สวัสดีครับ
ผมเป็นคนที่น้ำเหลืองไม่ดีมาตั้งแต่เด็กๆ (ตามที่แม่เล่า) มักจะเป็นหนองเป็นอะไรง่าย แผลอักเสบง่าย (แต่โตมาแล้วก็ไม่ค่อยนะ ก็ปกติๆ ไป)
มาช่วงก่อนหน้านี้ (ปัจจุบันอายุ 32) จู่ๆ ก็มีผื่นหรือแผลอักเสบที่ผิวหนัง กระจายทั่วเต็มไปหมดโดยไม่ทราบสาเหตุ อยู่ๆ ก็เป็น และมัน “ลาม” เสียด้วยนะครับ คือสมมุติถ้าเดิมที่เป็น 1-2 จุด แล้วทิ้งไว้ คิดว่าจะหายเอง มันกระจายไป 4-5-6 จุด แถมขนาดใหญ่ขึ้นด้วย น่ากลัวนะครับ
ตอนมันเล็กๆ น้อยๆ เราก็ยังไม่อะไร พอมันเยอะ และใหญ่ มันก็แสบ คัน ยิ่งโดนความอับชื้น ความร้อน เหงื่อ โอ้โห คิดว่าคงนึกภาพออก มันทรมานมากครับ
เราเองก็ต้องทำแผลทุกวัน อาบน้ำล้างแผล (จริงๆ เค้าให้ใช้น้ำเกลือล้าง และพยายามให้แผลโดนน้ำให้น้อยที่สุด) แล้วแปะ/พันผ้าก๊อซ คือ น้ำเหลืองมันออกมาตลอดเวลาจริงๆ ไม่ทำแผลไม่ได้เลยครับ ไม่งั้นมันจะเปื้อนเสื้อผ้าและที่นอน
ทั้งแสบ เจ็บ คัน ทรมาน ลำบากลำบนทำแผล อายคนอื่นอีก แถมยังเปลืองเงินค่าอุปกรณ์ทำแผลอีก (เดือนๆ นึงโดนเป็นพัน+ได้ง่ายๆ เลยนะครับ)
ลักษณะตอนที่มันเกิดทีแรกคนส่วนใหญ่น่าจะไม่ทันสังเกต เพราะมันจะขึ้นเป็น “ตุ่มใสขนาดจิ๋ว” ซึ่งเราก็มักไม่ได้สนใจ เอามือลูบๆ ไปก็สะกิดมันแตกแล้วก็จบไป แต่มันจะอักเสบ และขยายใหญ่ขึ้นครับ และบางครั้งตุ่มพวกนี้จะขึ้นพร้อมๆ กันหลายๆ ตุ่ม บางที 4-5-6 ตุ่มในพื้นที่ขนาดเล็กๆ แค่เหรียญห้าหรือเหรียญบาท แล้วพอมันอักเสบพร้อมกันหมดก็จะกลายเป็นแผลอักเสบที่ชัดเจนอย่างรวดเร็วได้ครับ
ช่วงที่เป็นหนักๆ นี่ รับรองว่าเครียดได้จริงจังเลยนะครับ ถึงกับนอนไม่หลับ เพราะมันเจ็บ แสบ ปวด คัน ไหนจะหนองเลอะเทอะเปรอะเปื้อน นอนๆ ไปตื่นมากลางดึกเพราะแสบแผลก็มี
อ้อ ผมไปหาหมอช้า เพราะดันอวดฉลาด ดูแล้วฟันธงว่าตัวเองเป็นโรคผิวหนังจากเชื้อรา พวกกลากเกลื้อน เลยซื้อยาทามาเอง ทั้ง Tolnaftate (โทนาฟ) และ Ketoconazole (Sporaxyl) ซึ่งไม่หายเลย
ผมไปหาหมอ แล้วหมอก็ขูดชิ้นเนื้อไปตรวจ ไม่พบเชื้อรา จึงได้ลงความเห็นว่าผิวหนังอักเสบ แต่ไม่ได้บอกว่าเพราะสาเหตุอะไร แต่แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายที่อ่อนๆ พวกครีมอาบน้ำและแชมพูเด็ก อย่าใช้พวกที่มีไวท์เทนนิ่งในตอนนั้น
หมอให้ยาทานมา 4 ตัว และยาทา 1 ตัว ซึ่งได้ผลดีมากๆ ๆ ครับ จึงได้มาเขียนกระทู้นี้ และ ยาทาน 1 ตัวในนั้น (เป็นอย่างน้อย) สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาด้วยครับ (ซึ่งเป็นตัวที่ผมชอบนะ กินแล้วหายดี) ยาทั้งหมดนั้นคือ
