ตอนที่ 1
https://ppantip.com/topic/37169062
ตอนที่ 2
https://ppantip.com/topic/37175355
ตอนที่ 3
https://ppantip.com/topic/37175560
ตอนที่ 4
https://ppantip.com/topic/37176730
ตอนที่ 5
https://ppantip.com/topic/37177063
ตอนที่ 6
https://ppantip.com/topic/37178925
ตอนที่ 7
https://ppantip.com/topic/37180508/comment1
ประมาณหกโมงเช้า วันพฤหัสบดีที่ 23 พ.ย.60 วันที่ 6 ของการเดินทาง ผมเปิดประตูจากห้องพักออกมา ก็เห็นเสือต้อมกำลังปะยางจักรยานของตัวเองอยู่ “อ้าว...เฮ้ย อีกแล้วหรือ” ผมอุทานขึ้นมา ก่อนจะเข้าไปช่วยเสือต้อมอีกแรง วันนี้เราต้องปั่นขึ้นดอยขุนตาลกันด้วย ผมไม่ลืมที่จะตรวจเช็ครถของตัวเอง เพราะจากการปั่นติดต่อกันมาหลายวัน สภาพรถทั้งระบบเกียร์ ระบบเบรก อาจจะรวนได้ ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ทั้งรถผมและรถเสือต้อม มีปัญหาเรื่องระบบสับจานหน้า ของผมไม่สามารถสับขึ้นจานใบใหญ่ได้ ซึ่งจริงๆก็ไม่ได้ใช้หรอกครับ แต่มันะขิวตะขวงใจครับ ส่วนเสือต้อมนี่หนักหน่อย ลงใบเล็กสุดไม่ได้ เราก็ทั้งปรับทั้งจูนกันแล้ว ก็ไม่เป็นดั่งใจเสียที แต่ก็ยังพอที่จะปั่นขึ้นดอยขุนตาลกันได้อยู่ แต่เวลาเราไม่มีมากนัก เพราะต้องรีบออกเดินทางกันต่อ วันนี้เป้าหมายอยู่แถวทางขึ้นดอยอินทนนท์ และถ้าเจอร้านจักรยาน พวกเราต้องไปเซอร์วิสกันอีกทีก่อนที่จะขึ้นดอยอินทนนท์ในวันพรุ่งนี้
หลังจากเตรียมตัวเสร็จ ก่อนเดินทาง พวกเราแวะไปกินข้าวต้มที่ร้านเดิมเมื่อคืนนี้กันครับ ร้านนี้เจ้าของร้านแกซื่อคุณป๊อบ เป็นคนมีน้ำใจและยังมีอัธยาศัยดีมากครับ พวกเราคุยกันถูกคอตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้วครับ เช้านี้เลยแวะไปกินข้าวต้มและล่ำลาแกครับ ซึ่งแกก็อวยพรขอให้เราปลอดภัยในการเดินทางตามล่าฝันของเราในครั้งนี้ครับ
หลังจากออกจากที่พัก พวกเราก็ปั่นสู่ถนนซุปเปอรไฮเวย์ลำปาง-เชียงใหม่ มุ่งสู่ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ครับ โดยต้องปั่นผ่าน จ.ลำพูนครับ
ปั่นมาไม่นานก็ถึงกาดทุ่งเกวียน ตลาดซื่อดังของจังหวัดลำปางครับ ซึ่งแต่ก่อนในอดีตตลาดบริเวณนี้เคยขายของป่า เช่น พวกเนื้อสัตว์ป่าต่างๆครับ แต่ปัจจุบันเปลี่ยนไปขายของฝากของที่ระลึกกันหมดแล้ว ทั้งอาหารทางภาคเหนือ สินค้าพื้นบ้าน สินค้าหัตถกรรม ฯลฯ เหลือร้านขายของป่าไม่กี่ร้านเองครับ
วันนี้อากาศในช่วงเช้าๆ มันครึ้ม ๆ เหมือนฝนจะตก เมฆหมอกสีขาวล่องลอยอยู่ตามทิวเขา มองไปสองข้างทางเห็นป่าไม้เขียวขจี อากาศเย็นสบายกว่าทุกวันที่ปั่นมาครับ ผมต้องจอดรถเป็นระยะ ๆ เพื่อถ่ายรูปเก็บภาพบรรยากาศให้มากที่สุดครับ
