จากภาคที่แล้วทิ้งปมและประเด็นต่างๆที่ยังไม่เคลียมากมาย เนื้อเรื่องภาคนี้จึงเต็มไปด้วยความน่าติดตามเรื่องราวต่อไปและความคาดหวังอย่างมากที่จะเคลียประเด็นภาคที่แล้วให้ชัดเจน ในแง่ความน่าสนใจและน่าติดตามทำได้ดีจริง เนื้อเรื่องมีความเข้าใจง่ายและแฝงไปด้วยความหลากหลาย ในส่วนของการคลี่คลายปมในภาคนี้ทำให้เรารู้ที่มาเหตุและผลของหลายๆสิ่งมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นต้นกำเนิดของเรย์ ทำไมไคโล เร็นถึงเข้าสู่ด้านมืด ทำไมลุคถึงปลีกตัวออกมาคนเดียว เป็นต้น แม้บางเรื่องอาจจะยังไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่นักก็ตาม เนื้อเรื่องระหว่างกลุ่มต่อต้านกับปฐมภาคีและเจไดในภาคนี้มีความพิเศษเป็นจุดที่น่าจะยังไม่เคยเห็นในสตาวอส์ภาคไหนมาก่อนเพราะเราแทบจะคาดเดาสิ่งที่จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย มันพลิกไปพลิกมาหลายชั้นจนเราเกิดคำถามในใจ ใครจะดีจะเลว ใครจะรอดไม่รอด ซึ่งเป็นความพีคระดับสุดของหนังภาคนี้ ชอบที่หนังไม่ได้ดำเนินตามธรรมเนียมของภาคเก่าๆ เช่น ภาค 2 กับ 5 เป็นภาคที่ฝั่งร้ายโดดเด่นได้ซีนไป ภาค 4 กับ 7 ก็มีเรื่องราวที่คล้ายกันมาก ในภาคนี้มีความเป็นตัวของตัวเองสูงและทำได้ดีจริงๆ
ในช่วงต้นของหนังมีความน่าสนใจและน่าติดตามมากๆ เพราะประเด็นใหม่ของภาคนี้ที่เริ่มไว้ก็น่าสนใจ ปมภาคเก่าที่ทิ้งไว้ก็น่าติดตาม เต็มไปด้วยความอยากรู้ไปหมดแล้วหนังก็ดำเนินไปเรื่อยๆ พร้อมค่อยๆคลี่ปมไปทีละนิด สมมติว่าผมขอแบ่งหนังออกเป็น 4 ส่วนเวลาเท่าๆกัน ส่วนที่ 2 ของหนังรู้สึกน่าเบื่อไปหน่อยเพราะกำลังเล่าส่วนนี่นิดส่วนนี่หน่อยก็ตัดเหตุการณ์กลับไปอีกฝั่งแบบเหตุการณ์ก่อนหน้ายังไม่ได้อะไรคืบหน้าสักเท่าไหร่เลยก็แว่บไปเหตุการณ์อื่นอีกละ แอบมีเนื่อยๆนิดหน่อย แต่ช่วง 3 และ 4 บอกเลยว่าพีคมากๆ แม้ว่าจะมีจุดที่ขัดใจอยู่บ้างเดี๋ยวจะพูดอีกทีช่วงหลังครับ แต่โดยรวมแล้วมันพีคที่สุดกุมอารมณ์คนดูอยู่หมัด เรื่องราวสงครามระหว่างกลุ่มต่อต้านและจักรวรรดิในภาคเก่าๆ สำหรับผมไม่ค่อยสนใจสักเท่าไหร่ชอบติดตามเรื่องของเจไดกับซิธมากกว่า แต่ภาคนี้สนุกมากพลิกไปมาอย่างสนุกและน่าตื่นเต้น