ประสบการณ์สั่งซื้อเครื่องพิมพ์สามมิติจากต่างประเทศ

ผมอยากแบ่งปันประสบการณ์การสั่งซื้อเครื่องพิมพ์สามมิติจากต่างประเทศเป็นครั้งแรก ผมไม่มีประสบการณ์การนำเข้าของเองมาก่อนเลย คิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับคนที่กำลังคิดจะสั่งซื้อเครื่องพิมพ์สามมิติเองจากต่างประเทศ

เริ่มจากผมอยากได้เครื่องพิมพ์สามมิติรุ่น Prusa i3 MK2S เพราะมันรีวิวดีมากๆ ในเมืองไทยขายอยู่ 36000 แต่ที่เว็บไซต์ต้นทาง อยู่ที่ประเทศเช็ก ขายอยู่ 599 เหรียญ (ประมาณ 2 หมื่นบาท) แล้ววันนี้ก็มีโปรฟรีค่าส่ง (ปกติ 100 เหรียญ) ด้วย ผมก็เลยไม่รอช้าสั่งซื้อเลย ไม่ได้คิดอะไรมาก คิดว่ามันน่าจะเหมือนๆ กับสั่งซื้อของอื่นๆ จากเว็บของจีน

อีก 5 วันถัดมา เป็นวันเสาร์ UPS ติดต่อมาว่าของจะมาถึงพรุ่งนี้ที่สุวรรณภูมิ แต่ว่ามีปัญหาเพราะเครื่องพิมพ์สามมิติเป็นสินค้าควบคุมการนำเข้า ต้องขออนุญาตจากกรมการค้าต่างประเทศ ระหว่างนี้ของจะถูกกักไว้จนกว่าเอกสารจะเรียบร้อย ผมก็รีบไปหาข้อมูลเพิ่มว่าต้องทำยังไง ดีที่มีเว็บเขียนแนะนำวิธีการไว้ ผมดาวน์โหลดประกาศ "การนำเครื่องพิมพ์สามมิติเข้ามาในราชอาณาจักร ปี 2559" เพราะมีแบบฟอร์มแนบประกาศที่ต้องใช้กรอกเพื่อยื่นขอ วันจันทร์เช้าผมรีบไปรอที่กรมการค้าต่างประเทศเพื่อดำเนินการ

วันจันทร์เช้า (วันที่ 7 นับจากวันสั่ง) ผมไปถึงกรมการค้าต่างประเทศที่สนามบินน้ำ ตั้งแต่ก่อน 8 โมง จอดรถริมถนนฝั่งตรงข้าม เริ่มจากไปที่ชั้น 4 สำนักบริการการค้าต่างประเทศ ทำตามขั้นตอนดังนี้

1. ผมลงทะเบียนขอ "Username กลาง" จากเว็บไซต์ http://reg-users.dft.go.th/Home/tabid/37/Default.aspx (นั่งทำผ่านมือถือ ระหว่างที่รอตรงนั้นแหละ)

2. รอจนถึง 9 โมง เจ้าหน้าที่ก็เรียกผมเข้าไปนั่งหน้าคอมเพื่อพิมพ์ยื่นขอ "บัตรผู้นำเข้า" แล้วแนบสำเนาบัตรประชาชน + เงิน 200 บาท

3. พอได้บัตรมาแล้วก็เอาบัตรมาให้เจ้าหน้าที่คนเดิมพิมพ์ฟอร์มขอลงทะเบียนเป็น "ผู้นำเข้าเครื่องพิมพ์สามมิติ" (ฟอร์มที่เขียนมาเองไม่ได้ใช้) + แนบสำเนาบัตรประชาชน + สำเนาบัตรผู้นำเข้า พอเสร็จจะได้ หนังสือหัวครุฑ เรื่อง "ขึ้นทะเบียนเป็นผู้นำเข้าเครื่องพิมพ์สามมิติฯ" ขาดสำเนาอะไรก็ถ่ายเอกสารตรงนั้นได้ แผ่นละ 3 บาท

ข้อ 1-3 ทำที่ชั้น 4 ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ พอเสร็จก็ขึ้นไปชั้น 10 กองบริหารการค้าสินค้าทั่วไป เป็นห้องเล็กๆ มีเจ้าหน้าที่ท่านนึงเดินออกมาช่วยเหลือ

4. ยื่นฟอร์มตาราง "แบบแจ้งการนำเครื่องพิมพ์สามมิติเข้ามาในราชอาณาจักร" ที่กรอกมาจากบ้าน + สำเนา Invoice + รูปสินค้า + spec (ผมไม่มี 2 อันหลัง แต่เจ้าหน้าที่ให้ผมส่งอีเมลไปหาแล้วพิมพ์ให้โดยไม่คิดเงิน) เจ้าหน้าที่มีช่วยแนะนำผมให้กรอกข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ ส่วนชั้น 10 นี้รอแป๊บเดียวก็เสร็จ ได้เอกสารเป็น ฟอร์มตารางที่ผมเขียนมาแต่มีผู้อำนวยการกองเซ็นลงนามแล้ว ผมประทับใจมากกับการช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่กองนี้