พอพ้นตลาดนี้ไป เส้นทางก็เริ่มขึ้นเขาแล้วครับ เขาลูกนี้ที่เราต้องปั่นข้ามไปก็คือดอยขุนตาล เส้นทางสายนี้คดโค้งและอันตรายมาก ไหล่ทางก็ไม่ได้กว้างอะไรมากมายนัก รถสิบล้อ รถพ่วงเยอะครับ วิ่งเลนส์ซ้ายตลอด พวกเราต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษครับ
หลังจากไต่เขางัดเนินมาได้สักพัก พวกเราก็มาถึงหน้าศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยครับ
จากนั้นก็งัดเนินกันมาเรื่อยๆครับ เหนื่อยก็จอดหยุดพัก อากาศเย็นสบายๆ แต่เหงื่อนี่ท่วมตัวเลยครับ ขาและน่องนี่ตึงไปหมด
เสื้อผมนี่ชุ่มไปด้วยเหงื่อเต็มไปหมด ต้องถอดเสื้อเอาไว้หลังรถ แล้วปั่นถอดเสื้อรับลมไปเรื่อยๆ แบบนี้ค่อยสดชื่นเย็นสบายหน่อยครับ
เสือต้อมคอยดักเก็บภาพเส้นทางกับความเหน็ดเหนื่อยของพวกเรา ช่วงใกล้ถึงศาลเจ้าพ่อขุนตาล ผมมองไปข้างๆเห็นรถบรรทุกที่วิ่งกันในเลนส์ซ้ายคลานกันขึ้นดอยขุนตาลอย่างช้าๆ ไม่ต่างกับความเร็วของจักรยานเราเท่าไหร่นัก
เกือบเที่ยง พวกเราก็ถึงศาลเจ้าพ่อขุนตาล ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของเส้นทางครับ
พวกเราแวะพักเหนื่อยกันตรงนี้ พร้อมเข้าไปสักการะศาลเจ้าพ่อขุนตาลกันครับ
หลังจากหายเหนื่อยกันดีแล้ว พวกเราก็ออกเดินทางกันต่อครับ จากนี้ไปก็จะเข้าเขตจังหวัดลำพูนแล้วครับ เส้นทางต่อจากนี้ จะเป็นทางลงเขายาวตลอดครับ เรียกว่าเป็นช่วงเวลาเอาคืนครับ หลังจากอัดขึ้นเขามาเป็นชั่วโมงๆ
(รูปภาพข้างล่าง ตอนลงจากเขา ผมแค๊ปมาจากกล้องวีดีโอที่ติดหน้ารถจักรยานครับ เพราะรถมีความเร็วมากไม่สามารถถ่ายภาพได้)
พวกเราเอามือประคองมือเบรกหน้าแฮนด์รถจักรยาน แล้วปล่อยจักรยานให้ไหลลงเขาด้วยความเร็วที่สูง บอกตรงๆ มันส์สะใจจริงๆครับ สายลมและอากาศที่บริสุทธิ์ลอยมากระทบกับใบหน้า ทำให้พวกเราสดชื่นมาก
ช่วงที่เราไหลลงเขามายาวๆ บางครั้งต้องหลบรถบรรทุกที่อยู่ริมทางเข้ามาในเลนส์ถนนใหญ่ เสียงผมและเสือต้อมตะโกนด้วยความสะใจ เหมือนกับได้ปลดปล่อยอะไรบางอย่างออกมา ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา พวกเราผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านฝน ใช้ความอดทนทั้งร่างกายและจิตใจ จนใกล้จะมาถึงจุดที่เราต้องการแล้วครับ
.... ไม่นานนักเราก็มาถึงแยกดอยติ พวกเราเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสาย (114) ทางที่จะไปลำพูน ก็เจอป้ายบอกทาง เลี้ยวซ้ายไปอำเภอป่าซาง 20 กม. พวกเราจะไม่เข้าตัวเมืองลำพูน แต่จะมุ่งหน้าไป อ.ป่าซาง ระหว่างทางไป อ.ป่าซาง พวกเราแวะร้านอาหารริมทางเพื่อกินข้าวเที่ยงกันครับ
