ดูเหมือนว่าเกมจะพลิกซะแล้ว เมื่อ Parse.ly บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลเว็บไซต์ออนไลน์ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลสถิติการสำรวจ Traffic การเข้าชมเว็บไซต์ต่างๆ ของปีนี้ในระยะเวลา 10 เดือนล่าสุดที่ผ่านมา
โดยพบว่ายอด Traffic ของ Facebook นำสูงกว่า Google มาโดยตลอด โดยที่ยอดของ Facebook อยู่ที่ 40% ส่วน Google อยู่ที่ 34% แต่ที่น่าสนใจคือในระยะหลังมานี้ยอด Traffic ของ Google กลับพุ่งสูงขึ้นไปถึง 44% ในขณะที่ Facebook ยอดตกลงไปที่ 26% เรียกได้ว่าพุ่งแซงขึ้นไปเกือบเท่าตัวเลยทีเดียว
จากยอด Traffic ดังที่กล่าวมานั้น ทำให้วิเคราะห์ได้ว่าน่าจะมาจากการที่ Google ปรับฟีเจอร์ AMP ให้ได้รับความนิยมมากขึ้น และดันให้ผลการค้นหาเห็นอยู่ด้านบนของบนสมาร์ทโฟนเสมอ เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสในการคลิ๊กลิงก์จากผู้ใช้มากขึ้นตามไปด้วย
แต่ตรงกันข้ามกับ Facebook ที่มีการปรับอัลกอริทึมการแสดงผลหน้าฟีดใหม่ให้เห็นโพสต์ของเพื่อนๆ มากขึ้น แต่ฟีดเพจ ฟีดข่าวสารลดน้อยลง รวมไปถึงการมาของ Explore Feed ที่ทำให้คอนเทนต์ที่ไม่ได้ซื้อโฆษณาจาก Facebook จะถูกลดโอกาสในการเข้าถึงให้น้อยลงไปอีก อีกทั้งยังผลักดันแพลตฟอร์มวิดีโอที่มากขึ้น จนมาแย่งพื้นที่ของลิงก์เว็บไซต์ไปเกือบหมด และตัว Instant Article ก็ได้รับความสนใจน้อยลงเพราะไม่ตอบโจทย์เรื่องรายได้จากโฆษณา อีกทั้งสื่อต่างๆ ไม่มีรายได้เพิ่มขึ้นเลย แถมบางครั้งรายได้ลดลงด้วยซ้ำ การใช้งาน Instant Articles ไม่ได้ทำให้คนอ่านข่าวเยอะขึ้นจากเว็บเพจปกติเลย คนที่อยากติดตามข่าวสารต่างๆ ก็จะไม่เห็นข่าวใน feed เลย ต้องกด search เพื่อค้นหา นั่นจึงเป็นเหตุที่บางทีการเข้าเว็บไซต์ก็ง่ายกว่านั่นเอง
หมายเหตุ
AMP คือ อัลกอรึทึมของ google สำหรับแสดงหน้าเว็บไซต์ความเร็วสูงบนอุปกรณ์พกพา (Accelerated Mobile Pages)
Explore Feed คือ ฟีดที่นำเสนอเรื่องราวต่างๆ จากเพจที่ระบบคิดว่าผู้ใช้งานสนใจ และจะแยกออกจาก Feed ปกติ
Instant Article คือ ฟีเจอร์ของเฟสบุ๊คที่ช่วยให้เราอ่านบทความตามลิงก์ได้อย่างรวดเร็วบนอุปกรณ์พกพา โดยแสดงผลเนื้อหาตามฟอร์แมตของ Facebook แทนการโหลดหน้าเว็บโดยตรง
ที่มา:
http://www.atimedesign.com/webdesign/traffic-website-facebook/
ยอด Traffic การเข้าเว็บไซต์ผ่าน Google พุ่งสูงกว่า Facebook ไปแล้วเป็นเท่าตัว!
ดูเหมือนว่าเกมจะพลิกซะแล้ว เมื่อ Parse.ly บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลเว็บไซต์ออนไลน์ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลสถิติการสำรวจ Traffic การเข้าชมเว็บไซต์ต่างๆ ของปีนี้ในระยะเวลา 10 เดือนล่าสุดที่ผ่านมา
โดยพบว่ายอด Traffic ของ Facebook นำสูงกว่า Google มาโดยตลอด โดยที่ยอดของ Facebook อยู่ที่ 40% ส่วน Google อยู่ที่ 34% แต่ที่น่าสนใจคือในระยะหลังมานี้ยอด Traffic ของ Google กลับพุ่งสูงขึ้นไปถึง 44% ในขณะที่ Facebook ยอดตกลงไปที่ 26% เรียกได้ว่าพุ่งแซงขึ้นไปเกือบเท่าตัวเลยทีเดียว
จากยอด Traffic ดังที่กล่าวมานั้น ทำให้วิเคราะห์ได้ว่าน่าจะมาจากการที่ Google ปรับฟีเจอร์ AMP ให้ได้รับความนิยมมากขึ้น และดันให้ผลการค้นหาเห็นอยู่ด้านบนของบนสมาร์ทโฟนเสมอ เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสในการคลิ๊กลิงก์จากผู้ใช้มากขึ้นตามไปด้วย
แต่ตรงกันข้ามกับ Facebook ที่มีการปรับอัลกอริทึมการแสดงผลหน้าฟีดใหม่ให้เห็นโพสต์ของเพื่อนๆ มากขึ้น แต่ฟีดเพจ ฟีดข่าวสารลดน้อยลง รวมไปถึงการมาของ Explore Feed ที่ทำให้คอนเทนต์ที่ไม่ได้ซื้อโฆษณาจาก Facebook จะถูกลดโอกาสในการเข้าถึงให้น้อยลงไปอีก อีกทั้งยังผลักดันแพลตฟอร์มวิดีโอที่มากขึ้น จนมาแย่งพื้นที่ของลิงก์เว็บไซต์ไปเกือบหมด และตัว Instant Article ก็ได้รับความสนใจน้อยลงเพราะไม่ตอบโจทย์เรื่องรายได้จากโฆษณา อีกทั้งสื่อต่างๆ ไม่มีรายได้เพิ่มขึ้นเลย แถมบางครั้งรายได้ลดลงด้วยซ้ำ การใช้งาน Instant Articles ไม่ได้ทำให้คนอ่านข่าวเยอะขึ้นจากเว็บเพจปกติเลย คนที่อยากติดตามข่าวสารต่างๆ ก็จะไม่เห็นข่าวใน feed เลย ต้องกด search เพื่อค้นหา นั่นจึงเป็นเหตุที่บางทีการเข้าเว็บไซต์ก็ง่ายกว่านั่นเอง
หมายเหตุ
AMP คือ อัลกอรึทึมของ google สำหรับแสดงหน้าเว็บไซต์ความเร็วสูงบนอุปกรณ์พกพา (Accelerated Mobile Pages)
Explore Feed คือ ฟีดที่นำเสนอเรื่องราวต่างๆ จากเพจที่ระบบคิดว่าผู้ใช้งานสนใจ และจะแยกออกจาก Feed ปกติ
Instant Article คือ ฟีเจอร์ของเฟสบุ๊คที่ช่วยให้เราอ่านบทความตามลิงก์ได้อย่างรวดเร็วบนอุปกรณ์พกพา โดยแสดงผลเนื้อหาตามฟอร์แมตของ Facebook แทนการโหลดหน้าเว็บโดยตรง
ที่มา: http://www.atimedesign.com/webdesign/traffic-website-facebook/