1. Dicloxacillin (250 mg) ยาฆ่าเชื้อแก้อักเสบ วันละ 4 ครั้งก่อนอาหารครึ่งชั่วโมงและก่อนนอน 1 เม็ด – อันนี้ดีมากครับ เพราะหลังจากทานยาที่หมอให้มาหมดแล้วแผลหายสนิทหมดเลย แล้วต่อมาอาการกลับมา มีตุ่ม มีหนอง ผมลองไปหาซื้อยาตัวนี้ที่ร้านขายยา มีขายครับ 10 เม็ด 45 บาท กินแล้วหาย (***แต่ เป็นยาอันตรายนะครับ ผมแนะนำให้พบแพทย์ก่อนดีกว่านะ ผมกล้าซื้อเพราะทานครั้งแรกที่หมอให้มาแล้วใช้ได้ครับ)
2. Hydroxyzine (10 mg) ยาแก้แพ้ แก้คัน *ทำให้เกิดอาการง่วงซึม* วันละ 3 ครั้งหลังอาหาร 1 เม็ด – (ยาตัวนี้และอีกตัวข้างล่างไม่ได้ซื้อครับ ไม่รู้ด้วยว่ามีขายหรือปล่าว เลยให้ความเห็นไม่ได้)
3. Prednisolone (5 mg) ยาแก้อักเสบ รักษาอาการแพ้ วันละ 2 ครั้งหลังอาหารเช้าและเย็น 2 เม็ด – (อันนี้เป็นยาควบคุม ซื้อตามร้านขายยาไม่ได้ครับ)
4. ยาทานตัวสุดท้ายเป็น พาราฯ ครับ หมอให้มากินเวลาปวดแผล (ตอนนั้นแผลอักเสบผมเยอะและใหญ่มาก ทั้งแขน ขา คอ)
5. Betamethasone valerate / Neomycin sulfate อันนี้เป็นยาทาครับ วันละ 2 ครั้ง ดีมากๆ เหมือนกัน ผมได้มาเป็นยี่ห้อ Valbet-N Cream
ซึ่งขนาดว่าตอนนั้นแผลผมใหญ่และเยอะมากแล้วนะครับ แต่ทานยาข้างบนและทายาตัวล่างสุดนั่น ภายใน 1 อาทิตย์ ก็ไม่ต้องทำแผลแล้วครับ แผลแห้งและไม่เจ็บแล้ว เอาจริงๆ แค่ 2-3 วันก็เห็นผลแล้วครับ ยิ่งถ้าเป็นไม่เยอะแป๊ปเดียวก็น่าจะหาย
เสียดายที่ผมก็ไม่ทันได้ถามคุณหมอในตอนนั้นว่านี่มันโรคอะไร เกิดจากอะไร เพราะตอนนั้นผมใช้ชีวิตปกติเลย ไม่ได้ไปไหนทำอะไรหรือทานอะไรแปลกๆ เลยจริงๆ บางท่านก็บอกว่าเป็นโรคภูมิแพ้ตัวเอง ไม่มีวันหาย พอร่างกายอ่อนแอก็จะปะทุขึ้นมา แต่ผมก็งงนะ เพราะเกิดมา 32 ปีก็เพิ่งเคยเป็นเมื่อกลางปีนั่นเองครับ ไม่เคยเป็นมาก่อน เคยมีแผลเป็นหนองแต่มันก็หายไปเอง
ผมแนะนำ ก็คือให้รีบไปหาหมอให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ ให้หมอวินิจฉัยจะได้จัดยาและการรักษาได้ถูก
ส่วนตัวผมตอนนี้ผมจำอาการมันได้แล้ว (ถึงจะยังเศร้าๆ ที่ไม่เข้าใจว่ามันเกิดจากอะไรและทำไมถึงยังสามารถกลับมาได้อีก) แต่อย่างน้อยๆ ก็ทราบเช่นกันว่าสามารถหาซื้อยา Dicloxacillin ทานเองได้ ซึ่งสำหรับผมมันรักษาแผลอักเสบได้ดีมากเลยครับ (แต่อย่าลืมนะ ว่ามันเป็นยาอันตราย พบแพทย์ก่อนดีที่สุดถ้าไม่เคยทาน)