กินเสร็จแล้วก็ออกปั่นกันต่อ โดยใช้เส้นทางลำพูน-ป่าซาง (116) ถนนสายนี้ช่วงที่ออกจากลำพูมมา รถวิ่งสวนเลนส์ ไหล่ทางไม่กว้างมากนัก มีรถบรรทุกเยอะครับ พวกเราต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก เวลารถบรรทุกวิ่งผ่านมาข้างๆทีไร เสียงลมพัดมาวูบ ๆๆ บางครั้งจักรยานถึงกับเซเลยครับ
ระหว่างทาง ก็ได้เจอสายฝนตกลงมาอย่างหนัก พวกเราต้องเสียเวลาหาที่หลบฝนกัน
และระหว่างที่รอฝนหยุด พวกเราก็หาข้อมูลร้านจักรยาน ที่ อ.จอมทอง จากในโทรศัพท์มือถือไปด้วย พวกเรารอประมาณเกือบชั่วโมงฝนจึงหยุดเม็ด แล้วจึงปั่นกันต่อ ผ่าน อ.ป่าซางมาสักพัก ก็ถึงสะพานข้ามแม่น้ำปิง เขตรอยต่อจังหวัดลำพูนกับ อ.สันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่
ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำปิงมาไม่กี่กิโลก็เจอสี่แยกใหญ่ มีป้ายบอกเลี้ยวซ้ายไปอำเภอดอยหล่อ ซึ่งเป็นอำเภอทางผ่านที่จะไปอำเภอจอมทอง พวกเราเลี้ยวซ้ายเข้าถนน(108)ทันที และปั่นต่อไปเรื่อยๆ
เสือซังเริ่มมีอารปวดก้นขึ้นมา “พี่ตูดผม แมร่ง....ระบมไปหมดแล้ว เมือคืนอาบน้ำโครตแสบเลย ตุ่มและผื่นแดงมาเยี่ยมเยียนแล้วพี่” ผมล่ะขำไม่ออกเลย การปวดตูดปวดก้นนี่มันทำให้เราแทบไม่อยากปั่นเลย ทรมานจริงๆ ผมเข้าใจ ผมบอก ทนๆเอาหน่อย เดี๋ยวก็ถึง อ.จอมทองและถึงที่พักแล้ว
ช่วงผ่าน อ.ดอยหล่อ ผมเล็งไว้ว่าถ้าเห็นป้ายที่ไหนบ่งบอกว่าเป็นจังหวัดเชียงใหม่จะจอดรถลงไปถ่ายรูปเสียหน่อย ปั่นไปก็เหลือบเห็นเห็นป้ายโรงเรียนสองแคววิทยาคม “ นั่นแน่...เสร็จตรู” ถ่ายไว้เสียหน่อย อ่ะห้า !! เรามาอยู่ในดินแด “นนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่” แล้ว 555++
แล้วก็ออกปั่นไปกันต่อ ถนนสายนี้ทางขึ้นเนินลงเนินตลอด มองไปข้างหน้าเห็นทิวเขาทอดยาวสุดลูกหูลูกตา ช่างเป็นอะไรที่ Amazing แท้ๆ
แต่พวกเราจะมาปั่นแบบชิวๆไม่ได้แล้ว ต้องรีบทำเวลากันหน่อย เพราะนี่ก็จะสี่โมงเย็นแล้ว ไหนจะต้องปั่นไปหาร้านจักรยานเพื่อเซอร์วิสจักรยานก่อนขึ้นดอยอินทนนท์ในวันพรุ่งนี้ และยังต้องปั่นไปหาที่พักอีก
ถึง อ.จอมทอง พวกเราก็ปั่นไปที่ร้านจักรยาน “น้ำใจ Bicycle” ถ้ามาจากเชียงใหม่ ร้านตั้งอยู่ขวามือ ก่อนเข้าไปในตัวอำเภอร้านจะอยู่เยื้องๆกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ไปหน่อยเดียวครับ เจ้าของร้านซื่อคุณเอกสิทธิ์ เป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ใจดี มีน้ำใจดูแลเซอร์วิสรถจักรยานให้เราอย่างดีเลยครับ เรียกว่าพร้อมขึ้นดอยเลยครับ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายอีกต่างหาก พวกเราเลยอุดหนุนยางในไปคนละเส้นครับ
