“น ร า ธิ ว า ส”
แค่ชื่อก็น่ากลัวแล้วใช่ไหม? ตั้งอยู่ใน 3 จังหวัด ชายแดนภาคใต้ด้วย
เหตุผลที่คิดจะไป เพราะ อยากไปเห็นว่าน่ากลัวแบบที่เห็นในข่าวรึเปล่า
เราไม่รู้ว่ากะทู้ของเรา จะทำให้ใครเปลี่ยนมุมมองต่อจังหวัดนี้ไปได้ไหม
คนนราธิวาส มีน้ำใจ จนเราตกใจในความมีน้ำใจ ความมีน้ำใจนี้ที่ทำให้เราต้องกลับมาเขียนกะทู้ถึง
เราไปคนเดียว ดังนั้น รูปภาพคงไม่สวยนะ : )
เริ่มต้นที่สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) นั่งรถไฟฟรีไป อ.สุไหงโกลก (จ.นราธิวาส)
**ปัจจุบันไม่มีรถไฟฟรีแล้ว
ระหว่างทาง อาจนาน แต่มันมีเรื่องราวต่างๆให้น่าจดจำอยู่เสมอ
ทุกๆการเดินทางของเรา มีเรื่องเล่าเยอะมาก ทั้งร้าย ทั้งดีนั่นแหละ
การท่องเที่ยวของเรา คือ การเรียนเหนื่อยๆสมองแล้วออกไปเที่ยวเพื่อรับพลังงานด้านบวกกลับมา
เมื่อถึงนราธิวาส ความกลัวไม่มี มีแต่ความตื่นเต้น อยากเดินดูตามตรอก ซอก ซอย
เราพักที่
เหงาจันทร์ เจ้าของที่พักบริการดีมากๆ พาไปปั่นจักรยานเล่นที่ฝั่งมาเลเซีย
แม้ที่พักจะไม่ดี แต่ความมีน้ำใจของป้าป้อม หนูไม่รู้จะตอบแทนยังไงเลย
นี่คือ นามบัตรป้าป้อม มีอะไรสามารถติดต่อได้เลยค่ะ
เก็บสำภาระเสร็จ ป้าป้อมพาขับมอเตอร์ไซค์ไปเที่ยวป่าพรุโต๊ะแดง เขียวมากกก
**ป่าพรุโต๊ะแดง คือ ป่าที่รากของต้นไม้จะเต็มไปด้วยน้ำ แต่ต้นไม้ไม่ตาย
วิวฝั่งมาเลเซียที่ได้ไปปั่นจักรยานเล่น
ทานข้าวยำวูดูของทางมาเลเซีย
ทานน้ำแข็งใสชิวๆของทางไทย
**จากนราธิวาสสามารถนั่งรถทัวร์ไปกัวลาลัมเปอร์ได้ ประมาณ 400 บาท
จริงๆ ปลายทางของเรา คือ หน่วยรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ฮาลา-บาลา (ติดกับยะลา)
เราเหมารถจากสุไหงโกลกไปอ.สุคิริน ใช้เวลาประมาณ เกือบ 2 ชั่วโมง
แต่ด้วยเวลาที่จำกัด จึงได้แค่นั่งรถจนท.ไปดูรอบๆเขตรักษาพันทุ์สัตว์ป่า(จนท.) แค่นี้ก็คุ้มมากแล้ว
แต่จะเข้าป่า ต้องได้เข้า จึงเดินขึ้น ภูศาลา ตั้งอยู่ที่นั่นแหละ ภูศาลา อ.สุคิริน จ.นราธิวาส
ใช้เวลาเดินขึ้น ภูศาลา ประมาณ 40 นาที ทางชันเกือบตลอด แต่ทางสั้นๆ จะมีคนนำทางพาขึ้น
เย็นนี้เราเลยนอนเต๊นท์ที่นี่ รอชมทะเลหมอกตอนเช้า
ยามเช้าก็ได้ยินเสียงชะนีร้องหาหลัว เต็มแส้ไปหมดป่า
ค่ำคืนที่ไม่หนาวมาก แต่เป็นคืนที่มีความสุขอีกวัน
เราไปคนเดียวด้วย ไม่มีนักท่องเที่ยวในวันนั้น
ทำกับข้าวกินกับพี่ๆที่นำทาง มีลูกสาวอบต.ขึ้นมานอนด้วย อบต.กลัวว่าเป็นผู้หญิงคนเดียวมาเที่ยวแล้วจะกลัว
ลงเขาเสร็จ ไปอาบน้ำที่บ้านอบต. และ ทำลาบหมูกินที่บ้านอบต.
