[SR] 7 วัน ปั่นจักรยาน กรุงเทพฯ - ดอยอินทนนท์ กับ...คนล่าฝัน ตอนที่ 6 ( 6/7 ) ตอนจบ



ตอนที่ 1 https://ppantip.com/topic/37169062                 (กรุงเทพ-อินทร์บุรี)
ตอนที่ 2 https://ppantip.com/topic/37175355                  (อินทร์บุรี-นครสวรรค์)
ตอนที่ 3 https://ppantip.com/topic/37175560                  (นครสวรรค์-ตาก)
ตอนที่ 4 https://ppantip.com/topic/37176730                  (ตาก-เถิน)
ตอนที่ 5 https://ppantip.com/topic/37177063                  (เถิน-ห้างฉัตร)
ตอนที่ 6 https://ppantip.com/topic/37178925                  (ห้างฉัตร-จอมทอง)
ตอนที่ 7 https://ppantip.com/topic/37180508/comment1  (จอมทอง-ดอยอินทนนท์)


ตอนนี้ก็จะมารีวิวการเดินทางตอนที่ 7 ตอนสุดท้ายนะครับ ....วันศุกร์ที่ 24 พ.ย.60 วันที่ 7 ของการเดินทางอันแสนยาวไกลของพวกเรา ซึ่งตามแผนและหมายกำหนดการที่วางไว้ตั้งแต่กรุงเทพฯ ก่อนที่พวกเราจะเดินทางมา พวกเราได้จองตั๋วรถไฟจากเชียงใหม่เพื่อกลับกรุงเทพ ในวันเสาร์ที่ 25 พ.ย.60 เวลา 17.00 น.( เพราะฉะนั้น จึงเป็นเช่นฉะนี้ครับ)


... เวลาประมาณหกโมงเช้าผมลืมตาตื่นขึ้นมา แต่ตัวยังนอนขดตัวอยู่ในเต็นท์อยู่เลย ได้ยินเสียงเสือต้อมกับเสือซังคุยกันอยู่นอกเต็นท์ เมื่อคืนผมรู้สึกว่านอนสบายมาก หลับเพลินเลย ผมรูดซิบหน้าต่างเต็นท์มองดูบรรยากาศภายนอก แล้วก็ล้มตัวลงนอนต่อ คิดอะไรในใจไปเรื่อยเปื่อย เมื่อคืนเราบอกคุณลุงคุณป้าเจ้าของที่พักให้เตรียมอาหารเช้าให้เราไม่เกินเจ็ดโมงเช้า วันนี้ทีแรกว่าจะตื่นแต่เช้า กินข้าวเสร็จก็จะรีบออกเดินทางกันเลย  แต่ทำไมเราต้องรีบเร่งด้วยละ อยู่กรุงเทพเราก็รีบเร่งพออยู่แล้ว นี่เรามาท่องเที่ยวพักผ่อน หรือมาทำอะไรกันแน่ ในเมื่อเป้าหมายมันก็อยู่ในมือเราอยู่แล้ว เราควรเก็บเกี่ยวความสุขให้มากไม่ใช่หรือ ธรรมชาติที่สวยงามมันก็อยู่รอบตัวเราแล้ว จะชื่นชม  หรือจะปล่อยผ่าน....


ไม่นานผมก็โผล่มาสูดโอโซนยามเช้าที่นอกเต็นท์ “โอ้โห ที่นี่มันที่ไหนกันว่ะเนี๊ย สวยจริงๆ” ผมเห็นคุณลุงเจ้าของสถานที่พาเสือต้อมกับเสือซังเดินชมรอบๆบริเวณ เลยขอติดตามไปด้วยคน

คุณลุงเล่าให้ฟังว่าตนเองเคยเป็นคุณหมอที่โรงพยาบาลมาก่อน ส่วนคุณป้าเคยเป็นครูแต่ว่าเกษียณราชการมาได้หลายปีแล้ว ก็มาดูแลสวนเกษตร สวนลำไย ที่ทำไว้ครั้งเมื่อยังรับราชการอยู่ ปัจจุบันเห็นว่าสถานที่มันมีทิวทัศน์ที่สวยงาม อากาศก็ดี ลูกสาวของคุณลุงเลยให้เปิดเป็นที่พักให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาพักผ่อนท่องเที่ยวกัน


