สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
ผมจำคุณได้จากกระทู้อื่นๆที่คุณเคยถามเมื่อเอาหลายๆเรื่องมารวมกันผมว่าแฟนคุณไม่ได้รักคุณที่ตัวคุณซักเท่าไหร่หรอก เขารักตัวเองและครอบครัวของเขามากกว่าคุณและการที่คุณมีปัญหาทางด้านสุขภาพซึ่งเมื่อแต่งงานกันไปแล้วเขาจะต้องดูแลจึงกลายเป็นภาระในสายตาของเขาไป ในความรู้สึกของผมถ้าคนเราจะรักกันและแต่งงานกันมันต้องพร้อมที่จะร่วมทุกข์ร่วมสุขเจ็บไข้ก็ต้องดูแลกัน ไม่ใช่คิดถึงความสุขที่จะอยู่ด้วยกันมีลูกไปให้ปู่ย่าอุ้มอย่างเดียวแบบนี้
ที่นี้มันก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้วล่ะว่าคุณอยากจะไปต่อหรือพอแค่นี้กับผู้ชายคนนี้และครอบครัวของเขา
ที่นี้มันก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้วล่ะว่าคุณอยากจะไปต่อหรือพอแค่นี้กับผู้ชายคนนี้และครอบครัวของเขา
แสดงความคิดเห็น
รู้สึกยังไงถ้าแฟนที่ขอแต่งงาน ผ่านมาหนึ่งเดือน มาขอเลื่อนแต่งงานกับเราออกไปอีกปี
(อยากจะแต่งงาน) ซึ่งเราขอไว้ปนะมาณต้นปี 19
อยากค่อยๆเตรียมงาน แล้วเราก็อยากอยู่บ้านมากขึ้นด้วย
เงื่อนไขเพิ่มขึ้นคือ เราบอกเขาว่าเราอาจจะมีลูกไม่ได้ เพราะเราเป็นลมชัก ยังต้องกินยากันชักอยู่ (อาการเราไม่ใช่ลมบ้าหมู ไม่มีชัก แค่วูบ แล้วก็เบลอๆ ลืมง่ายบ้างบางที) เราเคยบอกเขาก่อนหน้าเขาขอเราแต่งงาน แต่เขาก็ดูไม่ได้สนใจอะไร
จนมาถึงจุดที่เราไปดูบ้านกัน ไปมาหลายโครงการ
เขาดูจริงจังกับการมีบ้าน อยากซื้อบ้านในสิ้นปีนี้
จนมาได้โครงการนึง ที่เราทั้งสองคนรู้สึกโอเค
เขากลับไปคุยกับที่บ้านเขา
และวันถัดมา กลับมาบอกเราว่าที่บ้านอยากให้พักไว้ก่อน อยากให้จัดการทีละเรื่อง
ตอนแรกเราเข้าใจว่าเขาคิดว่าควรแต่งก่อน แล้วค่อยซื้อบ้าน จนมานั่งๆคิด เลยกลับไปถาม...
สรุปคือ เขากลัว... กลัวว่าเราจะเป็นอะไรไปแล้วเขาจะต้องดูแล (ประมาณเราความจำเสื่อม ช่วยตัวเองไม่ได้) อยากเลื่อนออกไปอีกสักสองสามปี (เป็นประมาณ 2020) ให้เขามั่นใจก่อน ประมาณนั้น
ตอนนี้อยากให้เราไปตรวจซ้ำ ด้วนเหตุผลว่าอยากเห็นผลเองกับตา เขาไม่ยอมเชื่อว่าเราเป็นลมชัก
เราก็ไม่รู้ว่าถ้าผลออกมาเราเป็นแล้วจะเป็นไงเหรอ ถ้าเราไม่เป็นแล้วมันต่างกันไงเหรอ
เป็นเพื่อนๆ รู้สึกยังไงกันคะ... เรารู้สึกแย่มากเลย
เราเข้าใจนะว่าคนเราก็กลัวภาระกลัวลำบากกันทั้งนั้น
แต่เรายังไม่ได้เป็นอะไรเลย แล้วเราก็กินยาอยู่