DEVIL AMONG US | บ้านคลั่ง? ผีหลอก? คนหลอน? | DEVA HELLBLAZER

'บ้าน' สถานที่ที่เต็มไปด้วยความทรงจำมากมาย..บ้างก็เป็นความทรงจำถึงสิ่งดีๆ ที่มีให้ต่อกันระหว่างคนในครอบครัว หรือแม้แต่เพื่อนบ้านในละแวกใกล้กัน ทำให้บางคนที่จากบ้านอันมีความทรงจำดีๆ ย่อมโหยหาความรู้สึกอบอุ่นนั้นยามไกลบ้าน แต่บางครั้ง 'บ้าน' กลับสร้างความทรงจำอันเลวร้ายชวนหดหู่ ทำให้บางคนที่จากบ้านไป ไม่อาจกลับมาได้อีกเลย

อย่างเช่นเหตุการณ์ในบ้านหลังหนึ่ง ที่กลายมาเป็น 1 ในคดีสะเทือนขวัญระดับโลก ด้วยสารพัดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหลายๆ ครอบครัวที่ผลัดเปลี่ยนเวียนหมุนมาอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ ก่อนจะระเห็จออกไป ทิ้งไว้แต่ความทรงจำ และคำบอกเล่าถึงเหตุการณ์ชวนหลอนในบ้านหลังนี้ โดยแต่ละคำบอกเล่า ต่างก็บอกเล่าด้วยความหมายที่มีใจความพ้อต้องกันว่า..

"บ้านหลังนี้..มีอาถรรพ์"


คำเตือน: HOME SWEET HOME เป็นเกมบุกบ้านผีที่บุกรุกบ้านคนอื่นมากกว่าอยู่บ้านตัวเอง

"บ้านผีสิง..
บ้านที่ผู้อยู่อาศัยอาจต้องทำพิธีไล่ผีก่อนเข้ามาอาศัย
แต่บางครั้ง การไล่ผีในบ้านผีสิงก็ไม่ได้ผล
เมื่อบ้านหลังนั้น..คือผีเสียเอง"

'อมิตตี้วิลล์' บ้านปีศาจ 'ซ่อนปมหลอน'



เมื่อบ้านหลังหนึ่งไม่ได้ให้ความอบอุ่นแก่ผู้อยู่อาศัย แต่กลับสร้างความทรงจำที่จะตามหลอกหลอนทุกครอบครัวไปตลอดกาล..

MURDER IN AMITYVILLE
ปี 1924 รัฐนิวยอร์ก เมืองอมิตตี้วิลล์ ถนนโอเชียน อเวนิว บ้านเลขที่ 112 ถูกสร้างขึ้นโดย 'จอห์น โมนาแฮน' ตัวบ้านรูปร่างคล้ายโรงนาทรงสูง ด้านนอกมีหน้าต่างสองบานคล้ายดวงตาของสัตว์ขนาดยักษ์ที่คอยเฝ้ามองทุกชีวิตที่สันจรไปมาในละแวกนั้น ด้านหลังของบ้านนั้นติดแม่น้ำ มีสระว่ายน้ำในบ้านอีกที ภายในตัวบ้านมีบันไดอยู่ทางขวาที่นำสู่ห้องนอนใหญ่ ฝั่งตรงข้ามของห้องนอนใหญ่นั้นคือห้องนอนอื่นๆ อีก 3 ห้อง มีห้องนอนอีก 1 ห้องอยู่ด้านล่าง มีห้องน้ำ 4 ห้อง โดย 1 ห้องน้ำนั้นอยู่ในตัวห้องนอนใหญ่ และยังมี ห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องรับประทานอาหาร ห้องประชุมครอบครัว ชั้นใต้ดิน อู่จอดเรือ และมีที่จอดรถในตัวเอง ทว่าหลังสร้างเสร็จ จอห์น โมนาแฮน กลับย้ายไปอยู่บ้านหลังอื่นในละแวกใกล้ๆ

ปี 1965 'ครอบครัวเดอฟีโอ' ครอบครัวเคร่งคริสต์คาธอลิค ประกอบไปด้วย โรนัลด์ และ ลูอิส เป็นพ่อแม่ ,ดอว์น และ แอลลิสัน เป็นลูกสาว ,มาร์ค และจอห์น เป็นลูกชาย