ด้านเรื่องราวของเจไดก็ทำออกมาได้น่าสนใจมากกลายๆว่าจะเป็นการเปิดเรื่องราวใหม่ที่ใหม่จริงๆได้อย่างลงตัว และเรายังจะได้เห็น"พลัง"แบบใหม่ที่เรายังไม่เคยเห็นมาก่อนในภาคก่อนๆอีกด้วย ฉากที่น่าตื่นเต้นและตกใจจนต้องร้องเหยดก็มีพอสมควร หนังยังนำเสนออารมณ์ที่หลากหลาย ตื่นเต้น ดราม่า สุข ทุกข์ เศร้า ตกใจ ฉากเท่ๆ แถมยังได้ดนตรีที่เป็นธีมสตาวอส์มาช่วยบิ้วอารมณ์ได้ดี โดยเฉพาะฉากสุดท้ายของหนังที่อารมณ์ส่งได้ดีมากๆ ด้านมุขตลกรู้สึกความตลกและวุ่นวายฉบับสตาวอส์ดูน้อยลงไปแต่ได้มุขตลกอีกแบบมาแทน บางมุขก็รู้สึกแปลกใจว่ามียังงี้ในสตาวอส์ด้วยเหรอก็แปลกดี ด้านภาพ 3D เรื่องนี้ในฉากรบกลางอวกาศพอตื่นตาตื่นใจได้อยู่ โดยรวมทำออกมาพอใช้ได้
อีกส่วนที่อยากพูดถึงคือตัวละครโดยรวมทุกคนในเรื่องลงตัวทั้งตัวละครเก่าและใหม่ โดยเฉพาะตัวละครหญิงที่มีบทบาทมากขึ้นและทรงพลังมาก ตัวละครสมทบมีบทบาทมากพอกับตัวละครหลัก ที่เราจดจำได้ทุกตัว ส่วนตรงนี้ขอพูดถึงแค่บางตัวดังนี้ครับ
เรย์ - ตัวละครมีความเติบโตแต่ถ้าดูกันจริงๆทักษะก็ยังไม่เก่งขึ้นมากเพียงแต่คล่องขึ้น ยังเป็นพรสวรรค์ที่ยังไม่โดนขัดเกลา ที่มาของเรย์ได้ถูกคลี่คลายมากขึ้น ส่วนอนาคตของเธอในภาคต่อไปก็ยิ่งน่าติดตามและน่าค้นหามากขึ้นไปอีกว่าจะเป็นยังไงต่อไป สำหรับตัวเดซี่ ริดลี่ย์แสดงและนำเสนอตัวละครตัวนี้ได้ดีเหมือนเดิม
ไคโล เร็น - มีความเท่มากขึ้นแต่ความเกรียนยังเท่าเดิมเป็นเด็กน้อยเกรียนแตกจะร้ายก็ยังร้ายได้ไม่สุดเหมือนเด็กจะเอาชนะ ยังไม่ดูสุขุมเท่าดาร์ธ เวเดอร์เลยยังดูร้ายแบบเกรียนแตก โดยรวมเรย์กับไคโล เร็นเอาหนังชุดนี้อยู่ทั้งคู่ ชอบๆ น่าติดตามภาคต่อไปมากๆ
เลอา - เธอมีบทบาทสำคัญในหนังมากๆและชอบที่เธอก็ยังไว้ลายความเป็นสกายวอคเกอร์อยู่ ถึงแครรี่ ฟิชเชอร์จะเสียชีวิตไปแล้วแต่ยังทิ้งผลงานดีๆให้ได้ชมกัน
สโน้ค - เราได้รู้จักสโน้คมากขึ้นแม้จะยังไม่ชัดเจนในที่มาแต่ก็ได้เห็นหน้าตาตัวเป็นๆ ได้รู้ว่าพลังของเขาแข็งแกร่งขนาดไหน บทของเขาในภาคนี้ผมแอบมีความแคลงใจอยู่นิดหน่อย มันดีนะแต่อยากให้เป็นอีกแบบมากกว่ามันน่าจะสนุกกว่าเดิมเยอะเลย
