".........."
กอล์ฟค่อยๆลืมตาขึ้นมา ภาพอันเบลอค่อยๆชัดเจนขึ้น เป็นภาพพัดลมเพดานที่กำลังพัดหมุน ห้องพักอันคับแคบในหอพักถูกๆสว่างไปด้วยแสงแดดยามสายที่ส่องเข้ามาจากหน้าต่าง นาฬิกาปลุกดิจิตอลบนโต๊ะเล็กข้างหัวเตียงที่ไม่ได้ตั้งปลุกไว้ บอกเวลาเป็น 11:36 น.
"อูย... ปวดหัวชะมัด... สงสัยเพ่งมากไปนิด"
พึมพำแล้ว กอล์ฟก็ค่อยๆลุกขึ้นมาจากเตียง กุมหัวเดินโซเซตรงไปยังห้องน้ำที่คับแคบเสียแทบจะเป็นปลากระป๋อง ทำกิจส่วนตัว
กอล์ฟนั้น เป็นนักศึกษาคณะศิลปศาสตร์ในมหาวิทยาลัยมีชื่อแห่งหนึ่งในกรุง เป็นหนุ่มผมยาว มัดผมหางม้า ไว้หนวดเครา ผอมสูง ผิวขาว มีหน้าตาแบบลุ๊คเกาหลีตามที่วัยรุ่นทั้งหลายสมัยนี้ชอบ แต่งตัวปอนๆ ใส่กางเกงยีนส์ขาเดฟหม่นๆขาดนิดๆและรองเท้าผ้าใบสีขาวเก่าๆ มีลักษณะเป็นหนุ่มอาร์ท สมกับเป็นนักศึกษาศิลป์ และยังออกแนวธรรมะธรรมโมอีกด้วย ความสามารถทางวิจิตรศิลป์อันเทียบเทียมได้กับศิลปินมืออาชีพของกอล์ฟ ทำให้ชีวิตการศึกษาของเขากำลังไปได้สวย แต่เขามีปัญหาครอบครัว พ่อแม่ของเขาที่ต่างจังหวัดมักทะเลาะกันจนเกือบจะหย่ากันหลายครั้ง และพ่อของเขาก็ส่งเงินมาให้ไม่เคยพอ เนื่องจากปัญหาครอบครัวอันนั้น ภายหลังจึงตัดสินใจหารายได้ด้วยตนเอง ด้วยการวาดภาพนำไปฝากขายในที่ต่างๆ ซึ่งก็ได้เงินมาพอกิน พอจ่ายค่าหอ และพอเก็บสะสมสำหรับจ่ายค่าเทอม
ร้านขายของบูติคขนาดกลางแห่งหนึ่งในกรุง เป็นร้านหนึ่งในบรรดาร้านทั้งหลาย ที่กอล์ฟนำภาพวาดของเขามาฝากขาย
"ตามที่ตกลงกันนา อั๊วะได้ 5%"
"ครับเจ้"
"นี่ อากอล์ฟ... ทำไมลื้อวาดภาพสวยจังล่ะ.. หา ? ... ขนาดอั๊วะเป็นคนไม่ชอบเรื่องศิลปะ
อั๊วะยังรู้สึกดีกับภาพของลื้อเลย แล้วก็ขายออกไวมาก ขายได้แพงอีกด้วย...