ครอบครัวเดอฟีโอ

ครอบครัวเดอฟีโอต้องการให้บ้านหลังนี้เป็นตัวแทนแห่งความอบอุ่นของครอบครัว จึงตั้งชื่อบ้านหลังนี้ว่า High Hopes ทว่า 1 ในสมาชิกของครอบครัวอย่าง 'โรนัลด์ เดอฟีโอ จูเนียร์' หรือ 'รอนนี่' ลูกชายคนโตกลับมีประวัติเป็นอาชญากรคดีเล็กน้อยติดตัว ติดยาเสพติดขนาดหนัก ทั้งเฮโรอีน ,ยาบ้า และยากล่อมประสาท ครั้งหนึ่งเคยคุ้มคลั่งเอาปืนจ่อพ่อและลั่นไก แต่ว่ากระสุนเกิดด้าน

"และในคืนวันที่ 13 พฤศจิกายน ปี 1974 เวลา 03.15 น.
โรนัลด์ เดอฟีโอ จูเนียร์ ฆ่าทุกคนในบ้าน"


โรนัลด์ เดอฟีโอ จูเนียร์ ถูกจับกุม

ทางตำรวจที่ได้รับแจ้ง เมื่อเดินทางมาถึงตัวบ้าน ก็ได้พบศพของ ดอว์น กับแอลลิสัน ที่ห้องนอนชั้นล่าง พบศพของโดนัลด์ กับหลุยส์ ที่ห้องนอนใหญ่ และพบศพของ จอห์น กับมาร์ค ที่ห้องนอนฝั่งตรงข้ามกับห้องนอนใหญ่ ทุกคนถูกยิงขณะนอนหลับด้วยปืนยาวมาร์ลิน กระสุนขนาด .35 มม. และผู้แจ้งความแก่ทางตำรวจนั้นกลับเป็นรอนนี่เสียเอง!

การลำเลียงศพครอบครัวเดอฟีโอออกจากบ้าน

รอนนี่เล่าว่าได้ยินเสียงกระซิบและเสียงฝีเท้าในบ้าน ก่อนจะพบชายลึกลับคนหนึ่งที่มีอุ้งมือสีดำปรากฏตัวขึ้น และได้ยื่นปืนให้แก่เขา และเสียงกระซิบของชายคนนั้นก็สั่งให้รอนนี่ทำสิ่งต่างๆ โดยที่เขาไม่สามารถควบคุมร่างกายตัวเองได้เลย

โรนัลด์ เดอฟีโอ จูเนียร์

วันที่ 18 ธันวาคม ปี 1975 จอร์จ กับแคทเธอรีน ลัทซ์ พร้อมกับลูกชายและลูกสาวทั้ง 3 คือ แดเนียล ,คริส และเมลิสสา ย้ายเข้ามาเพื่อเริ่มชีวิตใหม่ โดยไม่รู้ถึงเหตุการณ์สยองที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ 1 ก่อนหน้านี้เลย จนกระทั่งวันที่ 14 เดือน มกราคม ปี 1976 ครอบครัวลัทซ์ ก็ได้ย้ายออกไปในที่สุด

ครอบครัวลัทซ์

THE CONJURING
    คดีบ้านปีศาจสยองในครั้งนี้ เริ่มขึ้นจากการที่ จอร์จ ผู้เป็นหัวหน้าครอบครัว เริ่มรู้สึกหนาวสะท้านไปทั้งร่างกาย ขณะที่อยู่ในบ้าน ทั้งที่ปรอทวัดอุณหภูมิของบ้านนั้นพุ่งสูงถึง 26 องศาเซลเซียส ซึ่งมันเป็นอุณหภูมิที่ร้อนเกินกว่าจะเป็นอุณหภูมิปกติในฤดูหนาวของนิวยอร์ค ก่อนที่จะพบว่ามีเมือกสีเขียวไหลออกมาจากรูกุญแจที่ประตูบ้าน และภายในห้องน้ำที่จอร์จมักจะเข้ามาพบว่ามีของเหลวสีดำเจิ่งนองอยู่ทั่วพื้นห้องน้ำ ทว่ามันอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมอย่างน่าประหลาด แต่สำหรับแคทเธอรีนและลูกๆ ที่เข้ามาพบนั้น..

“มันกลับมีกลิ่นเหม็นอย่างกับซากศพ”

ต่อมาคือเมลิสสาที่เริ่มพูดคุยอยู่คนเดียว จนเมื่อแคทเธอรีนถามถึงคนที่เมลิสสาคุยด้วย เด็กสาวลูกคนสุดท้องก็อธิบายว่า..