อบต.เห็นว่านายกอำเภอจะเข้าสุไหงโกลกพอดี จึงได้ติดรถยนตร์นายกเข้าเมืองสุไหงโกลก
สุดท้ายนี้
ขอบคุณ ป้าป้อมที่ช่วยเหลือหนูทุกๆอย่างที่นราธิวาส ขาดป้าหนูแย่แน่เลยค่ะ
ขอบคุณ น้าผญ.คนนั้นที่พาหนูไปหาข้าวกินเพราะกลัวเป็นอันตราย
ขอบคุณ ลูกพี่หรั่ง(จนท.)ที่ชี้แนะทุกอย่างที่ฮาลาบาลา
ขอบคุณ น้องพลอย ลูกสาวอบต.ที่แว้นมอไซต์มาส่ง
ขอบคุณ อบต.ที่ชวนให้ไปอาบน้ำอาบท่าแล้วกินลาบหมู
ขอบคุณ นายกที่เลี้ยงข้าวมันไก่และพาไปส่งที่สถานีรถไฟ
ขอบคุณ ลุงขายตั๋ว ที่พาแว้นมอไซไปหาตู้ATM
#ขอบคุณที่ได้เจอแต่คนดีๆ : )
ขอทิ้งช่องทางไว้ เผื่อใครมีใครอยากอะไรสอบถามเพิ่มเติมนะคะ
https://www.facebook.com/papern.chaichalermdech
[CR] กาลครั้งหนึ่งที่นราธิวาส ไม่ไปไม่รู้ ไม่ดูไม่เห็นนะจ๊ะ..
แค่ชื่อก็น่ากลัวแล้วใช่ไหม? ตั้งอยู่ใน 3 จังหวัด ชายแดนภาคใต้ด้วย
เหตุผลที่คิดจะไป เพราะ อยากไปเห็นว่าน่ากลัวแบบที่เห็นในข่าวรึเปล่า
เราไม่รู้ว่ากะทู้ของเรา จะทำให้ใครเปลี่ยนมุมมองต่อจังหวัดนี้ไปได้ไหม
คนนราธิวาส มีน้ำใจ จนเราตกใจในความมีน้ำใจ ความมีน้ำใจนี้ที่ทำให้เราต้องกลับมาเขียนกะทู้ถึง
เราไปคนเดียว ดังนั้น รูปภาพคงไม่สวยนะ : )
เริ่มต้นที่สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) นั่งรถไฟฟรีไป อ.สุไหงโกลก (จ.นราธิวาส)
**ปัจจุบันไม่มีรถไฟฟรีแล้ว
ระหว่างทาง อาจนาน แต่มันมีเรื่องราวต่างๆให้น่าจดจำอยู่เสมอ
ทุกๆการเดินทางของเรา มีเรื่องเล่าเยอะมาก ทั้งร้าย ทั้งดีนั่นแหละ
การท่องเที่ยวของเรา คือ การเรียนเหนื่อยๆสมองแล้วออกไปเที่ยวเพื่อรับพลังงานด้านบวกกลับมา
เมื่อถึงนราธิวาส ความกลัวไม่มี มีแต่ความตื่นเต้น อยากเดินดูตามตรอก ซอก ซอย
เราพักที่ เหงาจันทร์ เจ้าของที่พักบริการดีมากๆ พาไปปั่นจักรยานเล่นที่ฝั่งมาเลเซีย
แม้ที่พักจะไม่ดี แต่ความมีน้ำใจของป้าป้อม หนูไม่รู้จะตอบแทนยังไงเลย
นี่คือ นามบัตรป้าป้อม มีอะไรสามารถติดต่อได้เลยค่ะ
เก็บสำภาระเสร็จ ป้าป้อมพาขับมอเตอร์ไซค์ไปเที่ยวป่าพรุโต๊ะแดง เขียวมากกก