นี่ คราวนี้ลื้อเอาภาพมาฝากขายที่ร้านอั๊วะเยอะๆหน่อยสิ อั๊วะจะได้รวยๆ ฮิ ฮิ ฮิ"
ไป่ สาวเจ้าของร้านอายุราวๆสามสิบ เชื้อสายจีน ตาหยี ไว้ผมเปียหน้าม้า สวมชุดกี่เผ้า และมักถือพัดอยู่เสมอ พูดทีเล่นทีจริงกับกอล์ฟอย่างสนิทสนม หลังๆมานี้เธอได้กำไรจากการฝากขายภาพวาดของกอล์ฟเป็นกอบเป็นกำ ปกติในหัวของเธอมีแต่เรื่องกำไรขาดทุน แต่พอมาเห็นภาพที่กอล์ฟนำมาฝากขาย เธอจึงถูกสะกดทำให้ตะลึงตั้งแต่แรกเห็น เพราะมนต์ขลังอังทรงพลังในภาพ ทำให้ไป่ตกลงรับฝากขายทั้งที่ไม่เคยรับของของใครมาฝากขายในร้านของตัวเองง่ายๆเลย
"ฮะ ฮะ ฮะ... โชคดีเฉยๆน่ะครับเจ้"
"ไอหย่ะ... ทำเป็นถ่อมตัวไม่เข้าเรื่อง ขายดีแบบนี้ยังจะมาว่าโชคดีอีก... อย่าลืมนา
เอามาภาพมาฝากขายเยอะๆหน่อย สองสามภาพมันไม่พอหรอก แบ่งๆกันรวย"
"ด... ได้ครับเจ้"
กอล์ฟทึ่งในความงกของไป่ เขาตอบรับเพียงเพื่อรักษาความสัมพันธ์ในฐานะหุ้นส่วน แต่ในใจนึกค้อนไป่ว่า กว่าจะได้สักภาพหนึ่งมันใช้เวลาและใชัพลังงานชีวิตมาก ใช่ว่าจะผลิตมาซื้อมาขายกันได้ง่ายๆเหมือนขนมนมเนย
แล้วกอล์ฟก็โบกมือบอกลาไป่ที่กำลังยิ้มตาหยีเอาพัดพัดตัวเองอย่างอารมณ์ดี เดินออกจากร้านไปพร้อมกับเงินกำไรอันงามจากการขายภาพ ครั้งนี้เขาได้เงินมากที่สุดเป็นประวัติการณ์
"ฟู่ววว.... เกินเก็บซะเยอะแบบนี้คงได้เที่ยวบ้างล่ะ... ไม่สิ... เก็บไว้ก่อนดีกว่า เผื่อมีเรื่องต้องได้ใช้"
กอล์ฟหนุ่มอาร์ทผู้ไม่ประมาทในชีวิต พึมพำอยู่ในลำคอ แบกเป้ ถือบอร์ดผ้าใบสำหรับวาดภาพไว้ในมือ เดินฮัมเพลงแนวอินดี้ที่ชอบไปอย่างร่าเริง มุ่งสู่แคมปัสมหาวิทยาลัยที่เขาจะมีเรียนในภาคบ่ายนี้
ในห้องวาดภาพของคณะ...
ใหม่ สาวทอมซอยผมสั้น แต่หน้าตาน่ารักแบบหวานๆ ย้อมผมสีทอง เป็นลูกครึ่งอเมริกัน เพื่อนในชั้นเรียนคนหนึ่งของกอล์ฟซึ่งมีลุ๊คเซอร์ไม่แพ้เขา เข้ามาหากอล์ฟเพื่อจะมาหยอกเขาเล่น แล้วต้องชะงัก เมื่อได้ยินเสียงเพลงบรรเลงแนวคลาสสิกสไตล์เยอรมันสมัยเก่าจากเครื่องเล่น mp3 เครื่องเล็กๆของกอล์ฟ ที่เปิดฟังไว้ใกล้ๆตัวในขณะที่วาดภาพ
"โหย กอล์ฟ !... ฟังเพลงอะไรแบบนี้เนี่ยแก... ทำตัวเป็นพวกผู้ดีไปได้"
