จริงๆ ต้องออกตัวก่อนว่าจขกท.ก็ไม่ใช่เซียนนักวิ่งหรือโปรอะไร เพราะพึ่งมาวิ่งจริงจังได้ปีกว่าๆ เกือบสองปีเองค่ะ พอยิ่งวิ่งไปก็ยิ่งเห็นความสำคัญของรองเท้าวิ่งดีๆ มากขึ้น จากการวิ่งออกกำลังกายเล่นๆ ก็เริ่มจริงจังหารองเท้าดีๆ มาใส่ให้เข้ากับรูปแบบการวิ่งแล้วก็ลักษณะเท้าของตัวเองเพื่อลดโอกาสเกิดอาการบาดเจ็บ
หลังจากถูลู่ถูกังรองเท้าวิ่งสองคู่ของตัวเองจนระยะวิ่งทั้งสองคู่พุ่งไปเกือบ1000กิโลเมตร^^' เลยมาถึงจุดที่คิดว่าซื้อใหม่เถอะ ก่อนรองเท้าจะประท้วงแล้วขาจะเจ็บอีกรอบ ก็เลยไปลองมาหลายรุ่นหลายยี่ห้อ แต่สุดท้ายก็กลับมาตายรังที่ ASICS เหมือนเดิม (ก่อนหน้านี้ใช้ Tartherzeal 4 กับ Kayano 23ค่ะ)
เปิดตัวนานไม่ได้รีวิวซะที เข้าเรื่องดีกว่า
จขกท.วิ่งค่อนข้างเร็ว เลยอยากได้รองเท้าที่เบากว่า Kayano เอาไว้ฝึกในวันวิ่งหนักค่ะ ด้วยความที่เคยใช้ Tartherzeal 4 มา ติดใจในความเบาและเกาะถนนของรุ่นนี้ก็เลยขอลองตัวใหม่ล่าสุดเลย หน้าตาคล้ายของเดิมเพิ่มเติมคือพื้นรองเท้าและสีใหม่ (ตอนนี้มีรุ่นพิเศษสีดำล้วนกับสีส้มด้วยนะคะ) ส่วนตัวจขกท.ชอบสีนี้ เรียกว่าหลงรักตั้งแต่แรกเห็นเลย55
มาพูดถึงรูปทรงภายนอกกับข้อมูลพื้นฐานกันบ้าง
รูปทรงของTartherzeal จะออกแนวเรียวยาวนิดนึง แต่เห็นว่ารุ่นนี้มีแบบ wide กับ slimด้วย
ส่วนน้ำหนักรองเท้าของ 157กรัม (ไซส์26) ซึ่งถือว่าเบามากทีเดียว
พื้นโดยรวมๆค่อนข้างบางค่ะ หน้าเท้า 1.4 ซม. ส้นเท้า2.6ซม. heel-toe-dropอยู่ที่12มม.ค่ะ
พื้นรองเท้าด้านนอกasicsเปลี่ยนมาใช้ Flytefoam แทน SpEVA ในรุ่น4 (เห็นว่าเปลี่ยนตั้งแต่รุ่น5แล้ว) แต่รุ่นนี้รู้สึกว่ามันนุ่มนิ่มกว่าเดิมเยอะเลย (แค่ตอนเดินนะ)
ในส่วนพื้นรองเท้าด้านในยังเป็น SpEVAแบบถอดเปลี่ยนได้เหมือนเดิมค่ะ ซักง่ายแห้งไว
พอถอยมาแล้วก็ไปลองออกถนนใช้งานจริงดู ด้วยความที่จขกท.เป็นคนหน้าเท้าค่อนข้างกว้างก็เลยเอารุ่นผู้ชายที่จะมีพื้นที่หน้าเท้ากว้างกว่าของผู้หญิงเล็กน้อย ดีที่ว่ารุ่นนี้ใช้ผ้าใบที่ยืดหยุ่นและระบายอากาศได้ดีเลยไม่รู้สึกว่ามีการกดรัดที่หน้าเท้าแม้ว่ารองเท้าจะออกทรงเรียวๆ
เวลาเดิน
จากความรู้สึกส่วนตัวรู้สึกว่าเบาเท้าเดินสบายเพราะพื้นใหม่ที่นิ่มขึ้น เทียบกับรุ่น4 ที่พื้นค่อนข้างแข็งได้อารมณ์เหมือนใส่ onisuka tigerที่เบากว่าเลยทีเดียว
สรุปง่ายๆคือใส่เดินเล่นได้ค่ะแต่เดินนานๆอาจจะมีล้าบ้างเพราะพื้นมันไม่ได้ยืดหยุ่นมากแล้วก็ไม่มีเจลมาช่วยรับแรงกระแทก
เวลาวิ่ง