ลุค - ในความเห็นของผมสำหรับลุคจะคล้ายๆกับสโน้ค ส่วนเหตุผลในปมของลุคนั้นฟังขึ้น เข้าใจได้ มีจุดที่แอบเสียดายเล็กๆคือไหนๆลุค สกายวอคเกอร์กลับมาคืนจอเต็มตัวน่าจะทำได้น่าตื่นเต้นและยิ่งใหญ่ได้มากกว่านี้ ลองติดตามอ่านด้านล่างที่สปอยส์นะครับ อยากแชร์ความเห็น
Star Wars The Last Jedi มีเรื่องราวภาคต่อที่สนุกน่าติดตาม โดดเด่นที่การเล่าเรื่องที่ไม่เหมือนภาคก่อนๆด้วยเรื่องราวที่พลิกไปพลิกมาน่าลุ้นน่าติดตามอยู่ตลอดคาดเดาได้ยากโดยเฉพาะในช่วงท้ายของหนัง เสียที่มีความเอื่อยตรงกลางเรื่องนิดหน่อย ส่วนตัวก็แอบเสียดายบางอย่างที่น่าจะทำน่าจะได้เห็น น่าจะสนุกกว่านี้มากๆ และนับเป็นการวางทิศทางหนังเผื่ออนาคตที่มีความเป็นตัวเองสูงที่ผู้กำกับไรอัน จอห์นสันใส่สุด จัดหนัก แต่หนังก็แอบมีความไม่สมเหตุสมผลในบางฉากที่ดูแหม่งๆไปบ้าง แต่โดยรวมก็พอได้อยู่ สนุกมาก น่าติดตามบทสรุปไตรภาคว่าจะเป็นอย่างไร
พล็อตเรื่อง 8.5/10
ดำเนินเรื่อง 9.5/10
ตัวละคร 8.5/10
สรุป 9/10
ฝาก page ด้วยนะครับ ถ้าชอบก็กด Like ติดตามกันนะครับ -
https://www.facebook.com/NangDMeReview/
**จุดที่ผมเสียดายและคิดว่าน่าจะทำ จุดนี้สปอยส์แหลกนะครับ **
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- การตายของสโน้คค่อนข้างไม่สมเหตุสมผลสำหรับผม ปากบอกเห็นอนาคตเห็นไคโล เร็นจะฟันเรย์แต่กลับไม่เห็นว่าไคโล เร็นคิดอะไรอยู่ และตัวเองมีพลังที่แข็งแกร่งมากกลับสัมผัสพลังหรือรับรู้จุดประสงค์ของไคโล เร็นไม่ได้เลยว่ากำลังคิดกำลังทำอะไรอยู่ ส่วนตัวคิดว่าหนังน่าจะเล่นกับสโน้คได้มากกว่านี้ เพราะตอนเปิดตัวเขาในตอนแรกๆ มันน่าสนใจมากๆดูน่าเกรงขามและเก่งมากๆ และอยากรู้ที่มาของเขาที่ชัดเจนกว่านี้ไม่รู้ว่าจะได้เห็นหรือรู้อะไรมากขึ้นในภาค 9 มั้ย
- แอบคาดหวังเล็กๆว่าจะได้เห็นสุดยอดปรมาจารย์ 2 คนต่อสู้กันระหว่างลุคกับสโน้ค เหมือนที่เราเห็นโยดากับซีเดียสสู้กันในภาค 3 มันเป็นฉากที่ยิ่งใหญ่และน่าจดจำมากๆ น่าจะทำให้หนังสนุกกว่านี้
- เรื่องนี้หากสังเกตุดีๆ ไม่มีฉากดวลดาบไลท์เซเบอร์เลย ถึงแม้ฉากสุดท้ายลุคเจอกับไคโล เร็นแต่ก็ไม่ได้ปะทะอะไรกันเลยลุคแค่หลบอย่างเดียว เรย์กับไคโล เร็นก็ออกแนวช่วยกันสู้ ไม่ได้บอกว่าหนังไม่ดีที่ไม่มีฉากดวลไลท์เซเบอร์ แต่มันก็ดีถ้ามันมีให้ได้ชมเพราะเป็นเสห์น่อย่างหนึ่งของหนังชุดสตาร์วอส์