พวกเราเดินชมรอบๆบริเวณ ก็รับรู้ถึงความสวยงามของบริเวณที่พักแห่งนี้ และเห็นฟ้องต้องกันว่าโอกาสหน้าคงต้องกลับมาเยือนที่นี่อีกเป็นแน่แท้ (แต่ขับรถยนต์มานะ 555++)

คุณลุงเล่าให้ฟังว่าปกติตรงจุดนี้จะมองเห็นดอยหัวเสือชัดเจนมาก แต่เสียดายวันนี้เมฆหมอกมากปกคลุมดอยหัวเสือจนมองไม่เห็น ดอยหัวเสือนั้น สูงจากระดับน้ำทะเล 1,881 เมตร และสูงเป็นอันดับที่ 4 ของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ครับ ชื่อของดอยหัวเสือ ก็มาจากลักษณะดอยเป็นรูปจมูกเสือนั่นเองครับ

หลังจากเดินเที่ยวชมสถานที่อยู่สักพักใหญ่ เสียงคุณป้าก็เรียกให้พวกเราไปกินข้าวเช้ากันครับ ซึ่งคุณป้าได้ตั้งสำรับรอไว้แล้ว พวกเราแยกไปล้างหน้าแปรงฟันแล้วมารวมตัวกันที่ครัวกันทันทีครับ

วันนี้เมนูง่ายๆ เป็นอาหารพื้นบ้าน ผักที่ปลูกเอง ไข่ต้มจากไก่ที่เลี้ยงเอง น้ำพริกตำเอง ต้มจืดหมูสับ และข้าวเหนียวอ่อนๆ ที่เม็ดเล็กๆ กินโดยใช้ช้อนตักเหมือนข้าวเจ้าแบบทางภาคกลาง รสชาติใช้ได้เลยครับ


พออิ่มหนำสำราญแล้ว คุณลุงใจดี แกยังบอกให้ขี่มอเตอร์ไซด์ของแกเข้าไปเก็บลำใยในสวนของแกกินได้อีกด้วยครับ กินสดๆได้เลย ปลอดสารพิษ แกรับรอง พวกเรามีหรือจะปฎิเสธ  แถมก่อนกลับออกมาจากสวน ยังเก็บลำไยติดไม้ติดมือเพื่อเอามาเป็นเสบียงระหว่างเดินทางกันอีกด้วย ( เอา เอากันให้คุ้ม 555+++)


หลังจากนั้นพวกเราก็อาบน้ำและเก็บเต็นท์เก็บเสื้อผ้าเพื่อจะเดินทางกันต่อครับ ก่อนจากกันไปลูกสาวของคุณลุงก็มาพอดี (เมื่อคืนเธอนอนที่ตัวอำเภอจอมทอง) เลยได้พูดคุยนิดหน่อย หลังจากคุยกันมาตลอดทางโทรศัพท์ ทั้งติดต่อที่พัก ทั้งถามทาง ก็คุยกันเธอคนนี้ เพิ่งจะมาเจอก็ก่อนที่จะไปนี่แหละครับ

พวก เราเลยร่วมถ่ายรูปกับครอบครัวของเธอเป็นที่ระลึก (ภาพหมู่รูปนี้มาจากเฟสบุ๊ค Chomthong Farmstay & Camping จอมทอง ฟาร์มสเตย์ แอนแคมปิ้งครับ) ซึ่งเป็นเพจของที่พักที่นี่ครับ


ภาพนี้เป็นภาพที่พวกเรากำลังปั่นออกจากที่พักเพื่อเดินทางต่อครับ เป็นภาพที่เธอถ่ายลงเฟสบุ๊ค Chomthong Farmstay & Camping


พอพ้นจากที่พัก พวกเราปั่นผ่านท้องนาที่กำลังเหลืองอร่าม โดยฉากหลังเป็นเทือกเขาดอยอินทนนท์ มองดูแล้วช่างเป็นภาพที่งดงามยิ่งนัก


มองเห็นกลุ่มชาวบ้านกำลังเกี่ยวข้าวกันอยู่ มันเป็นภาพที่แสดงถึงความสามัคคีของผู้คนในชุมชนแถวนี้ครับ
หลายคนเห็นพวกเราปั่นจักรยานมา ก็หยุดโบกไม้โบกมือทักทายครับ พวกเราก็ทักทายกลับไป “สวัสดีครับ สวัสดีครับ”