ทดลองวิ่งแบบปกติ (วิ่งโซน2-3)จะรู้สึกถึงแรงกระแทกมากขึ้นเพราะว่ารุ่นนี้ไม่มีเจลมารองรับ ด้วยความที่ส้นเป็นโฟมนะคะ แต่เพราะใช้โฟมเลยทำให้รองเท้าเบาลงกว่าเดิม(ยังจะเบาได้อีก)
พอเร่งความเร็ว(โซน4 เป็นต้นไป) ทำความเร็วได้ดีมาก เพราะduosole (ไอ้เม็ดดำๆ ที่หลายเท้านี่แหละค่ะ) ช่วยเกาะถนนอย่างดี ยิ่งถ้าเป็นถนนลาดยางแบบไม่เรียบมากจะยิ่งเห็นผลชัดเลย สามารถเร่งความเร็วจากเพซ5ขึ้นไป4แบบไม่รู้ตัวเลยทีเดียว (มองนาฬิกาตอนแรกนึกว่าจีพีเอสรวนแต่ไม่ใช่คือเราวิ่งเร็วขึ้นจริงๆ)
เวลาขึ้นลงเนินแรงกระแทกจะเพิ่มขึ้นอย่างรู้สึกได้มากพอควร ยิ่งพอวิ่งเกิน20กิโลเมตรไปแล้ว ข้อขาจะออกอาการหนักขึ้นเยอะเลย
ตัวจขกท.ทดลองใส่วิ่ง36กิโลไปวันก่อนโดยรวมๆประทับใจนะคะ เพราะว่ารองเท้าเบาเลยผ่อนแรงช่วงท้ายๆของการฝึกได้ดี แต่ด้วยความที่แรงกระแทกเยอะก็แอบมีรู้สึกเจ็บๆช้ำๆอยู่บางส่วนค่ะ
ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ
รองเท้ารุ่นนี้เหมาะกับขาแรงที่นิยมวิ่งเพซ4ขึ้นไปค่ะมันช่วยเสริมการวิ่งให้เราวิ่งไวขึ้นมากด้วยความที่น้ำหนักเบาแล้วรูปทรงที่กระชับเท้าทำให้ทำความเร็วได้ดีค่ะ ส่วนตัวคิดว่าทั่วๆไปใส่คู่นี้วิ่งที่ระยะฮาล์ฟกำลังดีค่ะ ถ้าเลยจากนั้นแล้วแรงกระแทกซ้ำๆอาจจะทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้ แต่ถ้าเป็นคนที่ขาแข็งแรงจะใส่วิ่งยันมาราธอนก็ทำได้อยู่ค่ะ
หวังว่ารีวิวนี้จะช่วยบางท่านตัดสินใจเลือกรองเท้าได้ง่ายขึ้นนะคะ
[CR] รีวิว ASICS Tartherzeal 6 ตัวล่าสุดของตระกูล Tarther
หลังจากถูลู่ถูกังรองเท้าวิ่งสองคู่ของตัวเองจนระยะวิ่งทั้งสองคู่พุ่งไปเกือบ1000กิโลเมตร^^' เลยมาถึงจุดที่คิดว่าซื้อใหม่เถอะ ก่อนรองเท้าจะประท้วงแล้วขาจะเจ็บอีกรอบ ก็เลยไปลองมาหลายรุ่นหลายยี่ห้อ แต่สุดท้ายก็กลับมาตายรังที่ ASICS เหมือนเดิม (ก่อนหน้านี้ใช้ Tartherzeal 4 กับ Kayano 23ค่ะ)
เปิดตัวนานไม่ได้รีวิวซะที เข้าเรื่องดีกว่า
จขกท.วิ่งค่อนข้างเร็ว เลยอยากได้รองเท้าที่เบากว่า Kayano เอาไว้ฝึกในวันวิ่งหนักค่ะ ด้วยความที่เคยใช้ Tartherzeal 4 มา ติดใจในความเบาและเกาะถนนของรุ่นนี้ก็เลยขอลองตัวใหม่ล่าสุดเลย หน้าตาคล้ายของเดิมเพิ่มเติมคือพื้นรองเท้าและสีใหม่ (ตอนนี้มีรุ่นพิเศษสีดำล้วนกับสีส้มด้วยนะคะ) ส่วนตัวจขกท.ชอบสีนี้ เรียกว่าหลงรักตั้งแต่แรกเห็นเลย55
มาพูดถึงรูปทรงภายนอกกับข้อมูลพื้นฐานกันบ้าง
รูปทรงของTartherzeal จะออกแนวเรียวยาวนิดนึง แต่เห็นว่ารุ่นนี้มีแบบ wide กับ slimด้วย
ส่วนน้ำหนักรองเท้าของ 157กรัม (ไซส์26) ซึ่งถือว่าเบามากทีเดียว