(รูปนี้ถ่ายโดยคุณเอกสิทธิ์ เจ้าของร้านจักรยาน “น้ำใจ Bicycle”
ก่อนออกจากร้านไป เจ้าของร้านขอถ่ายรูปพวกเราตรงหน้าร้าน เพื่อลงในเพจเฟสบุ๊คของทางร้านครับ ยังไงถ้าเพื่อนสมาชิกชาวจักรยานท่านใดมีโอกาสไปปั่นจักรยานแถวนั้น แล้วขาดเหลืออะไรเกี่ยวกับจักรยาน ก็ฝากร้าน“น้ำใจ Bicycle”ไว้ด้วยนะครับ
พวกเราจากออกจาก อ.จอมทอง มุ่งหน้าไปยังที่พัก “จอมทอง ฟาร์มสเตย์ แอนแคมปิ้ง” ที่พวกเราได้ติดต่อไว้ก่อนหน้าที่จะเดินทางแล้ว ที่พักแห่งนี้ตั้งอยู่แถวบ้านหัวเสือ ทางเข้าน้ำตกแม่ยะ ซึ่งห่างจากตัว อ.จอมทองประมาณ 7-8 กม. ซึ่งระหว่างทางพวกเราก็แวะซื้อเสบียงของกินและเครื่องดื่มตามร้านสะดวกซื้อติดไปด้วย
เส้นทางที่จะไปพัก ผมก็โทรถามเจ้าของอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ยังไปไม่อยากจะถูกอยู่ดี ถามทางจากชาวบ้าน แต่ชาวบ้านก็ไม่รู้จักครับ เดือดร้อนคุณลุงเจ้าของที่พักต้องขับรถมอเตอร์ไซด์ ออกมารับพวกเราระหว่างทาง
พอไปถึงที่พักก็มืดค่ำแล้ว ผมก็รีบหาสถานที่ จัดแจงกางเต็นท์ทันที (ได้กางเต็นท์นอนเสียทีหลังจากเอาใส่ท้ายรถจักรยานมา 5 วัน วันนี้แหละจะได้นอนเต็นท์สมใจเสียที 555++)
ที่พักที่นี่ พวกเราหาข้อมูลล่วงหน้าจากเว็บไซด์ก่อนที่จะมา ถือว่าเป็นสถานที่ที่สวยงามและมีบรรยากาศดีครับ โดยเฉพาะดอยหัวสิงห์ ที่สามารถมองเห็นชัดเจนจากที่เราพัก แต่ว่าพวกเรามาถึงตอนมืดเลยไม่ได้เห็นความสวยงาม ต้องรอพรุ่งนี้เช้า ถึงจะได้ยลโฉมความงามของสถานที่แห่งนี้ครับ
หลังจากกางเต็นท์และทำธุระส่วนตัวกันเรียบร้อย พวกเราก็มานั่งล้อมวงกินข้าวกัน คืนนี้อากาศสบายๆ และก็ไม่หนาวมากครับ
แต่พอพวกเราพูดคุยถึงสภาพอากาศกันเท่านั้นแหละ พวกเราก็เกิดนึกสนุกขึ้นมา เสื้อผ้าและอุปกรณ์กันหนาวที่ขนกันมาจนหนักรถจักรยาน ยังไม่ได้ใช้เลย ขนาดมาถึงเชิงดอยอินทนนท์อากาศก็ยังไม่หนาวอีก พวกเราเลยไปงัดเสื้อผ้าเหล่านี้มาใส่กัน และทำท่าเหมือนหนาวสุดๆ แล้วถ่ายรูปส่งไลน์ไปให้เพื่อนฝูงที่กรุงเทพดูกัน 555++ ไม่ต้องสงสัยเลย เพื่อนหลายคนไลน์กลับมาถาม...กี่องศา ??? 555 ++
หลังจากเที่ยวเล่นอำกับคนที่อยู่ทางไกลกันพอสนุกสนาน พวกเราก็แยกย้ายกันพักผ่อน...พรุ่งนี้คอยติดตามตอนสุดท้ายนะครับ จะมันส์ขนาดไหน เมื่อต้องลุยดอยอินทนนท์กัน
ติดตามตอนที่ 7 ตอนสุดท้ายได้ที่
https://ppantip.com/topic/37180508/comment1
[SR] 7 วัน ปั่นจักรยาน กรุงเทพฯ - ดอยอินทนนท์ กับ...คนล่าฝัน ตอนที่ 6 ( 6/7 )