* หมายเหตุ จริงๆ ต้องยื่นแจ้งการนำเข้าก่อน 15 วัน แต่ผมไม่รู้เรื่อง ซึ่งจะสร้างปัญหาตามมา *

ถึงตอนนี้จบขั้นตอนการขออนุญาตกับกรมการค้าต่างประเทศแล้ว ก่อน 11 โมง ถึงตรงนี้โดยรวมโอเค ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย โดยเฉพาะชั้น 10 ดีเลิศ

ผมรีบโทรไปหา UPS ว่าได้ฟอร์มมาแล้ว เจ้าหน้าที่บอกให้ผมส่งตัวจริงของฟอร์มแจ้งการนำเข้า (ฟอร์มที่มีตาราง) และสำเนาหนังสือหัวครุฑ "ขึ้นทะเบียนเป็นผู้นำเข้า" ไปให้ บอกว่าจะส่งแผนที่มา แล้วก็เงียบหายไป โทรไปใหม่หลายครั้งก็ไม่ติด ผมเลยตัดสินใจไม่รอแล้ว หาแผนที่จากบนเว็บแล้วไปหาเอง อยู่ใกล้ๆ สนามบินสุวรรณภูมิ (ดูจากกระทู้ที่เคยมีคนโพสต์ถามทางไปบน pantip) แต่ข้อมูลที่อยู่ตามอีเมล์ของ UPS เองก็ผิด ผมเดินวนอยู่รอบนึงถึงเจอ จริงๆ อยู่ AO1 (ไม่ใช่ 2) ห้อง 117 ถูกแล้ว (วันนั้นโทรหา UPS ยังไงก็ไม่มีคนรับ) บอกชื่อเจ้าหน้าที่แล้วเดินขึ้นไปหา

ผมส่งเอกสาร 2 แผ่น ให้กับเจ้าหน้าที่ เอกสารอื่นๆ เช่นสำเนาบัตรประชาชน ข้อมูลสินค้า ผมส่งให้ทางอีเมลก่อนหน้านี้แล้ว เจ้าหน้าที่บอกว่าจะรีบติดตามให้ สรุปว่าเอกสารน่าจะครบแล้ววันจันทร์

วันพฤหัส (วันที่ 10)  ผมได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ UPS คนเดิมถามว่าเอกสารอยู่ที่ไหน (อ้าว) ผมบอกให้ไปแล้ว กับมือเองเลย เจ้าหน้าที่ก็ไปหาสักพักก็โทรมาบอกว่าได้แล้ว มีคนชื่อเหมือนพี่เยอะจำไม่ได้ จะออกของพรุ่งนี้ น่าจะส่งสัปดาห์หน้า ผมดีใจ คิดว่าเรียบร้อย

วันพุธถัดมา (วันที่ 23) เจ้าหน้าที่ UPS อีกคนโทรมาบอกว่ายังได้ของออกมา แจ้งค่าใช้จ่ายประมาณ 4 พัน (ค่าอะไรบ้างจำไม่ได้แล้ว ค่าธรรมเนียม ค่าลงคลัง ค่าออกของ UPS อะไรประมาณนี้) เพื่อจะออกของ ผมก็บอกว่าโอเค เอาเลย (เก็บเงินผมตอนส่งของ) สักพักเจ้าหน้าที่ UPS โทรมาใหม่ น่าจะเป็นคนละคนกัน บอกว่ามีค่าปรับเพิ่มอีก 1 พันค่าที่ผมยื่นแจ้งนำเข้าล่าช้า ผมก็บอกว่าโอเค (ไม่ได้มีทางเลือกอื่นนี่) เขาก็บอกว่าไม่รู้เจ้าหน้าที่จะเขียนเรื่องแจ้งปรับเมื่อไหร่ (ผมคิดในใจว่าซวยละ) แต่เขาก็บอกว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้จะเอาอะไร แต่อาจจะทำเอกสารนาน แล้วของที่สั่งในนามบุคคลต้องถูกเปิดทุกชิ้น (ทำไมอ่ะ) ผมสรุปเองว่าเจ้าหน้าที่ UPS แจ้งว่า 5 พัน + ค่าของค้างอีกวันละร้อยกว่าบาทแล้วไม่รู้ว่าจะเอาของออกได้เมื่อไหร่

ตอนนี้ผมยังรอลุ้นต่อไปว่าจะได้ของเมื่อไหร่ แล้วสรุปว่ารวมจะต้องเสียเงินเท่าไหร่
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่