พื้นโดยรวมๆค่อนข้างบางค่ะ หน้าเท้า 1.4 ซม. ส้นเท้า2.6ซม. heel-toe-dropอยู่ที่12มม.ค่ะ
พื้นรองเท้าด้านนอกasicsเปลี่ยนมาใช้ Flytefoam แทน SpEVA ในรุ่น4 (เห็นว่าเปลี่ยนตั้งแต่รุ่น5แล้ว) แต่รุ่นนี้รู้สึกว่ามันนุ่มนิ่มกว่าเดิมเยอะเลย (แค่ตอนเดินนะ)
ในส่วนพื้นรองเท้าด้านในยังเป็น SpEVAแบบถอดเปลี่ยนได้เหมือนเดิมค่ะ ซักง่ายแห้งไว
พอถอยมาแล้วก็ไปลองออกถนนใช้งานจริงดู ด้วยความที่จขกท.เป็นคนหน้าเท้าค่อนข้างกว้างก็เลยเอารุ่นผู้ชายที่จะมีพื้นที่หน้าเท้ากว้างกว่าของผู้หญิงเล็กน้อย ดีที่ว่ารุ่นนี้ใช้ผ้าใบที่ยืดหยุ่นและระบายอากาศได้ดีเลยไม่รู้สึกว่ามีการกดรัดที่หน้าเท้าแม้ว่ารองเท้าจะออกทรงเรียวๆ
เวลาเดิน
จากความรู้สึกส่วนตัวรู้สึกว่าเบาเท้าเดินสบายเพราะพื้นใหม่ที่นิ่มขึ้น เทียบกับรุ่น4 ที่พื้นค่อนข้างแข็งได้อารมณ์เหมือนใส่ onisuka tigerที่เบากว่าเลยทีเดียว
สรุปง่ายๆคือใส่เดินเล่นได้ค่ะแต่เดินนานๆอาจจะมีล้าบ้างเพราะพื้นมันไม่ได้ยืดหยุ่นมากแล้วก็ไม่มีเจลมาช่วยรับแรงกระแทก
เวลาวิ่ง
ทดลองวิ่งแบบปกติ (วิ่งโซน2-3)จะรู้สึกถึงแรงกระแทกมากขึ้นเพราะว่ารุ่นนี้ไม่มีเจลมารองรับ ด้วยความที่ส้นเป็นโฟมนะคะ แต่เพราะใช้โฟมเลยทำให้รองเท้าเบาลงกว่าเดิม(ยังจะเบาได้อีก)
พอเร่งความเร็ว(โซน4 เป็นต้นไป) ทำความเร็วได้ดีมาก เพราะduosole (ไอ้เม็ดดำๆ ที่หลายเท้านี่แหละค่ะ) ช่วยเกาะถนนอย่างดี ยิ่งถ้าเป็นถนนลาดยางแบบไม่เรียบมากจะยิ่งเห็นผลชัดเลย สามารถเร่งความเร็วจากเพซ5ขึ้นไป4แบบไม่รู้ตัวเลยทีเดียว (มองนาฬิกาตอนแรกนึกว่าจีพีเอสรวนแต่ไม่ใช่คือเราวิ่งเร็วขึ้นจริงๆ)
เวลาขึ้นลงเนินแรงกระแทกจะเพิ่มขึ้นอย่างรู้สึกได้มากพอควร ยิ่งพอวิ่งเกิน20กิโลเมตรไปแล้ว ข้อขาจะออกอาการหนักขึ้นเยอะเลย
ตัวจขกท.ทดลองใส่วิ่ง36กิโลไปวันก่อนโดยรวมๆประทับใจนะคะ เพราะว่ารองเท้าเบาเลยผ่อนแรงช่วงท้ายๆของการฝึกได้ดี แต่ด้วยความที่แรงกระแทกเยอะก็แอบมีรู้สึกเจ็บๆช้ำๆอยู่บางส่วนค่ะ
ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ
รองเท้ารุ่นนี้เหมาะกับขาแรงที่นิยมวิ่งเพซ4ขึ้นไปค่ะมันช่วยเสริมการวิ่งให้เราวิ่งไวขึ้นมากด้วยความที่น้ำหนักเบาแล้วรูปทรงที่กระชับเท้าทำให้ทำความเร็วได้ดีค่ะ ส่วนตัวคิดว่าทั่วๆไปใส่คู่นี้วิ่งที่ระยะฮาล์ฟกำลังดีค่ะ ถ้าเลยจากนั้นแล้วแรงกระแทกซ้ำๆอาจจะทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้ แต่ถ้าเป็นคนที่ขาแข็งแรงจะใส่วิ่งยันมาราธอนก็ทำได้อยู่ค่ะ
หวังว่ารีวิวนี้จะช่วยบางท่านตัดสินใจเลือกรองเท้าได้ง่ายขึ้นนะคะ