ตอนที่ 1 https://ppantip.com/topic/37169062
ตอนที่ 2 https://ppantip.com/topic/37175355
ตอนที่ 3 https://ppantip.com/topic/37175560
ตอนที่ 4 https://ppantip.com/topic/37176730
ตอนที่ 5 https://ppantip.com/topic/37177063
ตอนที่ 6 https://ppantip.com/topic/37178925
ตอนที่ 7 https://ppantip.com/topic/37180508/comment1
ประมาณหกโมงเช้า วันพฤหัสบดีที่ 23 พ.ย.60 วันที่ 6 ของการเดินทาง ผมเปิดประตูจากห้องพักออกมา ก็เห็นเสือต้อมกำลังปะยางจักรยานของตัวเองอยู่ “อ้าว...เฮ้ย อีกแล้วหรือ” ผมอุทานขึ้นมา ก่อนจะเข้าไปช่วยเสือต้อมอีกแรง วันนี้เราต้องปั่นขึ้นดอยขุนตาลกันด้วย ผมไม่ลืมที่จะตรวจเช็ครถของตัวเอง เพราะจากการปั่นติดต่อกันมาหลายวัน สภาพรถทั้งระบบเกียร์ ระบบเบรก อาจจะรวนได้ ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ทั้งรถผมและรถเสือต้อม มีปัญหาเรื่องระบบสับจานหน้า ของผมไม่สามารถสับขึ้นจานใบใหญ่ได้ ซึ่งจริงๆก็ไม่ได้ใช้หรอกครับ แต่มันะขิวตะขวงใจครับ ส่วนเสือต้อมนี่หนักหน่อย ลงใบเล็กสุดไม่ได้ เราก็ทั้งปรับทั้งจูนกันแล้ว ก็ไม่เป็นดั่งใจเสียที แต่ก็ยังพอที่จะปั่นขึ้นดอยขุนตาลกันได้อยู่ แต่เวลาเราไม่มีมากนัก เพราะต้องรีบออกเดินทางกันต่อ วันนี้เป้าหมายอยู่แถวทางขึ้นดอยอินทนนท์ และถ้าเจอร้านจักรยาน พวกเราต้องไปเซอร์วิสกันอีกทีก่อนที่จะขึ้นดอยอินทนนท์ในวันพรุ่งนี้
หลังจากเตรียมตัวเสร็จ ก่อนเดินทาง พวกเราแวะไปกินข้าวต้มที่ร้านเดิมเมื่อคืนนี้กันครับ ร้านนี้เจ้าของร้านแกซื่อคุณป๊อบ เป็นคนมีน้ำใจและยังมีอัธยาศัยดีมากครับ พวกเราคุยกันถูกคอตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้วครับ เช้านี้เลยแวะไปกินข้าวต้มและล่ำลาแกครับ ซึ่งแกก็อวยพรขอให้เราปลอดภัยในการเดินทางตามล่าฝันของเราในครั้งนี้ครับ
หลังจากออกจากที่พัก พวกเราก็ปั่นสู่ถนนซุปเปอรไฮเวย์ลำปาง-เชียงใหม่ มุ่งสู่ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ครับ โดยต้องปั่นผ่าน จ.ลำพูนครับ
ปั่นมาไม่นานก็ถึงกาดทุ่งเกวียน ตลาดซื่อดังของจังหวัดลำปางครับ ซึ่งแต่ก่อนในอดีตตลาดบริเวณนี้เคยขายของป่า เช่น พวกเนื้อสัตว์ป่าต่างๆครับ แต่ปัจจุบันเปลี่ยนไปขายของฝากของที่ระลึกกันหมดแล้ว ทั้งอาหารทางภาคเหนือ สินค้าพื้นบ้าน สินค้าหัตถกรรม ฯลฯ เหลือร้านขายของป่าไม่กี่ร้านเองครับ
วันนี้อากาศในช่วงเช้าๆ มันครึ้ม ๆ เหมือนฝนจะตก เมฆหมอกสีขาวล่องลอยอยู่ตามทิวเขา มองไปสองข้างทางเห็นป่าไม้เขียวขจี อากาศเย็นสบายกว่าทุกวันที่ปั่นมาครับ ผมต้องจอดรถเป็นระยะ ๆ เพื่อถ่ายรูปเก็บภาพบรรยากาศให้มากที่สุดครับ