- การมาของลุคในตอนท้ายก็มาแบบไม่ได้บอกกลุ่มต่อต้านให้ทำอะไร ต้องให้โพคิดได้เองว่ามาเป็นตัวล่อให้หนี ถ้าโพคิดไม่ได้หรือไม่มีใครคิดได้เลยแล้วลุคจะบรรลุเป้าหมายได้ยังไง ดูไม่สมเหตุสมผลมากๆ เหมือนแค่มาลาเลอาและฝากความหวังไว้ที่เรย์เท่านั้น
- การจากไปของลุคในตอนท้ายยิ่งใหญ่มากๆ แต่ก็คิดว่ามันอาจจะไม่จำเป็นต้องทำให้ลุคตายก็ได้มั้ย ตั้งแต่ภาคที่แล้วที่ตัดบทฮาน โซโลไปทีเพื่อให้ไคโล เร็นดูเข้าสู่ด้านมืดเต็มตัวแต่ภาคนี้ก็ดูจะละทิ้งและตัดบทเรื่องเจไดและซิธออก ยิ่งภาคนี้ลุคตายแล้ว แครี่ ฟินเชอร์ที่รับบทเลอาก็ตายจริงอีก บทเลอาในภาค 9 ก็ยังไม่รู้เป็นยังไงถ้าลุคไม่กลับมาเป็นพลังแบบโยดา หนังจะไม่เหลือนักแสดงเก่าที่สำคัญอีกแล้ว มานึกดูดีๆ คนเป็นตายในเรื่อง คนตายจริงยังอยู่ในเรื่อง แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนี้หนังก็ไม่ได้ลดความน่าสนใจหรือน่าติดตามน้อยลง แค่รู้สึกเสียดายและน่าจะเล่นกับตัวละครที่น่าสนใจเหล่านี้ได้มากกว่านี้
[CR] [Review] Star Wars The Last Jedi สตาร์ วอร์ส ปัจฉิมบทแห่งเจได
จากภาคที่แล้วทิ้งปมและประเด็นต่างๆที่ยังไม่เคลียมากมาย เนื้อเรื่องภาคนี้จึงเต็มไปด้วยความน่าติดตามเรื่องราวต่อไปและความคาดหวังอย่างมากที่จะเคลียประเด็นภาคที่แล้วให้ชัดเจน ในแง่ความน่าสนใจและน่าติดตามทำได้ดีจริง เนื้อเรื่องมีความเข้าใจง่ายและแฝงไปด้วยความหลากหลาย ในส่วนของการคลี่คลายปมในภาคนี้ทำให้เรารู้ที่มาเหตุและผลของหลายๆสิ่งมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นต้นกำเนิดของเรย์ ทำไมไคโล เร็นถึงเข้าสู่ด้านมืด ทำไมลุคถึงปลีกตัวออกมาคนเดียว เป็นต้น แม้บางเรื่องอาจจะยังไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่นักก็ตาม เนื้อเรื่องระหว่างกลุ่มต่อต้านกับปฐมภาคีและเจไดในภาคนี้มีความพิเศษเป็นจุดที่น่าจะยังไม่เคยเห็นในสตาวอส์ภาคไหนมาก่อนเพราะเราแทบจะคาดเดาสิ่งที่จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย มันพลิกไปพลิกมาหลายชั้นจนเราเกิดคำถามในใจ ใครจะดีจะเลว ใครจะรอดไม่รอด ซึ่งเป็นความพีคระดับสุดของหนังภาคนี้ ชอบที่หนังไม่ได้ดำเนินตามธรรมเนียมของภาคเก่าๆ เช่น ภาค 2 กับ 5 เป็นภาคที่ฝั่งร้ายโดดเด่นได้ซีนไป ภาค 4 กับ 7 ก็มีเรื่องราวที่คล้ายกันมาก ในภาคนี้มีความเป็นตัวของตัวเองสูงและทำได้ดีจริงๆ
