แต่ไม่หายหอบ อยู่มา 7 วัน แต่น้องเสียที่รพ.สัตว์ ตอนที่หมอป้อนยา คามือหมอค่ะ
สโนว์ -- > มิ้วน้อย อายุ 1 เดือน เริ่มจากอาเจียนเพียงอย่างเดียว ซึม ไม่กินข้าว ไม่หอบ ถ่ายปกติ แต่น้องไม่รับอาหารเลย ไม่ยอมกลืน ไม่กิน เอาแต่นอน ให้น้ำเกลือเข้าเส้นเลือด ไม่หยุดอ้วกแม่แต่น้อย รักษาตามข้างต้น อยู่มา 7 วัน จากไปอย่างสงบ หลังจากลาล่า 5 ชั่วโมง
ไขตุ๋น --> เพศผู้ อายุ 8 เดือน ซึม ไม่ยอมกินข้าว ให้ยาระงับอาเจียนก็ไม่อาเจียนอีก ยังคงถ่ายเป็นเลือด พยายามป้อนข้าวน้องทุกวัน รักษาตามข้างต้น หลังจาก 7 วัน น้องเริ่มดีขึ้น แล้วหายเป็นปกติ
เนวี่ --> เพศผู้ อายุ 8 เดือน เป็นเหมือนไขตุ๋นทุกอย่าง เอาแต่นอน รักษา จนหายเป็นปกติ
ขวัญ --> เพศเมีย อายุ 1.5 ปี ซึม ไม่กินข้าว หอบหนักมาก อ้าปาก ไปแอดมินรพ.1คืน รักษาตามข้างต้นทุกอย่าง 7 วัน หายเป็นปกติค่ะ
ข้าว --> เพศเมีย อายุ 1.5 ปี พาไปหาหมอ เหมือนปกติทุกอย่าง ให้น้ำเกลือใต้ผิว
กลับถึงบ้าน 1 ชั่วโมง น้องเสียทันทีค่ะ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
อาการของสัตว์ป่วยเป็นหัด ที่ต้องคอยระวัง
1.ซึม นอนมากผิดปกติ
2.ไม่ทานข้าว ไม่อยากอาหาร
3.อาเจียนเป็นฟอง และน้ำใสๆ **
4.ถ่ายเป็นเลือด แดงสดหรือเลือดหมู **
5.หอบ การหายใจผิดปกติ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
ค่ารักษา โดยประมาณ
ค่อนข้างบานปลายค่ะ และแพงมากๆ เราอยู่กรุงเทพในเมืองก็จริงค่ะ แต่เลือกที่จะรักษาโรงพยาบาลเอกชน เพราะรวดเร็ว ประหยัดเวลา
ตัวเราเองก็ทำงาน ไม่มีเวลามากพอไปที่จะต่อคิวตามโรงพยาบาลจุฬา หรือเกษตร เพราะฉะนั้นขอแจ้งค่ารักษา ของเอกชนนะคะ
ตรวจหัด 600 บาท
ตรวจเลือด 500 บาท
ออกซิเจน ทั้งวัน 600 บาท
ค่าน้ำเกลือเข้าเส้น 400 บาท
ค่าหมอ+ค่ายา+ค่าฉีดยา 800 บาท
ค่ายากระตุ้นภูมิขวดละ 2000 บาท ใช้ได้หลายครั้ง (ของเราโชคดี หมอจัดที่เหลือของตัวเก่าให้ได้ประมาณ 3-4 เข็ม แต่ก็ไม่ได้ฉีดอีกค่ะ)
แต่ของเรารวมหมดไปเกือบ 30,000 ค่ะ เพราะเราเป็น 6 ตัว รักษาเข้าออก รพ.ประมาณ 7 วัน
1 ตัว ตกวันละ 1,500 บาท 6 ตัว = 9000 บาท
7 วัน บวกลบ มากบ้าง น้อยมาก รวมๆ 30,000 ค่ะ
เป็นหนี้ค่ะ ค่อนข้างหนัก แต่ตอนนี้แฮปปีค่ะ น้องดีขึ้น น้องรอดเราก็มีความสุขตาม
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรากลับมาทบทวนค่ะ ว่าน้องติดหัดมาได้ยังไง ในเมื่อเราเลี้ยงระบบปิด น้องไม่เคยออกจากบ้านเลยแม้แต่นิดเดียว
แต่ก่อนหน้านั้น 4 วัน เราเพิ่งเจอมิ้วน้อย 3 ตัวถูกทิ้งในถังขยะ อายุ 1 เดือน ด้วยความที่ไม่คิดอะไร เลยพาน้องเข้ามาในบ้าน ไว้ในกรง เพื่อรอหาบ้าน
ปล่อยน้องออกมาบ้าง ออกมากินนม เล่นกับพี่ๆ ประมาณ 2-3 วันน้องก็ได้บ้านแล้วค่ะ เราไม่ได้มองว่าติดมาจากจุดนี้ 100% เพราะถ้าน้องเป็นหัดแต่เด็ก น้องต้องไม่รอด น้อง 3 ตัว ตาย1 อีก2 ไม่มีหัด ยังมีชีวิตอยู่กับคนที่รับไปเลี้ยง ทำให้เราพูดได้ไม่เต็มปากว่าเกิดจากมิ้วน้อย 3 ตัวนี้
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
แต่ครั้งนี้ทำให้เราได้ประสบการณ์มากๆเลยค่ะ และอยากให้เป็นอุทาหรณ์
ว่าไม่ควรเอาแมวอื่นเข้าบ้านหรือการพาเข้าบ้าน ควรจะไปตรวจสุขภาพให้เรียบร้อยนะคะ
ทั้งนี้ ในระหว่างที่มาแบ่งปันประสบการณ์ กำลังรักษาแมวที่เป็นเนื้องอกในช่องอก ที่เกิดจากลิวคีเมียอยู่
จะทยอยอัพเดตเพิ่มอีก 3 โรค คือไต+นิ่ว , ลิวคีเมีย , เนื้องอก ให้ค่ะ
ขอให้ทาสทั้งหลายที่มาอ่านอยู่ แล้วน้องเกิดป่วย ขอให้สู้ๆนะคะ อย่าท้อ ถ้าน้องสู้เราต้องสู้ค่ะ
ในความเสียใจ ยังมีความหวัง ขอให้น้องหายรอดปลอดภัยนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