พอพ้นตลาดนี้ไป เส้นทางก็เริ่มขึ้นเขาแล้วครับ เขาลูกนี้ที่เราต้องปั่นข้ามไปก็คือดอยขุนตาล เส้นทางสายนี้คดโค้งและอันตรายมาก ไหล่ทางก็ไม่ได้กว้างอะไรมากมายนัก รถสิบล้อ รถพ่วงเยอะครับ วิ่งเลนส์ซ้ายตลอด พวกเราต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษครับ
หลังจากไต่เขางัดเนินมาได้สักพัก พวกเราก็มาถึงหน้าศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยครับ
จากนั้นก็งัดเนินกันมาเรื่อยๆครับ เหนื่อยก็จอดหยุดพัก อากาศเย็นสบายๆ แต่เหงื่อนี่ท่วมตัวเลยครับ ขาและน่องนี่ตึงไปหมด
เสื้อผมนี่ชุ่มไปด้วยเหงื่อเต็มไปหมด ต้องถอดเสื้อเอาไว้หลังรถ แล้วปั่นถอดเสื้อรับลมไปเรื่อยๆ แบบนี้ค่อยสดชื่นเย็นสบายหน่อยครับ
เสือต้อมคอยดักเก็บภาพเส้นทางกับความเหน็ดเหนื่อยของพวกเรา ช่วงใกล้ถึงศาลเจ้าพ่อขุนตาล ผมมองไปข้างๆเห็นรถบรรทุกที่วิ่งกันในเลนส์ซ้ายคลานกันขึ้นดอยขุนตาลอย่างช้าๆ ไม่ต่างกับความเร็วของจักรยานเราเท่าไหร่นัก
เกือบเที่ยง พวกเราก็ถึงศาลเจ้าพ่อขุนตาล ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของเส้นทางครับ
พวกเราแวะพักเหนื่อยกันตรงนี้ พร้อมเข้าไปสักการะศาลเจ้าพ่อขุนตาลกันครับ
หลังจากหายเหนื่อยกันดีแล้ว พวกเราก็ออกเดินทางกันต่อครับ จากนี้ไปก็จะเข้าเขตจังหวัดลำพูนแล้วครับ เส้นทางต่อจากนี้ จะเป็นทางลงเขายาวตลอดครับ เรียกว่าเป็นช่วงเวลาเอาคืนครับ หลังจากอัดขึ้นเขามาเป็นชั่วโมงๆ
(รูปภาพข้างล่าง ตอนลงจากเขา ผมแค๊ปมาจากกล้องวีดีโอที่ติดหน้ารถจักรยานครับ เพราะรถมีความเร็วมากไม่สามารถถ่ายภาพได้)
พวกเราเอามือประคองมือเบรกหน้าแฮนด์รถจักรยาน แล้วปล่อยจักรยานให้ไหลลงเขาด้วยความเร็วที่สูง บอกตรงๆ มันส์สะใจจริงๆครับ สายลมและอากาศที่บริสุทธิ์ลอยมากระทบกับใบหน้า ทำให้พวกเราสดชื่นมาก
ช่วงที่เราไหลลงเขามายาวๆ บางครั้งต้องหลบรถบรรทุกที่อยู่ริมทางเข้ามาในเลนส์ถนนใหญ่ เสียงผมและเสือต้อมตะโกนด้วยความสะใจ เหมือนกับได้ปลดปล่อยอะไรบางอย่างออกมา ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา พวกเราผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านฝน ใช้ความอดทนทั้งร่างกายและจิตใจ จนใกล้จะมาถึงจุดที่เราต้องการแล้วครับ
.... ไม่นานนักเราก็มาถึงแยกดอยติ พวกเราเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสาย (114) ทางที่จะไปลำพูน ก็เจอป้ายบอกทาง เลี้ยวซ้ายไปอำเภอป่าซาง 20 กม. พวกเราจะไม่เข้าตัวเมืองลำพูน แต่จะมุ่งหน้าไป อ.ป่าซาง ระหว่างทางไป อ.ป่าซาง พวกเราแวะร้านอาหารริมทางเพื่อกินข้าวเที่ยงกันครับ
