ขอเล่าความเป็นไปของ Trip นี้ก่อนเลยละกัน เรื่องมันมีอยู่ว่าพอดีเราเองต้องไปงานแต่งของเพื่อนสนิทมาก
สมัยเรียนมหาลัยที่จังหวัดสุราษฏร์ธานี แต่ไหนๆก็ต้องลางานแล้วก็ขอไปเที่ยวด้วยละกัน ทันใดนั้นเองก็รวบรวมพลพรรคแก๊งเดิม
ไปกัน 4 คน รถยนต์ 1 คัน หน้าที่เราคือหาที่พัก ก็พยายามหาหลายๆที่จนมาจบที่นี่ “แพภูผาวารี” ในราคา 2500 บาท/คืน/คน ราคานี้รวมอาหาร 3 มื้อ ค่าที่พัก ค่าเรือ และค่าอุทยานเรียบร้อยแล้ว เมื่อได้ข้อมูลครบถ้วนก็ลุยไปกันเลยยยยยยยย

มุ่งหน้าจากกรุงเทพช่วงกลางคืนแล้วไปเช้าที่จังหวัดสุราษฎร์ มื้อแรกของชาวแก๊งคือร้านนี้เลยครับ “ปาท่องโก๋บัณฑิต”
มีหลายอย่างให้เลือกทั้งชา กาแฟ ติ่มซำ บะกุ๋ดเต๋ ปาท่องโก๋ ใครอยากทานอะไรก็ตามสบายเลย

เมื่ออิ่มแล้วก็มุ่งหน้าสู่เขื่อนเชี่ยวหลาน เราต้องลงเรือกันตอน 10.00 น. แต่ก็ใช่ว่าอยู่ๆจะพุ่งไปที่เรือได้เลยนะครับ
ก่อนอื่นต้องแวะที่สำนักงานของแพก่อน เพื่อรายงานตัวว่ามาแล้วนะ
หลังจากนั้นก็ไปที่ท่าเรือได้เลยครับ ที่นั้นจะมีพนักงานคอยรอต้อนรับอยู่แล้ว
ส่วนรถไม่ต้องห่วงครับมีที่สำหรับจอดรถยนต์ค้างคืนไว้รองรับ ทุกอย่างพร้อม เรือพร้อม คนขับเรือพร้อม ก็ลงเรือแล้วลุยกันเถอะ

นั่งเรือกันมาสักพัก ชมวิวไปเรื่อยเปื่อย มองน้ำ มองฟ้า อากาศเหมือนฝนจะตกตลอดเวลา
แต่ก็ภาวนาในใจว่าอย่าตกเล้ยยยยย ไม่อยากเปียกก่อนไปถึง ระยะเวลาผ่านไปสัพักใหญ่ๆคนขับเรือก็พาเราแวะมาชม “เขาสามเกลอ”
ให้ทุกๆคนได้ชม แชะ สลับกันถ่ายรุปอย่างหนำใจแล้วค่อยออกเรือเพื่อไปยังที่พัก

หลังจากชมเขาสามเกลอเรียบร้อย และแล้วเราก็เดินทางมาถึง “แพภูผาวารี”
มาถึงจะมีพนักงานมาคอยต้อนรับ พนักงานที่นี่น่ารักมากๆเลย มาช่วยดูแลอย่างดี
หลังจากนั้นก็รับกุญแจห้อง ในส่วนของห้องพักเรานั้นเป็นห้องพัก 4 คน ห้องน้ำในตัว มีแอร์ มีทีวีในห้อง
ส่วนเรื่องไฟฟ้านั้นใช้ได้ตั้งแต่ช่วง 18.00-6.00 น.

เมื่อเก็บของเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลามื้อเที่ยง อาหารที่นี่เติมได้นะครับ กินกันให้อิ่ม
จะได้มีแรงไปโดดน้ำ พายเรือ (มีเก็บมัดจำค่าไม้พาย 500 บาท) หรือใครไม่เล่นน้ำก็นอนพักผ่อน เดินถ่ายรูปสวยๆ
เก็บบรรยากาศดีดี อากาศที่นี่กำลังสบายเลย
ส่วนสัญญาณโทรศัพท์มีแค่เพียง AIS เท่านั้น เรียกได้ว่ามาพักผ่อนได้เต็มที่จริงๆ

และแล้วก็ถึงเวลามื้อเย็นอีกรอบ มื้อนี้ได้กินกันท่ามกลางสายฝนที่กระหน่ำมาอย่างสุดพลัง
กับข้าวยังคงงเติมได้ยกเว้นปลาทอด แต่ถ้าใครอยากกินก็สั่งเพิ่มได้นะครับ จำไม่ได้ว่าตัวละกี่บาท
เมื่อกินกันอิ่มเรียบร้อย พนักงานก็เดินมาบอกว่า ชา กาแฟ น้ำดื่ม มาหยิบได้ตลอดเวลาเลย
ส่วนพวกเราอิ่มแล้วก็เขาห้องพัก นอนคุยกันเรื่อยเปื่อยจนหลับไปตอนไหนก็ไม่อาจจะรู้ได้