พอเข้าเขตหมู่บ้านหัวเสือที่อยู่ข้างหน้า เส้นทางก็ชันขึ้นทันทีครับ เปลี่ยนเกียร์กันแทบไม่ทัน และแล้วยางรถจักรยานเสือซังก็รั่วอีกแล้วครับ งานนี้เลยต้องนั่งปะเปลี่ยนกันกลางหมู่บ้านนี่แหละครับ


หลังจากนั้นพวกเราก็ปั่นกันต่อ ผ่านหมู่บ้านหลายหมู่บ้าน เส้นทางเป็นเนินเข้าขึ้นลงสลับกันไป สองข้างทางเต็มไปด้วยสวนลำไยที่กำลังออกผลผลิตเต็มไปหมด เห็นแล้วอยากจะกระชากติดไม้ติดมือมาสักพวงสองพวง 555++ (แหม...ความคิดไม่ดีเลยนะเรา)


ช่วงนี้เราก็ปั่นกันเรื่อยๆครับ ชมธรรมชาติ และวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ครับ ส่วนใหญ่ก็จะเห็นคนเฒ่าคนแก่นั่งอยู่กับบ้าน ส่วนคนวัยทำงานก็จะออกไปทำไร่ทำนาเลี้ยงสัตว์กันหมดครับ


หลังจากปั่นผ่านหมู่บ้านมาหลายหมู่บ้าน พวกเราก็ออกสู่ถนนสายจอมทอง-ดอยอินทนนท์(1009)  พวกเราเลี้ยวซ้ายมาสักพักก็เจอร้านค้าริมทาง เห็นมีรถสองแถวสีเหลือง(วิ่งระหว่าง อ.จอมทอง-อินทนนท์)ซึ่งเป็นรถในตำนานจอดอยู่ตรงข้างร้าน 2-3 คัน เสือต้อมเดินเข้าไปซื้อน้ำขวดใหญ่มา 3 ขวดแล้วแบ่งกันคนละขวด เพื่อติดตัวเอาไว้ระหว่างปั่นขึ้นดอย


ช่วงที่ผมกำลังเอายางยืดรัดขวดน้ำเพื่อติดกับตะแกรงท้ายอยู่นั้น ก็เห็นเสือซังจูงจักรยานเดินผ่านผมไป ก่อนจะไปหยุดที่ท้ายรถสองแถวสีเหลือง แล้วหันกลับมาบอก “พี่ผมไปรอล่วงหน้าบนดอยก่อนนะพี่ แล้วเจอกันข้างบนนะพี่” ว่าแล้วก็ทำท่ายกรถจักรยานใส่ท้ายรถเหลืองทันที เล่นเอาพวกเราหัวเราะกันท้องแข็ง เสือซังนี่มุกแกเยอะจริงๆ มีแต่เรื่องฮาๆ ตลอดทางครับ


จากร้านค้าพวกเราปั่นมาไม่นานนัก ประมาณ 11.30 น. ก็ถึงทางเข้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์


หลังจากชำระค่าธรรมเนียมเป็นค่าเข้าอุทยานแล้ว พวกเราก็ปั่นผ่านด่านตรงป้อมทางเข้ากันเข้ามา

ถนนช่วงนี้มีการปรับปรุงเส้นทางครับ ไม่นานนักจากด่านทางเข้ามา พวกเราก็เจอเนินแรกซึ่งด่านทดสอบก่อนเลย เนินแรกนี้มีความชันอย่างมาก เรียกว่าต้อนรับน้องใหม่อย่างพวกเรากันเลย เสียงสับเกียร์ดังกันใหญ่ “แป๊ะ แป๊ะ แป๊ะ” ถึงตอนนี้จานหน้าของรถจักรยานพวกเรา ลงมารอกันที่ใบเล็กกันทุกคนแล้ว เหลือแต่เฟืองหลัง ว่าแต่ละคนจะใช้เกียร์อะไร ซึ่งก็อยู่ที่รอบขาและกำลังของแต่ละคนละครับ แต่รับรองว่าใช้กันไม่เกินเกียร์สามครับ


พอพ้นเนินแรกมาได้ พวกเราก็มาจอดพักเหนื่อยที่บริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เสียงหอบอันแผ่วเบาและเสียงเป่าปากดังมาจากปากทุกๆคน (วันนี้สงสัยเตรียมจองศาลาได้เลย แค่เนินแรกก็จะตายกันแล้ว) ผมหยิบยานวดออกมาจากกระเป๋าข้างจักรยานส่งให้เสือต้อมกับเสือซัง  จากจุดนี้เรานั่งพักทำใจกันสักครู่พร้อมกับทายานวดแข้งนวดขากัน