“บ้านเรามีสัตว์ประหลาดหน้าตาเหมือนหมู
แต่มีดวงตาสีแดงดูน่ากลัว”

นั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความหลอนเท่านั้น เมื่อในเวลาต่อมา จอร์จที่อาศัยอยู่ในห้องนอนใหญ่กับแคทเธอรีน มักจะได้ยินเสียงวงดุริยางค์บรรเลงขึ้นภายในบ้าน ในเวลา 03.15 น. ของทุกคืน จนต้องตื่นขึ้นมา ก่อนที่เสียงบรรเลงนั้นจะหายไป และในเวลา 03.15 น. นั้นเอง..

“คือเวลาที่ โรนัลด์ เดอฟีโอ จูเนียร์
ลงมือสังหารทุกคนจนตายยกบ้าน”

และภาพของเหตุการฆ่ายกครัวนั้นเอง ก็ปรากฏขึ้นเป็นความฝันของแคทเธอรีน.. จนในที่สุด ความหลอนขั้นสุดก็มาถึง เมื่อวันหนึ่งมีฝูงแมลงวันบินเข้ามาในบ้าน ทั้งที่เป็นฤดูหนาว ซึ่งฝูงแมลงวันในบ้านจำนวนหนึ่งนั้นก็ไปรวมตัวกันเป็นรูปร่างคล้ายใบหน้าของปีศาจบนผนังบ้าน และในคืนเดียวกันนั้นเอง จอร์จที่สะดุ้งตื่นขึ้นในเวลา 03.15 น. ก็ได้เห็นใบหน้าของแคทเธอรีนเปลี่ยนกลายเป็นใบหน้าของหญิงชราวัย 90 ปี ก่อนจะค่อยๆ ลอยขึ้นกลางอากาศภายในห้อง และตรงไม้กางเขนที่แขวนไว้ ณ ผนังห้องนั้นเองก็เริ่มหมุนเปลี่ยนทิศทางกลายเป็นกลับหัว

“ซึ่งมันหมายถึงการมาถึงของซาตาน”

เดือนมกราคม ปี 1976 ครอบครัวลัทซ์จึงนิมนต์บาทหลวงมาเพื่อทำพิธีขับไล่ปีศาจ ทว่าบาทหลวงคนนั้นเองก็ได้ยินเสียงคำรามที่ดังขึ้นมาจากห้องใต้ดินว่า

“ออกไป!”

หลังจากเหตุการณ์พิธีขับไล่ปีศาจในวันนั้น ทางวาติกันก็ได้ติดต่อให้ เอ็ด และลอว์เรน วอร์เรน คู่รักนักปราบผี เดินทางมาตรวจสอบยังบ้านหลังนี้ พร้อมทีมงานจำนวนหนึ่ง ซึ่งส่วนตัวของทั้งเอ็ด และลอว์เรนนั้นไม่พบอะไรที่บ่งบอกถึงร่องรอยแห่งซาตานเลย แต่ไม่ใช่กับทีมงานที่ติดตามทั้งคู่มาด้วย เมื่อมีทีมงานคนหนึ่งถ่ายภาพเด็กชายคนหนึ่งที่ไม่น่าจะใช่ แดเนียล หรือ คริส ไว้ได้ที่มุมห้องนอนใหญ่ และแล้วครอบครัวลัทซ์จึงย้ายออกไป ปล่อยให้บ้านหลังนี้ถูกทิ้งร้างไปในที่สุด

ลอว์เรน วอร์เรน ,ทีมงาน และจอร์จ ลัทซ์ ในบ้าน 112

THE AMITYVILLE HORROR
หลายเดือนต่อมา บ้านที่ตั้งใจจะถูกปล่อยทิ้งให้ร้าง ก็ไม่ร้างอีกต่อไป เมื่อมันกลายเป็นด่านท้าทายด่านใหม่ให้แก่นักล่าท้าผีทั่วนิวยอร์คที่บ้างก็พากันมาลองของ บ้างก็พากันมาถ่ายทำรายการ หรือแม้แต่มาทำพิธีเข้าทรง รวมไปถึงนิตยสารระดับประเทศอย่าง Good Housekeeping ก็ยังเดินทางมาเพื่อหาข้อมูลเขียนลงบทความ

