เมื่อวานนี้จัดรอบ I Max มาเเล้ว กับภาพยนตร์ที่รักเเละรอคอย
ตั้งเเต่วินาทีเเรกที่เข้าไปดู จนกระทั่งเดินออกมา
ในหัวใจมันเต็มไปด้วยความกระหายในเรื่องราว
ในเเต่ละซีนที่กระเเทกเข้าไปในหัวใจซ้ำเเล้วซ้ำเล่า
จนรู้สึกได้เลยว่า รอบเดียว ไม่พอ
เเน่นอนนี่เป็นกระทู้ที่ตั้งโดยสาวก คะเเนนพิศวาสย่อมสูง
เเต่กระนั้นการรีวิวครั้งนี้ก็ไม่ได้พูดถึงสิ่งที่เกินเลยความจริงเเต่อย่างใด
องค์ประกอบสำคัญๆของเรื่องนี้ ได้ฉายประกายไฟอันดุเดือดให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ทะยานสู่สุดสูงสุดอย่างงดงาม
ไรอัน จอห์นสัน นี่กล้าพูดเลยว่ากลายเป็นหนึ่งในผู้กำกับที่เราเรียกว่า "เสด็จพ่อ" ไปเเล้วโดยปริยาย
เราเห็นภาพเสด็จพ่อพีท (ปีเตอร์ เเจ็คสัน) อยู่ในตัวเขา
ซึ่งก็คือ เขาคือสุดยอดเเฟนคลับ Star wars ระดับ Geek
การเขียนบทที่เเพรวพราว สารพัดการตลบหลังหักมุมพลิกไปพลิกมาเเบบมีสไตล์ไม่เหมือนใคร
มันเเสดงออกถึงคนที่มีความเข้าใจในจักรวาลสตาร์วอรส์อย่างทะลุปรุโปร่ง
เเล้วเเต่ละการหักมุมของเสด็จพ่อมันไม่ได้เป็นการหักมุมตามขนบหนังฮีโร่ ลบ+ลบ = บวก
ไรอันเเสดงให้เห็นว่า ลบ + ลบ หากผู้ปฏิบัติการไม่เเข็งพอ
ย่อมนำมาสู่ผลลบที่ติดลบอย่างเเทบไม่ได้ผุดได้เกิด
ในส่วนของนักเเสดง บอกเลยว่าเนียนกริบในทุกๆบทบาท
ละเอียด เเละน่าสนใจในทุกตัวละคร
เเม้ตัวละครนั้นจะออกมาเเค่ไม่กี่นาที
ลุงมาร์ค ฮาร์มิล ทำเอาเราเหมือนคนเป็นไบโพล่าได้ใน 3 ชั่วโมง
หัวเราะ ทึ่ง ตะลึง น้ำตาไหลกับลุงชนิดที่ไม่เคยมีตัวละครไหนที่เราเคยสัมผัส
จากที่เราคิดไว้ว่า ลุคในภาพนี้ จะเป็นตาเเก่ที่ Depress ขรึมเศร้าจาก Trauma อยู่ตลอดเวลา
กลับกลายเป็นว่าคาเเรคเตอร์ของอดีตมาสเตอร์ลุค คือสุดมากกกก
ฉีกความคาดเดาของเราไปเลย ทั้งๆที่อารมณ์ที่เราคาดไว้เเต่เเรกของลุคก็ยังมีอยู่ไม่ไปไหน
เดซี่ ริดลี่ย์ สาวน้อยมหัศจรรย์ที่ดิฉัน Hype มาตั้งเเต่ TFA
เธอยังคงเป็นเด็กสาวที่สุดยอดเช่นเดิม
กล้าเคลมว่าเธอคือเจไดที่สวย น่ารัก เท่ ดุดัน ก่งก๊ก โก๊ะ ที่สุดในกาเเลคซี่
เรารักในคาเเรคเตอร์ของเรย์ คาเเรคเตอร์ของเด็กผู้หญิงที่กำลังมองหาเส้นทางที่ถูกต้องให้ตนเอง
โดยมีภาระเเละความหวังอันยิ่งใหญ่ของเหล่าอิสรชนเเบกไว้บนบ่า