ในช่วงต้นของหนังมีความน่าสนใจและน่าติดตามมากๆ เพราะประเด็นใหม่ของภาคนี้ที่เริ่มไว้ก็น่าสนใจ ปมภาคเก่าที่ทิ้งไว้ก็น่าติดตาม เต็มไปด้วยความอยากรู้ไปหมดแล้วหนังก็ดำเนินไปเรื่อยๆ พร้อมค่อยๆคลี่ปมไปทีละนิด สมมติว่าผมขอแบ่งหนังออกเป็น 4 ส่วนเวลาเท่าๆกัน ส่วนที่ 2 ของหนังรู้สึกน่าเบื่อไปหน่อยเพราะกำลังเล่าส่วนนี่นิดส่วนนี่หน่อยก็ตัดเหตุการณ์กลับไปอีกฝั่งแบบเหตุการณ์ก่อนหน้ายังไม่ได้อะไรคืบหน้าสักเท่าไหร่เลยก็แว่บไปเหตุการณ์อื่นอีกละ แอบมีเนื่อยๆนิดหน่อย แต่ช่วง 3 และ 4 บอกเลยว่าพีคมากๆ แม้ว่าจะมีจุดที่ขัดใจอยู่บ้างเดี๋ยวจะพูดอีกทีช่วงหลังครับ แต่โดยรวมแล้วมันพีคที่สุดกุมอารมณ์คนดูอยู่หมัด เรื่องราวสงครามระหว่างกลุ่มต่อต้านและจักรวรรดิในภาคเก่าๆ สำหรับผมไม่ค่อยสนใจสักเท่าไหร่ชอบติดตามเรื่องของเจไดกับซิธมากกว่า แต่ภาคนี้สนุกมากพลิกไปมาอย่างสนุกและน่าตื่นเต้น ด้านเรื่องราวของเจไดก็ทำออกมาได้น่าสนใจมากกลายๆว่าจะเป็นการเปิดเรื่องราวใหม่ที่ใหม่จริงๆได้อย่างลงตัว และเรายังจะได้เห็น"พลัง"แบบใหม่ที่เรายังไม่เคยเห็นมาก่อนในภาคก่อนๆอีกด้วย ฉากที่น่าตื่นเต้นและตกใจจนต้องร้องเหยดก็มีพอสมควร หนังยังนำเสนออารมณ์ที่หลากหลาย ตื่นเต้น ดราม่า สุข ทุกข์ เศร้า ตกใจ ฉากเท่ๆ แถมยังได้ดนตรีที่เป็นธีมสตาวอส์มาช่วยบิ้วอารมณ์ได้ดี โดยเฉพาะฉากสุดท้ายของหนังที่อารมณ์ส่งได้ดีมากๆ ด้านมุขตลกรู้สึกความตลกและวุ่นวายฉบับสตาวอส์ดูน้อยลงไปแต่ได้มุขตลกอีกแบบมาแทน บางมุขก็รู้สึกแปลกใจว่ามียังงี้ในสตาวอส์ด้วยเหรอก็แปลกดี ด้านภาพ 3D เรื่องนี้ในฉากรบกลางอวกาศพอตื่นตาตื่นใจได้อยู่ โดยรวมทำออกมาพอใช้ได้
อีกส่วนที่อยากพูดถึงคือตัวละครโดยรวมทุกคนในเรื่องลงตัวทั้งตัวละครเก่าและใหม่ โดยเฉพาะตัวละครหญิงที่มีบทบาทมากขึ้นและทรงพลังมาก ตัวละครสมทบมีบทบาทมากพอกับตัวละครหลัก ที่เราจดจำได้ทุกตัว ส่วนตรงนี้ขอพูดถึงแค่บางตัวดังนี้ครับ