"เอ้า แกนี่เอง ตกใจหมด... จะสร้างผลงานทั้งที มันต้องมีอารมณ์สุนทรีย์เข้ามาช่วยหน่อยสิ
งานถึงจะออกมาดี"
"อ้อ... นี่เองมั้ง ที่ภาพของแกมันถึงสวยเด่นกว่าเพื่อน... มีตัวช่วยนี่เอง... ขี้โกง"
"ฮะ ฮะ... นี่แหละ ที่เขาเรียกว่า ศิลปิน... อยากเด่นมั่งก็ลองดูมั่งสิ"
"หู้ย ไม่ไหว... เพลงคลาสสิคโมส่งโมสาร์ทอะไรแบบนี้ ฟังแล้วเลี่ยน อยากจะอ้วก... เด่นไปคนเดียวเหอะ
... ฉันมีแนวเพลงที่ชอบของฉันอยู่ย่ะ"
"ฟังเพลงแนวอเมริกันพั๊งค์ร็อคจังหวะเร็วๆแบบนั้นน่ะ ผลงานของแกมันถึงออกมาเป็นโทนร้อนไง
มีความร้อนแรง... นี่แหละ แนวของแกล่ะ เอาดีกับมันให้ได้... ศิลปินน่ะ จิตใจกำลังมีอารมณ์เป็นยังไง
ผลงานที่สร้างก็ออกมาตามนั้นแหละ... นี่ไม่ใช่เคล็ดลับอะไรหรอก มันเป็นธรรมชาติ ถ้าฉันจะวาดภาพแบบจีน
ฉันก็คงเอาเพลงจีนมาฟังนั่นแหละ... ต้องรู้จักสร้างอารมณ์ด้วย ไม่ใช่ว่าสร้างผลงานขึ้นมาดาดๆเลย
แบบนั้นถึงผลงานมันจะออกมาสวยดียังไงก็ช่าง มันจะแห้งๆ ดูงั้นๆ ไม่มีรสชาติ ไม่ดึงดูดเท่าที่ควร... รู้เปล่า"
ถูกเพื่อนศิลปินผู้เป็นนักศึกษาหัวกะทิของคณะกล่าวสอนแบบนี้ ใหม่ถึงกับอึ้งไปครู่หนึ่ง ตาก็มองดูกอล์ฟที่กำลังวาดภาพสีน้ำมันแนวยุโรปต่อไปอย่างอารมณ์ดี สิ่งนี้ทำให้เธอทวีความชอบพอในตัวกอล์ฟมากขึ้น หวั่นใจลึกๆว่าเธอจะมีอันละความเป็นทอมไปสักวันหนึ่ง
"
เฮ้อ... ฉันไม่ใช่ศิลปินของแท้แบบแกนี่นา จิตวิญญาณอะไรก็ไม่ค่อยจะมี... วาดภาพออกมาทีไร
ภาพก็ไม่เคยเข้าตาอาจารย์เลยซักคน"
"ไม่จริงหรอก... ภาพของแกบางภาพฉันเห็นแล้วก็เข้าท่าดีอยู่ มีจิตวิญญาณความรู้สึกใช่เล่นเหมือนกัน...
ภาพไฟนรกของแกอันนั้นที่อาจารย์บอกว่าไม่ผ่าน ไปไหนซะล่ะ ? เก็บไว้อยู่รึเปล่า ?"
"อืม ... เก็บไว้อยู่ ฉันทิ้งผลงานของตัวเองไม่ลงหรอก... ฉันว่ามันสวยดี สำหรับฉันนะ"
"ดีละๆ เก็บไว้ ฉันชอบภาพนั้นของแก... อาจารย์พวกนั้นไม่ใช่ศิลปินโดยจิตวิญญาณหรอก
ตัดสินผลงานของคนอื่นไปตามอีโก้ของตัวเองเท่านั้นแหละ... ภาพไฟนรกนั่น ฉันว่ามันร้อนแรงดี
เป็นเหมือนกับถูกเผาเพื่อชำระบาปอะไรเถือกๆนั้นน่ะ... ตอนวาด แกรู้สึกยังไงอยู่เหรอ ?"
"...... ตอนฉันวาดเหรอ ?... อืม... ฉันรู้สึกผิดที่ฉันเถียงกับพ่อแม่มาน่ะ เถียงแรงด้วย...