โดยที่เธอไม่ทิ้งธรรมชาติของความเป็นเด็กสาว ไม่พยายามเท่ หรือเเกร่งเกินชายเว่อร์วัง
เธอต้องต่อสู้กับความกลัว ความสับสน
ต้องมีเเผลในใจที่เด็กสาวตัวเล็กๆที่อาศัยในดาวบ้านนอกอย่างเเจคคูไม่ควรต้องพบเห็น
ในภาคนี้เราเห็นความเห็นความเติบโตของเธอ เเละเห็นวิถีอันยิ่งใหญ่ในฐานะเจไดของเธอในอนาคต
การตัดสินใจ ความกล้าหาญที่จะเข้าไปในจุดที่เจไดคนอื่นไม่กล้าเข้าไป
เพื่อเเสวงหาสิ่งที่หัวใจปรารถนามาทั้งชีวิต เเละหากได้ดูเรื่องนี้
ได้เห็น Path ที่เรย์เลือกที่จะก้าวไป เห็นสารพัดการตัดสินใจด้วยตนเองของเรย์เเล้ว
นี่คือข้อพิสูจน์ถึงความมหัศจรรย์ในฐานะพาดาวัน ที่ก้าวข้ามบรรลุความเป็นเจไดของเรย์
อดัม ไดรเวอร์ภาคนี้มีเสน่ห์ล้นเหลือมาก
ไม่รู้สิ หลายคนบอกว่าเขาไม่หล่อ ผิดหวังกับหน้าตา
เเต่เรารู้สึกว่าเขามีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูกตั้งเเต่ TFA เเล้ว
เขาไม่ได้หล่อเเบบ Typical ภาพนิ่งไม่ค่อยมีเสน่ห์
เเต่การเเสดงในภาคนี้ของเขา ทุกๆการเคลื่อนไหว
การร่ายรำกระบี่เเสงก็งดงาม ดุดัน อีกทั้งสายตา คำพูด ของเขาเรารู้สึกใจเต้นมากๆนะ
ไคโล เร็นในภาคนี้ ดูมีเสน่ห์ มีชีวิตจิตใจ เเม้จะยังไม่ทิ้งความสติเเตก
หรือความอยากก้าวตามเงาของลอร์ดเวเดอร์ก็ตาม
เเต่บทบาทในภาคนี้ของเขามีมิติขึ้น มีที่มาที่ไป
เเละเเนวคิดบางอย่างของไคโล ก็เป็นเเนวคิดที่น่าสนใจ
ใครดูเเล้วกดอ่านได้เลยยยย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ภาคนี้เห็นภาคอีตาเร็นรู้จักพูดจาดีๆกับชาวบ้าน
สายตาเว้าวอนหนูเรย์ ความพ่อเเง่ แม่\|อนตะมุตะมิ รวมถึงฉากถอดเสื้อโชว์กล้าม ชวนให้กำเดาพุ่งเบาๆ
สามารถละลายใจเราให้เขินม้วนต้วนได้ไม่ยากเลย
เเครี่ ฟิชเชอร์ ในบทเจ้าหญิงเลอา ภาคนี้ช่างสง่าเเละงดงามเสมือนเทพธิดา
เธอถ่ายทอดความเป็นนายพลเลอา ออร์กาน่าออกมาได้อย่างเฉียบขาด น่าเกรงขาม
เธอไม่ใช่นายผลหญิงที่นั่งสั่งการเฉยๆ ไม่หือไม่อือ เเต่ภาคนี้เราเห็นการ "ลงเเรง" ของเธออย่างสุดพลัง
เเน่นอน เธอมีคำสอนปลุกสติที่น่าประทับใจอยู่ในเรื่องนี้ด้วย เเละเราประทับใจมาก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ฉากใช้ Force ประคองร่างในห้วงอวกาศคือ Epic มากค่ะ!!!!