รีบไปหาหมอนะครับ ถ้าเป็นโรคผิวหนัง อักเสบ เป็นหนอง ผื่นคัน เรื้อรัง กว่าผมจะหายนี่แทบแย่
ผมเป็นคนที่น้ำเหลืองไม่ดีมาตั้งแต่เด็กๆ (ตามที่แม่เล่า) มักจะเป็นหนองเป็นอะไรง่าย แผลอักเสบง่าย (แต่โตมาแล้วก็ไม่ค่อยนะ ก็ปกติๆ ไป)
มาช่วงก่อนหน้านี้ (ปัจจุบันอายุ 32) จู่ๆ ก็มีผื่นหรือแผลอักเสบที่ผิวหนัง กระจายทั่วเต็มไปหมดโดยไม่ทราบสาเหตุ อยู่ๆ ก็เป็น และมัน “ลาม” เสียด้วยนะครับ คือสมมุติถ้าเดิมที่เป็น 1-2 จุด แล้วทิ้งไว้ คิดว่าจะหายเอง มันกระจายไป 4-5-6 จุด แถมขนาดใหญ่ขึ้นด้วย น่ากลัวนะครับ
ตอนมันเล็กๆ น้อยๆ เราก็ยังไม่อะไร พอมันเยอะ และใหญ่ มันก็แสบ คัน ยิ่งโดนความอับชื้น ความร้อน เหงื่อ โอ้โห คิดว่าคงนึกภาพออก มันทรมานมากครับ
เราเองก็ต้องทำแผลทุกวัน อาบน้ำล้างแผล (จริงๆ เค้าให้ใช้น้ำเกลือล้าง และพยายามให้แผลโดนน้ำให้น้อยที่สุด) แล้วแปะ/พันผ้าก๊อซ คือ น้ำเหลืองมันออกมาตลอดเวลาจริงๆ ไม่ทำแผลไม่ได้เลยครับ ไม่งั้นมันจะเปื้อนเสื้อผ้าและที่นอน
ทั้งแสบ เจ็บ คัน ทรมาน ลำบากลำบนทำแผล อายคนอื่นอีก แถมยังเปลืองเงินค่าอุปกรณ์ทำแผลอีก (เดือนๆ นึงโดนเป็นพัน+ได้ง่ายๆ เลยนะครับ)
ลักษณะตอนที่มันเกิดทีแรกคนส่วนใหญ่น่าจะไม่ทันสังเกต เพราะมันจะขึ้นเป็น “ตุ่มใสขนาดจิ๋ว” ซึ่งเราก็มักไม่ได้สนใจ เอามือลูบๆ ไปก็สะกิดมันแตกแล้วก็จบไป แต่มันจะอักเสบ และขยายใหญ่ขึ้นครับ และบางครั้งตุ่มพวกนี้จะขึ้นพร้อมๆ กันหลายๆ ตุ่ม บางที 4-5-6 ตุ่มในพื้นที่ขนาดเล็กๆ แค่เหรียญห้าหรือเหรียญบาท แล้วพอมันอักเสบพร้อมกันหมดก็จะกลายเป็นแผลอักเสบที่ชัดเจนอย่างรวดเร็วได้ครับ
ช่วงที่เป็นหนักๆ นี่ รับรองว่าเครียดได้จริงจังเลยนะครับ ถึงกับนอนไม่หลับ เพราะมันเจ็บ แสบ ปวด คัน ไหนจะหนองเลอะเทอะเปรอะเปื้อน นอนๆ ไปตื่นมากลางดึกเพราะแสบแผลก็มี
อ้อ ผมไปหาหมอช้า เพราะดันอวดฉลาด ดูแล้วฟันธงว่าตัวเองเป็นโรคผิวหนังจากเชื้อรา พวกกลากเกลื้อน เลยซื้อยาทามาเอง ทั้ง Tolnaftate (โทนาฟ) และ Ketoconazole (Sporaxyl) ซึ่งไม่หายเลย
ผมไปหาหมอ แล้วหมอก็ขูดชิ้นเนื้อไปตรวจ ไม่พบเชื้อรา จึงได้ลงความเห็นว่าผิวหนังอักเสบ แต่ไม่ได้บอกว่าเพราะสาเหตุอะไร แต่แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายที่อ่อนๆ พวกครีมอาบน้ำและแชมพูเด็ก อย่าใช้พวกที่มีไวท์เทนนิ่งในตอนนั้น
หมอให้ยาทานมา 4 ตัว และยาทา 1 ตัว ซึ่งได้ผลดีมากๆ ๆ ครับ จึงได้มาเขียนกระทู้นี้ และ ยาทาน 1 ตัวในนั้น (เป็นอย่างน้อย) สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาด้วยครับ (ซึ่งเป็นตัวที่ผมชอบนะ กินแล้วหายดี) ยาทั้งหมดนั้นคือ