**ป่าพรุโต๊ะแดง คือ ป่าที่รากของต้นไม้จะเต็มไปด้วยน้ำ แต่ต้นไม้ไม่ตาย
วิวฝั่งมาเลเซียที่ได้ไปปั่นจักรยานเล่น
ทานข้าวยำวูดูของทางมาเลเซีย
ทานน้ำแข็งใสชิวๆของทางไทย
**จากนราธิวาสสามารถนั่งรถทัวร์ไปกัวลาลัมเปอร์ได้ ประมาณ 400 บาท
จริงๆ ปลายทางของเรา คือ หน่วยรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ฮาลา-บาลา (ติดกับยะลา)
เราเหมารถจากสุไหงโกลกไปอ.สุคิริน ใช้เวลาประมาณ เกือบ 2 ชั่วโมง
แต่ด้วยเวลาที่จำกัด จึงได้แค่นั่งรถจนท.ไปดูรอบๆเขตรักษาพันทุ์สัตว์ป่า(จนท.) แค่นี้ก็คุ้มมากแล้ว
แต่จะเข้าป่า ต้องได้เข้า จึงเดินขึ้น ภูศาลา ตั้งอยู่ที่นั่นแหละ ภูศาลา อ.สุคิริน จ.นราธิวาส
ใช้เวลาเดินขึ้น ภูศาลา ประมาณ 40 นาที ทางชันเกือบตลอด แต่ทางสั้นๆ จะมีคนนำทางพาขึ้น
เย็นนี้เราเลยนอนเต๊นท์ที่นี่ รอชมทะเลหมอกตอนเช้า
ยามเช้าก็ได้ยินเสียงชะนีร้องหาหลัว เต็มแส้ไปหมดป่า
ค่ำคืนที่ไม่หนาวมาก แต่เป็นคืนที่มีความสุขอีกวัน
เราไปคนเดียวด้วย ไม่มีนักท่องเที่ยวในวันนั้น
ทำกับข้าวกินกับพี่ๆที่นำทาง มีลูกสาวอบต.ขึ้นมานอนด้วย อบต.กลัวว่าเป็นผู้หญิงคนเดียวมาเที่ยวแล้วจะกลัว
ลงเขาเสร็จ ไปอาบน้ำที่บ้านอบต. และ ทำลาบหมูกินที่บ้านอบต.
อบต.เห็นว่านายกอำเภอจะเข้าสุไหงโกลกพอดี จึงได้ติดรถยนตร์นายกเข้าเมืองสุไหงโกลก
สุดท้ายนี้
ขอบคุณ ป้าป้อมที่ช่วยเหลือหนูทุกๆอย่างที่นราธิวาส ขาดป้าหนูแย่แน่เลยค่ะ
ขอบคุณ น้าผญ.คนนั้นที่พาหนูไปหาข้าวกินเพราะกลัวเป็นอันตราย
ขอบคุณ ลูกพี่หรั่ง(จนท.)ที่ชี้แนะทุกอย่างที่ฮาลาบาลา
ขอบคุณ น้องพลอย ลูกสาวอบต.ที่แว้นมอไซต์มาส่ง
ขอบคุณ อบต.ที่ชวนให้ไปอาบน้ำอาบท่าแล้วกินลาบหมู
ขอบคุณ นายกที่เลี้ยงข้าวมันไก่และพาไปส่งที่สถานีรถไฟ
ขอบคุณ ลุงขายตั๋ว ที่พาแว้นมอไซไปหาตู้ATM
#ขอบคุณที่ได้เจอแต่คนดีๆ : )
ขอทิ้งช่องทางไว้ เผื่อใครมีใครอยากอะไรสอบถามเพิ่มเติมนะคะ
https://www.facebook.com/papern.chaichalermdech
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น