นี่เเหละ สายเลือดของสกายวอล์คเกอร์ ขลังมาก
รวมไปถึงฉากสั่งสอนโพ ดาเมรอนตอนที่นำพานักบินรบไปสังเวยชีวิตกับภารกิจถล่มเดรตน็อทด้วย
ส่วนคนสุดท้าย โรส รับบทโดย (Kelly Marie Tran) เป็นตัวละครใหม่ที่น่าร๊ากกกก น่าเอ็นดูนะ
เด็กสาวตัวเล็กๆที่เพิ่งหัวใจบอบช้ำจากการสูญเสีย
ทว่ามีความกล้าหาญเเละคิดถึงส่วนรวมมากกว่าความรู้สึกของตัวเอง
เเม้จะไม่เทพสุดพลัง เเต่ก็โดดเด่นเเละน่าประทับใจ เข้าคู่กับฟินน์ในภาคนี้ได้เป็นอย่างดี
เเอบเสียดายไม่มีโมเม้นท์ของโรส+เรย์เลย
ทั้งๆที่นอกจอ ทั้งเดซี่เเละเคลลี่มีความประทับใจให้กันอย่างมาก
ซึ่งเคลลี่ถ่ายทอดประสบการณ์เอาไว้ใน IG ของเธอว่า
ช่วงเธอมาอยู่ลอนดอนใหม่ๆ สาวเอเชียตัวเล็กๆอย่างเธอมีเเต่ความกลัวเเละกังวลมากมาย
คืนวันเกิดของเธอนั้นเดซี่ทำพิซซ่ามาให้เธอถึงอพาร์ทเม้นท์ ทำให้เธอรักเดซี่มากๆ
เเละในงานพรีเมียร์ Star wars ใน LA เธอถึงกับร้องไห้เเละโผเข้ากอดเดซี่กลางพรมเเดงเลย
ในส่วนของเนื้อเรื่อง มันทำให้เรารู้สึกสวิงในอารมณ์ไปกับความพลิกเเพลงเเละลูกล่อลูกชนไปตลอดเรื่อง
ความพีคต่างๆกระหน่ำใส่เรามากขึ้น มากขึ้น ตอนดู Rogue One เราว่าฉากพีคเยอะมากเเล้วนะ ภาคนี้คือพีคหนักกว่ามาก
เเละหลายๆฉากทำเอาเราที่เซนสิทีฟมากๆอยู่เเล้วต้องถอดเเว่นสามมิติเพื่อเช็ดน้ำตาที่รื้นออกมาเป็นระยะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ฉากมาสเตอร์โยดา ที่เอ่ยอุทานว่า "Young Skywalker"
เเล้วเเววตากับท่าทางของลูคที่เปลี่ยนไปในทันที
จากชายชราจิตตก กลายเป็นเจ้าเด็กหนุ่มเกรียนเเตกจอมโวยวาย
จารยยย์ ผมทำไม่ได้ จารย์ไม่เอาน่า โธ่จาร์ยยย ก็มัน...!!!!