เรย์ - ตัวละครมีความเติบโตแต่ถ้าดูกันจริงๆทักษะก็ยังไม่เก่งขึ้นมากเพียงแต่คล่องขึ้น ยังเป็นพรสวรรค์ที่ยังไม่โดนขัดเกลา ที่มาของเรย์ได้ถูกคลี่คลายมากขึ้น ส่วนอนาคตของเธอในภาคต่อไปก็ยิ่งน่าติดตามและน่าค้นหามากขึ้นไปอีกว่าจะเป็นยังไงต่อไป สำหรับตัวเดซี่ ริดลี่ย์แสดงและนำเสนอตัวละครตัวนี้ได้ดีเหมือนเดิม
ไคโล เร็น - มีความเท่มากขึ้นแต่ความเกรียนยังเท่าเดิมเป็นเด็กน้อยเกรียนแตกจะร้ายก็ยังร้ายได้ไม่สุดเหมือนเด็กจะเอาชนะ ยังไม่ดูสุขุมเท่าดาร์ธ เวเดอร์เลยยังดูร้ายแบบเกรียนแตก โดยรวมเรย์กับไคโล เร็นเอาหนังชุดนี้อยู่ทั้งคู่ ชอบๆ น่าติดตามภาคต่อไปมากๆ
เลอา - เธอมีบทบาทสำคัญในหนังมากๆและชอบที่เธอก็ยังไว้ลายความเป็นสกายวอคเกอร์อยู่ ถึงแครรี่ ฟิชเชอร์จะเสียชีวิตไปแล้วแต่ยังทิ้งผลงานดีๆให้ได้ชมกัน
สโน้ค - เราได้รู้จักสโน้คมากขึ้นแม้จะยังไม่ชัดเจนในที่มาแต่ก็ได้เห็นหน้าตาตัวเป็นๆ ได้รู้ว่าพลังของเขาแข็งแกร่งขนาดไหน บทของเขาในภาคนี้ผมแอบมีความแคลงใจอยู่นิดหน่อย มันดีนะแต่อยากให้เป็นอีกแบบมากกว่ามันน่าจะสนุกกว่าเดิมเยอะเลย
ลุค - ในความเห็นของผมสำหรับลุคจะคล้ายๆกับสโน้ค ส่วนเหตุผลในปมของลุคนั้นฟังขึ้น เข้าใจได้ มีจุดที่แอบเสียดายเล็กๆคือไหนๆลุค สกายวอคเกอร์กลับมาคืนจอเต็มตัวน่าจะทำได้น่าตื่นเต้นและยิ่งใหญ่ได้มากกว่านี้ ลองติดตามอ่านด้านล่างที่สปอยส์นะครับ อยากแชร์ความเห็น
Star Wars The Last Jedi มีเรื่องราวภาคต่อที่สนุกน่าติดตาม โดดเด่นที่การเล่าเรื่องที่ไม่เหมือนภาคก่อนๆด้วยเรื่องราวที่พลิกไปพลิกมาน่าลุ้นน่าติดตามอยู่ตลอดคาดเดาได้ยากโดยเฉพาะในช่วงท้ายของหนัง เสียที่มีความเอื่อยตรงกลางเรื่องนิดหน่อย ส่วนตัวก็แอบเสียดายบางอย่างที่น่าจะทำน่าจะได้เห็น น่าจะสนุกกว่านี้มากๆ และนับเป็นการวางทิศทางหนังเผื่ออนาคตที่มีความเป็นตัวเองสูงที่ผู้กำกับไรอัน จอห์นสันใส่สุด จัดหนัก แต่หนังก็แอบมีความไม่สมเหตุสมผลในบางฉากที่ดูแหม่งๆไปบ้าง แต่โดยรวมก็พอได้อยู่ สนุกมาก น่าติดตามบทสรุปไตรภาคว่าจะเป็นอย่างไร
พล็อตเรื่อง 8.5/10
ดำเนินเรื่อง 9.5/10
ตัวละคร 8.5/10
สรุป 9/10
ฝาก page ด้วยนะครับ ถ้าชอบก็กด Like ติดตามกันนะครับ - https://www.facebook.com/NangDMeReview/
**จุดที่ผมเสียดายและคิดว่าน่าจะทำ จุดนี้สปอยส์แหลกนะครับ **
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้