อิสรภาพทางการเงินสไตล์ฝรั่ง: มีเงินไม่ถึงล้านก็เกษียนได้(?)

ไอเดียนี้ได้รับการตกผลึกจากการอ่านบลอกเกี่ยวกับอิสรภาพทางการเงินจากเวบต่างประเทศ(US)นะครับ(eg: https://www.mrmoneymustache.com/, https://www.reddit.com/r/financialindependence/) จากการที่คลุกคลีกับทางฝั่งนั้นมาสักพัก ผมพบว่าไอเดียด้านอิสรภาพทางการเงินของเขาต่างจากของไทยเรา(หรืออย่างน้อยก็ห้องสินธร)มากพอสมควร โดยแนวคิดหลักๆของเขาคือ:

* อิสรภาพทางการเงิน เป็นเรื่องปัจเจกของแต่ละบุคคล คุณไม่จำเป็นต้องมีเงินเป็นสิบๆล้านแล้วถึงจะเกษียนได้ สิ่งสำคัญคือไลฟ์สไตล์ของคุณและจำนวนเงินที่คุณต้องใช้ต่อปีตะหาก โดยหลักการง่ายๆคุณต้องมีเงินในพอร์ต 25 เท่าของจำนวนเงินที่คุณต้องใช้ต่อปีเพื่อที่จะมีอิสรภาพทางการเงิน แล้วตัวเลข 25 นี้มาจากไหน? คำตอบคือ หากคุณนำเงินไปลงทุนใน Stock/Bond อย่างละ 50/50 และถอนเงินจากพอร์ตดังกล่าวปีละไม่เกิน 4%(ฝรั่งเรียกมันว่า Saving Withdrawal Rate)พอร์ตของคุณจะไม่ลดลงเลย(สำหรับคนที่ยังงงๆ เอา Expense(เงินที่ต้องใช้ต่อปี) x 25(magic number) x 4%(จำนวนเงินที่ถอนได้ต่อปี) สิ มันกลับมาเท่ากับจำนวนเงินที่คุณต้องใช้เลยใช่ไหมล่ะ ยิ้ม ) โดยตัวเลข 4% นี้มาจาก Trinity Study (https://en.wikipedia.org/wiki/Trinity_study) โดยจากการศึกษาพบว่า ไม่ว่าจะช่วงเวลาไหนๆการลงทุนใน Stock + Bond อย่างละ 50/50 จะให้ผลตอบแทนโดยเฉลี่ย 7% ต่อปี ในขณะที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ ~3% ต่อปี ดังนั้นหากคุณถอนเงินจากพอร์ต 7% - 3% = 4% ต่อปีก็เท่ากับว่าคุณถอนเงินเท่าที่ต้องใช้ โดยไม่ได้ทำให้พอร์ตฟอลิโอลดลงเลย

* ทางเวบฝรั่ง จะให้ความสำคัญกับ จำนวนเงินออม(Saving Rate) มากกว่าดอกเบี้ยทบต้นมาก โดยเฉพาะถ้าคุณจะเกษียนภายใน 5 - 10 ปี ยิ่ง % การออมเงินของคุณมากขึ้นเท่าไหร่ จำนวนปีที่คุณต้องทำงานเพื่อให้ได้รับอิสรภาพทางการเงินก็ลดลงมากเท่านั้น (ลองดู https://networthify.com/calculator/earlyretirement )

* ฝรั่งให้ความสำคัญกับ Passive Fund มากกว่า Active Fund มาก โดยกองทุนที่อิงผลตอบแทนตามดัชนีตลาด(Index Fund) อย่าง Mutual Fund/ ETF ของ Vanguard จะได้รับความสนใจมาก ในขณะที่คนไทยจะค่อนข้างสนใจ Active Fund หรือชอบที่จะลงทุนหุ้นรายตัวเพื่อเอาชนะตลาดมากกว่า อันนี้อาจจะเป็นเพราะว่าตลาดการเงินต่างประเทศค่อนข้างมีประสิทธิภาพมากทำให้ผลตอบแทนของ Active Fund ส่วนใหญ่ในระยะยาวแพ้ตลาดซะเกือบหมด คนทางฝั่งนั้นเลยให้ความสำคัญกับการ Minimizing Cost(Low Expense Ratio)  มากกว่า

ซึ่งจากแนวคิดดังกล่าว หากไลฟ์สไตล์คุณเป็นคนที่ค่อนข้างมัธยัสถ์เอามากๆ(ฝรั่งเรียก Frugal, เขามี community ของตัวเองด้วยนะ https://www.reddit.com/r/Frugal/ ผมก็เป็น ลองมาเป็นสมาชิกดูนะ แล้วอาจจะติดใจ) เช่นคุณเลือกที่จะทำอาหารเองแทนที่จะกินข้าวนอกบ้าน วันนึงค่ากับข้าว(เช้า + กลางวัน + เย็น)อย่างมากผมตีให้สัก 100 บาท ดังนั้นจำนวนเงินที่คุณต้องมีในพอร์ต(แบบ Absolute Minum ไม่รวมค่าไฟ ค่าแอร์ ค่าเอ็นเตอร์เทน บลาๆๆ ทั้งหลายแหล่) ก็ประมาณ = ~จำนวนเงินที่ต้องใช้ต่อปี x 25 = (100 x 30 ) x 12 x 25 = 900,000 บาท เท่านั้นเอง!!!

ไม่แน่ใจว่ามีคนในห้องสินธรเกษียนด้วยเงินประมาณนี้โดยยึดแนวคิดดังกล่าว(ซึ่งผมคิดว่าไม่ค่อยได้เห็นนักในห้องสินธร)หรือไม่ครับ ในทางปฏิบัติจะเป็นไปได้ขนาดไหน? และท่านๆตั้งใจว่าจะมีอิสรภาพทางการเงินโดยมีเงินในพอร์ตเท่าไหร่กัน?

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
แต่ละคนเกษียณไม่เท่ากัน

แต่ผมจะไม่เกษียณ จนกว่าจะตาย
จะทำงานจนกว่าจะทำไม่ได้
เพราะงานทำแล้วมีความสุข
ส่วนเงินแค่เพียงปัจจัยเล็กๆ
ที่ทำให้ชีวิตสะดวกสบายขึ้น
แต่ก็คงไม่ได้กำหนดเท่านั้นเท่านี้
ขอแค่หาให้ได้มากกว่าใช้และมีพอเก็บ ก็เท่านั้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่