ภาพของสกายวอล์กเกอร์หนุ่มมันส่งเเฟลชเเบ็คกลับมารัวๆ
ถึงเราจะเกิดไม่ทันยุค 70-80 เเต่ก็ได้ดูในช่วงปี 97-98
ซึ่งก็นานเกือบสองทศวรรษเเน่นอน
เเน่นอนว่าเราย่อมรู้สึกผูกพัน มีความทรงจำถึงลุค ในวัยรุ่น
พอเห็นฉากมาสเตอร์โยดาออกมาสั่งสอน + ตบเกรียนลุค
หัวใจมันอิ่มเอม น้ำตาจะไหลให้ได้
รวมไปถึงฉาก Battle ต่างๆในเรื่องที่ดุ เดือด สนุกตื่นเต้นมากๆ
บอกเลยภาคนี้มีการเล่นกับจังหวะเสียงได้เทพมาก
จังหวะเคลื่อนไหว จังหวะต่อสู้ จังหวะการดำเนินเรื่อง
ซาวน์ทำให้เกิดอารมณ์เเละความอินไปกับเหตุการณ์นั้นได้เรียลสุดๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ฉากนายพลฮอลโดเสียสละพุ่งชนยานสโนคเเล้วมี Silent moment ไปชั่วขณะหนึ่ง
เป็นอะไรที่สุดยอดมาก หันซ้ายหันขวาทั้งโรงไอแมกซ์ 55555
อีกอย่างที่ขาดไม่ได้คือ Score film ของเรื่องนี้
ทุกๆเทมโป้ ทุกๆไดนามิคชี้นำอารมณ์เราให้ดำดิ่งไปกับทุกๆเหตุการณ์ในเรื่อง
ซึ่งเเน่นอนที่ทำเอาหัวใจเราพองโตที่สุดเห็นจะไม่พ้น Rey Theme เเละ Force theme
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ไม่ว่าจะฉากการฝึกฝนบนหน้าผาเพียงลำพังของเรย์
การกลับมาพบกันของสองพี่น้องสกายวอล์กเกอร์ ลุค เเละเลอา
เเละฉากที่ทำเราใจสลายมากที่สุด
คือฉากที่ลุคกลับจากการรวบรวมกำลังฟอร์ซไปถ่วงเวลาไคโล เร็น
เเล้วนั่งสมาธิบนหินผา ก่อนที่จิตใจจะสงบ เข้าสู่สภาวะเข้าถึงเเละเป็นหนึ่งเดียวกับฟอร์ซ
ดวงตาอันชราของเขา มองเห็นดวงอาทิตย์อัศดงสองดวง นำพาความทรงจำในวัยเยาวน์อันไกลโพ้นของเขา
เมื่อสมัยวัยเเรกฝันของหนุ่มน้อยสกายวอล์กเกอร์ บนดาวทาทูอีน
เพลง Binary Sunset จะค่อยๆบรรเลงขึ้นมาอย่างเชื่องช้าเเละทรงพลัง
ก่อนจะจบลงด้วยภาพของลุคที่สลาย กลายเป็น One with the Force
เป็นการกลับบ้านครั้งสุดท้าย
บอกเลยตอนนั้นเราร้องไห้เลย
เเละเเถว F,G ด้านบนเเละล่างของดิฉันก็อยู่ในสภาพไม่ต่างกันเลย
เเละตัวละครสมทบอื่นๆในเรื่องก็น่าประทับใจ
ทุกเควสที่ตัวละครหลักโลดเเล่น
ตัวละครสมทบทุกตัวสร้างสีสันเเละคาเเรคเตอร์ที่น่าจดจำเป็นอย่างมาก
เเละท้ายเรื่อง ก็มีการปูเข้าสู่จักรวาลใหม่อันไกลโพ้นในอนาคตกาลได้อย่างเเนบเนียน
เเม้กระทั่งสิ่งมีชีวิตเล็กๆน้อยๆในเรื่อง
ที่เราชอบมากๆคือเหล่า Porg แอร๊กกกกก!!! แอร๊กกกกก!!! คือน่ารักม๊ากกกกกกก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เด็กน้อยจากคาสิโน ที่ใช้ฟอร์ซดึงไม้กวาด เเละสวมเเหวน Resistance คือ ตัวเเทนของประโยค