ปี 1977 อีเธล จอห์นสัน ไมเยอร์ ผู้รับทำพิธีเข้าทรง กับนักเขียนนาม ดร.ฮันซ์ โฮลเซอร์ เจ้าของนวนิยาย The Amityville Curse ,Murder in Amityville และ Amityville II: The Possession ตั้งแต่สมัยคดีฆาตกรรมยกครัวด้วยฝีมือของรอนนี่ ได้กลับเข้ามายังบ้านหลังนี้ และประกาศว่า “แท้จริงแล้ว อาถรรพ์ของบ้านหลังนี้ คืออาถรรพ์จากสุสานอินเดียนแดงที่ถูก จอห์น โมนาแฮน สร้างบ้านทับไว้” ทั้งที่ชาวอินเดียนแดงจริงๆ ที่ยังอาศัยอยู่ในละแวกนั้นต่างก็เผยว่า “ไม่มีสุสานอินเดียนแดงถูกสร้างในละแวกนี้เลย..และการสร้างสุสานอินเดียนแดงริมแม่น้ำนั้นมันผิดธรรมเนียมอย่างแรง” ซึ่งปมอาถรรพ์สุสานอินเดียนแดงนี้ดันตรงกับกระแสหนังสยองขวัญที่เริ่มหยิบเอาคำสาปอินเดียนแดงมาเล่ากันพอดี

นักเขียน: ดร.ฮันซ์ โฮลเซอร์

และในเวลาต่อมา นักเขียนนาม เจย์ แอนสัน ก็ทำรายได้มหาศาลจากการตีพิมพ์นวนิยาย The Amityville Horror โดยเจ้าตัวอ้างว่า ตนได้รับเทปบันทึกเสียงของครอบครัวลัทซ์..ทั้งที่จริงแล้ว เจย์ แอนสัน กับครอบครัวลัทซ์ ไม่เคยพบกันเลย และในที่สุดจิ๊กซอว์ชิ้นหนึ่งก็ถูกเปิดเผย เมื่อจอร์จ ลัทซ์ กลับมาและบอกว่า เจย์ แอนสัน รู้จักกับชายที่ชื่อ วิลเลียม วีเบอร์ ซึ่งเป็นทนายของ โรนัลด์ เดอฟีโอ จูเนียร์ ที่กำลังหาทางยื่นอุทธรณ์ให้จำเลยคดีฆาตกรรมโดยไม่เจตนา

นักเขียน: เจย์ แอนสัน

“ณ จุดนั้นเอง เรื่องราวอาถรรพ์บ้านอมิตตี้วิลล์
เริ่มจะเข้าข่ายอาถรรพ์ลวงโลกมากขึ้นไปทุกขณะ”

และในระหว่างนั้น เดือนมีนาคม ปี 1977 จิม และบาร์บาร่า โครมาตี้ ก็ได้เข้ามาทำการซื้อต่อบ้านหลังนี้ในราคาเพียง 5 หมื่น 5 พันเหรียญ หรือราวๆ 1.8 ล้านบาท

จิม & บาร์บาร่า โครมาตี้

และในที่สุด วิลเลียม วีเบอร์ ก็ยอมรับว่าเขากับจอร์จช่วยกันแต่งเรื่องขึ้นมาในหลายๆ จุด โดยให้ เจย์ แอนสัน รับหน้าที่เป็นผู้เรียบเรียงและตีพิมพ์ออกมาในรูปแบบนวนิยาย จนทำให้แอนสันมีรายได้จากการเป็นนักเขียน ส่วนวีเบอร์นั้นได้มูลเหตุในการยื่นอุทธรณ์ให้แก่รอนนี่ และจอร์จ ลัทซ์ ก็ได้ส่วนแบ่งจากกำไรของนวนิยายในฐานะ 2 แสน 5 หมื่นเหรียญ

“และกำลังจะได้ค่าลิขสิทธิ์จากสตูดิโอเจ้าหนึ่ง
เป็นจำนวนเงิน 1 แสน 6 หมื่นเหรียญ
ในการนำ The Amityville Horror นวนิยายของ เจย์ แอนสัน
ไปสร้างเป็นภาพยนตร์”

ส่วนทางด้านครอบครัววอร์เรน มือปราบปีศาจชื่อดัง กลับถูกสื่อหลายๆ สำนักโจมตีอย่างรุนแรงจากการที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคดีอาถรรพ์ลวงโลกนี้ แม้จะไม่ได้ตั้งใจ ส่งผลให้คู่รักนักปราบผีต้องปลีกวิเวกไปชั่วขณะ หลังคลายคดีผีโพลเตอร์ไกสท์ได้ที่เมืองเอ็นฟิลด์ ประเทศอังกฤษ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่