มือของฉันมันไปตามอารมณ์นั้นเองเลย"
"นั่น เห็นมั้ยล่ะ...อย่างที่บอก อารมณ์ของแกเป็นยังไง ภาพก็จะออกมาแบบนั้นแหละ...
แค่แกควบคุมให้มันอยู่ในทางที่สร้างสรรค์ก็พอ... แต่ภาพไฟนรกของแกนี่ มันให้ความรู้สึกทางบวก
จัดว่าอยู่ในทางที่สร้างสรรค์นะ มันเป็นไฟเผาลงโทษเพื่อชำระบาป ฉันรู้สึกได้... มันบ่งบอกว่าแกเป็นคนดี
ไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไรกับพ่อแม่ของแกเลย"
".............................. นี่กอล์ฟ..."
"หือ ?"
"ฉันกะแกเป็นแฟนกันเอาป่ะ ?"
หลังจากสอบย่อยวาดภาพในวันสอบที่คณะ และออกเดทในตัวเมืองจนค่ำกับใหม่ เพื่อนลุ๊คทอมบอยเซอร์ๆที่บัดนี้กลายเป็นแฟนของเขาแล้ว กอล์ฟก็กลับมาถึงห้องพักของเขาอย่างเหนื่อยอ่อน
"พรุ่งนี้ตื่นมาต้องปวดหัวอีกแน่... ตอนสอบเพ่งภาพซะเกือบทะลุบอร์ดเลย... เฮ้อ...
แล้วพรุ่งนี้ก็ต้องวาดภาพเอาไปฝากขายร้านของพี่......."
พรึ่บ พรึ่บ... หวื่อ...
ไฟในห้องพักตกหน่อยหนึ่ง ทำเอากอล์ฟหยุดพึมพำ มองดูหลอดไฟที่เพดานห้อง
".......... ?"
*****************
(มีต่อด้านล่าง)
(นิยาย ผี/วิญญาณ) ห้องเก็บภาพ
กอล์ฟค่อยๆลืมตาขึ้นมา ภาพอันเบลอค่อยๆชัดเจนขึ้น เป็นภาพพัดลมเพดานที่กำลังพัดหมุน ห้องพักอันคับแคบในหอพักถูกๆสว่างไปด้วยแสงแดดยามสายที่ส่องเข้ามาจากหน้าต่าง นาฬิกาปลุกดิจิตอลบนโต๊ะเล็กข้างหัวเตียงที่ไม่ได้ตั้งปลุกไว้ บอกเวลาเป็น 11:36 น.
"อูย... ปวดหัวชะมัด... สงสัยเพ่งมากไปนิด"
พึมพำแล้ว กอล์ฟก็ค่อยๆลุกขึ้นมาจากเตียง กุมหัวเดินโซเซตรงไปยังห้องน้ำที่คับแคบเสียแทบจะเป็นปลากระป๋อง ทำกิจส่วนตัว
กอล์ฟนั้น เป็นนักศึกษาคณะศิลปศาสตร์ในมหาวิทยาลัยมีชื่อแห่งหนึ่งในกรุง เป็นหนุ่มผมยาว มัดผมหางม้า ไว้หนวดเครา ผอมสูง ผิวขาว มีหน้าตาแบบลุ๊คเกาหลีตามที่วัยรุ่นทั้งหลายสมัยนี้ชอบ แต่งตัวปอนๆ ใส่กางเกงยีนส์ขาเดฟหม่นๆขาดนิดๆและรองเท้าผ้าใบสีขาวเก่าๆ มีลักษณะเป็นหนุ่มอาร์ท สมกับเป็นนักศึกษาศิลป์ และยังออกแนวธรรมะธรรมโมอีกด้วย ความสามารถทางวิจิตรศิลป์อันเทียบเทียมได้กับศิลปินมืออาชีพของกอล์ฟ ทำให้ชีวิตการศึกษาของเขากำลังไปได้สวย แต่เขามีปัญหาครอบครัว พ่อแม่ของเขาที่ต่างจังหวัดมักทะเลาะกันจนเกือบจะหย่ากันหลายครั้ง และพ่อของเขาก็ส่งเงินมาให้ไม่เคยพอ เนื่องจากปัญหาครอบครัวอันนั้น ภายหลังจึงตัดสินใจหารายได้ด้วยตนเอง ด้วยการวาดภาพนำไปฝากขายในที่ต่างๆ ซึ่งก็ได้เงินมาพอกิน พอจ่ายค่าหอ และพอเก็บสะสมสำหรับจ่ายค่าเทอม