กินเสร็จแล้วก็ออกปั่นกันต่อ โดยใช้เส้นทางลำพูน-ป่าซาง (116) ถนนสายนี้ช่วงที่ออกจากลำพูมมา รถวิ่งสวนเลนส์ ไหล่ทางไม่กว้างมากนัก มีรถบรรทุกเยอะครับ พวกเราต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก เวลารถบรรทุกวิ่งผ่านมาข้างๆทีไร เสียงลมพัดมาวูบ ๆๆ บางครั้งจักรยานถึงกับเซเลยครับ
ระหว่างทาง ก็ได้เจอสายฝนตกลงมาอย่างหนัก พวกเราต้องเสียเวลาหาที่หลบฝนกัน
และระหว่างที่รอฝนหยุด พวกเราก็หาข้อมูลร้านจักรยาน ที่ อ.จอมทอง จากในโทรศัพท์มือถือไปด้วย พวกเรารอประมาณเกือบชั่วโมงฝนจึงหยุดเม็ด แล้วจึงปั่นกันต่อ ผ่าน อ.ป่าซางมาสักพัก ก็ถึงสะพานข้ามแม่น้ำปิง เขตรอยต่อจังหวัดลำพูนกับ อ.สันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่
ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำปิงมาไม่กี่กิโลก็เจอสี่แยกใหญ่ มีป้ายบอกเลี้ยวซ้ายไปอำเภอดอยหล่อ ซึ่งเป็นอำเภอทางผ่านที่จะไปอำเภอจอมทอง พวกเราเลี้ยวซ้ายเข้าถนน(108)ทันที และปั่นต่อไปเรื่อยๆ
เสือซังเริ่มมีอารปวดก้นขึ้นมา “พี่ตูดผม แมร่ง....ระบมไปหมดแล้ว เมือคืนอาบน้ำโครตแสบเลย ตุ่มและผื่นแดงมาเยี่ยมเยียนแล้วพี่” ผมล่ะขำไม่ออกเลย การปวดตูดปวดก้นนี่มันทำให้เราแทบไม่อยากปั่นเลย ทรมานจริงๆ ผมเข้าใจ ผมบอก ทนๆเอาหน่อย เดี๋ยวก็ถึง อ.จอมทองและถึงที่พักแล้ว
ช่วงผ่าน อ.ดอยหล่อ ผมเล็งไว้ว่าถ้าเห็นป้ายที่ไหนบ่งบอกว่าเป็นจังหวัดเชียงใหม่จะจอดรถลงไปถ่ายรูปเสียหน่อย ปั่นไปก็เหลือบเห็นเห็นป้ายโรงเรียนสองแคววิทยาคม “ นั่นแน่...เสร็จตรู” ถ่ายไว้เสียหน่อย อ่ะห้า !! เรามาอยู่ในดินแด “นนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่” แล้ว 555++
แล้วก็ออกปั่นไปกันต่อ ถนนสายนี้ทางขึ้นเนินลงเนินตลอด มองไปข้างหน้าเห็นทิวเขาทอดยาวสุดลูกหูลูกตา ช่างเป็นอะไรที่ Amazing แท้ๆ
แต่พวกเราจะมาปั่นแบบชิวๆไม่ได้แล้ว ต้องรีบทำเวลากันหน่อย เพราะนี่ก็จะสี่โมงเย็นแล้ว ไหนจะต้องปั่นไปหาร้านจักรยานเพื่อเซอร์วิสจักรยานก่อนขึ้นดอยอินทนนท์ในวันพรุ่งนี้ และยังต้องปั่นไปหาที่พักอีก
ถึง อ.จอมทอง พวกเราก็ปั่นไปที่ร้านจักรยาน “น้ำใจ Bicycle” ถ้ามาจากเชียงใหม่ ร้านตั้งอยู่ขวามือ ก่อนเข้าไปในตัวอำเภอร้านจะอยู่เยื้องๆกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ไปหน่อยเดียวครับ เจ้าของร้านซื่อคุณเอกสิทธิ์ เป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ใจดี มีน้ำใจดูแลเซอร์วิสรถจักรยานให้เราอย่างดีเลยครับ เรียกว่าพร้อมขึ้นดอยเลยครับ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายอีกต่างหาก พวกเราเลยอุดหนุนยางในไปคนละเส้นครับ