“We are the spark, that will light the fire, that will burn the First Order down.” โดยเเท้จริง
เเละสุดท้าย เนื้อเรื่องนี้ ก็ได้ให้เเง่คิดที่น่าประทับใจในหลายๆอย่าง
อย่ากลัวในความมืด อันเสมือนหนึ่งอวิชชา
อย่ากลัวในความไม่รู้ ยิ่งไม่รู้ ยิ่งต้องเข้าไปค้นหา
เเต่การค้นหานั้น ต้องมีสติเป็นที่ตั้ง นำพาตนเองกลับมาสู้เส้นทางที่ถูกต้องให้ได้
มนุษย์ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเจ็บปวดกับความผิดพลาด
เเต่อย่าจมอยู่กับความผิดพลาด จงยอมรับในความผิดพลาด
เเละนำสิ่งเหล่านี้มาเป็นครู เพื่อหาเเสงสว่างแห่งความสำเร็จจากรอยเเผลเหล่านี้
ครูที่ดี ต้องส่งศิษย์ให้ไปได้ไกลกว่าตนเอง
ความผิดหวัง ต้องเเก้ไขด้วยการพูดคุยซึ่งกันเเละกัน
การทำลายต้นเหตุของความผิดหวัง ย่อมนำพาความวินาศครั้งใหญ่มาสู่ทุกสิ่ง
ใครๆก็อยากเป็นวีรบุรุษ อยากพุ่งชนเป้าหมายให้ย่อยยับ
เเต่กระนั้นต้องชั่งน้ำหนักด้วย ว่าเป้าหมายที่คุณพุ่งชน ต้องเเลกกับอะไรบ้าง
คุ้มมั้ยกับการเเลก อย่าประมาทในความมุ่งมั่นของตนเอง
เขียนมายาวพอสมควร จริงๆมีอีกหลายจุดที่อยากบรรยายเเต่บรรยายไม่หมด
ส่วนตัวเเล้ว เราให้ 10/10
ณ ขณะนี้ Star Wars : The Last Jedi คือ Star Wars ที่ดีที่สุดในทุกภาค
เฉือน Empire Strike Back เเละ Rogue One ไปอย่างฉิวเฉียด
เเละย้ำอีกครั้ง
รอบเดียว ไม่พอ
ปล.The Last Jedi คือหนังตลก 55555555
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ปล.2 เรือ DameRey เเล่นเเน่นอนนนนน
Star Wars: The Last Jedi อย่ากลัวความมืด อย่าจมอยู่กับความผิดพลาด อย่าประมาทกับความมุ่งมั่น
ตั้งเเต่วินาทีเเรกที่เข้าไปดู จนกระทั่งเดินออกมา
ในหัวใจมันเต็มไปด้วยความกระหายในเรื่องราว
ในเเต่ละซีนที่กระเเทกเข้าไปในหัวใจซ้ำเเล้วซ้ำเล่า
จนรู้สึกได้เลยว่า รอบเดียว ไม่พอ
เเน่นอนนี่เป็นกระทู้ที่ตั้งโดยสาวก คะเเนนพิศวาสย่อมสูง
เเต่กระนั้นการรีวิวครั้งนี้ก็ไม่ได้พูดถึงสิ่งที่เกินเลยความจริงเเต่อย่างใด
องค์ประกอบสำคัญๆของเรื่องนี้ ได้ฉายประกายไฟอันดุเดือดให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ทะยานสู่สุดสูงสุดอย่างงดงาม
ไรอัน จอห์นสัน นี่กล้าพูดเลยว่ากลายเป็นหนึ่งในผู้กำกับที่เราเรียกว่า "เสด็จพ่อ" ไปเเล้วโดยปริยาย