ร้านขายของบูติคขนาดกลางแห่งหนึ่งในกรุง เป็นร้านหนึ่งในบรรดาร้านทั้งหลาย ที่กอล์ฟนำภาพวาดของเขามาฝากขาย
"ตามที่ตกลงกันนา อั๊วะได้ 5%"
"ครับเจ้"
"นี่ อากอล์ฟ... ทำไมลื้อวาดภาพสวยจังล่ะ.. หา ? ... ขนาดอั๊วะเป็นคนไม่ชอบเรื่องศิลปะ
อั๊วะยังรู้สึกดีกับภาพของลื้อเลย แล้วก็ขายออกไวมาก ขายได้แพงอีกด้วย...
นี่ คราวนี้ลื้อเอาภาพมาฝากขายที่ร้านอั๊วะเยอะๆหน่อยสิ อั๊วะจะได้รวยๆ ฮิ ฮิ ฮิ"
ไป่ สาวเจ้าของร้านอายุราวๆสามสิบ เชื้อสายจีน ตาหยี ไว้ผมเปียหน้าม้า สวมชุดกี่เผ้า และมักถือพัดอยู่เสมอ พูดทีเล่นทีจริงกับกอล์ฟอย่างสนิทสนม หลังๆมานี้เธอได้กำไรจากการฝากขายภาพวาดของกอล์ฟเป็นกอบเป็นกำ ปกติในหัวของเธอมีแต่เรื่องกำไรขาดทุน แต่พอมาเห็นภาพที่กอล์ฟนำมาฝากขาย เธอจึงถูกสะกดทำให้ตะลึงตั้งแต่แรกเห็น เพราะมนต์ขลังอังทรงพลังในภาพ ทำให้ไป่ตกลงรับฝากขายทั้งที่ไม่เคยรับของของใครมาฝากขายในร้านของตัวเองง่ายๆเลย
"ฮะ ฮะ ฮะ... โชคดีเฉยๆน่ะครับเจ้"
"ไอหย่ะ... ทำเป็นถ่อมตัวไม่เข้าเรื่อง ขายดีแบบนี้ยังจะมาว่าโชคดีอีก... อย่าลืมนา
เอามาภาพมาฝากขายเยอะๆหน่อย สองสามภาพมันไม่พอหรอก แบ่งๆกันรวย"
"ด... ได้ครับเจ้"
กอล์ฟทึ่งในความงกของไป่ เขาตอบรับเพียงเพื่อรักษาความสัมพันธ์ในฐานะหุ้นส่วน แต่ในใจนึกค้อนไป่ว่า กว่าจะได้สักภาพหนึ่งมันใช้เวลาและใชัพลังงานชีวิตมาก ใช่ว่าจะผลิตมาซื้อมาขายกันได้ง่ายๆเหมือนขนมนมเนย
แล้วกอล์ฟก็โบกมือบอกลาไป่ที่กำลังยิ้มตาหยีเอาพัดพัดตัวเองอย่างอารมณ์ดี เดินออกจากร้านไปพร้อมกับเงินกำไรอันงามจากการขายภาพ ครั้งนี้เขาได้เงินมากที่สุดเป็นประวัติการณ์
"ฟู่ววว.... เกินเก็บซะเยอะแบบนี้คงได้เที่ยวบ้างล่ะ... ไม่สิ... เก็บไว้ก่อนดีกว่า เผื่อมีเรื่องต้องได้ใช้"
กอล์ฟหนุ่มอาร์ทผู้ไม่ประมาทในชีวิต พึมพำอยู่ในลำคอ แบกเป้ ถือบอร์ดผ้าใบสำหรับวาดภาพไว้ในมือ เดินฮัมเพลงแนวอินดี้ที่ชอบไปอย่างร่าเริง มุ่งสู่แคมปัสมหาวิทยาลัยที่เขาจะมีเรียนในภาคบ่ายนี้
ในห้องวาดภาพของคณะ...