(รูปนี้ถ่ายโดยคุณเอกสิทธิ์ เจ้าของร้านจักรยาน “น้ำใจ Bicycle”
ก่อนออกจากร้านไป เจ้าของร้านขอถ่ายรูปพวกเราตรงหน้าร้าน เพื่อลงในเพจเฟสบุ๊คของทางร้านครับ ยังไงถ้าเพื่อนสมาชิกชาวจักรยานท่านใดมีโอกาสไปปั่นจักรยานแถวนั้น แล้วขาดเหลืออะไรเกี่ยวกับจักรยาน ก็ฝากร้าน“น้ำใจ Bicycle”ไว้ด้วยนะครับ
พวกเราจากออกจาก อ.จอมทอง มุ่งหน้าไปยังที่พัก “จอมทอง ฟาร์มสเตย์ แอนแคมปิ้ง” ที่พวกเราได้ติดต่อไว้ก่อนหน้าที่จะเดินทางแล้ว ที่พักแห่งนี้ตั้งอยู่แถวบ้านหัวเสือ ทางเข้าน้ำตกแม่ยะ ซึ่งห่างจากตัว อ.จอมทองประมาณ 7-8 กม. ซึ่งระหว่างทางพวกเราก็แวะซื้อเสบียงของกินและเครื่องดื่มตามร้านสะดวกซื้อติดไปด้วย
เส้นทางที่จะไปพัก ผมก็โทรถามเจ้าของอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ยังไปไม่อยากจะถูกอยู่ดี ถามทางจากชาวบ้าน แต่ชาวบ้านก็ไม่รู้จักครับ เดือดร้อนคุณลุงเจ้าของที่พักต้องขับรถมอเตอร์ไซด์ ออกมารับพวกเราระหว่างทาง
พอไปถึงที่พักก็มืดค่ำแล้ว ผมก็รีบหาสถานที่ จัดแจงกางเต็นท์ทันที (ได้กางเต็นท์นอนเสียทีหลังจากเอาใส่ท้ายรถจักรยานมา 5 วัน วันนี้แหละจะได้นอนเต็นท์สมใจเสียที 555++)
ที่พักที่นี่ พวกเราหาข้อมูลล่วงหน้าจากเว็บไซด์ก่อนที่จะมา ถือว่าเป็นสถานที่ที่สวยงามและมีบรรยากาศดีครับ โดยเฉพาะดอยหัวสิงห์ ที่สามารถมองเห็นชัดเจนจากที่เราพัก แต่ว่าพวกเรามาถึงตอนมืดเลยไม่ได้เห็นความสวยงาม ต้องรอพรุ่งนี้เช้า ถึงจะได้ยลโฉมความงามของสถานที่แห่งนี้ครับ
หลังจากกางเต็นท์และทำธุระส่วนตัวกันเรียบร้อย พวกเราก็มานั่งล้อมวงกินข้าวกัน คืนนี้อากาศสบายๆ และก็ไม่หนาวมากครับ
แต่พอพวกเราพูดคุยถึงสภาพอากาศกันเท่านั้นแหละ พวกเราก็เกิดนึกสนุกขึ้นมา เสื้อผ้าและอุปกรณ์กันหนาวที่ขนกันมาจนหนักรถจักรยาน ยังไม่ได้ใช้เลย ขนาดมาถึงเชิงดอยอินทนนท์อากาศก็ยังไม่หนาวอีก พวกเราเลยไปงัดเสื้อผ้าเหล่านี้มาใส่กัน และทำท่าเหมือนหนาวสุดๆ แล้วถ่ายรูปส่งไลน์ไปให้เพื่อนฝูงที่กรุงเทพดูกัน 555++ ไม่ต้องสงสัยเลย เพื่อนหลายคนไลน์กลับมาถาม...กี่องศา ??? 555 ++
หลังจากเที่ยวเล่นอำกับคนที่อยู่ทางไกลกันพอสนุกสนาน พวกเราก็แยกย้ายกันพักผ่อน...พรุ่งนี้คอยติดตามตอนสุดท้ายนะครับ จะมันส์ขนาดไหน เมื่อต้องลุยดอยอินทนนท์กัน
ติดตามตอนที่ 7 ตอนสุดท้ายได้ที่ https://ppantip.com/topic/37180508/comment1
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น