เราเห็นภาพเสด็จพ่อพีท (ปีเตอร์ เเจ็คสัน) อยู่ในตัวเขา
ซึ่งก็คือ เขาคือสุดยอดเเฟนคลับ Star wars ระดับ Geek
การเขียนบทที่เเพรวพราว สารพัดการตลบหลังหักมุมพลิกไปพลิกมาเเบบมีสไตล์ไม่เหมือนใคร
มันเเสดงออกถึงคนที่มีความเข้าใจในจักรวาลสตาร์วอรส์อย่างทะลุปรุโปร่ง
เเล้วเเต่ละการหักมุมของเสด็จพ่อมันไม่ได้เป็นการหักมุมตามขนบหนังฮีโร่ ลบ+ลบ = บวก
ไรอันเเสดงให้เห็นว่า ลบ + ลบ หากผู้ปฏิบัติการไม่เเข็งพอ
ย่อมนำมาสู่ผลลบที่ติดลบอย่างเเทบไม่ได้ผุดได้เกิด
ในส่วนของนักเเสดง บอกเลยว่าเนียนกริบในทุกๆบทบาท
ละเอียด เเละน่าสนใจในทุกตัวละคร
เเม้ตัวละครนั้นจะออกมาเเค่ไม่กี่นาที
ลุงมาร์ค ฮาร์มิล ทำเอาเราเหมือนคนเป็นไบโพล่าได้ใน 3 ชั่วโมง
หัวเราะ ทึ่ง ตะลึง น้ำตาไหลกับลุงชนิดที่ไม่เคยมีตัวละครไหนที่เราเคยสัมผัส
จากที่เราคิดไว้ว่า ลุคในภาพนี้ จะเป็นตาเเก่ที่ Depress ขรึมเศร้าจาก Trauma อยู่ตลอดเวลา
กลับกลายเป็นว่าคาเเรคเตอร์ของอดีตมาสเตอร์ลุค คือสุดมากกกก
ฉีกความคาดเดาของเราไปเลย ทั้งๆที่อารมณ์ที่เราคาดไว้เเต่เเรกของลุคก็ยังมีอยู่ไม่ไปไหน
เดซี่ ริดลี่ย์ สาวน้อยมหัศจรรย์ที่ดิฉัน Hype มาตั้งเเต่ TFA
เธอยังคงเป็นเด็กสาวที่สุดยอดเช่นเดิม
กล้าเคลมว่าเธอคือเจไดที่สวย น่ารัก เท่ ดุดัน ก่งก๊ก โก๊ะ ที่สุดในกาเเลคซี่
เรารักในคาเเรคเตอร์ของเรย์ คาเเรคเตอร์ของเด็กผู้หญิงที่กำลังมองหาเส้นทางที่ถูกต้องให้ตนเอง
โดยมีภาระเเละความหวังอันยิ่งใหญ่ของเหล่าอิสรชนเเบกไว้บนบ่า
โดยที่เธอไม่ทิ้งธรรมชาติของความเป็นเด็กสาว ไม่พยายามเท่ หรือเเกร่งเกินชายเว่อร์วัง
เธอต้องต่อสู้กับความกลัว ความสับสน
ต้องมีเเผลในใจที่เด็กสาวตัวเล็กๆที่อาศัยในดาวบ้านนอกอย่างเเจคคูไม่ควรต้องพบเห็น
ในภาคนี้เราเห็นความเห็นความเติบโตของเธอ เเละเห็นวิถีอันยิ่งใหญ่ในฐานะเจไดของเธอในอนาคต
การตัดสินใจ ความกล้าหาญที่จะเข้าไปในจุดที่เจไดคนอื่นไม่กล้าเข้าไป
เพื่อเเสวงหาสิ่งที่หัวใจปรารถนามาทั้งชีวิต เเละหากได้ดูเรื่องนี้
ได้เห็น Path ที่เรย์เลือกที่จะก้าวไป เห็นสารพัดการตัดสินใจด้วยตนเองของเรย์เเล้ว
นี่คือข้อพิสูจน์ถึงความมหัศจรรย์ในฐานะพาดาวัน ที่ก้าวข้ามบรรลุความเป็นเจไดของเรย์
อดัม ไดรเวอร์ภาคนี้มีเสน่ห์ล้นเหลือมาก
ไม่รู้สิ หลายคนบอกว่าเขาไม่หล่อ ผิดหวังกับหน้าตา
เเต่เรารู้สึกว่าเขามีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูกตั้งเเต่ TFA เเล้ว