1. Dicloxacillin (250 mg) ยาฆ่าเชื้อแก้อักเสบ วันละ 4 ครั้งก่อนอาหารครึ่งชั่วโมงและก่อนนอน 1 เม็ด – อันนี้ดีมากครับ เพราะหลังจากทานยาที่หมอให้มาหมดแล้วแผลหายสนิทหมดเลย แล้วต่อมาอาการกลับมา มีตุ่ม มีหนอง ผมลองไปหาซื้อยาตัวนี้ที่ร้านขายยา มีขายครับ 10 เม็ด 45 บาท กินแล้วหาย (***แต่ เป็นยาอันตรายนะครับ ผมแนะนำให้พบแพทย์ก่อนดีกว่านะ ผมกล้าซื้อเพราะทานครั้งแรกที่หมอให้มาแล้วใช้ได้ครับ)
2. Hydroxyzine (10 mg) ยาแก้แพ้ แก้คัน *ทำให้เกิดอาการง่วงซึม* วันละ 3 ครั้งหลังอาหาร 1 เม็ด – (ยาตัวนี้และอีกตัวข้างล่างไม่ได้ซื้อครับ ไม่รู้ด้วยว่ามีขายหรือปล่าว เลยให้ความเห็นไม่ได้)
3. Prednisolone (5 mg) ยาแก้อักเสบ รักษาอาการแพ้ วันละ 2 ครั้งหลังอาหารเช้าและเย็น 2 เม็ด – (อันนี้เป็นยาควบคุม ซื้อตามร้านขายยาไม่ได้ครับ)
4. ยาทานตัวสุดท้ายเป็น พาราฯ ครับ หมอให้มากินเวลาปวดแผล (ตอนนั้นแผลอักเสบผมเยอะและใหญ่มาก ทั้งแขน ขา คอ)
5. Betamethasone valerate / Neomycin sulfate อันนี้เป็นยาทาครับ วันละ 2 ครั้ง ดีมากๆ เหมือนกัน ผมได้มาเป็นยี่ห้อ Valbet-N Cream
ซึ่งขนาดว่าตอนนั้นแผลผมใหญ่และเยอะมากแล้วนะครับ แต่ทานยาข้างบนและทายาตัวล่างสุดนั่น ภายใน 1 อาทิตย์ ก็ไม่ต้องทำแผลแล้วครับ แผลแห้งและไม่เจ็บแล้ว เอาจริงๆ แค่ 2-3 วันก็เห็นผลแล้วครับ ยิ่งถ้าเป็นไม่เยอะแป๊ปเดียวก็น่าจะหาย
เสียดายที่ผมก็ไม่ทันได้ถามคุณหมอในตอนนั้นว่านี่มันโรคอะไร เกิดจากอะไร เพราะตอนนั้นผมใช้ชีวิตปกติเลย ไม่ได้ไปไหนทำอะไรหรือทานอะไรแปลกๆ เลยจริงๆ บางท่านก็บอกว่าเป็นโรคภูมิแพ้ตัวเอง ไม่มีวันหาย พอร่างกายอ่อนแอก็จะปะทุขึ้นมา แต่ผมก็งงนะ เพราะเกิดมา 32 ปีก็เพิ่งเคยเป็นเมื่อกลางปีนั่นเองครับ ไม่เคยเป็นมาก่อน เคยมีแผลเป็นหนองแต่มันก็หายไปเอง
ผมแนะนำ ก็คือให้รีบไปหาหมอให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ ให้หมอวินิจฉัยจะได้จัดยาและการรักษาได้ถูก
ส่วนตัวผมตอนนี้ผมจำอาการมันได้แล้ว (ถึงจะยังเศร้าๆ ที่ไม่เข้าใจว่ามันเกิดจากอะไรและทำไมถึงยังสามารถกลับมาได้อีก) แต่อย่างน้อยๆ ก็ทราบเช่นกันว่าสามารถหาซื้อยา Dicloxacillin ทานเองได้ ซึ่งสำหรับผมมันรักษาแผลอักเสบได้ดีมากเลยครับ (แต่อย่าลืมนะ ว่ามันเป็นยาอันตราย พบแพทย์ก่อนดีที่สุดถ้าไม่เคยทาน)