ใหม่ สาวทอมซอยผมสั้น แต่หน้าตาน่ารักแบบหวานๆ ย้อมผมสีทอง เป็นลูกครึ่งอเมริกัน เพื่อนในชั้นเรียนคนหนึ่งของกอล์ฟซึ่งมีลุ๊คเซอร์ไม่แพ้เขา เข้ามาหากอล์ฟเพื่อจะมาหยอกเขาเล่น แล้วต้องชะงัก เมื่อได้ยินเสียงเพลงบรรเลงแนวคลาสสิกสไตล์เยอรมันสมัยเก่าจากเครื่องเล่น mp3 เครื่องเล็กๆของกอล์ฟ ที่เปิดฟังไว้ใกล้ๆตัวในขณะที่วาดภาพ
"โหย กอล์ฟ !... ฟังเพลงอะไรแบบนี้เนี่ยแก... ทำตัวเป็นพวกผู้ดีไปได้"
"เอ้า แกนี่เอง ตกใจหมด... จะสร้างผลงานทั้งที มันต้องมีอารมณ์สุนทรีย์เข้ามาช่วยหน่อยสิ
งานถึงจะออกมาดี"
"อ้อ... นี่เองมั้ง ที่ภาพของแกมันถึงสวยเด่นกว่าเพื่อน... มีตัวช่วยนี่เอง... ขี้โกง"
"ฮะ ฮะ... นี่แหละ ที่เขาเรียกว่า ศิลปิน... อยากเด่นมั่งก็ลองดูมั่งสิ"
"หู้ย ไม่ไหว... เพลงคลาสสิคโมส่งโมสาร์ทอะไรแบบนี้ ฟังแล้วเลี่ยน อยากจะอ้วก... เด่นไปคนเดียวเหอะ
... ฉันมีแนวเพลงที่ชอบของฉันอยู่ย่ะ"
"ฟังเพลงแนวอเมริกันพั๊งค์ร็อคจังหวะเร็วๆแบบนั้นน่ะ ผลงานของแกมันถึงออกมาเป็นโทนร้อนไง
มีความร้อนแรง... นี่แหละ แนวของแกล่ะ เอาดีกับมันให้ได้... ศิลปินน่ะ จิตใจกำลังมีอารมณ์เป็นยังไง
ผลงานที่สร้างก็ออกมาตามนั้นแหละ... นี่ไม่ใช่เคล็ดลับอะไรหรอก มันเป็นธรรมชาติ ถ้าฉันจะวาดภาพแบบจีน
ฉันก็คงเอาเพลงจีนมาฟังนั่นแหละ... ต้องรู้จักสร้างอารมณ์ด้วย ไม่ใช่ว่าสร้างผลงานขึ้นมาดาดๆเลย
แบบนั้นถึงผลงานมันจะออกมาสวยดียังไงก็ช่าง มันจะแห้งๆ ดูงั้นๆ ไม่มีรสชาติ ไม่ดึงดูดเท่าที่ควร... รู้เปล่า"
ถูกเพื่อนศิลปินผู้เป็นนักศึกษาหัวกะทิของคณะกล่าวสอนแบบนี้ ใหม่ถึงกับอึ้งไปครู่หนึ่ง ตาก็มองดูกอล์ฟที่กำลังวาดภาพสีน้ำมันแนวยุโรปต่อไปอย่างอารมณ์ดี สิ่งนี้ทำให้เธอทวีความชอบพอในตัวกอล์ฟมากขึ้น หวั่นใจลึกๆว่าเธอจะมีอันละความเป็นทอมไปสักวันหนึ่ง
"เฮ้อ... ฉันไม่ใช่ศิลปินของแท้แบบแกนี่นา จิตวิญญาณอะไรก็ไม่ค่อยจะมี... วาดภาพออกมาทีไร
ภาพก็ไม่เคยเข้าตาอาจารย์เลยซักคน"
"ไม่จริงหรอก... ภาพของแกบางภาพฉันเห็นแล้วก็เข้าท่าดีอยู่ มีจิตวิญญาณความรู้สึกใช่เล่นเหมือนกัน...