เขาไม่ได้หล่อเเบบ Typical ภาพนิ่งไม่ค่อยมีเสน่ห์
เเต่การเเสดงในภาคนี้ของเขา ทุกๆการเคลื่อนไหว
การร่ายรำกระบี่เเสงก็งดงาม ดุดัน อีกทั้งสายตา คำพูด ของเขาเรารู้สึกใจเต้นมากๆนะ
ไคโล เร็นในภาคนี้ ดูมีเสน่ห์ มีชีวิตจิตใจ เเม้จะยังไม่ทิ้งความสติเเตก
หรือความอยากก้าวตามเงาของลอร์ดเวเดอร์ก็ตาม
เเต่บทบาทในภาคนี้ของเขามีมิติขึ้น มีที่มาที่ไป
เเละเเนวคิดบางอย่างของไคโล ก็เป็นเเนวคิดที่น่าสนใจ
ใครดูเเล้วกดอ่านได้เลยยยย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เเครี่ ฟิชเชอร์ ในบทเจ้าหญิงเลอา ภาคนี้ช่างสง่าเเละงดงามเสมือนเทพธิดา
เธอถ่ายทอดความเป็นนายพลเลอา ออร์กาน่าออกมาได้อย่างเฉียบขาด น่าเกรงขาม
เธอไม่ใช่นายผลหญิงที่นั่งสั่งการเฉยๆ ไม่หือไม่อือ เเต่ภาคนี้เราเห็นการ "ลงเเรง" ของเธออย่างสุดพลัง
เเน่นอน เธอมีคำสอนปลุกสติที่น่าประทับใจอยู่ในเรื่องนี้ด้วย เเละเราประทับใจมาก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ส่วนคนสุดท้าย โรส รับบทโดย (Kelly Marie Tran) เป็นตัวละครใหม่ที่น่าร๊ากกกก น่าเอ็นดูนะ
เด็กสาวตัวเล็กๆที่เพิ่งหัวใจบอบช้ำจากการสูญเสีย
ทว่ามีความกล้าหาญเเละคิดถึงส่วนรวมมากกว่าความรู้สึกของตัวเอง
เเม้จะไม่เทพสุดพลัง เเต่ก็โดดเด่นเเละน่าประทับใจ เข้าคู่กับฟินน์ในภาคนี้ได้เป็นอย่างดี
เเอบเสียดายไม่มีโมเม้นท์ของโรส+เรย์เลย
ทั้งๆที่นอกจอ ทั้งเดซี่เเละเคลลี่มีความประทับใจให้กันอย่างมาก
ซึ่งเคลลี่ถ่ายทอดประสบการณ์เอาไว้ใน IG ของเธอว่า
ช่วงเธอมาอยู่ลอนดอนใหม่ๆ สาวเอเชียตัวเล็กๆอย่างเธอมีเเต่ความกลัวเเละกังวลมากมาย
คืนวันเกิดของเธอนั้นเดซี่ทำพิซซ่ามาให้เธอถึงอพาร์ทเม้นท์ ทำให้เธอรักเดซี่มากๆ
เเละในงานพรีเมียร์ Star wars ใน LA เธอถึงกับร้องไห้เเละโผเข้ากอดเดซี่กลางพรมเเดงเลย
ในส่วนของเนื้อเรื่อง มันทำให้เรารู้สึกสวิงในอารมณ์ไปกับความพลิกเเพลงเเละลูกล่อลูกชนไปตลอดเรื่อง
ความพีคต่างๆกระหน่ำใส่เรามากขึ้น มากขึ้น ตอนดู Rogue One เราว่าฉากพีคเยอะมากเเล้วนะ ภาคนี้คือพีคหนักกว่ามาก
เเละหลายๆฉากทำเอาเราที่เซนสิทีฟมากๆอยู่เเล้วต้องถอดเเว่นสามมิติเพื่อเช็ดน้ำตาที่รื้นออกมาเป็นระยะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รวมไปถึงฉาก Battle ต่างๆในเรื่องที่ดุ เดือด สนุกตื่นเต้นมากๆ
