พอดีสงสัยเกี่ยวกับข้อหา “รถที่จดทะเบียนแล้วไม่มีและแสดงแผ่นป้ายและเครื่องหมายถูกต้องครบถ้วนตามที่กำหนดในกฏกระทรวง”
พอดีระหว่างขับรถเช่าเจ้าหนึ่งในขณะไปท่องเที่ยวทางภาคเหนือที่ผ่านมาในวันหยุด
โดยโดนเจ้าหน้าที่เรียก ตั้งข้อหาและปรับในข้อหานี้ เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 200 บาท
เนื่องจากรถไม่ได้ติดป้ายแสดงหลักฐานการเสียภาษีตัวจริง (ป้ายวงกลม) ที่หน้ากระจกรถ บริษัทรถเช่าติดเป็นสำเนาถ่ายเอกสาร
ซึ่งก็ไม่ทราบว่าตัวจริงไปไหน ยังโชคดีที่มีเอกสารสำเนาเล่มรถติดอยู่ในรถ และเป็นเอกสารที่ตรงกับทะเบียนรถ
โดยสุดท้ายเจ้าหน้าที่ ณ จุดรับรถจังหวัดนั้น ชดใช้เงินค่าปรับให้ 200 บาทถ้วน ตามจริง
และขอเอกสารการชำระเงินตัวจริงไป ถึงตรงนี้ผมสงสัยว่า..
รถของบริษัทรถเช่า ซึ่งมีผมเช่าขับโดยเป็นผู้จ่ายค่าเช่าครบถ้วน ควรจะให้รถเช่าที่มีเอกสารครบถ้วนตามกฏหมายกับผม
แต่เมื่อถึงเวลาโดนตำรวจเรียกจริงๆ ในใบตั้งข้อกล่าวหา ดันเป็นชื่อของผู้ขับขี่ นั่นก็คือผมเอง หรือเรียกว่า “ผู้ต้องหา”
และมีการจดเลขหลังใบขับขี่ของผมเองที่ขับรถคันนี้ไว้อย่างครบถ้วน ในใบตั้งข้อกล่าวหา ซึ่งผมไม่แน่ใจ
ว่าลักษณะนี้จะส่งผลกระทบใดๆ ต่อใบขับขี่ของผมหรือการต่อใบขับขี่ในอนาคตของผมหรือไม่
ยังมีระบบตัดแต้ม หรือบันทึกประวัติอยู่หรือเปล่า
แล้วในเมื่อผมเป็นผู้เช่ารถโดยที่เสียเงินค่าเช่าเองทั้งหมด แต่ได้รับค่าปรับคืน 200 บาท จากบริษัทฯ รถเช่า
แต่ชื่อและเลขใบขับขี่ส่วนตัวดันถูกบันทึกประวัติ (แทนที่จะเป็นรถเช่าถูกบันทึกประวัติ หรือเจ้าของรถเช่า)
ผมควรเรียกร้องอะไรต่อไหมครับ หรือควรจบแค่ตรงนั้นดี
นี่ยังไม่รวมการเสียเวลาที่โดนเรียกครวจเกือบครึ่งชั่วโมง และค่าโทรศัพท์ติดต่อ call center ในกรณีฉุกเฉิน
(รอสายนานมาก รวมๆ ครึ่งชั่วโมง) และเวลาที่หายไปจากการพักผ่อน
จริงๆ เรื่องเงิน 200 บาท ส่วนนั้นเล็กน้อยมาก ถ้าผมเป็นฝ่ายผิดจริงๆ
แต่ตอนนี้เหมือนมารับผิดแทนบริษัทฯ รถเช่า (หรือเปล่า) แต่รู้สึกซีเรียสนิดนึงถ้าเราจะต้องเสียประวัติครับ
ขอคำแนะนำด้วยครับ
เกิดปัญหาเรื่องเอกสารกับรถเช่ารายหนึ่ง เมื่อโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจ
พอดีระหว่างขับรถเช่าเจ้าหนึ่งในขณะไปท่องเที่ยวทางภาคเหนือที่ผ่านมาในวันหยุด
โดยโดนเจ้าหน้าที่เรียก ตั้งข้อหาและปรับในข้อหานี้ เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 200 บาท
เนื่องจากรถไม่ได้ติดป้ายแสดงหลักฐานการเสียภาษีตัวจริง (ป้ายวงกลม) ที่หน้ากระจกรถ บริษัทรถเช่าติดเป็นสำเนาถ่ายเอกสาร
ซึ่งก็ไม่ทราบว่าตัวจริงไปไหน ยังโชคดีที่มีเอกสารสำเนาเล่มรถติดอยู่ในรถ และเป็นเอกสารที่ตรงกับทะเบียนรถ
โดยสุดท้ายเจ้าหน้าที่ ณ จุดรับรถจังหวัดนั้น ชดใช้เงินค่าปรับให้ 200 บาทถ้วน ตามจริง
และขอเอกสารการชำระเงินตัวจริงไป ถึงตรงนี้ผมสงสัยว่า..
รถของบริษัทรถเช่า ซึ่งมีผมเช่าขับโดยเป็นผู้จ่ายค่าเช่าครบถ้วน ควรจะให้รถเช่าที่มีเอกสารครบถ้วนตามกฏหมายกับผม
แต่เมื่อถึงเวลาโดนตำรวจเรียกจริงๆ ในใบตั้งข้อกล่าวหา ดันเป็นชื่อของผู้ขับขี่ นั่นก็คือผมเอง หรือเรียกว่า “ผู้ต้องหา”
และมีการจดเลขหลังใบขับขี่ของผมเองที่ขับรถคันนี้ไว้อย่างครบถ้วน ในใบตั้งข้อกล่าวหา ซึ่งผมไม่แน่ใจ
ว่าลักษณะนี้จะส่งผลกระทบใดๆ ต่อใบขับขี่ของผมหรือการต่อใบขับขี่ในอนาคตของผมหรือไม่
ยังมีระบบตัดแต้ม หรือบันทึกประวัติอยู่หรือเปล่า
แล้วในเมื่อผมเป็นผู้เช่ารถโดยที่เสียเงินค่าเช่าเองทั้งหมด แต่ได้รับค่าปรับคืน 200 บาท จากบริษัทฯ รถเช่า
แต่ชื่อและเลขใบขับขี่ส่วนตัวดันถูกบันทึกประวัติ (แทนที่จะเป็นรถเช่าถูกบันทึกประวัติ หรือเจ้าของรถเช่า)
ผมควรเรียกร้องอะไรต่อไหมครับ หรือควรจบแค่ตรงนั้นดี
นี่ยังไม่รวมการเสียเวลาที่โดนเรียกครวจเกือบครึ่งชั่วโมง และค่าโทรศัพท์ติดต่อ call center ในกรณีฉุกเฉิน
(รอสายนานมาก รวมๆ ครึ่งชั่วโมง) และเวลาที่หายไปจากการพักผ่อน
จริงๆ เรื่องเงิน 200 บาท ส่วนนั้นเล็กน้อยมาก ถ้าผมเป็นฝ่ายผิดจริงๆ
แต่ตอนนี้เหมือนมารับผิดแทนบริษัทฯ รถเช่า (หรือเปล่า) แต่รู้สึกซีเรียสนิดนึงถ้าเราจะต้องเสียประวัติครับ
ขอคำแนะนำด้วยครับ