ภาพไฟนรกของแกอันนั้นที่อาจารย์บอกว่าไม่ผ่าน ไปไหนซะล่ะ ? เก็บไว้อยู่รึเปล่า ?"
"อืม ... เก็บไว้อยู่ ฉันทิ้งผลงานของตัวเองไม่ลงหรอก... ฉันว่ามันสวยดี สำหรับฉันนะ"
"ดีละๆ เก็บไว้ ฉันชอบภาพนั้นของแก... อาจารย์พวกนั้นไม่ใช่ศิลปินโดยจิตวิญญาณหรอก
ตัดสินผลงานของคนอื่นไปตามอีโก้ของตัวเองเท่านั้นแหละ... ภาพไฟนรกนั่น ฉันว่ามันร้อนแรงดี
เป็นเหมือนกับถูกเผาเพื่อชำระบาปอะไรเถือกๆนั้นน่ะ... ตอนวาด แกรู้สึกยังไงอยู่เหรอ ?"
"...... ตอนฉันวาดเหรอ ?... อืม... ฉันรู้สึกผิดที่ฉันเถียงกับพ่อแม่มาน่ะ เถียงแรงด้วย...
มือของฉันมันไปตามอารมณ์นั้นเองเลย"
"นั่น เห็นมั้ยล่ะ...อย่างที่บอก อารมณ์ของแกเป็นยังไง ภาพก็จะออกมาแบบนั้นแหละ...
แค่แกควบคุมให้มันอยู่ในทางที่สร้างสรรค์ก็พอ... แต่ภาพไฟนรกของแกนี่ มันให้ความรู้สึกทางบวก
จัดว่าอยู่ในทางที่สร้างสรรค์นะ มันเป็นไฟเผาลงโทษเพื่อชำระบาป ฉันรู้สึกได้... มันบ่งบอกว่าแกเป็นคนดี
ไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไรกับพ่อแม่ของแกเลย"
".............................. นี่กอล์ฟ..."
"หือ ?"
"ฉันกะแกเป็นแฟนกันเอาป่ะ ?"
หลังจากสอบย่อยวาดภาพในวันสอบที่คณะ และออกเดทในตัวเมืองจนค่ำกับใหม่ เพื่อนลุ๊คทอมบอยเซอร์ๆที่บัดนี้กลายเป็นแฟนของเขาแล้ว กอล์ฟก็กลับมาถึงห้องพักของเขาอย่างเหนื่อยอ่อน
"พรุ่งนี้ตื่นมาต้องปวดหัวอีกแน่... ตอนสอบเพ่งภาพซะเกือบทะลุบอร์ดเลย... เฮ้อ...
แล้วพรุ่งนี้ก็ต้องวาดภาพเอาไปฝากขายร้านของพี่......."
พรึ่บ พรึ่บ... หวื่อ...
ไฟในห้องพักตกหน่อยหนึ่ง ทำเอากอล์ฟหยุดพึมพำ มองดูหลอดไฟที่เพดานห้อง
".......... ?"