บอกเลยภาคนี้มีการเล่นกับจังหวะเสียงได้เทพมาก
จังหวะเคลื่อนไหว จังหวะต่อสู้ จังหวะการดำเนินเรื่อง
ซาวน์ทำให้เกิดอารมณ์เเละความอินไปกับเหตุการณ์นั้นได้เรียลสุดๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อีกอย่างที่ขาดไม่ได้คือ Score film ของเรื่องนี้
ทุกๆเทมโป้ ทุกๆไดนามิคชี้นำอารมณ์เราให้ดำดิ่งไปกับทุกๆเหตุการณ์ในเรื่อง
ซึ่งเเน่นอนที่ทำเอาหัวใจเราพองโตที่สุดเห็นจะไม่พ้น Rey Theme เเละ Force theme
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เเละตัวละครสมทบอื่นๆในเรื่องก็น่าประทับใจ
ทุกเควสที่ตัวละครหลักโลดเเล่น
ตัวละครสมทบทุกตัวสร้างสีสันเเละคาเเรคเตอร์ที่น่าจดจำเป็นอย่างมาก
เเละท้ายเรื่อง ก็มีการปูเข้าสู่จักรวาลใหม่อันไกลโพ้นในอนาคตกาลได้อย่างเเนบเนียน
เเม้กระทั่งสิ่งมีชีวิตเล็กๆน้อยๆในเรื่อง
ที่เราชอบมากๆคือเหล่า Porg แอร๊กกกกก!!! แอร๊กกกกก!!! คือน่ารักม๊ากกกกกกก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เเละสุดท้าย เนื้อเรื่องนี้ ก็ได้ให้เเง่คิดที่น่าประทับใจในหลายๆอย่าง
อย่ากลัวในความมืด อันเสมือนหนึ่งอวิชชา
อย่ากลัวในความไม่รู้ ยิ่งไม่รู้ ยิ่งต้องเข้าไปค้นหา
เเต่การค้นหานั้น ต้องมีสติเป็นที่ตั้ง นำพาตนเองกลับมาสู้เส้นทางที่ถูกต้องให้ได้
มนุษย์ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเจ็บปวดกับความผิดพลาด
เเต่อย่าจมอยู่กับความผิดพลาด จงยอมรับในความผิดพลาด
เเละนำสิ่งเหล่านี้มาเป็นครู เพื่อหาเเสงสว่างแห่งความสำเร็จจากรอยเเผลเหล่านี้
ครูที่ดี ต้องส่งศิษย์ให้ไปได้ไกลกว่าตนเอง
ความผิดหวัง ต้องเเก้ไขด้วยการพูดคุยซึ่งกันเเละกัน
การทำลายต้นเหตุของความผิดหวัง ย่อมนำพาความวินาศครั้งใหญ่มาสู่ทุกสิ่ง
ใครๆก็อยากเป็นวีรบุรุษ อยากพุ่งชนเป้าหมายให้ย่อยยับ
เเต่กระนั้นต้องชั่งน้ำหนักด้วย ว่าเป้าหมายที่คุณพุ่งชน ต้องเเลกกับอะไรบ้าง
คุ้มมั้ยกับการเเลก อย่าประมาทในความมุ่งมั่นของตนเอง
เขียนมายาวพอสมควร จริงๆมีอีกหลายจุดที่อยากบรรยายเเต่บรรยายไม่หมด
ส่วนตัวเเล้ว เราให้ 10/10
ณ ขณะนี้ Star Wars : The Last Jedi คือ Star Wars ที่ดีที่สุดในทุกภาค
เฉือน Empire Strike Back เเละ Rogue One ไปอย่างฉิวเฉียด
เเละย้ำอีกครั้ง
รอบเดียว ไม่พอ
ปล.The Last Jedi คือหนังตลก 55555555
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้