นั่งนานเดี๋ยวจะเพลินซะ เพราะด้านหลังติดน้ำตกวังควาย จึงได้ยินเสียงน้ำตกไหลผ่านซอกหินดังมา ชวนให้อยากจะนอนฟังเสียงน้ำตกเสียเปล่าๆ  ว่าแล้วพวกเราจึงออกปั่นกันต่อครับ


เส้นทางต่อจากนี้ก็ขึ้นเขากันอย่างเดียว  ผ่านสะพานข้ามลำห้วยต่างๆ เหนื่อยก็จอดพัก อากาศก็กำลังสบายไม่ร้อนไม่หนาวจนเกินไปนัก สองข้างทางเป็นไปด้วยป่าเบญจพรรณใบเขียวขจี รอเวลาที่จะร่วงหล่นในอีกไม่นาน


หลังจากงัดเนินมาได้หลายลูก ท้องก็เริ่มหิว แล้วบนดอยอย่างนี้ กว่าจะไปถึงที่ทำการอุทยานฯ เราจะหิวตายเสียก่อนไหมเนี๊ย ลำไยที่ติดมา ก็ซัดหมดไปตั้งแต่ก่อนจะถึงทางเข้าอุทยานแล้ว แต่พอเข้าเขตชุมชนกระเหรี่ยงที่ตำบลบ้านหลวง เราก็เจอตลาดน้อยๆ ของชุมชนตั้งอยู่ริมทาง   เราเลี้ยวรถเข้าไปทันที เสือต้อมกับผมลงไปหาของกิน ส่วนเสือซังเครื่องกำลังติดจึงล่วงหน้าไปก่อน เราได้กล้วยหอม หัวมันเผา เคปกุสเบอรี่ มาเป็นเสบียงระหว่างเดินทาง

หลังจากนั้นจึงออกมางัดเนินกันต่อ เส้นทางที่จะผ่านไปยังน้ำตกวชิรธาร เป็นเนินที่ชันมากเส้นทางโค้งไปโค้งมา ผมงัดเนินมาเรื่อย ๆ ความเหนื่อยไม่ต้องพูดถึง  ใจเหมือนมันจะขาดให้ได้ สายตาก้มลงดูพื้นมองห่างจากล้อจักรยานหน้าเพียงแค่ 2-3 เมตร ไม่กล้ามองไกลกว่านี้ กลัวเห็นยอดเนินแล้วจะถอดใจเอา ชุดเกียร์ 9 สปีด ที่แม่ให้มา ผมปรับลงจานหน้าใบเล็กสุด 22 มาตั้งนานแล้ว ส่วนเฟืองหลังใหญ่สุด 36 ก็ต้องงัดเอามาใช้เช่นกัน ไม่มีกักเลย เรียกว่าเดิมพันหมดหน้าตักเลยก็ว่าได้ (ในใจก็นึกเกียร์ที่ใช้สำหรับปั่นขึ้นเขามันหมดแค่นี้หรือว่ะ แล้วระยะทางที่เหลือตรูจะรอดไหมเนี๊ย ) เหลือเพียงแรงเฮือกสุดท้ายที่เอาออกมาสู้  เนื้อตัวผมเกร็งไปหมด ทั้งๆที่จะพยามปั่นให้ผ่อนคลาย แต่ทางมันชันมากเหลือเกิน ผมกัดฟันสู้กับเนินนี้อยู่สักพักใหญ่ๆ ก็เห็นแสงสว่างจากปลายทาง เริ่มเข้าสู่ทางราบตรงทางเข้าตัวน้ำตกวชิรธาร

เห็นเสือซังมานั่งหัวเราะอยู่ตรงปากทางเข้าน้ำตก “ 555 เป็นไงพี่ กว่าผมจะผ่านมาได้ใจแทบขาด ผมเลยมาดักรอดูพวกพี่บ้าง 555++”  ผมกับเสือต้อมยืนหอบฟังเสือซังพูด แต่ไม่มีแรงตอบกลับ พร้อมกับจอดจักรยานแล้วหลบเข้าร่มไม้ นั่งพักกัน แล้วเรียกเสือซังเข้ามาล้อมวง หยิบหัวมัน กล้วยหอม เคปกุสเบอรี่  ออกมาซัดกันด้วยความหิวแทนคำตอบทันที
ชื่อสินค้า:   ดอกอินทนนท์ เชียงใหม่
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่